สวัสดีค่า วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบโทเฟล สำหรับหลายๆ คนที่กำลังสอบ ว้าวุ่นกับมันอยู่
ส่วนตัวเราเชื่อว่าไม่มีหนังสือเล่มไหน ไม่มีคอร์สไหน ไม่มีอาจารย์คนไหนที่ดีที่สุดค่ะ เพียงแต่เป็นสิ่งที่ "เหมาะสม" กับเราที่สุด เพราะแน่นอนว่าพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นขอให้พิจารณาดีๆ แล้วเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดนะคะ
ก่อนอื่นเพื่อเป็นข้อมูลขอแนะนำพื้นฐานภาษาอังกฤษของเราก่อนนะคะ
เราเป็นเด็กที่เกลียดภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ชอบ ไม่เข้าใจ จำศัพท์ไม่ได้ แต่ด้วยข้อสอบที่เน้นแต่แกรมม่า เราก็พอจำกฎแล้วทำได้บ้าง (เกรดวิชาภาษาอังกฤษประมาณ 3 - 4 ค่ะ / ตอนปีหนึ่งสอบ CUTEP ระบบเก่าได้ 420/ 700 ค่ะ)
ถึงเกรดม.ปลายจะไม่แย่ แต่ภาษาอังกฤษมันไม่ใช่จริงๆ ค่ะ พยายามเรียนยังไง เรียนมาหลายที่ก็ไม่ช่วยจริงๆ
ยิ่งตอนเข้ามหา'ลัย เจออาจารย์สอนเขียนครั้งแรก... ช็อกไปเลยค่ะ เพราะว่าตอนมัธยมแทบไม่เคยแต่งประโยคด้วยตัวเองซักครั้ง พบว่าตัวเองเขียนไม่ออกเลย
เราเคยเรียนคอร์ส TOEFL มาสองสามที่ แต่ไม่ปิ๊งซักที่ คงเพราะเรียนเผื่อไว้ก่อนอ่าค่ะ ส่วนตัวเราว่าควรจะกำหนดวันสอบให้ตัวเอง แล้วค่อยลงเรียนค่ะ แบบจบคอร์สแล้วเหลือเวลาเดือนนึงทบทวนก่อนสอบกำลังสวย อย่าคิดว่ามีเวลาว่าง ลงเรียนไปก่อน พร้อมแล้วค่อยสอบ พูดเลยค่ะว่าไม่มีวันพร้อม เรียนไม่ได้ประสิทธิผลเต็มที่ด้วย
คือที่ที่คนที่เค้าว่าดีกัน มันดันไม่เหมาะกับเราน่ะสิ ยิ่งคนสอนบางคนไม่ถูกจริตกับเราอย่างแรง คือเราไม่ชอบเสียงกับนิสัยคนสอนค่ะ เรียนไปแล้วอึดอัดมากกกก .... เราแนะนำว่าก่อนสมัครเรียนที่ไหนพยายามหา youtube ดูสไตล์การพูดการสอนของคนนั้นก่อนนะคะ ถ้าคลิกกันก็สมัครไป เลือกที่ตรงจริตเราค่ะ
เราสอบ TOEFL มาสี่ครั้งค่ะ คะแนนจาก 81 --> 90 --> 96 --> 97 (ครั้งสุดท้ายนี่เจ็บใจจจจจจจ ขออนุญาตโทษศูนย์สอบปลอบใจตัวเองนะคะ ฮือออ TwT)
คือคะแนนมันอาจจะไม่สูงเหมือนหลายคนที่มารีวิว แต่สำหรับเรามันถือว่าดีขึ้นมากๆ จากเด็กที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษ มาได้เท่านี้ก็ไกลลลลล มากแล้ว
ก่อนจะเริ่มรีวิวขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่ได้อ่านจากหนังสือเลย เพราะมันหนัก แบกลำบาก อ่านแล้วง่วง แถมเวลาทำจริงก็ทำกับคอม (อันนี้แล้วแต่คนนะคะ)
1. notefull.com
เราใช้เว็บนี้เป็นหลักค่ะ www.notefull.com คือมันดีงามมากกกกก มีตั้งแต่การวางแผนอ่านหนังสือสอบ เซสชั่นให้กำลังใจ อ่านๆ ไปก็มีเทส มีเสียง มีวิดีโอ
เราว่าเสียงคนสอนเค้าฟังง่ายมาก เราลองแนบตัวอย่างดูนะคะว่าถูกจริตกันมั้ย
ถ้าคิดว่าระดับนี้ฟังง่ายฟังออก ไปที่เว็บเค้าเลยค่ะ มีทั้งวีดีโอฟรีๆ สมัครแบบเสียตัง มีนัดติวพิเศษ เค้ามีหลายคอร์สให้เราเลือก หรือถ้างงๆ ว่าจะลงคอร์สไหนดี อีเมลล์ไปถามโลดค่ะ ตอบดีมาก
ตอนแรกเราก็เรียนจากคอร์สฟรีอยู่ค่ะ แต่ตอนนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์จะสอบรอบที่ 2 จิตตก อย่างได้แแหล่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เลยสมัคร 1-step TOEFL Mastery ใช้บัตรเครดิตรูด $36.00 ค่ะ.... พันกว่าบาทเท่านั้น!!! คือหนึ่งอาทิตย์เราตั้งใจอ่านมาก ทำตามที่เค้าบอกทุกอย่าง จัดตาราง เขียนแพลน แต่ก็ยังอ่าน material ที่เค้าให้ไม่หมดค่ะ ให้มาเต็ม และเพียงพอจริงๆ
แล้วพบว่า เหยยย มันเวิร์กอะ พาร์ทที่มหัศจรรย์จริตที่สุดคือ reading ค่ะ จากที่เราไม่เคยทำพาร์ทนี้ได้คะแนนดี รอบนั้นเราได้ 27/30 ปลื้มปริ่มมมม T^T
อยากจะกราบมากจริงๆ
คือเว็บนี้มันดีจริงๆ นะคะ เลิกเรียนเป็นคอร์สไปเลย แพง แถมเสียเวลาเดินทางด้วย ถ้ามีคนสนใจเดี๋ยวเราอัพโน้ตย่อที่เราจดทุกอย่างจากเว็บนี้ให้นะคะ ^^
2. เล่นเกม.... หลายคนบอกเล่นเกมเพื่อฝึกภาษา เราก็เล่นค่ะ !! ติดเกมมาก เล่น hayday กับ candy crush............. ไม่ช่วยเลย TwT
เราขอแนะนำแอพนี้ค่ะ elevate เช็คแล้วมีทั้ง IOS และ andriod เอาจริงๆ แอพนี้ศัพท์ค่อนข้างยาก เหมาะสำหรับคนเตรียมสอบ GRE มากกว่า แต่ถ้าไม่คิดอะไรลองเล่นแล้วสนุกเลยค่ะ ฝึกทั้งศัพท์ แกรมม่า เลข ภาพสวยด้วย
แอพนี้ฟรีนะคะ แต่เล่นได้แค่วันละสามเกมค่ะ
3. แอพบนมือถือ พยายามอ่านให้มากที่สุดค่ะ ยืนบนรถไฟฟ้าก็หยิบศัพท์มาท่อง หรือหยิบโจทย์สปีกกิ้งมานั่งคิดเล่นว่าเราจะตอบยังไงดี
1.เราใช้ Essential Vocab ของ Barron ค่ะ ประมาณ 5 เหรียญ ก็ 150 บาท เราว่าติดมือกว่าซื้อเป็นเล่มๆ ยืนรอก็อ่านในมือถือได้ สะดวกดีค่ะ
2.อีกแอพนึงที่ดีงามจนอยากจะกราบกรานชื่อ iBTimer ค่ะ แอพฟรีเช่นเดียวกัน แต่เธอจะมีลิสคำถามพาร์ทสปีกกิ้งข้อ 1-2 แรนด้อมขึ้นมาเรื่อยๆ
สำหรับคนที่ไม่เคยสอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พาร์ทสปีกกิ้งมี 6 ข้อค่ะ แต่ละข้อมีแพทเทิร์คำถามชัดเจน แต่ข้อที่ยากคือข้อ 1-2 คือจะเป็นคำถามเรื่องทั่วๆ ไปแล้วให้เราตอบ โดยมีเวลาคิด 15 วินาที เวลาตอบ 45 วินาที ยากตรงเลือกไม่ถูกนี่แหละค่ะ เช่น.... ให้บอกกิจกรรมที่คุณมักทำกับครอบครัวพร้อมรายละเอียด คือถ้าไม่ฝึกให้ชิน หรือพอมีคำตอบในหัวนี่คิดไม่ออกจริงๆ ค่ะ
แล้วก็มีจับเวลาให้เราอัดเสียงลงไป มันเจ๋งตรงที่เราสามารถดูพัฒนาก่อนของตัวเองจากเสียงที่อัดไว้ได้เนี่ยละค่ะ
4. podcast มันอารมณ์คล้ายๆ วิทยุสอนภาษาอังกฤษอ่าค่ะ อยู่ใน IOS ลองโหลดมาเสิร์ชว่า TOEFL ไว้ฟังก่อนนอนค่ะ จบแล้วหลับพอดี เอาน่า อย่างน้อยก็ได้เข้าหู ฮ่าๆๆๆ
5. พยายามหาอีเวนท์ให้เราเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษเยอะๆ ตามมหา'ลัยจะมีชมรมภาษาอังกฤษ หรือเวิร์กช็อปอะไร เข้าไปเถอะค่ะ จริงๆ นะ มันมีประโยชน์มากกกก ในฐานะนักศึกษาอยากให้ใช้ทรัพยากรให้เต็มที่ เอาจริงๆ ห้องสมุดของสถาบันภาษาหนังสือโทเฟลให้อ่านเต็มเลยค่ะ
เพิ่มเติม-บางทีเราไม่อยากอ่านแล้ว เราเหนื่อย เราก็เล่นฝึกสปีกกิ้งกับเพื่อนค่ะ แต่เป็นภาษาไทยนะคะ ให้ตั้งคำถาม แล้วตอบตามแพทเทิร์นโทเฟล .... ภาษาไทยยังยากเลยค่ะ ให้ตาย TwT
หรือไม่ก็พยายามพิมพ์สเตตัสในเฟสบุคให้เป็นภาาษาอังกฤษ พร้อมหมายเหตุว่าเรากำลังฝึกภาษาอยู่นะ ถ้าเจอผิดแก้ได้เลย คือมันช่วยได้จริงๆ ค่ะ ตอนแรกก็ไม่กล้าตั้ง กลัวผิด กลัวอาย.... แต่รู้เลยว่าจะตั้งทีกูเกิ้ลเยอะมาก เพราะไม่รู้ว่าจะใช้คำคำนั้นยังไง ยิ่งหาจากกูเกิ้ลมาลงสเตตัส ยิ่งจำได้ค่ะ ยิ่งผิดนะ หื้มม จำได้แม่นเลยยย
พยายามไปด้วยกันนะคะ เราเขียนตรงไหนงงๆ ทักท้วงถามไถ่ เสริมได้เลย นี่เราเอามาจากประสบการณ์ของเราคนเดียว หลายคนอาจจะมีวิธีอื่นที่เหมาะกับตัวเองก็ได้ค่ะ ลองดูนะคะ
อย่าอายที่เราโง่ภาษาอังกฤษ เราโง่ เพื่อที่จะเรียนรู้ให้ฉลาด เราโง่ เพื่อพร้อมจะพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ สู้ๆ นะคะ
+++เพิ่มเติม อันนี้โน้ตย่อที่เราจดจากโน้ตฟูลค่ะ เป็นแพทเทิร์นการพูดสปีกกิ้ง กับแพทเทิร์นการเขียน คือ Notefull จะสอนเป็น pattern TOEFL เลย เค้าบอกว่าจะเปลี่ยนเราเป็น TOEFL taker ค่ะ ฮ่าๆๆ ++
มีสะกดผิดนิดนึงนะคะ =///=
รวบรวมการเตรียมตัวสอบ TOEFL ราคาประหยัด อ่านที่บ้าน และเห็นผลสุดๆ ค่ะ
ส่วนตัวเราเชื่อว่าไม่มีหนังสือเล่มไหน ไม่มีคอร์สไหน ไม่มีอาจารย์คนไหนที่ดีที่สุดค่ะ เพียงแต่เป็นสิ่งที่ "เหมาะสม" กับเราที่สุด เพราะแน่นอนว่าพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นขอให้พิจารณาดีๆ แล้วเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดนะคะ
ก่อนอื่นเพื่อเป็นข้อมูลขอแนะนำพื้นฐานภาษาอังกฤษของเราก่อนนะคะ
เราเป็นเด็กที่เกลียดภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ชอบ ไม่เข้าใจ จำศัพท์ไม่ได้ แต่ด้วยข้อสอบที่เน้นแต่แกรมม่า เราก็พอจำกฎแล้วทำได้บ้าง (เกรดวิชาภาษาอังกฤษประมาณ 3 - 4 ค่ะ / ตอนปีหนึ่งสอบ CUTEP ระบบเก่าได้ 420/ 700 ค่ะ)
ถึงเกรดม.ปลายจะไม่แย่ แต่ภาษาอังกฤษมันไม่ใช่จริงๆ ค่ะ พยายามเรียนยังไง เรียนมาหลายที่ก็ไม่ช่วยจริงๆ
ยิ่งตอนเข้ามหา'ลัย เจออาจารย์สอนเขียนครั้งแรก... ช็อกไปเลยค่ะ เพราะว่าตอนมัธยมแทบไม่เคยแต่งประโยคด้วยตัวเองซักครั้ง พบว่าตัวเองเขียนไม่ออกเลย
เราเคยเรียนคอร์ส TOEFL มาสองสามที่ แต่ไม่ปิ๊งซักที่ คงเพราะเรียนเผื่อไว้ก่อนอ่าค่ะ ส่วนตัวเราว่าควรจะกำหนดวันสอบให้ตัวเอง แล้วค่อยลงเรียนค่ะ แบบจบคอร์สแล้วเหลือเวลาเดือนนึงทบทวนก่อนสอบกำลังสวย อย่าคิดว่ามีเวลาว่าง ลงเรียนไปก่อน พร้อมแล้วค่อยสอบ พูดเลยค่ะว่าไม่มีวันพร้อม เรียนไม่ได้ประสิทธิผลเต็มที่ด้วย
คือที่ที่คนที่เค้าว่าดีกัน มันดันไม่เหมาะกับเราน่ะสิ ยิ่งคนสอนบางคนไม่ถูกจริตกับเราอย่างแรง คือเราไม่ชอบเสียงกับนิสัยคนสอนค่ะ เรียนไปแล้วอึดอัดมากกกก .... เราแนะนำว่าก่อนสมัครเรียนที่ไหนพยายามหา youtube ดูสไตล์การพูดการสอนของคนนั้นก่อนนะคะ ถ้าคลิกกันก็สมัครไป เลือกที่ตรงจริตเราค่ะ
เราสอบ TOEFL มาสี่ครั้งค่ะ คะแนนจาก 81 --> 90 --> 96 --> 97 (ครั้งสุดท้ายนี่เจ็บใจจจจจจจ ขออนุญาตโทษศูนย์สอบปลอบใจตัวเองนะคะ ฮือออ TwT)
คือคะแนนมันอาจจะไม่สูงเหมือนหลายคนที่มารีวิว แต่สำหรับเรามันถือว่าดีขึ้นมากๆ จากเด็กที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษ มาได้เท่านี้ก็ไกลลลลล มากแล้ว
ก่อนจะเริ่มรีวิวขอออกตัวก่อนนะคะว่าเราไม่ได้อ่านจากหนังสือเลย เพราะมันหนัก แบกลำบาก อ่านแล้วง่วง แถมเวลาทำจริงก็ทำกับคอม (อันนี้แล้วแต่คนนะคะ)
1. notefull.com
เราใช้เว็บนี้เป็นหลักค่ะ www.notefull.com คือมันดีงามมากกกกก มีตั้งแต่การวางแผนอ่านหนังสือสอบ เซสชั่นให้กำลังใจ อ่านๆ ไปก็มีเทส มีเสียง มีวิดีโอ
เราว่าเสียงคนสอนเค้าฟังง่ายมาก เราลองแนบตัวอย่างดูนะคะว่าถูกจริตกันมั้ย
ถ้าคิดว่าระดับนี้ฟังง่ายฟังออก ไปที่เว็บเค้าเลยค่ะ มีทั้งวีดีโอฟรีๆ สมัครแบบเสียตัง มีนัดติวพิเศษ เค้ามีหลายคอร์สให้เราเลือก หรือถ้างงๆ ว่าจะลงคอร์สไหนดี อีเมลล์ไปถามโลดค่ะ ตอบดีมาก
ตอนแรกเราก็เรียนจากคอร์สฟรีอยู่ค่ะ แต่ตอนนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์จะสอบรอบที่ 2 จิตตก อย่างได้แแหล่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เลยสมัคร 1-step TOEFL Mastery ใช้บัตรเครดิตรูด $36.00 ค่ะ.... พันกว่าบาทเท่านั้น!!! คือหนึ่งอาทิตย์เราตั้งใจอ่านมาก ทำตามที่เค้าบอกทุกอย่าง จัดตาราง เขียนแพลน แต่ก็ยังอ่าน material ที่เค้าให้ไม่หมดค่ะ ให้มาเต็ม และเพียงพอจริงๆ
แล้วพบว่า เหยยย มันเวิร์กอะ พาร์ทที่มหัศจรรย์จริตที่สุดคือ reading ค่ะ จากที่เราไม่เคยทำพาร์ทนี้ได้คะแนนดี รอบนั้นเราได้ 27/30 ปลื้มปริ่มมมม T^T
อยากจะกราบมากจริงๆ
คือเว็บนี้มันดีจริงๆ นะคะ เลิกเรียนเป็นคอร์สไปเลย แพง แถมเสียเวลาเดินทางด้วย ถ้ามีคนสนใจเดี๋ยวเราอัพโน้ตย่อที่เราจดทุกอย่างจากเว็บนี้ให้นะคะ ^^
2. เล่นเกม.... หลายคนบอกเล่นเกมเพื่อฝึกภาษา เราก็เล่นค่ะ !! ติดเกมมาก เล่น hayday กับ candy crush............. ไม่ช่วยเลย TwT
เราขอแนะนำแอพนี้ค่ะ elevate เช็คแล้วมีทั้ง IOS และ andriod เอาจริงๆ แอพนี้ศัพท์ค่อนข้างยาก เหมาะสำหรับคนเตรียมสอบ GRE มากกว่า แต่ถ้าไม่คิดอะไรลองเล่นแล้วสนุกเลยค่ะ ฝึกทั้งศัพท์ แกรมม่า เลข ภาพสวยด้วย
แอพนี้ฟรีนะคะ แต่เล่นได้แค่วันละสามเกมค่ะ
3. แอพบนมือถือ พยายามอ่านให้มากที่สุดค่ะ ยืนบนรถไฟฟ้าก็หยิบศัพท์มาท่อง หรือหยิบโจทย์สปีกกิ้งมานั่งคิดเล่นว่าเราจะตอบยังไงดี
1.เราใช้ Essential Vocab ของ Barron ค่ะ ประมาณ 5 เหรียญ ก็ 150 บาท เราว่าติดมือกว่าซื้อเป็นเล่มๆ ยืนรอก็อ่านในมือถือได้ สะดวกดีค่ะ
2.อีกแอพนึงที่ดีงามจนอยากจะกราบกรานชื่อ iBTimer ค่ะ แอพฟรีเช่นเดียวกัน แต่เธอจะมีลิสคำถามพาร์ทสปีกกิ้งข้อ 1-2 แรนด้อมขึ้นมาเรื่อยๆ
สำหรับคนที่ไม่เคยสอบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็มีจับเวลาให้เราอัดเสียงลงไป มันเจ๋งตรงที่เราสามารถดูพัฒนาก่อนของตัวเองจากเสียงที่อัดไว้ได้เนี่ยละค่ะ
4. podcast มันอารมณ์คล้ายๆ วิทยุสอนภาษาอังกฤษอ่าค่ะ อยู่ใน IOS ลองโหลดมาเสิร์ชว่า TOEFL ไว้ฟังก่อนนอนค่ะ จบแล้วหลับพอดี เอาน่า อย่างน้อยก็ได้เข้าหู ฮ่าๆๆๆ
5. พยายามหาอีเวนท์ให้เราเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษเยอะๆ ตามมหา'ลัยจะมีชมรมภาษาอังกฤษ หรือเวิร์กช็อปอะไร เข้าไปเถอะค่ะ จริงๆ นะ มันมีประโยชน์มากกกก ในฐานะนักศึกษาอยากให้ใช้ทรัพยากรให้เต็มที่ เอาจริงๆ ห้องสมุดของสถาบันภาษาหนังสือโทเฟลให้อ่านเต็มเลยค่ะ
เพิ่มเติม-บางทีเราไม่อยากอ่านแล้ว เราเหนื่อย เราก็เล่นฝึกสปีกกิ้งกับเพื่อนค่ะ แต่เป็นภาษาไทยนะคะ ให้ตั้งคำถาม แล้วตอบตามแพทเทิร์นโทเฟล .... ภาษาไทยยังยากเลยค่ะ ให้ตาย TwT
หรือไม่ก็พยายามพิมพ์สเตตัสในเฟสบุคให้เป็นภาาษาอังกฤษ พร้อมหมายเหตุว่าเรากำลังฝึกภาษาอยู่นะ ถ้าเจอผิดแก้ได้เลย คือมันช่วยได้จริงๆ ค่ะ ตอนแรกก็ไม่กล้าตั้ง กลัวผิด กลัวอาย.... แต่รู้เลยว่าจะตั้งทีกูเกิ้ลเยอะมาก เพราะไม่รู้ว่าจะใช้คำคำนั้นยังไง ยิ่งหาจากกูเกิ้ลมาลงสเตตัส ยิ่งจำได้ค่ะ ยิ่งผิดนะ หื้มม จำได้แม่นเลยยย
พยายามไปด้วยกันนะคะ เราเขียนตรงไหนงงๆ ทักท้วงถามไถ่ เสริมได้เลย นี่เราเอามาจากประสบการณ์ของเราคนเดียว หลายคนอาจจะมีวิธีอื่นที่เหมาะกับตัวเองก็ได้ค่ะ ลองดูนะคะ
อย่าอายที่เราโง่ภาษาอังกฤษ เราโง่ เพื่อที่จะเรียนรู้ให้ฉลาด เราโง่ เพื่อพร้อมจะพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ สู้ๆ นะคะ
+++เพิ่มเติม อันนี้โน้ตย่อที่เราจดจากโน้ตฟูลค่ะ เป็นแพทเทิร์นการพูดสปีกกิ้ง กับแพทเทิร์นการเขียน คือ Notefull จะสอนเป็น pattern TOEFL เลย เค้าบอกว่าจะเปลี่ยนเราเป็น TOEFL taker ค่ะ ฮ่าๆๆ ++
มีสะกดผิดนิดนึงนะคะ =///=