สัปดาห์นี้เรื่องราวเข้มข้น โรมรันพันตู เข้าสู่การทำลายล้าง
พระเจ้าตากสินจัดทัพรับศึก ปกป้องกรุงศรีด้วยทหารหาญ ๕๐๐ นาย
ทรงปรีชาในพิชัยสงคราม เข้าพระทัยถ่องแท้ในหลักการรณรงค์สงครามว่า
น้อยชนะมาก ใช้กำลังพลน้อยกว่า สิ้นเปลืองน้อยกว่า ใช้เวลาน้อยกว่าสยบ มากกว่าได้ ด้วยปัจจัยอำนวย
อ่อนสยบแข็ง ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ไม่แข็งขืนดันทุรัง
สงบสยบเคลื่อนไหว อ่านทางยากลวงข้าศึกให้ตายใจ
การุณชนะทารุณ เคร่งครัดวินัย ลงโทษตามกฎ ไม่แบ่งชนชั้น อภิบาลปวงชน
เมื่อรบร่วมกับทัพนนทบุรี สามารถทลายทหารอังวะกองเล็กลงได้ โดยไม่เสียไพร่พล
จากการปะทะหลายครั้ง อังวะจำต้องส่งทัพใหญ่กว่าเดิมสามเท่ามาต่อกร
แต่ทหารอังวะส่วนใหญ่เกณฑ์จากเมืองอื่นไม่มีกะใจร่วมรบนัก แถมก่อนหน้ารบแพ้ต่อเนื่องเป็นที่หวั่นเกรง
ถึงกระนั้น การนำทัพน้อยกว่า เข้าต่อรบทัพมากกว่าไม่ต่างจาก เอาไข่ไปกระทบหิน
พระองค์ทรงใช้อุบาย
ล้อมเว่ยช่วยจ้าว
กลยุทธนี้สืบแต่ยุคชุนชิว โดยซุนปิน สืบสายจากซุนวู ศิษย์ซินแสหุบเขาปีศาจ
โดยแบ่งทัพเป็นสองสาย
พระเจ้าตากสิน นำทัพใหญ่ แปดส่วน รบพลางถอยพลาง ลวงให้อังวะเคลื่อนทัพใหญ่มาให้มากที่สุด
โดยพระองค์ทรงเป็นเหยื่อล่อ ดังสำนวนว่า จะตกปลาตัวใหญ่ ต้องใช้เหยื่อชั้นดี
พระยาพิชัย นำทัพเล็ก สองส่วน ลอบอ้อมไปตีหลังทัพอังวะ อาศัยทหารอารักขาแม่ทัพข้าศึกเบาบาง
เข้าพิฆาตให้ย่อยยับ หมายเด็ดหัวแม่ทัพเป็นบำเหน็จศึก
พระเจ้าตากสิน ดาหน้าท้าทายยังสนามกลางแปง เข้ารบแตกหัก
ฝ่ายอังวะเห็นว่ามีคนมากกว่า แลแม่ทัพข้าศึกนำรบด้วยตนเอง ไม่ขี่ม้าอยู่จึงชะล่าใจ สั่งทัพใหญ่บุกเต็มกำลัง
เมื่ออังวะฮุบเหยื่อ พระองค์สู้พลางถอยพลาง ไม่ให้ข้าศึกจัดกระบวนทัพได้ ส่วนทัพพระองค์ถอยอย่างเป็นกระบวน
แนวรบต้านข้าศึกไม่แตก ลวงสังหารสามระยะ ธนู หอกยาว ดาบโล่,เขน
เมื่อทัพใหญ่อังวะ ห่างจากแม่ทัพมากพอแล้ว ทัพพระยาพิชัยจึงเข้าตะลุมบอนไม่ให้ตั้งตัว จนอังวะแตกพ่าย
ทัพใหญ่อังวะที่กำลังเข้าปะทะทัพพระเจ้าตากสิน เมื่อได้ยินสัญญาณสั่งถอย ให้ห่วงหน้าพะวงหลัง
ละล้าละลังจนแตกพ่าย ล้มตายเป็นอันมาก แม่ทัพหนีเอาตัวรอด ทิ้งลูกทัพให้เป็นเป้าซ้อมมือ
จากนั้นพระเจ้าตากสิน ทรงใช้อุบาย
ล่อเสือออกจากถ้ำ
ทรงมอบหมายให้ม่วง ปลอมเป็นลูกทัพพม่ารามัญ แจ้งข่าวลวงแก่แม่ทัพอังวะค่ายรอบๆทีละค่าย
ให้รีบยกทัพออกไปช่วยทัพใหญ่ โดยลวงให้เข้าสู่แดนมรณะ เขตป่ารกชัฏ ม้าเข้าไม่สะดวก
เมื่อทัพอังวะเข้าสู่ใจกลางแดนมรณะแล้ว จึงปิดประตูตีแมวโอบล้อมเข้าตีทุกทิศทาง ด้วยธนู หอกยาว ดาบโล่,เขน
แล้วปล้นเสบียงจากสามค่ายที่ตีได้ในวันเดียว ความกล้าหาญของม่วง ตรงกับสำนวนโบราณว่า
ไม่เข้าถ้ำเสือ ไม่ได้ลูกเสือ
ด้วยผลการรบอันยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์ทั่วเกาะเมือง พระยาตากสิน ได้อวยยศเป็น พระยากำแพงเพชร
หรือ พระยาวชิรปราการ ยังความเคียดแค้นชิงชังให้กับขุนนางบางกลุ่มที่ขายชาติ
จนต้องสั่งให้พระองค์ไปตาย พร้อมกับพระยาเพชรบุรี โดยให้บุกถล่มค่ายแม่ทัพใหญ่อังวะ
พระเจ้าตากสิน รู้แจ้งในเล่ห์กลขุนนางกรุงศรี จึงรั้งทัพไว้ไม่ข้ามน้ำไป ด้วยชัยภูมิเสียเปรียบ
ฝ่ายพระยาเพชรบุรีผู้มีวิชาคงกระพันชาตรี ลูกปืนยิงไม่เข้า ถึงกับปรามาสว่า กลัวจนไม่กล้ารบมากกว่า
พระยาเพชรบุรีอาสาเป็นทัพหน้า พระเจ้าตากสินเป็นทัพหลัง ก่อนออกเรือพระองค์ทรงเตือนพระยาเพชรบุรีว่า
ให้เจ้าคุณ คอยระวังคุ้งน้ำข้างหน้า อาจมีกองเรือข้าศึก ซุ่มโจมตีด้านข้างอีกกองเรือหนึ่ง นอกจากกองเรือนั้นได้
พระยามีชื่อถือว่ามีวิชาดี อยากลองของจึงเร่งเรือเข้าปะทะโดยเร็ว โดยไม่ดูสัญญาณธงที่พระเจ้าตากสินแจ้งให้
เมื่อถึงคุ้งน้ำที่ว่า มีกองเรือซุ่มรออยู่ เข้าตัดหน้าเรือพระยามีชื่อ แล้วขว้างหม้ออัดดินดำ
ไปที่เรือของพระยาเพชรบุรี ถูกไฟคลอกระเบิดตายทั้งลำ ขณะนั้นเอง แม่ทัพใหญ่อังวะชักม้าออกจากที่ซุ่มเตรียมเคลื่อนทัพบุก
พระเจ้าตากสินสั่งถอยทัพ ก่อนทัพอังวะโอบล้อม แผนล่อแมงเม่าบินเข้ากองไฟ หาใช้กับพระองค์ได้ไม่
แต่เมื่อถึงค่าย ขุนนางกรุงศรีได้บริพาทอย่างสาดเสียเทเสีย ราวกับทหารไม่ใช่คน เป็นแค่เบี้ยบนกระดาน
สั่งให้ไปตายก็ต้องตาย และกำชับให้พระเจ้าตากสิน ไปชี้แจงในเกาะเมืองวันพรุ่ง
คืนนั้นเองระหว่างที่พระองค์ทรงเยี่ยมทหารบาดเจ็บอยู่นั้น อีเยื้อนได้ทูลเตือน และห้ามปรามไม่ให้เข้าเกาะเมือง
ด้วยเหตุที่ครอบครัวของนางเคยประสบมาก่อน และรู้สันดานผู้ดีกรุงศรีมักเป็นพวก ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
หากพระองค์เสด็จเข้าเกาะเมืองแล้ว เหมือนเอาคอไปขึ้นเขียง คงหาได้กลับมาอีกเป็นแน่แท้
พระองค์พิเคราะห์ดูแล้ว การณ์นี้ไม่แคล้ว
ถูกโยนหัวข้ามกำแพงเป็นแน่แท้
แม่ทัพใหญ่โฮจิ๋น ไม่ฟังคำทัดทานโจโฉ เชื่อสิบขันทีลวงเข้าวัง เป็นเหตุให้สิ้นชีพอย่างอนาจ
วันพรุ่งจึงส่งคนไปแจ้งกรมเวียงว่า ตอนนี้ต้องเฝ้าระวังทัพอังวะยังค่าย ไม่สะดวกไปชี้แจง เกรงจะเสียทีแก่ข้าศึก
ผู้ดีกรุงศรีรบเก่งแต่ปาก จับดาบยังไม่มั่น เมื่อเจอคำปฏิเสธเยี่ยงนี้ ได้แต่คบเขี้ยวเคี้ยวฟันเพราะหาแพะไม่ได้
บ้านเมืองไร้ขื่อแป ขาดความเที่ยงธรรม เพราะเสาเรือนเอียงหักแล้ว อยู่ได้ไม่นาน ดุจผลไม้สุกงอมพร้อมปลิดลงจากต้น
ฝ่ายพระเอก นางเอก กว่าจะได้ทราบความในสารลับ ต้องให้นางเอกไปสำนึกตัวในที่ลับ
งานนี้พระเอกซึ้งในคำโบราณว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เห็นนางเอกใสๆ ไม่คิดว่าจะลุ่มลึกถึงเพียงนี้
นางแปลงร่างเป็นอึ้งย้ง เฉลยกลอย่าง ชอลิ้วเฮียง พระเอกจากปราดเปรื่องดั้งเอี้ยก้วย
กลายเป็นเซ่อแบบก้วยเจ๋งในบัดดล แต่งานนี้พระเอกรู้ตัวว่า ตนเองมีตาแต่ไม่เห็นขนตา
คุณท้าว เห็นมานานปีกลับไม่รู้เลยว่า สนิทกับแม่พระเอกถึงเพียงนี้ กระทั้งชื่อพระเอกก็ล่วงรู้
ถ้าพระนางไม่ผูกพันธ์ไว้ใจกันผ่านเหตุการณ์มากมายร่วมกัน พระเอกคงระแวงนางเอกเป็นแน่
ยังไม่ทันได้บอกรัก เผยความเป็นชายให้นางเอกรู้ เพราะกลัวคนอื่นจะคว้าไป
พระนางต้องเจอห่ากระสุนปืนใหญ่สาดเข้าวังหลวง เสียงดังฟ้าถล่ม ให้หวั่นใจแต่ไม่เท่ากับ
บรรดาผู้ร้ายทั้งหลาย รอดอาญายกกระบิ ด้วยเจ้าจอมเพ็ญติดสินบนองค์ชายเชษฐ์
แค่สิ้นอำนาจ รอจนกว่าสอบสวนเสร็จเมื่อไร่เมื่อนั้น ตอนนี้ให้กลับไปนอนตีพุง นั่งทอดหุ่ยที่เรือนไปพลางก่อน
ขุนนางที่ขึ้นมาแทน ตะเภาเดียวกันทั้งนั้น มีชนักติดหลังเหมือนกัน มิรึคิดสู้กับอังวะ แค่อยากเสวยสุขเท่านั้น
จึงสานต่อความฉ้อฉล กลบเกลื่อน เพ็ดทูลเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น แม้กรุงศรีเดือนร้อนไปทุกย่อมหญ้า
ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ไม่เว้นวัน แต่ผู้ดีกรุงศรีหาได้อนาทรร้อนใจไม่ เพราะภัยยังไม่ถึงตัว
คิดว่ามีเงิน มีอำนาจ ซ่องสุมผู้คน ปิดบังเบื้องสูง ส่งส่วยอังวะ ช่วยคุ้มกะลาหัวได้
อังวะเองตั้งใจลวงให้ผู้ดีกรุงศรีคิดเช่นนั้น จึงปล่อยให้เริงร่ามหาสงกรานต์เต็มที่ แล้วเผด็จศึกภายหลัง
สองฝ่ายนี้ใช้อุบายเดียวกัน จาก ๓๖ กลยุทธ์ คือ
ปิดฟ้าข้ามทะเล(瞞天過海 หมานเทียนกว้อไห่)
ปิด หมายถึง ปิดให้ไม่เห็น กลบเกลื่อนให้ไม่ทราบ หรือสร้างภาพลวงตา
ฟ้า หมายถึง ผู้ปกครอง แม่ทัพ ทวยราษฎร์
ข้ามทะเล หมายถึง ทำภารกิจที่ซุกซ่อนอยู่ ให้ลุล่วงไป
ปิดฟ้าข้ามทะเล หมายถึง การสร้างภาพลวงตา สร้างสถานการณ์หลอก โดยปกปิดความจริงบางประการ
ทำให้ข้าศึกเกิดความคุ้นชิน จนเกิดละเลยหละหลวม ไม่เตรียมการป้องกัน ไม่ระวังตัว
เพื่อฉวยโอกาสในการโจมตี หรือเพื่อบรรลุผลบางประการ
วิญญูชนในเกาะเมืองได้รู้แจ้งกระจ่างใจแล้วว่า ลำพังถอดขนเส้นเดียวจากวัวเก้าตัว ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้
เมื่อกังฉินครองเมืองเช่นนี้ การสละชีพรบจนตัวตายหามีประโยชน์อันใดไม่ ทั้งยังผิดหลักพิชัยสงคราม
เพราะคนที่ตายแล้ว หาประโยชน์อันใดได้ไม่
คนที่รอดเท่านั้น จึงแก้ไขพลิกฟื้นกู้บ้านเมืองได้
ว่าแล้วผู้มีจะกินเริ่มนำสมบัติใส่กำปั่นฝังดินไว้เป็นอันมาก หากกรุงแตกแลหนีรอดไปได้ค่อยกลับมาขุดภายหลัง
ฝ่ายอังวะ พระเจ้ามังระติดศึกกับต้าชิง ทำสงครามสั่งสอนโทษฐานไปรังแกไทใหญ่ ที่จิ้มก้องกันประจำ
เป็นเหตุให้ขุนนางบางคนหวั่นเกรงแสนยานุภาพต้าชิงยิ่งนัก ด้วยเฉียนหลงฮ่องเต้ปรีชาสามารถ
มีทัพนับร้อยหมื่น สุดกำลังที่จะต้านทาน จึงทูลให้เลิกทัพยอมจำนน เพื่อรักษาแผ่นดินพุกามประเทศไว้
เมื่อได้ฟังดังนี้พระเจ้ามังระ ชักพระแสงดาบจ้วงแทงขุนนางมีชื่อตายเสีย เหตุทำให้ทัพเสียขวัญ
พระองค์ไม่เกรงกลัวทัพต้าชิง แลต้องการพิชิตกรุงศรีไปพร้อมกัน ด้วยมั่นใจในชัยภูมิที่ได้เปรียบ
แลทหารต้าชิงมาจากเมืองหนาว ไม่คุ้นเคยอากาศร้อนชื้น ไข้ป่า โรคระบาด ทางกันดาร ส่งเสบียงลำบาก
นับแต่ศึกเข้งเบ้งสยบเบ้งเฮ็ก สมัยสามก๊ก ขงเบ้งจำต้องจับเบ้งเฮ็กเจ็ดครั้งปล่อยเจ็ดครั้ง รั้งทัพในค่าย
เพื่อให้เบ้งเฮ็กเกณฑ์คนมาตาย ยังแดนมรณะที่วางไว้ หากบุกไปคงตายยังแดนมรณะของข้าศึก ด้วยชัยภูมิเสียเปรียบ
ปฐมบทยุทธการสยบมังกร จึงเริ่มขึ้นนับจากนี้
พ.ศ.๒๓๑๐ เฉียนหลงปีที่ ๓๒
หยางอิ้งจี้ ข้าหลวงประจำมณฑลหยุนหนาน กุ้ยโจว ร่างหนังสือถึงเฉียนหลงฮ่องเต้ กรุงปักกิ่ง
ทูลขอให้ต้าชิงร่วมมือกับเสียนหลอก๊ก(กรุงศรี)ตีกระหนาบเหมี่ยนเตี้ยน(เผ่าท้องลาย พม่า)
แต่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงไม่เห็นชอบ พระองค์แทงหนังสือกลับมาว่า
เรื่องที่จะนัดหมายกับเสียนหลอตีกระหนาบนั้น เป็นเรื่องไร้สาระน่าขบขัน
การทำสงครามโดยอาศัยกำลังจากประเทศราช นอกจากไร้ประโยชน์แล้ว
รังแต่ทำให้ดินแดนในอาณัติเกิดความดูแคลนได้ จึงเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำเป็นอันขาด
แม้พระองค์ไม่เห็นพ้องด้วย แต่ทรงติดใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
รับสั่งให้หลี่ซื่อเหยา ข้าหลวงประจำมณฑลกวางตุ้ง กว่างสี
คอยติดตามสืบข่าวเสียนหลออย่างใกล้ชิด แล้วรายงานขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เป็นระยะ
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36354575
http://www.cheechud.com/2010/02/2.html
https://mgronline.com/china/detail/9480000157195
https://www.posttoday.com/life/life/475774
https://www.samkok911.com/2015/12/Thirty-Six-Stratagems-and-Three-Kingdoms.html
https://topicstock.ppantip.com/library/topicstock/2006/03/K4204481/K4204481.html
http://www.sac.or.th/databases/siamrarebooksold/main/index.php/history/-befeo/167-les-barbares-soumis-du-yunnan
หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ปิดฟ้าข้ามทะเล
พระเจ้าตากสินจัดทัพรับศึก ปกป้องกรุงศรีด้วยทหารหาญ ๕๐๐ นาย
ทรงปรีชาในพิชัยสงคราม เข้าพระทัยถ่องแท้ในหลักการรณรงค์สงครามว่า
น้อยชนะมาก ใช้กำลังพลน้อยกว่า สิ้นเปลืองน้อยกว่า ใช้เวลาน้อยกว่าสยบ มากกว่าได้ ด้วยปัจจัยอำนวย
อ่อนสยบแข็ง ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ไม่แข็งขืนดันทุรัง
สงบสยบเคลื่อนไหว อ่านทางยากลวงข้าศึกให้ตายใจ
การุณชนะทารุณ เคร่งครัดวินัย ลงโทษตามกฎ ไม่แบ่งชนชั้น อภิบาลปวงชน
เมื่อรบร่วมกับทัพนนทบุรี สามารถทลายทหารอังวะกองเล็กลงได้ โดยไม่เสียไพร่พล
จากการปะทะหลายครั้ง อังวะจำต้องส่งทัพใหญ่กว่าเดิมสามเท่ามาต่อกร
แต่ทหารอังวะส่วนใหญ่เกณฑ์จากเมืองอื่นไม่มีกะใจร่วมรบนัก แถมก่อนหน้ารบแพ้ต่อเนื่องเป็นที่หวั่นเกรง
ถึงกระนั้น การนำทัพน้อยกว่า เข้าต่อรบทัพมากกว่าไม่ต่างจาก เอาไข่ไปกระทบหิน
พระองค์ทรงใช้อุบาย ล้อมเว่ยช่วยจ้าว
กลยุทธนี้สืบแต่ยุคชุนชิว โดยซุนปิน สืบสายจากซุนวู ศิษย์ซินแสหุบเขาปีศาจ
โดยแบ่งทัพเป็นสองสาย
พระเจ้าตากสิน นำทัพใหญ่ แปดส่วน รบพลางถอยพลาง ลวงให้อังวะเคลื่อนทัพใหญ่มาให้มากที่สุด
โดยพระองค์ทรงเป็นเหยื่อล่อ ดังสำนวนว่า จะตกปลาตัวใหญ่ ต้องใช้เหยื่อชั้นดี
พระยาพิชัย นำทัพเล็ก สองส่วน ลอบอ้อมไปตีหลังทัพอังวะ อาศัยทหารอารักขาแม่ทัพข้าศึกเบาบาง
เข้าพิฆาตให้ย่อยยับ หมายเด็ดหัวแม่ทัพเป็นบำเหน็จศึก
พระเจ้าตากสิน ดาหน้าท้าทายยังสนามกลางแปง เข้ารบแตกหัก
ฝ่ายอังวะเห็นว่ามีคนมากกว่า แลแม่ทัพข้าศึกนำรบด้วยตนเอง ไม่ขี่ม้าอยู่จึงชะล่าใจ สั่งทัพใหญ่บุกเต็มกำลัง
เมื่ออังวะฮุบเหยื่อ พระองค์สู้พลางถอยพลาง ไม่ให้ข้าศึกจัดกระบวนทัพได้ ส่วนทัพพระองค์ถอยอย่างเป็นกระบวน
แนวรบต้านข้าศึกไม่แตก ลวงสังหารสามระยะ ธนู หอกยาว ดาบโล่,เขน
เมื่อทัพใหญ่อังวะ ห่างจากแม่ทัพมากพอแล้ว ทัพพระยาพิชัยจึงเข้าตะลุมบอนไม่ให้ตั้งตัว จนอังวะแตกพ่าย
ทัพใหญ่อังวะที่กำลังเข้าปะทะทัพพระเจ้าตากสิน เมื่อได้ยินสัญญาณสั่งถอย ให้ห่วงหน้าพะวงหลัง
ละล้าละลังจนแตกพ่าย ล้มตายเป็นอันมาก แม่ทัพหนีเอาตัวรอด ทิ้งลูกทัพให้เป็นเป้าซ้อมมือ
จากนั้นพระเจ้าตากสิน ทรงใช้อุบาย ล่อเสือออกจากถ้ำ
ทรงมอบหมายให้ม่วง ปลอมเป็นลูกทัพพม่ารามัญ แจ้งข่าวลวงแก่แม่ทัพอังวะค่ายรอบๆทีละค่าย
ให้รีบยกทัพออกไปช่วยทัพใหญ่ โดยลวงให้เข้าสู่แดนมรณะ เขตป่ารกชัฏ ม้าเข้าไม่สะดวก
เมื่อทัพอังวะเข้าสู่ใจกลางแดนมรณะแล้ว จึงปิดประตูตีแมวโอบล้อมเข้าตีทุกทิศทาง ด้วยธนู หอกยาว ดาบโล่,เขน
แล้วปล้นเสบียงจากสามค่ายที่ตีได้ในวันเดียว ความกล้าหาญของม่วง ตรงกับสำนวนโบราณว่า
ไม่เข้าถ้ำเสือ ไม่ได้ลูกเสือ
ด้วยผลการรบอันยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์ทั่วเกาะเมือง พระยาตากสิน ได้อวยยศเป็น พระยากำแพงเพชร
หรือ พระยาวชิรปราการ ยังความเคียดแค้นชิงชังให้กับขุนนางบางกลุ่มที่ขายชาติ
จนต้องสั่งให้พระองค์ไปตาย พร้อมกับพระยาเพชรบุรี โดยให้บุกถล่มค่ายแม่ทัพใหญ่อังวะ
พระเจ้าตากสิน รู้แจ้งในเล่ห์กลขุนนางกรุงศรี จึงรั้งทัพไว้ไม่ข้ามน้ำไป ด้วยชัยภูมิเสียเปรียบ
ฝ่ายพระยาเพชรบุรีผู้มีวิชาคงกระพันชาตรี ลูกปืนยิงไม่เข้า ถึงกับปรามาสว่า กลัวจนไม่กล้ารบมากกว่า
พระยาเพชรบุรีอาสาเป็นทัพหน้า พระเจ้าตากสินเป็นทัพหลัง ก่อนออกเรือพระองค์ทรงเตือนพระยาเพชรบุรีว่า
ให้เจ้าคุณ คอยระวังคุ้งน้ำข้างหน้า อาจมีกองเรือข้าศึก ซุ่มโจมตีด้านข้างอีกกองเรือหนึ่ง นอกจากกองเรือนั้นได้
พระยามีชื่อถือว่ามีวิชาดี อยากลองของจึงเร่งเรือเข้าปะทะโดยเร็ว โดยไม่ดูสัญญาณธงที่พระเจ้าตากสินแจ้งให้
เมื่อถึงคุ้งน้ำที่ว่า มีกองเรือซุ่มรออยู่ เข้าตัดหน้าเรือพระยามีชื่อ แล้วขว้างหม้ออัดดินดำ
ไปที่เรือของพระยาเพชรบุรี ถูกไฟคลอกระเบิดตายทั้งลำ ขณะนั้นเอง แม่ทัพใหญ่อังวะชักม้าออกจากที่ซุ่มเตรียมเคลื่อนทัพบุก
พระเจ้าตากสินสั่งถอยทัพ ก่อนทัพอังวะโอบล้อม แผนล่อแมงเม่าบินเข้ากองไฟ หาใช้กับพระองค์ได้ไม่
แต่เมื่อถึงค่าย ขุนนางกรุงศรีได้บริพาทอย่างสาดเสียเทเสีย ราวกับทหารไม่ใช่คน เป็นแค่เบี้ยบนกระดาน
สั่งให้ไปตายก็ต้องตาย และกำชับให้พระเจ้าตากสิน ไปชี้แจงในเกาะเมืองวันพรุ่ง
คืนนั้นเองระหว่างที่พระองค์ทรงเยี่ยมทหารบาดเจ็บอยู่นั้น อีเยื้อนได้ทูลเตือน และห้ามปรามไม่ให้เข้าเกาะเมือง
ด้วยเหตุที่ครอบครัวของนางเคยประสบมาก่อน และรู้สันดานผู้ดีกรุงศรีมักเป็นพวก ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
หากพระองค์เสด็จเข้าเกาะเมืองแล้ว เหมือนเอาคอไปขึ้นเขียง คงหาได้กลับมาอีกเป็นแน่แท้
พระองค์พิเคราะห์ดูแล้ว การณ์นี้ไม่แคล้ว ถูกโยนหัวข้ามกำแพงเป็นแน่แท้
แม่ทัพใหญ่โฮจิ๋น ไม่ฟังคำทัดทานโจโฉ เชื่อสิบขันทีลวงเข้าวัง เป็นเหตุให้สิ้นชีพอย่างอนาจ
วันพรุ่งจึงส่งคนไปแจ้งกรมเวียงว่า ตอนนี้ต้องเฝ้าระวังทัพอังวะยังค่าย ไม่สะดวกไปชี้แจง เกรงจะเสียทีแก่ข้าศึก
ผู้ดีกรุงศรีรบเก่งแต่ปาก จับดาบยังไม่มั่น เมื่อเจอคำปฏิเสธเยี่ยงนี้ ได้แต่คบเขี้ยวเคี้ยวฟันเพราะหาแพะไม่ได้
บ้านเมืองไร้ขื่อแป ขาดความเที่ยงธรรม เพราะเสาเรือนเอียงหักแล้ว อยู่ได้ไม่นาน ดุจผลไม้สุกงอมพร้อมปลิดลงจากต้น
ฝ่ายพระเอก นางเอก กว่าจะได้ทราบความในสารลับ ต้องให้นางเอกไปสำนึกตัวในที่ลับ
งานนี้พระเอกซึ้งในคำโบราณว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เห็นนางเอกใสๆ ไม่คิดว่าจะลุ่มลึกถึงเพียงนี้
นางแปลงร่างเป็นอึ้งย้ง เฉลยกลอย่าง ชอลิ้วเฮียง พระเอกจากปราดเปรื่องดั้งเอี้ยก้วย
กลายเป็นเซ่อแบบก้วยเจ๋งในบัดดล แต่งานนี้พระเอกรู้ตัวว่า ตนเองมีตาแต่ไม่เห็นขนตา
คุณท้าว เห็นมานานปีกลับไม่รู้เลยว่า สนิทกับแม่พระเอกถึงเพียงนี้ กระทั้งชื่อพระเอกก็ล่วงรู้
ถ้าพระนางไม่ผูกพันธ์ไว้ใจกันผ่านเหตุการณ์มากมายร่วมกัน พระเอกคงระแวงนางเอกเป็นแน่
ยังไม่ทันได้บอกรัก เผยความเป็นชายให้นางเอกรู้ เพราะกลัวคนอื่นจะคว้าไป
พระนางต้องเจอห่ากระสุนปืนใหญ่สาดเข้าวังหลวง เสียงดังฟ้าถล่ม ให้หวั่นใจแต่ไม่เท่ากับ
บรรดาผู้ร้ายทั้งหลาย รอดอาญายกกระบิ ด้วยเจ้าจอมเพ็ญติดสินบนองค์ชายเชษฐ์
แค่สิ้นอำนาจ รอจนกว่าสอบสวนเสร็จเมื่อไร่เมื่อนั้น ตอนนี้ให้กลับไปนอนตีพุง นั่งทอดหุ่ยที่เรือนไปพลางก่อน
ขุนนางที่ขึ้นมาแทน ตะเภาเดียวกันทั้งนั้น มีชนักติดหลังเหมือนกัน มิรึคิดสู้กับอังวะ แค่อยากเสวยสุขเท่านั้น
จึงสานต่อความฉ้อฉล กลบเกลื่อน เพ็ดทูลเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น แม้กรุงศรีเดือนร้อนไปทุกย่อมหญ้า
ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ไม่เว้นวัน แต่ผู้ดีกรุงศรีหาได้อนาทรร้อนใจไม่ เพราะภัยยังไม่ถึงตัว
คิดว่ามีเงิน มีอำนาจ ซ่องสุมผู้คน ปิดบังเบื้องสูง ส่งส่วยอังวะ ช่วยคุ้มกะลาหัวได้
อังวะเองตั้งใจลวงให้ผู้ดีกรุงศรีคิดเช่นนั้น จึงปล่อยให้เริงร่ามหาสงกรานต์เต็มที่ แล้วเผด็จศึกภายหลัง
สองฝ่ายนี้ใช้อุบายเดียวกัน จาก ๓๖ กลยุทธ์ คือ
ปิดฟ้าข้ามทะเล(瞞天過海 หมานเทียนกว้อไห่)
ปิด หมายถึง ปิดให้ไม่เห็น กลบเกลื่อนให้ไม่ทราบ หรือสร้างภาพลวงตา
ฟ้า หมายถึง ผู้ปกครอง แม่ทัพ ทวยราษฎร์
ข้ามทะเล หมายถึง ทำภารกิจที่ซุกซ่อนอยู่ ให้ลุล่วงไป
ปิดฟ้าข้ามทะเล หมายถึง การสร้างภาพลวงตา สร้างสถานการณ์หลอก โดยปกปิดความจริงบางประการ
ทำให้ข้าศึกเกิดความคุ้นชิน จนเกิดละเลยหละหลวม ไม่เตรียมการป้องกัน ไม่ระวังตัว
เพื่อฉวยโอกาสในการโจมตี หรือเพื่อบรรลุผลบางประการ
วิญญูชนในเกาะเมืองได้รู้แจ้งกระจ่างใจแล้วว่า ลำพังถอดขนเส้นเดียวจากวัวเก้าตัว ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้
เมื่อกังฉินครองเมืองเช่นนี้ การสละชีพรบจนตัวตายหามีประโยชน์อันใดไม่ ทั้งยังผิดหลักพิชัยสงคราม
เพราะคนที่ตายแล้ว หาประโยชน์อันใดได้ไม่
คนที่รอดเท่านั้น จึงแก้ไขพลิกฟื้นกู้บ้านเมืองได้
ว่าแล้วผู้มีจะกินเริ่มนำสมบัติใส่กำปั่นฝังดินไว้เป็นอันมาก หากกรุงแตกแลหนีรอดไปได้ค่อยกลับมาขุดภายหลัง
ฝ่ายอังวะ พระเจ้ามังระติดศึกกับต้าชิง ทำสงครามสั่งสอนโทษฐานไปรังแกไทใหญ่ ที่จิ้มก้องกันประจำ
เป็นเหตุให้ขุนนางบางคนหวั่นเกรงแสนยานุภาพต้าชิงยิ่งนัก ด้วยเฉียนหลงฮ่องเต้ปรีชาสามารถ
มีทัพนับร้อยหมื่น สุดกำลังที่จะต้านทาน จึงทูลให้เลิกทัพยอมจำนน เพื่อรักษาแผ่นดินพุกามประเทศไว้
เมื่อได้ฟังดังนี้พระเจ้ามังระ ชักพระแสงดาบจ้วงแทงขุนนางมีชื่อตายเสีย เหตุทำให้ทัพเสียขวัญ
พระองค์ไม่เกรงกลัวทัพต้าชิง แลต้องการพิชิตกรุงศรีไปพร้อมกัน ด้วยมั่นใจในชัยภูมิที่ได้เปรียบ
แลทหารต้าชิงมาจากเมืองหนาว ไม่คุ้นเคยอากาศร้อนชื้น ไข้ป่า โรคระบาด ทางกันดาร ส่งเสบียงลำบาก
นับแต่ศึกเข้งเบ้งสยบเบ้งเฮ็ก สมัยสามก๊ก ขงเบ้งจำต้องจับเบ้งเฮ็กเจ็ดครั้งปล่อยเจ็ดครั้ง รั้งทัพในค่าย
เพื่อให้เบ้งเฮ็กเกณฑ์คนมาตาย ยังแดนมรณะที่วางไว้ หากบุกไปคงตายยังแดนมรณะของข้าศึก ด้วยชัยภูมิเสียเปรียบ
ปฐมบทยุทธการสยบมังกร จึงเริ่มขึ้นนับจากนี้
พ.ศ.๒๓๑๐ เฉียนหลงปีที่ ๓๒
หยางอิ้งจี้ ข้าหลวงประจำมณฑลหยุนหนาน กุ้ยโจว ร่างหนังสือถึงเฉียนหลงฮ่องเต้ กรุงปักกิ่ง
ทูลขอให้ต้าชิงร่วมมือกับเสียนหลอก๊ก(กรุงศรี)ตีกระหนาบเหมี่ยนเตี้ยน(เผ่าท้องลาย พม่า)
แต่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงไม่เห็นชอบ พระองค์แทงหนังสือกลับมาว่า
เรื่องที่จะนัดหมายกับเสียนหลอตีกระหนาบนั้น เป็นเรื่องไร้สาระน่าขบขัน
การทำสงครามโดยอาศัยกำลังจากประเทศราช นอกจากไร้ประโยชน์แล้ว
รังแต่ทำให้ดินแดนในอาณัติเกิดความดูแคลนได้ จึงเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำเป็นอันขาด
แม้พระองค์ไม่เห็นพ้องด้วย แต่ทรงติดใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
รับสั่งให้หลี่ซื่อเหยา ข้าหลวงประจำมณฑลกวางตุ้ง กว่างสี
คอยติดตามสืบข่าวเสียนหลออย่างใกล้ชิด แล้วรายงานขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เป็นระยะ
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้