หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร

โบราณว่าไว้ นกดีย่อมรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ คนฉลาดย่อมรู้จักเลือกนายดี


พระเจ้าตากสิน ทรงตัดสินพระทัยฉางเจิน(长征) หรือ เดินทัพทางไกล ไปตั้งมั่นยังหัวเมืองตะวันออกที่อังวะไปไม่ถึง
ด้วยผู้ดีกรุงศรี ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ยังเชื่อทรงเจ้าเข้าผี ขนาดพาฤาษีชีไพรมาเสกคาถา ทำน้ำมนต์ ปัดรังควานในวัง
ท่ามกลางดงกระสุนปืนที่ถาโถมข้ามกำแพงมา บ้างนิ่งเฉยเสียเพราะจนปัญญาแก้ไข บ้างกุมอำนาจไม่ห่างมือกลัวไม่เป็นใหญ่
กระสุน ดินดำ เสบียง ร่อยหลอเบิกลำบาก นอกเกาะเมืองโดนทิ้งให้ช่วยตัวเอง

ยังดีที่หัวหน้า และเหล่าทัพค่ายนี้ไม่มีใครเจ็บหนัก ผู้คนมาพึ่งใบบุญมากขึ้นทุกวัน เสบียงเหลือน้อย ซ้ำไฟไหม้ใหญ่ในเกาะเมือง
เลยหารือกันในค่าย จะสู้ต่อก็รอวันตาย จะหนีก็ไม่แน่จะรอด จะอยู่เฉยๆก็อดตาย เพราะความหิวไม่เคยปราณีใคร
จึงพร้อมใจติดตามพระเจ้าตากสิน ฝ่าทัพอังวะไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าเป็น เสือติดจั่น ลิงแก้แห รอวันซี้ม่องเท่ง

ช่วงต้นเดือนยี่ เข้าหน้าแล้ง น้ำลดทางสะดวก จึงเคลื่อนทัพใต้แสงจันทร์ ผ่าแนวทหารอังวะที่กระจายกำลังไม่เต็มที่
ส่วนใหญ่กระจายอยู่ตามวัดรอบเกาะเมือง ที่ลุ่มยังชื้นแฉะน้ำขัง เคลื่อนทัพด้วยเท้าขนสัมภาระเท่าที่จำเป็นติดตัวไป
ฝ่ายอังวะทราบว่า ทัพพระเจ้าตากสินตีฝ่าวงล้อมไปทางตะวันออก จึงส่งทหารสองพันติดตามไปสังหารให้สิ้น
ทั้งที่หลายค่าย หลายกลุ่มต่างหนีทัพ กลับไม่พบว่าต้องส่งคนไปตามเก็บมากขนาดนี้

เมื่อทัพล่วงเข้าบ้านโพธิ์สังหาร ได้พบกับแม่หญิงโพธิ์ หัวหน้าชุมนุม ต่อต้านอังวะไม่ให้มารังแกชาวบ้าน
ให้การต้อนรับและที่พัก แต่ไม่สามารถปันเสบียงได้  จึงแนะนำให้เดินทัพไปที่บ้านพรานนกเพื่อเติมเสบียง
เมื่อทัพอังวะตามมาทัน แม่โพธิ์ได้นำชาวบ้านเข้าต่อสู้ ร่วมทัพพระเจ้าตากสิน จนเป็นที่ประจักษ์ว่า

ภายใต้ท้องนภานี้ ไม่มีสิ่งใดที่หญิงไทยทำไม่ได้

ฯเปลก็ไกวดาบก็แกว่งแข็งหรือไม่   ไม่อวดหยิ่งหญิงไทยมิใช่ชั่ว
ไหนไถถากตรากตรำไหนทำครัว    ใช่รู้จักแต่จะยั่วผัวเมื่อไรฯ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เหล่าวีรสตรีห่มตะเบงมาน ถือดาบสองมือ ฟาดฟันพม่าข้าศึกจนทัพพระเจ้าตากสินตีฝ่าวงล้อมออกไปได้
กลายเป็นตำนานเล่าขานถึงเหล่าวีรสตรี ณ บ้านโพธิ์สาวหาญ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย อยุธยา จนทุกวันนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เมื่อทัพพระเจ้าตากสินเคลื่อนทัพถึงบ้านพรานนก พรานเฒ่าให้การต้องรับ จัดแจงที่พักเป็นอย่างดี
แล้วมอบเสบียง อาวุธ พร้อมม้าฝีเท้าดีห้าตัว ให้พระเจ้าตากสินเป็นกำลังกู้กรุงศรี ทหารหาญได้พักผ่อนเต็มที่

ไม่กี่วันต่อมาทัพอังวะไล่ตามทัน แต่ทหารอังวะเหนื่อยล้า ไม่คุ้นเคยพื้นที่ และยังไม่ได้ตั้งค่ายพักผ่อน
พระเจ้าตากสินจึงวางอุบายเสือติดจั่น ดักตีทางแคบ ไปหน้าไม่ได้ ถอยหลังไม่ดี แบ่งเป็นสองทัพ พระองค์เป็นทัพหน้า
โดยรอให้ทัพอังวะเคลื่อนเข้ามาถึงแดนมรณะ แล้วพระองค์ชักม้าปิดทางไป ควบม้านำทัพคนแรกเข้าสังหารแม่ทัพอังวะ

ฝ่ายแม่ทัพอังวะชะล่าใจคิดว่ามีปืนจะได้เปรียบ แต่ลืมไปว่าตะวันอยู่ด้านหลัง พระเจ้าตากจึงใช้พระแสงดาบยกสะท้อนแสงตะวัน
ไปแยงตาแม่ทัพอังวะ จนยิงพลาด ขณะม้าศึกของพระองค์เข้าระยะประชิด จึงใช้พระแสงดาบกุดหัวแม่ทัพอังวะในดาบเดียว

สร้างความตะลึงงันไปทั่วทัพอังวะ ทัพพระเจ้าตากสินที่วิ่งตามมา ต่างยกอาวุธสะท้อนแสงตะวัน ไปแยงตาทัพอังวะเช่นเดียวกัน
พลธนูที่ซุ่มอยู่โดยรอบ ระดมยิงดังห่าฝน และทัพหนุนมาปิดทางหนีทัพอังวะ โดยไม่ทันตั้งตัว
จากนั้นพลหอกยาวเข้าล้อมกรอบ ตามด้วยพลดาบถือโล่,เขน เข้าตะลุมบอน ทัพอังวะแตกพ่าย ล้มตายเป็นอันมาก
บรรดาทหารเอกชักม้าศึกทั้งสี่ เข้าต่อรบอย่างกล้าหาญ สังหารทัพม้าอังวะจนสิ้น

ด้วยวีรกรรมอันกล้าหาญ ณ บ้านพรานนก อ.อุทัย อยุธยา วันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำเดือนยี่ ปีจอ ปีจอ อัฐศก จ.ศ.1128
ตรงกับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2309  จึงกำหนดให้ ๔ มกราคม ของทุกปี เป็นวันทหารม้า
และยกย่องพระเจ้าตากสิน ทรงเป็น พระบิดาการทหารม้าไทย จนถึงปัจจุบัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อุบายแสงแยงตา มีมาแต่ต้าหมิง สมัยโจรสลัดญี่ปุ่นบุกมณฑลฮกเกี้ยน
จากภาพยนตร์ God of War 2017


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กระบวนรบเป็ดแมนดาริน(纪效新书 จี้เสี้ยวซินชู รวมมิตรอาวุธในหนึ่งหมู่) ปราบโจรสลัดญี่ปุ่นสำเร็จ
คิดค้นโดย แม่ทัพฉีจี้กวง(戚继光) และเหล่าศิษย์เส้าหลินใต้
พระเจ้าตากสินน่าจะนำมาใช้กับทัพไทย ด้วยทหารหมิงที่เหลือรอดอยู่แถบฮกเกี้ยน กวางตุ้ง แต้จิ๋ว


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กระบวนรบเป็ดแมนดาริน หนึ่งหมู่เล็กต้าหมิง ธนู หอกยาว ดาบยาว ดาบโล่ ธงสัญญาณ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ทัพต้าหมิง กระบวนรบเป็ดแมนดาริน ปะทะโจรสลัดญี่ปุ่น หนิงไห่ ค.ศ.1561

จากนั้นทัพพระเจ้าตากสินเคลื่อนทัพผ่าน นครนายก ปราจีนบุรี แปดริ้ว ชลบุรี แล้วไปตั้งมั่นที่ระยอง
อยู่มาได้ไม่นาน ครอบครัวเจ้าสัวมิ่ง เดินทางถึงค่ายพระเจ้าตากสิน เนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง
ถึงวีรกรรมที่ทัพพระองค์อภิบาลคนไทยมาตลอดทาง

เจ้าสัวมิ่งแนะนำให้ พระองค์ควรตั้งตัวเป็นใหญ่ เพื่อรวบรวมผู้คน ด้วยขณะนั้นหลายก๊กได้ตั้งตัวซ่องสุมผู้คนแล้ว
รอแต่เวลาที่เหมาะสม มีเพียงพระองค์ที่หวังยกทัพกลับไปกู้กรุง ขับไล่พม่ารามัญให้พ้นแผ่นดินไทย
บรรดาผู้กล้าและคนไทยที่รักแผ่นดิน ย่อมมาสวามิภักดิ์กับพระองค์เป็นแน่แท้

ด้วยเหตุนี้บรรดาแม่ทัพนายกอง ผู้ติดตามทั้งหลายเห็นพ้องอัญเชิญพระเจ้าตากสิน ตั้งตัวเป็นใหญ่ เกิดเป็น ก๊กเจ้าตากขึ้น



กรุงศรีหลังพระเจ้าตากสินฝ่าทัพไปแล้ว มีแต่สาละวันเตี้ยลง อยู่อย่างตัวใครตัวมันไม่มีขื่อแป
ชาวบ้านอดอยาก บ้านเมืองเสียหายจากห่ากระสุนปืนเป็นอันมาก แต่มังมหานรธาเกิดล้มป่วยหนักใกล้สิ้นลม
ก่อนตายออกอุบายให้เนเมียวสีหบดี ถล่มโยเดียให้ราบพนาสูญตามพระบรมราชโองการ แม้กรุงศรีส่งสารยอมแพ้ก็ตาม

เนื่องจากสองทหารเอกนี้ เป็นสามัญชน ร่วมรบก่อตั้งราชวงศ์คองบองแต่สมัยพระเจ้าอลองพญา
ย่อมซึ้งกับสภาพสิ้นชาติ เสียแผ่นดินเป็นอย่างดี จากน้ำมือทัพรามัญที่กรุงศรีส่งเสริมมาโดยตลอด
หากปล่อยกรุงศรีไป เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ จักเป็นหายนะสืบไปเมื่อหน้า

ท้องฟ้าเหนือเกาะเมือง ฝูงแร้งกานับพันนับหมื่นตัวบินว่อนไปทั่ว หนาเป็นเมฆดำทะมึนทุกวัน

และแล้วคืนวันที่  7 เมษายน พ.ศ.2310 ทัพอังวะบุกเข้าเกาะเมืองจากทุกด้าน ดั่งน้ำป่าไหลบ่าจากทุกสารทิศ
ทัพกรุงศรีอ่อนล้าจนสุดต้านทานได้ ผู้คนล้มตายดั่งดอกประดู่หล่นจากต้น วังหลวงลุกโชนด้วยไฟ
ทัพอังวะบุกจับเชื้อพระวงศ์ ข้าราชบริพารได้เป็นอันมาก นำมาขังไว้ที่ค่ายนอกเกาะเมือง

พระเอกแม้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่ลำพังคนเดียวย่อมมิอาจช่วยใครได้ และจำต้องเผยตัวเพื่อรักษาชีวิต
คิวบู๊ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนถึงกรุงแตก ตัวหลักแต่ละคน สามารถสู้สี่ต่อหนึ่งได้สบาย ไม่มีใครขาตาย
เคลื่อนตัวให้อยู่ในจุดที่ได้เปรียบแล้วหาจังหวะพิฆาตทีละคน ด้วยเพลงดาบเฉพาะตัว พระเอกเพลงดาบว่องไว
ออกญาวังฟันทีเดียว พระเอกเคลื่อนตัวฟันสองที สามารถสังหารอังวะได้เร็วกว่า มากกว่า แม่นยำกว่า
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

มิพักต้องสงสัยเลยว่า ออกพระมีชื่อผู้นี้ต้องเป็นจารบุรุษแน่แท้ จนพระเอกต้องแจงสี่เบี้ยออกญาวังถึงวางใจ

นางเอกกว่าจะพากรมขุนมาถึงหน้าประตูผีได้ ก็หลายอึดใจยังไม่ทันข้ามประตู ทหารอังวะมาบุกจับตัวกรมขุนไป
แม้พระเอกมาทันแต่สู้ติดพัน กว่าจะฝ่ามาได้นางเอกสลบไปแล้ว พระเอกจึงแบกนางเอกหนีออกทางท่อระบายน้ำ

ส่วนแม่เป้าคนงาม เกือบได้ผัวเป็นต่างชาติ เคราะห์ดีออกญาวังช่วยไว้ทัน แต่โดนอังวะรุมทึ้ง ไม่รู้เป็นตายร้ายดี


สถาณการณ์บ้านเมืองล่มสลายเช่นนี้ โบราณว่าไว้

ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร (成则为王 败则为寇 เฉิงเจ๋อเว่ยหวาง ไป้เจ๋อเว่ยโค่ว)

ผู้แพ้พ่ายย่อมถูกย่ำให้ต่ำเตี้ย
สูญสิ้นเสียศักดิ์ศรีมิมีเหลือ
เขาเข่นฆ่าวางวายตายเป็นเบือ
ผู้ชนะนั้นอยู่เหนือต้องเชื่อฟัง

ผู้ชนะจึงขีดเขียนประวัติศาสตร์
จริงหรือเท็จมิอาจจักคาดหวัง
ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยคอยระวัง
ใครพลาดพลั้งจักแพ้พ่ายกลายเป็นโจร



พ.ศ.๒๓๑๐ เดือนเก้า เฉียนหลงปีที่ ๓๒
หลี่ซื่อเหยา  ข้าหลวงประจำมณฑลกว่างตงและกว่างสี ทราบข่าวว่า

เสียนหลอ(กรุงศรี)ถูกเหมี่ยนเตี้ยน(เผ่าท้องลาย พม่า) ตีเมืองแตก
กษัตริย์อาณาจักรนั้นหลบหนีหายสาบสูญ


เนื่องจากเป็นข่าวเล่าลือ เชื่อเลยไม่ได้ จึงมอบหมายให้
ชื่อสี่หยวน ทหารตำแหน่งอิ๋วจี๋(ผู้บังคับกองพัน) โดยสารเรือสำเภาพาณิชย์ไปเสียนหลอ
เพื่อสืบว่าเท็จจริงเป็นประการใด ปรากฎว่า ชื่อสี่หยวนถึงแก่กรรมที่ลิ่วคุร(นครศรีธรรมราช)



ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา  ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ


อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่