โสดาบัน ผู้รู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า
โสดาบันและสกทาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำศีลให้บริบูรณ์
คุณสมบัติพระโสดาบัน (ศีล5)
สมาธิพอประมาณ (ฌาน 1)
ปัญญาพอประมาณ รู้ทั่วถึงสักกายทิฏฐิ แต่ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับรูปได้ว่า รูปเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
สกทาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำศีลให้บริบูรณ์
ศีล5 อกุศลกรรมบท 10 (ศีล5ที่ละเอียดลง)
สมาธิพอประมาน (ฌาน2)
ปัญญาพอประมาณ (ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับ รูป และเวทนา)
อนาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำสมาธิให้บริบูรณ์
ศีล5 อกุศลกรรมบท 10 ศีล8
สมาธิ ฌาน3-4
ปัญญา ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับรูป เวทนา วิญญานได้
อรหันต์ชื่อว่าเป็นผู้ทำในส่วนของปัญญาให้บริบูรณ์
ศีล5ศีล8ศีล227
สมาธิ ฌาน4
ปัญญา ละสักกายทิฏฐิ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญานได้ ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
หมายเหตุ ถ้าโสดาบันทำในส่วนของปัญญามากขึ้นก็จะกลายเป็นโสดาบันแบบเอกพีชี
โสดาบัน ผู้รู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า
โสดาบันและสกทาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำศีลให้บริบูรณ์
คุณสมบัติพระโสดาบัน (ศีล5)
สมาธิพอประมาณ (ฌาน 1)
ปัญญาพอประมาณ รู้ทั่วถึงสักกายทิฏฐิ แต่ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับรูปได้ว่า รูปเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
สกทาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำศีลให้บริบูรณ์
ศีล5 อกุศลกรรมบท 10 (ศีล5ที่ละเอียดลง)
สมาธิพอประมาน (ฌาน2)
ปัญญาพอประมาณ (ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับ รูป และเวทนา)
อนาคามีชื่อว่าเป็นผู้ทำสมาธิให้บริบูรณ์
ศีล5 อกุศลกรรมบท 10 ศีล8
สมาธิ ฌาน3-4
ปัญญา ละสักกายทิฏฐิเกี่ยวกับรูป เวทนา วิญญานได้
อรหันต์ชื่อว่าเป็นผู้ทำในส่วนของปัญญาให้บริบูรณ์
ศีล5ศีล8ศีล227
สมาธิ ฌาน4
ปัญญา ละสักกายทิฏฐิ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญานได้ ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
หมายเหตุ ถ้าโสดาบันทำในส่วนของปัญญามากขึ้นก็จะกลายเป็นโสดาบันแบบเอกพีชี