รีวิวการสอบ TOEIC ให้ได้ 900 อัพ รวมถึงคำแนะนำเพื่อเพิ่มทักษะการอ่านและการฟัง + แนะนำเกมที่จะได้ฝึกภาษาอังกฤษครับ

ขอออกตัวก่อนนะครับว่ากระทู้ในส่วนคำแนะนำเรื่องการฝึกนี้คงไม่เหมาะกับคนที่จะใกล้จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เพราะว่าที่ผมจะแนะนำเป็นวิธีที่ใช้เวลาพอสมควร เป็นวิธีที่ผมใช้ในชีวิตจริงๆ (ออกแนวว่าเป็นการเล่าเรื่องชีวิตมากกว่ามั้งครับ 5555) ความเห็นส่วนตัวของผมคือการเรียนภาษามันต้องใช้เวลาครับ จะมาหาหลักสูตรเร่งรัดอาทิตย์เดียวทำได้หมดมันเป็นไปไม่ได้ครับ แล้วก็ผมจะเน้นที่ทักษะการฟังและการอ่าน สำหรับคนที่ใกล้สอบก็ลองอ่านแนวทางที่ผมรีวิวไว้ แต่คาดว่าถ้าได้ลองทำข้อสอบแล้วก็น่าจะรู้หมดแล้วครับ

เข้าเรื่อง แนะนำตัวกันก่อน ผมเรียนอยู่ระดับปริญญาตรีปีสุดท้ายในสาขาที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง แต่ได้ทำงานคลุกคลีอยู่กับงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่ค่อนข้างเยอะ มัธยมเรียนรร.คาทอลิคครับเลยอาจจะได้เน้นภาษาหน่อย (ผมเรียนสายวิทย์) ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ (แต่ไม่ใช่หนังสือเรียน รวมถึงหนังสือสอนภาษาอังกฤษอะไรเทือกนั้นด้วย 5555) ผมก็คงเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ชอบเล่นเกม วันๆนึงถ้าได้เล่นก็เล่นทั้งวัน ชอบคิดไรเรื่อยเปื่อย ชอบอยู่เฉยๆหรือที่ผู้ใหญ่บอกว่าขี้เกียจนั่นแหละครับ แต่เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าที่ผมแนะนำจะใช้ได้จริงๆ ผลการสอบภาษาอังกฤษของผมคือ TOEIC ได้ 965 (Reading 470, Listening 495) สองปีก่อนหน้านี้สอบ IELTS ได้ 7.5 (Reading 8.5, Listening 8) ส่วนเรื่องเรียนพิเศษเคยเรียนกับสถาบันกวดวิชาสอนภาษาที่เด็กเรียนกันแหละครับ แต่ไม่ค่อยได้อะไร เพราะผมไม่ค่อยตั้งใจฟัง 55555

พาร์ทแรก รีวิวการสอบ TOEIC และคำแนะนำ

ในส่วนของการสอบ TOEIC ส่วน Listening การสอบวัดระดับพวกนี้จะมีข้อที่ง่ายและยากปนกันไปเพื่อประเมินว่าระดับภาษาเราอยู่ประมาณไหน ปัญหาใหญ่ๆที่เจอนะครับคือ ฟังไม่ทัน หรือไม่ก็ฟังแล้วลืม ส่วนใหญ่ส่วนรูปภาพไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ช่วงที่ต้องฟังแล้วตอบคำถามหลายๆข้อก็มักจะเป็นปัญหากัน วิธีที่ผมใช้ในการสอบฟังช่วงที่เป็นบทสนทนาแล้วต้องตอบคำถาม 3 ข้อ คือ

1. เราต้องรู้คำถามก่อนครับ เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราจะต้องสนใจในการฟังคืออะไร อย่าหวังพึ่งว่าฟังให้หมดก่อนแล้วค่อยตอบนะครับ เพราะเราจะลืมคำตอบไปก่อนถ้าคำตอบเป็นอะไรที่เฉพาะเจาะจง เช่น เวลาหรือจำนวนเงิน ดังนั้น เราควรจะอ่านคำถาม (และตัวเลือกด้วย ถ้าอ่านทัน) ในข้อถัดไปในระหว่างที่เทปกำลังอ่านคำถามของบทสนทนาที่กำลังทำอยู่
2. ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือตอบไปขณะตอนฟังเลยครับ กาไว้ที่ข้อสอบก่อน แล้วค่อยมาฝนในกระดาษ
3. ถ้าเราจำไม่ได้หรือฟังไม่ทันแล้วตอบไม่ได้ อย่าเสียเวลาคิดครับ ข้ามไปเลย อย่าให้เสียจังหวะ เอาเวลาไปอ่านคำถามข้อต่อไปดีกว่าครับ

ยกตัวอย่างนะครับ ในระหว่างที่ผมกำลังทำข้อ1-3 ไปพร้อมๆกับที่ฟังอยู่ พอบทสนทนาจบ ผมก็ฝนคำตอบเลย ฝนเสร็จประมาณตอนที่เทปกำลังอ่านคำถามข้อ 1 หรือ 2 อยู่ ผมก็อ่านคำถามข้อ 4-6 ไปในระหว่างนั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันจะไปอ่านทันได้ไง 3 ข้อในเวลานิดเดียว อันนี้เป็นส่วนที่ต้องใช้ทักษะการอ่านเข้ามาช่วย ซึ่งผมจะเขียนต่อไปครับ

สำหรับส่วนที่ต้องตอบให้ตรงคำถาม อันนี้พยายามฟังคีย์เวิร์ดครับ โดยเฉพาะ when, where, who, how ซึ่งมันจะมาเร็วมากในคำแรก แล้วส่วนใหญ่ตัวเลือกมักจะไม่ตอบตรงๆแต่จะใช้คำที่เหมือนกันแทนกันได้บ้าง หรือตอบว่าไม่รู้บ้าง แต่พอประกอบกับคำถามแล้วก็ถือว่าเป็นการตอบตรงคำถามครับ

ส่วนถัดมาคือ Reading ซึ่งหลายต่อหลายคนบอกว่าหินมหาหิน ในส่วนนี้จะวัดทักษะมากกว่าการอ่านเพียงอย่างเดียว แบ่งออกได้เป็นส่วนต่างๆคือ

1. การใช้คำศัพท์ ส่วนนี้วัดว่าเราจะใช้คำศัพท์ให้ถูกตามที่โจทย์ให้มารึเปล่า รวมถึงพวกคำเชื่อมประโยคพวก otherwise, despite, moreover ฯลฯ
2. Grammar เท่าที่ผมเจอก็มีเรื่องของ Tense, Subject and verb agreement เช่น everyone ต้องใช้ verb มี s,es หรือไม่, part of speech เช่น adj. ขยายคำนาม adv. ขยายคำกริยา เราก็ต้องรู้ว่าศัพท์ที่เขาให้มาอยู่ในรูปไหน noun, verb, adj., adv.
3. Reading ซึ่งไม่ได้วัดแค่ความเข้าใจแต่ยังรวมถึงทักษะการอ่านแบบ skim and scan ด้วยครับสาเหตุที่หลายๆคนทำส่วนนี้ไม่ทันเพราะผมเชื่อว่าข้อสอบออกแบบมาทดสอบทักษะการอ่านแบบเร็วๆครับ ซึ่งส่วนนี้ผมถือว่ายากที่สุดสำหรับการอ่าน

คำแนะนำของผมสำหรับส่วนนี้คืออย่าเสียเวลากับส่วน grammar กับคำศัพท์มาก ถ้าทำไม่ได้ก็เดาไปเลยครับหรือเว้นไว้ก่อน ส่วนการอ่านพยายามหาข้อที่อ่านทีเดียวแล้วตอบได้หลายข้อก่อนครับ ส่วน double passage ไม่จะเป็นต้องอ่านหมดครับ อ่านคำถามก่อนเลยแล้วค่อยกลับไปอ่าน passage จะทำได้เร็วกว่า

เดี๋ยวมาต่อพาร์ทสอง วิธีการฝึกภาษาอังกฤษครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่