อยากจะแชร์วิธีสอบ TOEIC ให้ได้ 800 up ค่ะ

สวัสดีค่ะ

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปสอบ TOEIC ค่ะ ก่อนไปสอบก็ได้มีการเตรียมตัวไปบ้างอะค่ะ เพราะอยากได้คะแน TOEIC ที่ดีพอสมควร

ผลคะแนนออกมา....ดีเกินคาดเลยค่ะ เลยอยากจะ Share ให้คนที่กำลังจะไปสอบ TOEIC กันค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์อะค่ะ

ข้อสอบ TOEIC จะแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน คือ Listening part และ Reading part ค่ะ
Listening part ของเราค่อนข้างจะไม่แข็งแรงค่ะเลยต้องฝึก Part นี้เยอะหน่อยค่ะ

การเตรียมตัวของเรานะคะ
อันดับแรก เราเริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก่อนค่ะว่าจะข้อสอบ TOEIC มันเป็นยังไง (แอบงกไม่อยากซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ)
แล้วเราก็เริ่มค้นหาเว็บไซต์ที่จะช่วยฝึกภาษาเราให้ดีขึ้นทั้ง 2 parts อะค่ะ ขอแบ่งการฝึกออกเป็นสอง part นะคะ

1. Listening part
Part นี้เราค่อนข้างหนักใจ เพราะเคยไปสอบมาแล้วคะแนนไม่ดีเท่าไหร่ ฟังไม่ทัน
แต่เรารู้ว่า Listening part เนี่ยจะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ พวกประกาศต่างๆ หรือบทสนทนาต่างๆ แล้วก็มีภาพให้มาแล้วให้บอกว่าข้อไหนตรงกับภาพ
วิธีฝึกของเรานะคะ เหมือนเดิมค่ะ เริ่มจากหาใน internet เนี่ยแหละค่ะ

เว็บแรก
http://www.4tests.com/exams/questions.asp?exid=23842791&googlebot=57
ถึงแม้ว่าทางเว็บจะบอกว่าเป็น listening ของ TOEFL นะคะ แต่เราว่ามันคล้ายกับข้อสอบ TOEIC มากๆเลยค่ะ ข้อดีก็คือมี script ให้ด้วยค่ะ
ตอนแรกเราก็จะฟังแบบปิด script ก่อนแล้วตอบคำถาม แล้วฟังอีกรอบนึงโดยดู Script อะค่ะ

เว็บที่สอง
http://www.english-test.net/toeic/
เว็บนี้เป็นจำลองแบบข้อสอบ TOEIC เลยค่ะ มี part ที่เป็นรูปภาพให้ลองทำด้วย
(เดี๋ยวตอนท้ายจะบอกเทคนิคการทำข้อสอบให้นะคะ)

2. Reading part
จริงๆ part นี้เราก็ค่อนข้างหนักใจค่ะ เคยเป็นมั้ยคะเวลาทำ reading part ทำๆไป สติหลุดค่ะ ล่องลอย อ่านไปแต่ไม่เข้าสมอง
วิธีการฝึก Reading part ก็คือต้องฝึกอ่านบ่อยๆค่ะ อ่านป้ายโฆษณา อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านเว็บไซต์ มีอะไรเป็นภาษาอังกฤษก็จับมาอ่านให้หมดค่ะ
ที่สำคัญ grammar พื้นฐานเราต้องแน่นไว้ก่อนค่ะ เช่น She ต้องใช้ verb เติม S หรือว่า Yesterday ต้องใช้ verb ช่อง 2 อย่างงี้อะค่ะ
เว็บไซต์ที่เราใช้ฝึก Reading part นะคะก็มี

เว็บแรก
http://www.english-test.net/toeic/
เว็บนี้จะมีข้อสอบให้ลองทำเยอะมาก เวลาทำถ้าข้อไหนผิดนะคะ ให้ลองอ่านใหม่อีกรอบข้อเดิมอะค่ะ ลองดูว่าคำตอบเราจะเปลี่ยนรึเปล่า
แรกๆก็อาจจะทำไปเปิด dictionary ไปค่ะ สัก 3-4 passages ให้คุ้นเคยกับการอ่านก่อน แล้วค่อยเริ่มเปลี่ยนเป็นการเดาจาก context แทนค่ะ

เว็บที่สอง
http://www.examenglish.com/TOEIC/TOEIC_reading.htm
เว็บนี้ก็มีข้อสอบ listening part ให้ทำด้วยนะคะ ฝึกทำไปเรื่อยๆ เวลาทำผิดก็ต้องเช็คค่ะว่าทำตรงไหนผิด

ที่สำคัญ เวลาทำแบบฝึกหัดต้องจับเวลาด้วยค่ะ เดี๋ยวจะบอกนะคะว่าแต่ละ part ควรใช้เวลาเท่าไหร่

หลังจากฝึกวิทยายุทธมาอย่างช่ำชองแล้ว (คิดไปเอง) ก็ไปสอบค่ะ
เวลาไปสอบนะคะ ต้องโทรไปจองก่อนล่วงหน้าค่ะ แล้วพอถึงวันสอบก็ไปถึงก่อนเวลาสอบนิดนึงค่ะ เพราะต้องไปลงทะเบียนอีกรอบนึงที่เคาท์เตอร์ค่ะ
ลงทะเบียนเสร็จเค้าก็จะให้ไปฝากกระเป๋าที่เคาท์เตอร์อะค่ะ ไม่ต้องพกของมีค่าไปเยอะนะคะ พอฝากกระเป๋าเสร็จ เราก็ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย อย่าลืมเอาเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ
ทีนี้ก่อนเข้าห้องสอบ เค้าก็จะมีการ scan หาระเบิดค่ะ 5555 จริงๆคือเค้าคงตรวจว่าเราพกเครื่องมือที่จะใช้โกงในห้องสอบรึเปล่าค่ะ ที่นั่งสอบก็แล้วแต่เค้าจะจัดให้เลยค่ะ

พอเข้าห้องสอบปุ๊บ เมื่อถึงเวลา เค้าจะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายการกรอกข้อมูลต่างๆค่ะ ขอแนะนำว่า "ห้ามกรอกเด็ดขาด จนกว่าเจ้าหน้าที่จะบอกให้ก่อนนะคะ" เพราะเดี๋ยวจะโดนเจ้าหน้าที่เค้าว่าได้ (คือโดนมาแล้วค่ะ 555 นามสกุลยาวกลัวกรอกไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ทันค่ะ) พอเจ้าหน้าที่อธิบายเสร็จปุ๊บ เค้าก็จะเปิดเทปค่ะ ในเทปเค้าก็จะอธิบายอีกรอบค่ะ พยายามอย่าหลับนะคะ เดี๋ยวสมองจะไม่ตื่นตัวค่ะ ก็นั่งฟังไปนั่นแหละค่ะ พออธิบายเสร็จปุ๊บ เจ้าหน้าที่เค้าก็จะให้เริ่มแกะข้อสอบพร้อมกันทุกคนค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะ แกะทันทุกคนค่ะ

เริ่มต้นด้วยข้อสอบ Listening part ค่ะ
Listening part ประกอบไปด้วย
1. Photos
2. Questions
3. Conversations
4. Talks
เริ่มจาก Photos part นะคะ เค้าจะมีรูปให้มา แล้วก็มีคนถามคำถามค่ะ แล้วก็บอก choice มา 4 choice
เทคนิคในการทำ Part นี้ก็คือ ให้ดูองค์ประกอบของภาพก่อนเลยค่ะว่ามีใครอยู่บ้าง ผู้หญิง ผู้ชาย มีสิ่งของวางอยู่ตรงไหนบ้าง พอฟัง choice จะได้ตอบได้ทันทีค่ะ หรือใครดูภาพไม่ทัน ระหว่างที่โจทย์กำลังพูด choice แต่ละ choice เราก็ไล่ดูค่ะ อันไหนไม่ใช่ก็ตัดทิ้งไปเลยค่ะ

จบจาก Photos ก็จะมาเจอ Questions part ค่ะ
ส่วนสำคัญของ Part นี้คือต้องเข้าใจโจทย์ค่ะว่าโจทย์ถามอะไร
Who, Where, What time, When, Why, How
เพราะมันจะช่วยในการเดาค่ะถ้าหากฟัง choice ไม่ออก เช่น ถ้าโจทย์ถามว่า where ก็ต้องตอบเป็นชื่อสถานที่อะค่ะ

Part ต่อมาคือ Conversations และ Talks
เริ่มอ่านคำถามก่อนเลยค่ะก่อนที่จะเริ่ม conversations หรือ Talks จะได้ทราบว่าจะต้องจับใจความเรื่องอะไรบ้าง
ต้องระวังนะคะบางทีโจทย์อาจจะหลอก เช่นบอกว่านัดเจอกันวันศุกร์ แต่อีกคนไม่ว่างขอเลื่อนนัดเป็นวันเสาร์แทนอย่างงี้อะค่ะ

จบจาก listening part ก็มา reading part ค่ะ
Reading part ต้องตั้งสติให้ดีค่ะ อย่าสะเพร่า โดยเฉพาะข้อแรกๆที่ไม่ใช่ Passage ต้องทำให้ได้เยอะที่สุดค่ะ เพราะอ่านประโยคสั้นๆแล้วตอบคำถาม
ถ้าจะยากก็ตรง Grammar นี่ล่ะค่ะ ต้องจำ Grammar ให้ได้ พวก Tense ต่างๆ If-clause เป็นต้น

Reading part ก็จะแบ่งออกเป็น
1. Error recognition
2. Text completion
3. Short passage
4. Double passages

1. Error recognition
อันนี้ต้องแม่น Grammar ค่ะ สิ่งแรกที่ควรเช็คก่อนเลยคือ tenses ค่ะ ดูว่าใช้ verb tense ถูกรึเปล่า
ตามด้วย Noun-verb agreement ค่ะ ว่าถูกรึเปล่า พวกประเภทของคำเช่นเป็น noun หรือ adjective หรือ adverb ค่ะ

2. Text completion
อันนี้แนะนำว่า ตัดข้อที่ไม่ใช่แน่ๆออกค่ะ อย่างน้อยก็เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะตอบถูกให้มากขึ้นค่ะ
ศัพท์บางคำอาจจะอยู่ในรูปที่เราไม่รู้ความหมาย ก็ต้องลองแตกศัพท์ดูค่ะว่ามันคล้าายกับคำที่เรารู้รึเปล่า
ยกตัวอย่างเช่น คำว่า inhibit เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรแต่เรารู้ว่าคำว่า prohibit แปลว่าห้าม เราก็อาจจะเดาไปว่ามันคงเป็นอะไรเกี่ยวกับการห้ามหรืออนุญาตอย่างงี้อะค่ะ

3. Short passage
ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ต้องเข้าใจทุกคำเพื่อให้ทำข้อสอบได้ค่ะ เช่นถ้าเราไม่เข้าใจประธานของประโยค ก็ให้เราสมมติว่าประธานคือใครสักคน
หรืออะไรสักอย่าง ถ้าเราไม่เข้าใจ Verb ของประโยค ก็ให้คิดว่า Verb นั้นคือการทำอะไรบางอย่าง อย่างงี้อะค่ะ เพราะถ้าเราใจจดใจจ่อเราก็จะลืมภาพรวมของ Reading ไปอะค่ะ นอกจากนี้ ถึงเราจะจดจ่อแค่ไหน เราก็อาจจะนึกไม่ออกอยู่ดี เอาไว้ถ้าคำถามมันถามเกี่ยวกับศัพท์คำนั้น เราค่อยเครียดดีกว่าค่ะ
เราต้องอ่านภาพรวมของ passage ก่อนว่าเค้าพูดเรื่องอะไร หรือที่เรียกว่า Topic ของ Passage อะค่ะ แล้วคนเขียนเค้าใช้วิธีอะไรเขียน
เค้าใช้วิธียกตัวอย่าง หรือเป็นการไม่เห็นด้วยกับทฤษฏีต่างๆเป็นต้นค่ะ

4. Double passages
Reading part นี้จะอยู่ส่วนท้ายๆของข้อสอบละ เวลาชักจะจวนเจียน ตื่นเต้นเหลือเกิน
ถ้าใครตื่นเต้นมากๆ ให้จำไว้นะคะว่าการตื่นเต้นไม่ช่วยอะไร ถ้าเราทำไม่ทันจริงๆเราก็เดาได้ค่ะ สู้เราทำข้อที่เราทำอยู่ให้ถูกก็พอค่ะ
Part นี้จะมี Passages มาให้สอง Passages ค่ะ อาจจะเป็น email คุยโต้ตอบกัน
ส่งสำคัญใน Part นี้คือเราต้องเข้าใจค่ะว่าวัตถุประสงค์ในการส่ง email มาของแต่ละฝ่ายเค้าต้องการอะไรค่ะ ถึงจะตอบโจทย์ได้

เรื่องเวลาในการทำ Part reading นะคะ
Part 1 กับ 2 ไม่ควรใช้เวลาเกิน 1 นาทีค่ะ เพราะเป็นประโยคสั้นๆ
Part 3 กับ 4 ไม่ควรใช้เวลาเกิน 2 นาทีต่อข้อค่ะ


เนื่องจากข้อสอบไม่ได้กำหนดว่าต้องทำข้อไหนก่อน ฉะนั้นเราจะเลือกทำข้อไหนก่อนก็ได้ค่ะ เราต้องรู้ว่าเราถนัด part ไหน ให้ทำ part ที่ถนัดก่อนเลยค่ะ
เพราะ Part ที่ไม่ถนัดเราอาจจะใช้เวลานาน และก็ไม่ทราบว่าจะทำถูกรึเปล่า

อย่างเรา เราไม่ชอบอ่านเราเลยทำเรียงไปเลยค่ะ 1, 2, 3, 4 เพื่อที่จะได้ทำคะแนน part ที่ถนัดไปก่อนเลยค่ะ

ใครที่จะไปสอบ TOEIC ก็ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ ขอให้ได้คะแนนสอบเยอะๆ ค่ะ

ปล.คะแนนสอบเราออกมา Listening 495/ Reading 465 ค่ะ ดีใจลมแทบจับค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่