ด่างพร้อยแล้ว เป็นดั่งสุนัขปากมอม

กระทู้คำถาม
๒๙๖. ทุลฺลโภ องฺคสมฺปนฺโน.
ผู้ถึงพร้อมด้วยองคคุณ หาได้ยาก.
ขุ. ชา. ทุก. ๒๗๘๕.

“มีประโยคหนึ่ง ในคัมภีร์พระปิฏกปัจจุบันนี้ มักท้าว มักบอกโยง ประโยคว่า “นักศึกษาผู้ต้องการความพิสดาร พึงถือเอาจากปกรณ์วิเสส ชื่อวิสุทธิมรรคเถิด.” (ชื่อ ...... ฯ) คำเห็นพูดดั่งนี้ก็มีอยู่แล้ว คือสมณะสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเรานั้น ให้ไปเรียนในคัมภีร์อื่น ๆ ออกไปได้อีก โดยมิปรับว่าเป็นคำสอนอื่น ผิดไป! เพื่อความสำเร็จสมหวังของหัวใจปรารถนาของคนนั้นเอง ไฉนเดี๋ยวนี้จึงมีการแพร่กระจายพูดกันว่า สิ่งที่ออกมาจากสมณะ จากสงฆ์ตามบทพุทธศาสตร์แท้ ๆ ไม่ใช่คำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า เห็นจะมีมาในวิกิคำสอน คำคม ที่เสนอโปรแกรมคู่กันกับสิ่งบันเทิงเรื่องไร้สาระนุกรมนั้น มีอันหนึ่ง ก็สอนอย่างนี้เหมือนกัน คือหารับประกันทั่วไปว่า อรรถกถา! ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ให้พูดสารานุกรมออกเป็นไร้สาระนุกรมไปอีกหนึ่งบทแล้ว

ที่นี้ผู้ที่จะอ่านให้ก่อประโยชน์สาระ แล้วไปเอาสาระมาผิดที่ ผิดอันประโยชน์จะมีมา ตัวผู้ดีผู้เข้าใจถูกนั้น จะต้องคอยบอกว่าไม่ใช่! และผู้ดีที่เข้าใจไม่ค่อยถูกนั้น ก็ควรเข้าใจให้ถูกซะบ้าง ว่าอะไร ๆ พูดเรื่องความชอบส่วนตัว ทำไมไปพูดลงที่ศาสนาให้ผิดไปจากบทความจริง ในประโยชน์ของส่วนกลาง

คำพูดอย่างนั้นจะชักให้เสีย ควรเว้นก็น่าจะเว้น เพราะว่าเป็นการพูดไม่ครบ พูดให้จวนเจียนจะเสนอปลอม ๆ ทำมีสีสัน ไปในทางมุสาวาท หรืออยู่ในฉายาของมุสาวาท เป็นวิธีการพูดไปเรื่องส่วนตัว แล้วไปอ้างความเผยแพร่ได้ในสิทธิที่จะชอบ หรือไม่ชอบ ตามส่วนตัว คนอย่างที่เป็นดั่งนั้นแล้ว เห็นจะพูดจะทำเพื่อส่วนรวมไม่เป็นเท่าใดนัก เพราะถ้าจะพูดให้เข้าใจผิดเช่นนั้นเขาทำได้ ก็ถือว่าเป็นความผิดอยู่แล้ว ด่างพร้อยแล้ว เป็นดั่งสุนัขปากมอม อวดรักอวดชอบใบตองแห้ง อันกล่าวกระทำล่อลวงเสียดสีอยู่แบบนั้น  ให้เป็นไปได้

เรื่องเสียดสีแบบดั่งว่ากล่าวนี้ อย่าให้ราคา อย่าให้ใครยกเอามาพูดอีกเลย เพราะคนโง่เองก็ยังรู้มากกว่านี้ รู้เพราะว่า คำอธิบายวิชาเลข ก็ชื่อว่า คำสอนเลข! คำอธิบายวิชาดวงดาว ก็ชื่อว่า คำสอนแห่งดวงดาว! คำอธิบายวิชากฎหมายก็ชื่อว่า คำสอนกฎหมาย! ฉะนั้น คำอธิบายวิชา พุทธกถา พุทธพจน์ พุทธศาสตร์ ก็ย่อมจะเรียกว่า คำสอนพุทธศาสตร์  หรือเรียกว่า คำสอนแห่งพุทธพจน์ ชื่ออะไร? จะให้คนเรียกว่า “คำสอนพระพุทธเจ้า” ย่อมเป็นอันเข้าใจกันได้ตามธรรมดา เป็นปกติที่จะให้ทุกคนได้ดี

ส่วนพวกใดจะวิตถารนัยไปที่อื่น ๆ จะชอบ ก็ควรชอบได้อยู่ เพราะหากจะถือว่าอรรถกถา ฎีกา หรืออัตตโนมตินั้น ส่งว่าไม่ใช่คำสอนในพุทธศาสนาของเรา นัยตั้งแต่เฉพาะพระสูตรหรือพระอภิธรรมนั้น ย่อมสอดโวหารเสี่ยงทิ้งไปก็ได้ ไม่ให้เป็นได้ ไม่เอาเลยก็ได้ แต่!กระไร ย่อมถือว่าคำสอนส่วนที่เหลือซึ่งพระวินัยเป็นศาสนาของพระพุทธเจ้าได้ เป็นศาสนาได้ หากแต่ว่าใครใคร่จะยกวิตถาร ยกไปว่า  นัยแห่งอรรถกถา ฎีกา หรืออัตตโนมติ ตามแต่พระวินัย แห่งสมณะสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าในชั้นหลังนั้น ไม่ใช่คำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว เช่นนั้นศาสนาพุทธก็คงจบไปแล้ว เมื่อวันปรินิพพาน จะหาว่ามีศาสนาพุทธด้วยเรื่องอะไรอีก เมื่อจะไม่ถือว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่จะทรงให้มีศาสนานั้นด้วยกันกับพระสงฆ์ ไม่มีอยู่”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่