สวัสดีครับ ผมเป็นคนนึงที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีเท่าไร (เคยสอบ CU-TEP ตอนปีหนึ่งได้ 400/700)
อยากจะมาเล่าเรื่องราวการเตรียมตัวและการสอบ Toefl และ Techniques ที่ผมใช้จนผ่านเป้าหมายที่วางไว้ครับ (100 คะแนน)
ผมสอบ Toefl ทั้งหมด 9 ครั้ง! คะแนนเริ่มตั้งแต่ 70 -> 101 (ครั้งสุดท้าย) เวลาทั้งหมดที่ใช้ 10 เดือนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยกระทู้นี้จะแบบเป็น 2 ช่วงนะครับ
1) เป็น timeline การสอบแต่ละครั้ง
2) สรุป technique ที่ผมคิดว่าได้ผลครับ
timeline
1) 27/08/2016
การเตรียมตัว :
คิดว่าเป็นการสอบครั้งแรกเพื่อเอาไปวัด performance ตัวเองครับ ยังไม่ได้หวังว่าจะได้คะแนนเยอะมากเพราะรู้ตัวเองว่าพื้นฐานไม่ดัอยู่แล้ว เตรียมตัวโดยการอ่าน official book ของ ETS มาใช้ครับ ใช้เวลา 2 เดือนในการเตรียมตัว (อ่านแค่ basic ในหนังสือและลองทำโจทย์ในเล่ม)
ผลการสอบ :

-- หลังจากคะแนนออก รู้สึก shock ครับ คะแนนต่ำเหลือเกินกว่าเป้าหมาย 100 ที่วางไว
-- เนื่องจากป้ญหาเรื่องงานเลยคิดว่าพัก TOEFL ไปซักพักครับ --
-- หายไป 1 ปีจนกว่าจะมาลุยจิงจัง --
2) 09/09/2017
การเตรียมตัว :
ไป take course เรียน Keplan ที่สยามครับ เรียนเดือน Jun - July และลองใช้เทคนิคที่เรียนมา ทำตัวอย่างข้อสอบอีก 1 เดือนครับ
(พบภายหลังว่าไม่ค่อย work เท่าไร สำหรับผมนะ)
ผลการสอบ :

-- คะแนนดีขึ้นแต่ speaking ไม่เพิ่มเลย ต้องฝึกเพิ่ม --
3) 15/10/2017
การเตรียมตัว :
- เปลี่ยน technique ไปใช้ของ website notefull แทน และทำโจทย์เยอะขึ้น (เน้นไปที่ reading)
- ท่องศัพท์เพิ่มโดยเอาจากคำที่ไม่รู้ในแบบฝึก (เด๋ว part 2 จะมาบอกครับว่าเอาแบบฝึกจากไหน)
ผลการสอบ :

-- Reading, Speaking ดีขึ้นมาก listening ยังไม่ค่อยดี --
4) 13/01/2018
การเตรียมตัว :
- ใช้ technique เดิมจาก notefull แต่หยุดสอบไป 3 เดือน และฝึกไปเรื่อยๆ ทุกวัน (เนื่องจากผมทำงานไปด้วยเตรียมไปด้วยต้องบริหารเวลาด๊ีๆครับ)
- ฟัง youtube เวลาว่าง เช่น เวลาเดินทาง ให้มันพูดกรอกหูไปเรื่อยๆ ครับ โดยค่อยๆฟังจากง่ายไปยาก (เด๋ว part2 จะมาบอกว่า channel ไหนดี)
ผลการสอบ :

-- ค่อนข้างตกใจกับคะแนน Reading ที่สูงมาก , Listening improve ขึ้นเยอะ , แต่อีกสองพาร์ทที่เหลือ เท่าเดิมเลย T^T ฝึกๆต่อ --
5) 24/02/2018
การเตรียมตัว :
- ฝึกเหมือนเดิมครับ แต่เน้น Speaking และ Writing
- Speaking -> พูดและอัดเสียงฟังซ้ำครับ ดูว่าเราผิดตรงไหน
- Writing -> เขียนและตรวจ gramma ใน Website grammarly.com
ผลการสอบ :

-- รู้สึกมีความหวังเราเดิมมาไกลมาแล้วครับ , แต่พาร์ท Speaking + Writing พอๆเดิมเลยคิดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง... --
6) 08/04/2018
การเตรียมตัว :
- ตัดสินใจไปเรียน Speaking และ Writing ที่
princton review ครับ เพราะมีคนบอกว่ามีอาจารย์เก่งมากคนนึง เค้าจะช่วยเราได้
- ปรากฏว่า class ที่ผมไปเรียน อาจารย์คนนั้นเค้าลาออกไปแล้วจึงมีอาจารย์ใหม่สอนแทนครับ T^T
- template + technique สำหรับ Speaking + Writing เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดครับ
ผลการสอบ :

-- คะแนนน้อยลง รู้สึกเฟลมาก!! กับเวลา 2 เดือนที่หายไป -> ตัดสินใจกลับมาใช้ template เดิมของ notefull --
****
เนื่องจากผมไม่มีเวลาเหลือแล้วการสอบครั้งถัดๆไปจึงสอบทุก 2 weeks เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองมากที่สุด****
7) 21/04/2018
การเตรียมตัว :
- Speaking ใช้ template เดิมของ notefull
- Writing อ่านตัวอย่าง essay ของ toeflresource.com และลองเขียนตาม
ผลการสอบ :

-- Speaking เริ่มกลับมา , Listening คะแนนลดลงเพราะเอาเวลาไปทุ่มกับ Speaking + Writing --
-- เริ่มจิตตกเพราะคะแนนลดลง แต่ยังไม่ถอย สอบต่อไป... --
8) 06/05/2018
การเตรียมตัว :
- ใช้เทคนิคเดิม ฝึกเหมือนเดิม แต่เพิ่มเวลาแต่ละวันมากขึ้นเป็นวันละ 3 ชม.
ผลการสอบ :

-- จิตตกอีกแล้วครับ Reading + Listening ไม่ได้ Top performance เท่าเดิม , Speaking ยังคงได้ไม่เกิน 20 ซักที สอบต่อไป --
-- จุดนี้เริ่มหมดหวังและคิดว่า 90 กว่าๆ ก็พอแล้วหรือไม่ T^T --
9) 19/05/2018 (ครั้งสุดท้าย)
การเตรียมตัว :
- Speaking เริ่มลองหาคู่สนทนาใน internet ใน website italki.com
คนที่คุยด้วยอาจจะไม่ได้แก้ไขจุดผิดผลาดในการพูดของเราเท่าไร แต่คิดว่าคงทำให้พูดคล่องขึ้นบ้าง..
- Part อื่นๆ ฝึกเหมือนเดิม
ผลการสอบ :

-- ในที่สุดก็ผ่านครับดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ Listening 29 และ Speaking ก็ได้เยอะขึ้นมาก น่าจะเพราะการคุยสนทนาใน internet ครับ --
สรุป [part1]
1) อยากจะให้กำลังใจเพื่อนๆครับว่า ยิ่งเราฝึกมาก เรายิ่งเก่งขึ้น และในที่สุดก็ Achieve เป้าหมายครับ (อย่าพึ่งถอดใจ)
2) การเรียน course ของ keplan และ princeton review ไม่ช่วยเท่าไร ควรเอาเวลาไปฦึกฦนทำโจทย์มากกว่าครับ
3) การสอบทุก 2 weeks 4 ครั้งติดเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆครับ แต่ผมว่าควรทำสำหรับคนที่มีเวลาจำกัด
4) ใน part 2 ผมจะมาสรุปเทคนิคที่ผมคิดว่าดีและใช้จนได้คะแนนเกิน 100 ครับ เด๋วมาเล่าให้ฟังต่อครับ
ประสบการณ์และการเตรียมตัว Toefl 70 -> 100+
อยากจะมาเล่าเรื่องราวการเตรียมตัวและการสอบ Toefl และ Techniques ที่ผมใช้จนผ่านเป้าหมายที่วางไว้ครับ (100 คะแนน)
ผมสอบ Toefl ทั้งหมด 9 ครั้ง! คะแนนเริ่มตั้งแต่ 70 -> 101 (ครั้งสุดท้าย) เวลาทั้งหมดที่ใช้ 10 เดือนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยกระทู้นี้จะแบบเป็น 2 ช่วงนะครับ
1) เป็น timeline การสอบแต่ละครั้ง
2) สรุป technique ที่ผมคิดว่าได้ผลครับ
timeline
1) 27/08/2016
การเตรียมตัว :
คิดว่าเป็นการสอบครั้งแรกเพื่อเอาไปวัด performance ตัวเองครับ ยังไม่ได้หวังว่าจะได้คะแนนเยอะมากเพราะรู้ตัวเองว่าพื้นฐานไม่ดัอยู่แล้ว เตรียมตัวโดยการอ่าน official book ของ ETS มาใช้ครับ ใช้เวลา 2 เดือนในการเตรียมตัว (อ่านแค่ basic ในหนังสือและลองทำโจทย์ในเล่ม)
ผลการสอบ :
-- หลังจากคะแนนออก รู้สึก shock ครับ คะแนนต่ำเหลือเกินกว่าเป้าหมาย 100 ที่วางไว
-- เนื่องจากป้ญหาเรื่องงานเลยคิดว่าพัก TOEFL ไปซักพักครับ --
-- หายไป 1 ปีจนกว่าจะมาลุยจิงจัง --
2) 09/09/2017
การเตรียมตัว :
ไป take course เรียน Keplan ที่สยามครับ เรียนเดือน Jun - July และลองใช้เทคนิคที่เรียนมา ทำตัวอย่างข้อสอบอีก 1 เดือนครับ
(พบภายหลังว่าไม่ค่อย work เท่าไร สำหรับผมนะ)
ผลการสอบ :
-- คะแนนดีขึ้นแต่ speaking ไม่เพิ่มเลย ต้องฝึกเพิ่ม --
3) 15/10/2017
การเตรียมตัว :
- เปลี่ยน technique ไปใช้ของ website notefull แทน และทำโจทย์เยอะขึ้น (เน้นไปที่ reading)
- ท่องศัพท์เพิ่มโดยเอาจากคำที่ไม่รู้ในแบบฝึก (เด๋ว part 2 จะมาบอกครับว่าเอาแบบฝึกจากไหน)
ผลการสอบ :
-- Reading, Speaking ดีขึ้นมาก listening ยังไม่ค่อยดี --
4) 13/01/2018
การเตรียมตัว :
- ใช้ technique เดิมจาก notefull แต่หยุดสอบไป 3 เดือน และฝึกไปเรื่อยๆ ทุกวัน (เนื่องจากผมทำงานไปด้วยเตรียมไปด้วยต้องบริหารเวลาด๊ีๆครับ)
- ฟัง youtube เวลาว่าง เช่น เวลาเดินทาง ให้มันพูดกรอกหูไปเรื่อยๆ ครับ โดยค่อยๆฟังจากง่ายไปยาก (เด๋ว part2 จะมาบอกว่า channel ไหนดี)
ผลการสอบ :
-- ค่อนข้างตกใจกับคะแนน Reading ที่สูงมาก , Listening improve ขึ้นเยอะ , แต่อีกสองพาร์ทที่เหลือ เท่าเดิมเลย T^T ฝึกๆต่อ --
5) 24/02/2018
การเตรียมตัว :
- ฝึกเหมือนเดิมครับ แต่เน้น Speaking และ Writing
- Speaking -> พูดและอัดเสียงฟังซ้ำครับ ดูว่าเราผิดตรงไหน
- Writing -> เขียนและตรวจ gramma ใน Website grammarly.com
ผลการสอบ :
-- รู้สึกมีความหวังเราเดิมมาไกลมาแล้วครับ , แต่พาร์ท Speaking + Writing พอๆเดิมเลยคิดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง... --
6) 08/04/2018
การเตรียมตัว :
- ตัดสินใจไปเรียน Speaking และ Writing ที่ princton review ครับ เพราะมีคนบอกว่ามีอาจารย์เก่งมากคนนึง เค้าจะช่วยเราได้
- ปรากฏว่า class ที่ผมไปเรียน อาจารย์คนนั้นเค้าลาออกไปแล้วจึงมีอาจารย์ใหม่สอนแทนครับ T^T
- template + technique สำหรับ Speaking + Writing เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดครับ
ผลการสอบ :
-- คะแนนน้อยลง รู้สึกเฟลมาก!! กับเวลา 2 เดือนที่หายไป -> ตัดสินใจกลับมาใช้ template เดิมของ notefull --
****เนื่องจากผมไม่มีเวลาเหลือแล้วการสอบครั้งถัดๆไปจึงสอบทุก 2 weeks เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองมากที่สุด****
7) 21/04/2018
การเตรียมตัว :
- Speaking ใช้ template เดิมของ notefull
- Writing อ่านตัวอย่าง essay ของ toeflresource.com และลองเขียนตาม
ผลการสอบ :
-- Speaking เริ่มกลับมา , Listening คะแนนลดลงเพราะเอาเวลาไปทุ่มกับ Speaking + Writing --
-- เริ่มจิตตกเพราะคะแนนลดลง แต่ยังไม่ถอย สอบต่อไป... --
8) 06/05/2018
การเตรียมตัว :
- ใช้เทคนิคเดิม ฝึกเหมือนเดิม แต่เพิ่มเวลาแต่ละวันมากขึ้นเป็นวันละ 3 ชม.
ผลการสอบ :
-- จิตตกอีกแล้วครับ Reading + Listening ไม่ได้ Top performance เท่าเดิม , Speaking ยังคงได้ไม่เกิน 20 ซักที สอบต่อไป --
-- จุดนี้เริ่มหมดหวังและคิดว่า 90 กว่าๆ ก็พอแล้วหรือไม่ T^T --
9) 19/05/2018 (ครั้งสุดท้าย)
การเตรียมตัว :
- Speaking เริ่มลองหาคู่สนทนาใน internet ใน website italki.com
คนที่คุยด้วยอาจจะไม่ได้แก้ไขจุดผิดผลาดในการพูดของเราเท่าไร แต่คิดว่าคงทำให้พูดคล่องขึ้นบ้าง..
- Part อื่นๆ ฝึกเหมือนเดิม
ผลการสอบ :
-- ในที่สุดก็ผ่านครับดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ Listening 29 และ Speaking ก็ได้เยอะขึ้นมาก น่าจะเพราะการคุยสนทนาใน internet ครับ --
สรุป [part1]
1) อยากจะให้กำลังใจเพื่อนๆครับว่า ยิ่งเราฝึกมาก เรายิ่งเก่งขึ้น และในที่สุดก็ Achieve เป้าหมายครับ (อย่าพึ่งถอดใจ)
2) การเรียน course ของ keplan และ princeton review ไม่ช่วยเท่าไร ควรเอาเวลาไปฦึกฦนทำโจทย์มากกว่าครับ
3) การสอบทุก 2 weeks 4 ครั้งติดเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆครับ แต่ผมว่าควรทำสำหรับคนที่มีเวลาจำกัด
4) ใน part 2 ผมจะมาสรุปเทคนิคที่ผมคิดว่าดีและใช้จนได้คะแนนเกิน 100 ครับ เด๋วมาเล่าให้ฟังต่อครับ