‘ธนาธร-ปิยบุตร’ ลั่น! ถ้าได้เป็นรบ. จะนิรโทษกรรมคดีการเมืองยุคคสช.ทั้งหมด
วันนี้ (25 พ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้เฟซบุ๊กไลฟ์คืนวันศุกร์ ผ่านเฟสบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษาคมที่ผ่านมา โดย นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า “การชุมนุมของคนอยากเลือกตั้งถือเป็นหมุดหมายอันหนึ่งของคนรักประชาธิปไตยทั้งหมด เสียงของคนอยากเลือกตั้ง เสียงของผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยเริ่มดังกลับคืนมาในสังคมไทย ตนได้ไปเยี่ยม 15 คนที่ถูกจับกุม โดยทั้ง 15 คนได้รับข้อหาไปคนละ 6 กระทง ซึ่งถือเป็นเกียรติยศ เกียรติบัตร เพราะกล้าหาญ ไม่ย้อท้อ หรือกลัวต่ออำนาจที่อยุติธรรม ซึ่งหากพรรคอนาคตใหม่ได้เป็นรัฐบาล 1 ในนโยบายเพื่อนำความยุติธรรมคืนมาในสังคมไทย เราจะนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองในระบอบคสช.ทั้งหมด เพื่อคนกลุ่มนี้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้งได้สิทธิและเสรีภาพของตัวเองกลับคืนมา”
“นี่คือสิ่งที่เราจะต้องจัดการ ไม่ว่าคุณจะมองยังไง ผมคิดว่า สิ่งที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งทำคือชัยชนะ ทำให้สังคมไม่กลัว ประวัติศาสตร์ 4 ปีจะต้องถูกชำระ ไม่ว่า นายทหารคนไหน นายตำรวจคนไหน ผู้พิพากษาคนไหน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมคนไหนที่เอากฏหมายที่ไม่ยุติธรรมมากระทำกับประชาชน เราจะบันทึกไว้ให้ชัด เมื่อถึงวันที่จะต้องชำระประวัติศาสตร์ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเราปล่อยให้คนพวกนี้นิรโทษกรรมตัวเองมานานแสนนานแล้ว” นายธนาธร กล่าว
ขณะที่ นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมคิดว่าเรื่องนิรโทษกรรมให้แก่บุคคลที่ดำเนินคดีตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจมา ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่ต้องถกเถียงกันมากมาย เพราะคสช.เข้ามาโดยผิดกฎหมายโดยยึดอำนาจ เป็นกบฏฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ได้นิรโทษกรรมตัวเอง จึงพ้นผิดไป ซึ่งกลุ่มคนที่ถูกระบอบคสช.ดำเนินคดี ไม่ว่า จะเป็นนักศึกษา นักการเมือง หรือแม้แต่เอ็นจีโอ เป็นเพราะคสช.กลัวว่า คนเหล่านี้จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์คสช. ดังนั้น ถ้าเราได้เข้าไปมีบทบาทเมื่อไหร่ เราจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนเหล่านี้เป็นสิ่งแรกๆ
“นี่ไม่ใช่การเอาคืน แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐาน และไม่ใช่การย้อนอดีต แต่เป็นการทำเพื่ออนาคต เพื่อให้อนาคตจะไม่มีเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก หลายประเทศในยุโรปผ่านโศกนาฏกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง พอเขาจัดการเพื่อไม่ให้มีวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด จากนั้นก็ไม่มีเรื่องพวกนี้อีกเลย ดังนั้นนี่เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะต้องทำ พวกเราพรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจไว้ว่า ถ้ามีคะแนนเสียงเพียงพอหลังการเลือกตั้ง เราจะเข้าไปผลักดันเรื่องเหล่านี้ทันที ถือเป็น 1 ในชุดการจัดการมรดกคสช.” นายธราธร กล่าว
https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_104165
“สุเทพ” ชูจุดยืน พิทักษ์รธน.ปี’60 ลั่น ไม่นิรโทษฯใครทั้งสิ้น ยันไม่ดูดใครร่วมพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_982624
เทพเทือกชนไพร่หมื่นล้าน! ประกาศพิทักษ์รธน.ปี60-ไม่นิรโทษใครหน้าไหนทั้งสิ้น
3 มิ.ย.61 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ถึงกรณีเคยสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ อีก ว่า ได้แสดงจุดยืนของตัวเองตั้งแต่หลัง คสช.ยึดอำนาจ เมื่อ 22 พ.ค.57 แล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และดำเนินการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ประชาชน ซึ่งตอบแบบนี้มาโดยตลอด
"แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมไม่ใช่คนที่มีเสรีที่จะพูดอะไรก็ได้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เนื่องจากตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดังนั้น ต่อไปนี้การแสดงความคิดเห็นของผมต้องเป็นเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งบอกไปแล้วว่าพรรคนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการดูดนักการเมืองของพรรคต่างๆ และวันนี้มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ดูดใคร คนที่เคยเป็นกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมกับตน ตนไม่ได้ชวนคนเหล่านั้นมาร่วมด้วย ส่วนคนที่มาร่วมพรรคในวันนี้คือ นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นน้องชาย
"ความเป็น กปปส.จบลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 เรื่องราวของผมกับ กปปส.ถือเป็นตำนาน วันนี้ไม่ได้มาตั้งพรรคของ กปปส.เพราะ กปปส.จบแล้ว หมดภารกิจ แต่เมื่อจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชน และคนที่ตั้งพรรคได้เห็นคุณค่า เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน พรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงอาสาที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของ กปปส." นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนที่วิจารณ์ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมาแย่งฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องหนีไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสังเกตว่าจะไปแย่งฐานเสียงประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวลใจการทำงานทางการเมืองของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเพราะพรรคนี้ไม่ตั้งตัวเป็นคู่แข่งหรือศัตรูกับใคร พร้อมร่วมมือกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอื่นๆ หากมีจุดยืนเดียวกัน และจะไม่ตอบโต้ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร
"ยืนยันว่า รปช.คือปรากฏการณ์ใหม่ของการเมือง เพราะคือพรรคการเมืองของประชาชนที่ไม่มีใครบงการได้และฟังคำสั่งประชาชนเท่านั้น ส่วนรายชื่อบุคคลที่สมควรจะเป็นนายกฯ นั้นให้รอไปก่อน 3 เดือน เพราะจะต้องรณรงค์สมาชิกพรรค เลือกสมาชิก และหัวหน้าพรรคก่อน จากนั้นผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้ต่อไป ขอย้ำว่าพรรคทำงานแบบตรงไปตรงมา ยึดศรัทธาของประชาชน" นายสุเทพ กล่าว
"ผมไม่เคยคุยกับคสช.และเชื่อว่ากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคคือจุดยืนประชาชน จะไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำประกาศของนายสุเทพดังกล่าวถือว่าตรงกันข้ามกับนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งออกมาประกาศนโยบายก่อนหน้านี้ว่าหากมีอำนาจทางการเมืองจะฉีกรัฐธรรมนูญ ปี 60 และนิรโทษกรรมคดีการเมืองในยุค คสช.จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ว่าเข้าข่ายล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.
http://www.naewna.com/politic/342830
ไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น!! "สุเทพ"ตอกหน้าไพร่หมื่นล้าน ไม่ร่วมวง"ฉีกรธน." ยึดเจตนารมณ์ของประชาชน!!
สถานการณ์การเมืองคึกคักอีกครั้งบรรดาพรรคการเมืองใหม่ประกาศรุกรบทางการเมืองเต็มขั้น ล่าสุดกับการเปิดตัว “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” (รปช.) ที่ในวันนี้ (3 มิถุนายน) ได้มีการจัดประชุมผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนของพรรค ที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นการเปิดตัวผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนของพรรค
แม้จะเปิดตัวด้วยบทบาทของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ปาฐกถาพิเศษเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ แต่สาระสำคัญคือทุกสายตาทางการเมืองจับจ้องไปที่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” ว่าจะขยับตัวอย่างไร
ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายสุเทพ ได้ให้สำภาษณ์ ถึงกรณีเคยสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ ว่า ได้แสดงจุดยืนของตัวเองตั้งแต่หลัง คสช.ยึดอำนาจ เมื่อ 22 พ.ค.57 แล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และดำเนินการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ประชาชน ซึ่งตอบแบบนี้มาโดยตลอด
แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมไม่ใช่คนที่มีเสรีที่จะพูดอะไรก็ได้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เนื่องจากตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดังนั้น ต่อไปนี้การแสดงความคิดเห็นของผมต้องเป็นเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งบอกไปแล้วว่าพรรคนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ"
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการดูดนักการเมืองของพรรคต่างๆ และวันนี้มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ดูดใคร คนที่เคยเป็นกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมกับตน ตนไม่ได้ชวนคนเหล่านั้นมาร่วมด้วย ส่วนคนที่มาร่วมพรรคในวันนี้คือ นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นน้องชาย
"ความเป็น กปปส.จบลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 เรื่องราวของผมกับ กปปส.ถือเป็นตำนาน วันนี้ไม่ได้มาตั้งพรรคของ กปปส.เพราะ กปปส.จบแล้ว หมดภารกิจ แต่เมื่อจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชน และคนที่ตั้งพรรคได้เห็นคุณค่า เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน พรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงอาสาที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของ กปปส."
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนที่วิจารณ์ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมาแย่งฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องหนีไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสังเกตว่าจะไปแย่งฐานเสียงประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวลใจการทำงานทางการเมืองของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเพราะพรรคนี้ไม่ตั้งตัวเป็นคู่แข่งหรือศัตรูกับใคร พร้อมร่วมมือกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอื่นๆ หากมีจุดยืนเดียวกัน และจะไม่ตอบโต้ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร
"ยืนยันว่า รปช.คือปรากฏการณ์ใหม่ของการเมือง เพราะคือพรรคการเมืองของประชาชนที่ไม่มีใครบงการได้และฟังคำสั่งประชาชนเท่านั้น ส่วนรายชื่อบุคคลที่สมควรจะเป็นนายกฯ นั้นให้รอไปก่อน 3 เดือน เพราะจะต้องรณรงค์สมาชิกพรรค เลือกสมาชิก และหัวหน้าพรรคก่อน จากนั้นผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้ต่อไป ขอย้ำว่าพรรคทำงานแบบตรงไปตรงมา ยึดศรัทธาของประชาชน"
ส่วนที่หลายพรรคประกาศยกเลิกหรือแก้ไข รัฐธรรมนูญ 60 นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนแสดงออกอย่างชัดเจนด้วยการไปลงคะแนนประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 60 ถึง 16 ล้าน 8 แสนคน ซึ่งประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่าสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะวางกรอบปฏิรูปประเทศสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นวันนี้หากจะมีนักการเมืองบางคนบาง บางฝ่ายประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะยึดถือเอาเจตนารมณ์ของประชาชนที่ไปลงประชามติรัฐธรรมนูญ
"ผมไม่เคยคุยกับคสช.และเชื่อว่ากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคคือจุดยืนประชาชน จะไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น"
http://www.tnews.co.th/contents/458590
ในเมื่ออีกฝ่ายเสียสัตย์จะเอานิรโทษกรรมกลับคืนมา
นี่คือความชอบธรรมของพรรครปช.ของประชาชนค่ะ
จงหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ
😢~มาลาริน~จุดยืนของประชาชนคือไม่เอานิรโทษกรรมทักษิณและแกนนำทุกสี..พรรครปช.มาถูกทางแล้วค่ะ จงหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ
‘ธนาธร-ปิยบุตร’ ลั่น! ถ้าได้เป็นรบ. จะนิรโทษกรรมคดีการเมืองยุคคสช.ทั้งหมด
วันนี้ (25 พ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้เฟซบุ๊กไลฟ์คืนวันศุกร์ ผ่านเฟสบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษาคมที่ผ่านมา โดย นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า “การชุมนุมของคนอยากเลือกตั้งถือเป็นหมุดหมายอันหนึ่งของคนรักประชาธิปไตยทั้งหมด เสียงของคนอยากเลือกตั้ง เสียงของผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยเริ่มดังกลับคืนมาในสังคมไทย ตนได้ไปเยี่ยม 15 คนที่ถูกจับกุม โดยทั้ง 15 คนได้รับข้อหาไปคนละ 6 กระทง ซึ่งถือเป็นเกียรติยศ เกียรติบัตร เพราะกล้าหาญ ไม่ย้อท้อ หรือกลัวต่ออำนาจที่อยุติธรรม ซึ่งหากพรรคอนาคตใหม่ได้เป็นรัฐบาล 1 ในนโยบายเพื่อนำความยุติธรรมคืนมาในสังคมไทย เราจะนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองในระบอบคสช.ทั้งหมด เพื่อคนกลุ่มนี้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้งได้สิทธิและเสรีภาพของตัวเองกลับคืนมา”
“นี่คือสิ่งที่เราจะต้องจัดการ ไม่ว่าคุณจะมองยังไง ผมคิดว่า สิ่งที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งทำคือชัยชนะ ทำให้สังคมไม่กลัว ประวัติศาสตร์ 4 ปีจะต้องถูกชำระ ไม่ว่า นายทหารคนไหน นายตำรวจคนไหน ผู้พิพากษาคนไหน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมคนไหนที่เอากฏหมายที่ไม่ยุติธรรมมากระทำกับประชาชน เราจะบันทึกไว้ให้ชัด เมื่อถึงวันที่จะต้องชำระประวัติศาสตร์ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเราปล่อยให้คนพวกนี้นิรโทษกรรมตัวเองมานานแสนนานแล้ว” นายธนาธร กล่าว
ขณะที่ นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมคิดว่าเรื่องนิรโทษกรรมให้แก่บุคคลที่ดำเนินคดีตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจมา ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่ต้องถกเถียงกันมากมาย เพราะคสช.เข้ามาโดยผิดกฎหมายโดยยึดอำนาจ เป็นกบฏฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ได้นิรโทษกรรมตัวเอง จึงพ้นผิดไป ซึ่งกลุ่มคนที่ถูกระบอบคสช.ดำเนินคดี ไม่ว่า จะเป็นนักศึกษา นักการเมือง หรือแม้แต่เอ็นจีโอ เป็นเพราะคสช.กลัวว่า คนเหล่านี้จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์คสช. ดังนั้น ถ้าเราได้เข้าไปมีบทบาทเมื่อไหร่ เราจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนเหล่านี้เป็นสิ่งแรกๆ
“นี่ไม่ใช่การเอาคืน แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐาน และไม่ใช่การย้อนอดีต แต่เป็นการทำเพื่ออนาคต เพื่อให้อนาคตจะไม่มีเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก หลายประเทศในยุโรปผ่านโศกนาฏกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง พอเขาจัดการเพื่อไม่ให้มีวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด จากนั้นก็ไม่มีเรื่องพวกนี้อีกเลย ดังนั้นนี่เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะต้องทำ พวกเราพรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจไว้ว่า ถ้ามีคะแนนเสียงเพียงพอหลังการเลือกตั้ง เราจะเข้าไปผลักดันเรื่องเหล่านี้ทันที ถือเป็น 1 ในชุดการจัดการมรดกคสช.” นายธราธร กล่าว
https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_104165
“สุเทพ” ชูจุดยืน พิทักษ์รธน.ปี’60 ลั่น ไม่นิรโทษฯใครทั้งสิ้น ยันไม่ดูดใครร่วมพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_982624
เทพเทือกชนไพร่หมื่นล้าน! ประกาศพิทักษ์รธน.ปี60-ไม่นิรโทษใครหน้าไหนทั้งสิ้น
3 มิ.ย.61 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ถึงกรณีเคยสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ อีก ว่า ได้แสดงจุดยืนของตัวเองตั้งแต่หลัง คสช.ยึดอำนาจ เมื่อ 22 พ.ค.57 แล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และดำเนินการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ประชาชน ซึ่งตอบแบบนี้มาโดยตลอด
"แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมไม่ใช่คนที่มีเสรีที่จะพูดอะไรก็ได้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เนื่องจากตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดังนั้น ต่อไปนี้การแสดงความคิดเห็นของผมต้องเป็นเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งบอกไปแล้วว่าพรรคนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการดูดนักการเมืองของพรรคต่างๆ และวันนี้มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ดูดใคร คนที่เคยเป็นกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมกับตน ตนไม่ได้ชวนคนเหล่านั้นมาร่วมด้วย ส่วนคนที่มาร่วมพรรคในวันนี้คือ นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นน้องชาย
"ความเป็น กปปส.จบลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 เรื่องราวของผมกับ กปปส.ถือเป็นตำนาน วันนี้ไม่ได้มาตั้งพรรคของ กปปส.เพราะ กปปส.จบแล้ว หมดภารกิจ แต่เมื่อจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชน และคนที่ตั้งพรรคได้เห็นคุณค่า เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน พรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงอาสาที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของ กปปส." นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนที่วิจารณ์ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมาแย่งฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องหนีไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสังเกตว่าจะไปแย่งฐานเสียงประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวลใจการทำงานทางการเมืองของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเพราะพรรคนี้ไม่ตั้งตัวเป็นคู่แข่งหรือศัตรูกับใคร พร้อมร่วมมือกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอื่นๆ หากมีจุดยืนเดียวกัน และจะไม่ตอบโต้ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร
"ยืนยันว่า รปช.คือปรากฏการณ์ใหม่ของการเมือง เพราะคือพรรคการเมืองของประชาชนที่ไม่มีใครบงการได้และฟังคำสั่งประชาชนเท่านั้น ส่วนรายชื่อบุคคลที่สมควรจะเป็นนายกฯ นั้นให้รอไปก่อน 3 เดือน เพราะจะต้องรณรงค์สมาชิกพรรค เลือกสมาชิก และหัวหน้าพรรคก่อน จากนั้นผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้ต่อไป ขอย้ำว่าพรรคทำงานแบบตรงไปตรงมา ยึดศรัทธาของประชาชน" นายสุเทพ กล่าว
"ผมไม่เคยคุยกับคสช.และเชื่อว่ากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคคือจุดยืนประชาชน จะไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำประกาศของนายสุเทพดังกล่าวถือว่าตรงกันข้ามกับนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งออกมาประกาศนโยบายก่อนหน้านี้ว่าหากมีอำนาจทางการเมืองจะฉีกรัฐธรรมนูญ ปี 60 และนิรโทษกรรมคดีการเมืองในยุค คสช.จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ว่าเข้าข่ายล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.
http://www.naewna.com/politic/342830
ไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น!! "สุเทพ"ตอกหน้าไพร่หมื่นล้าน ไม่ร่วมวง"ฉีกรธน." ยึดเจตนารมณ์ของประชาชน!!
สถานการณ์การเมืองคึกคักอีกครั้งบรรดาพรรคการเมืองใหม่ประกาศรุกรบทางการเมืองเต็มขั้น ล่าสุดกับการเปิดตัว “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” (รปช.) ที่ในวันนี้ (3 มิถุนายน) ได้มีการจัดประชุมผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนของพรรค ที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นการเปิดตัวผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนของพรรค
แม้จะเปิดตัวด้วยบทบาทของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ปาฐกถาพิเศษเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ แต่สาระสำคัญคือทุกสายตาทางการเมืองจับจ้องไปที่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” ว่าจะขยับตัวอย่างไร
ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายสุเทพ ได้ให้สำภาษณ์ ถึงกรณีเคยสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ ว่า ได้แสดงจุดยืนของตัวเองตั้งแต่หลัง คสช.ยึดอำนาจ เมื่อ 22 พ.ค.57 แล้วว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และดำเนินการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ประชาชน ซึ่งตอบแบบนี้มาโดยตลอด
แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมไม่ใช่คนที่มีเสรีที่จะพูดอะไรก็ได้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เนื่องจากตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดังนั้น ต่อไปนี้การแสดงความคิดเห็นของผมต้องเป็นเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งบอกไปแล้วว่าพรรคนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ"
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการดูดนักการเมืองของพรรคต่างๆ และวันนี้มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ดูดใคร คนที่เคยเป็นกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมกับตน ตนไม่ได้ชวนคนเหล่านั้นมาร่วมด้วย ส่วนคนที่มาร่วมพรรคในวันนี้คือ นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นน้องชาย
"ความเป็น กปปส.จบลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 เรื่องราวของผมกับ กปปส.ถือเป็นตำนาน วันนี้ไม่ได้มาตั้งพรรคของ กปปส.เพราะ กปปส.จบแล้ว หมดภารกิจ แต่เมื่อจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชน และคนที่ตั้งพรรคได้เห็นคุณค่า เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน พรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงอาสาที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของ กปปส."
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนที่วิจารณ์ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมาแย่งฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องหนีไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสังเกตว่าจะไปแย่งฐานเสียงประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวลใจการทำงานทางการเมืองของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเพราะพรรคนี้ไม่ตั้งตัวเป็นคู่แข่งหรือศัตรูกับใคร พร้อมร่วมมือกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอื่นๆ หากมีจุดยืนเดียวกัน และจะไม่ตอบโต้ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร
"ยืนยันว่า รปช.คือปรากฏการณ์ใหม่ของการเมือง เพราะคือพรรคการเมืองของประชาชนที่ไม่มีใครบงการได้และฟังคำสั่งประชาชนเท่านั้น ส่วนรายชื่อบุคคลที่สมควรจะเป็นนายกฯ นั้นให้รอไปก่อน 3 เดือน เพราะจะต้องรณรงค์สมาชิกพรรค เลือกสมาชิก และหัวหน้าพรรคก่อน จากนั้นผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้ต่อไป ขอย้ำว่าพรรคทำงานแบบตรงไปตรงมา ยึดศรัทธาของประชาชน"
ส่วนที่หลายพรรคประกาศยกเลิกหรือแก้ไข รัฐธรรมนูญ 60 นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนแสดงออกอย่างชัดเจนด้วยการไปลงคะแนนประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 60 ถึง 16 ล้าน 8 แสนคน ซึ่งประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่าสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะวางกรอบปฏิรูปประเทศสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นวันนี้หากจะมีนักการเมืองบางคนบาง บางฝ่ายประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะยึดถือเอาเจตนารมณ์ของประชาชนที่ไปลงประชามติรัฐธรรมนูญ
"ผมไม่เคยคุยกับคสช.และเชื่อว่ากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคคือจุดยืนประชาชน จะไม่นิรโทษกรรมให้ใครทั้งสิ้น"
http://www.tnews.co.th/contents/458590
ในเมื่ออีกฝ่ายเสียสัตย์จะเอานิรโทษกรรมกลับคืนมา
นี่คือความชอบธรรมของพรรครปช.ของประชาชนค่ะ
จงหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ