ผมได้ใช้บริการ KKDAY ในห้วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (12 - 19 เมษายน 2561) โดยซื้อตั๋ว Hokkaido Rail Pass 3 วัน จำนวน 5 คน รวมยอดเงินประมาณ 24,000 บาทในวันที่ 5 เมษายน 2561 ซึ่งในเวปไซต์ก็พบความไม่มืออาชีพที่ให้กรอกวันที่ (โดยไม่บอกว่าวันรับหรือวันเดินทาง) ไม่มีให้เลือกว่าต้องไปรับของที่ไหน จนกระทั่งพอจ่ายเงินเสร็จ ถึงมีการแจ้งว่าต้องแจ้งด้วยว่าจะรับตั๋วที่ไหน ผมจึงส่งข้อความผ่านเวปไซต์ KKDAY ไปบอกว่าผมขอรับที่ 7-11 สุวรรณภูมิ และผมเดินทางเช้ามืดของวันที่ 12 บอกด้วยว่าขอรับวันที่ 11 ซึ่งได้รับคำตอบว่าโอเค (ตามรูป)
พอถึงวันเดินทาง ผมก็ปริ้นเอกสารไปยื่นที่ 7-11 สุวรรณภูมิ สิ่งที่ผมได้รับคำตอบคือ "ทาง 7-11 ไม่เคยเปิดให้บริการนี้" "ไม่เคยได้ยินบริการนี้เลยค่ะ" แต่พนักงานก็ช่วยเหลือด้วยการสอบถามไปยังหน่วยเหนือให้ แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเคยว่า "ไม่มี" ผมจะต้องวิ่งขึ้นลงระหว่างชั้นเช็คอิน และชั้นใต้ดินกว่า 4 รอบ เหนื่อยและเคว้งคว้างมากจนเกือบตกเครื่อง เข้าเกจก็ Final Call แล้ว และท้ายสุดก็ไม่ได้รับตั๋วแต่อย่างใด ติดต่อใครก็ไม่ได้บริษัทไม่มีบริการคอลเซนเตอร์ 24 ชม. พอแจ้งไปทางข้อความก็ขอตรวจสอบก่อน
ผมเลยเรียนร้องอย่างนี้คับ 1.บริษัทต้องคืนค่าตั๋วที่ตัดบัตรเครดิตไปแล้ว และ 2.บริษัทต้องชดเชยค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรเกิดขึ้นหากผมได้รับตั๋วทันเวลา (ตามรูป) ทางบรืษัทแจ้งว่าข้อ 1 ยินดีทำเรื่องคืนเงินให้ภายใน 14 วัน แต่ข้อที่ 2 ไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่าต้องมีหลักฐานเป็นกากตั๋ว (ซึ่งตั๋วที่ญี่ปุ่นมันดูดเข้าไปตอนออกอยู่แล้ว) หรือรูปถ่ายตั๋วเท่านั้น (ผมก็ไม่ได้ถ่ายไว้หรอก) ผมก็ไม่ได้อะไรขอแค่ได้คืนค่าตั๋วก็พอ แต่ขอด่าไปหนึ่งชุด
หลังจากนั้นทางบริษัทก็บอกว่ายินดีชดเชยให้ 1,330 THB (266 THB / คน) ซึ่งผมก็โอเคเอาก็เอา บริษัทก็ให้มากรอกอะไรไม่รู้เยอะแยะ ผมก็กรอกไปและก็รอไป...
พอบิลบัตรเครดิตมากลายเป็นว่าค่าตั๋วที่จะคืนก็ยังไม่คืน (เลย 14 วันตามรับปากแล้ว) มีการเรียกเก็บยอดเต็ม พอพิมพ์ไปถาม จนท. ก็ตอบว่าติดประชุมจะติดต่อกลับมา และก็แจ้งมาว่าขอหน้าบุ๊คแบงค์ ผมซึ่งเริ่มไม่มั่นใจเลยโทรถาม CITIBANK ว่าชะลอการจ่ายยอดนั้นได้ไหมเพราะบริษัทดำเนินการอยู่ ก็ได้คำตอบว่าต้องใช้หนังสือยกเลิกรายการจากบริษัทจึงได้ประสานไป สรุป จนท. โทรมาบอกออกให้ไม่ได้ ที่ช้าเพราะรอหน้าบุ๊คแบงค์ลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้คุณไม่เคยบอกเลยว่าต้องถ่ายหน้าบุ๊คแบงค์ บริษัทเพิ่งบอกว่าจะใช้รูปตอนวันที่ 10 พ.ค. แต่มาบอกว่าดำเนินการคืนเงินและจ่ายค่าชดเชยไม่ได้เพราะรอหน้าบุ๊คแบงค์ลูกค้า โดยให้เหตุผลว่าที่ไมได้แจ้งเพราะคนประสานงานกับบริษัทแม่ที่ไต้หวันไม่รู้เรื่องเลยไม่ได้แจ้ง..
จากนั้นเลยต่อรองว่าถ้าบริษัทสามารถดำเนินการคืนเงินในบัตรได้ก่อนวันที่ 21 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ต้องจ่ายเงินได้ ก็โอเคไม่ต้องออกหนังสือมาเพื่อทำเรื่องกับ CITIBANK จนกระทั่งวันนี้ผมโทรไปเช็คกับบัตรเครดิต ก็ได้คำตอบว่ายังมียอดอยู่ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ผมสอบถามไปยัง KKDAY ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะทำไงดี ล่องลอยมาก ถ้าไม่จ่ายในวันที่ 21 พ.ค. ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ย แถมประวัติเสียอีก เห้ออเฮงซวยจิงๆ
ตอนแรกผมว่าจะไม่อะไรกับเรื่องนี้แล้ว แต่บริษัทนี้การบริหารจัดการเฮงซวยมาก ความผิดเกิดจากบริษัทเต็มๆ แต่ระดับความรับผิดชอบของบริษัทต่ำมาก รับปากว่าจะคืนเงินภายใน 14 วัน แต่ก็ทำไม่ได้ จึงขอเตือนทุกคนว่าคิดก่อนใช้บริการ ระวังคุณจะต้องมาเคว้งคว้างกับการไม่มีตั่วท่องเที่ยว แพลนของคุณอาจจะพังภาพไปเลย และยังต้องมาประสาทเสียกับความรับผิดชอบแย่ๆ ของบริษัท...
เตือนคนที่คิดจะซื้อตั๋วท่องเที่ยวจาก KKDAY
พอถึงวันเดินทาง ผมก็ปริ้นเอกสารไปยื่นที่ 7-11 สุวรรณภูมิ สิ่งที่ผมได้รับคำตอบคือ "ทาง 7-11 ไม่เคยเปิดให้บริการนี้" "ไม่เคยได้ยินบริการนี้เลยค่ะ" แต่พนักงานก็ช่วยเหลือด้วยการสอบถามไปยังหน่วยเหนือให้ แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเคยว่า "ไม่มี" ผมจะต้องวิ่งขึ้นลงระหว่างชั้นเช็คอิน และชั้นใต้ดินกว่า 4 รอบ เหนื่อยและเคว้งคว้างมากจนเกือบตกเครื่อง เข้าเกจก็ Final Call แล้ว และท้ายสุดก็ไม่ได้รับตั๋วแต่อย่างใด ติดต่อใครก็ไม่ได้บริษัทไม่มีบริการคอลเซนเตอร์ 24 ชม. พอแจ้งไปทางข้อความก็ขอตรวจสอบก่อน
ผมเลยเรียนร้องอย่างนี้คับ 1.บริษัทต้องคืนค่าตั๋วที่ตัดบัตรเครดิตไปแล้ว และ 2.บริษัทต้องชดเชยค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรเกิดขึ้นหากผมได้รับตั๋วทันเวลา (ตามรูป) ทางบรืษัทแจ้งว่าข้อ 1 ยินดีทำเรื่องคืนเงินให้ภายใน 14 วัน แต่ข้อที่ 2 ไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่าต้องมีหลักฐานเป็นกากตั๋ว (ซึ่งตั๋วที่ญี่ปุ่นมันดูดเข้าไปตอนออกอยู่แล้ว) หรือรูปถ่ายตั๋วเท่านั้น (ผมก็ไม่ได้ถ่ายไว้หรอก) ผมก็ไม่ได้อะไรขอแค่ได้คืนค่าตั๋วก็พอ แต่ขอด่าไปหนึ่งชุด
หลังจากนั้นทางบริษัทก็บอกว่ายินดีชดเชยให้ 1,330 THB (266 THB / คน) ซึ่งผมก็โอเคเอาก็เอา บริษัทก็ให้มากรอกอะไรไม่รู้เยอะแยะ ผมก็กรอกไปและก็รอไป...
พอบิลบัตรเครดิตมากลายเป็นว่าค่าตั๋วที่จะคืนก็ยังไม่คืน (เลย 14 วันตามรับปากแล้ว) มีการเรียกเก็บยอดเต็ม พอพิมพ์ไปถาม จนท. ก็ตอบว่าติดประชุมจะติดต่อกลับมา และก็แจ้งมาว่าขอหน้าบุ๊คแบงค์ ผมซึ่งเริ่มไม่มั่นใจเลยโทรถาม CITIBANK ว่าชะลอการจ่ายยอดนั้นได้ไหมเพราะบริษัทดำเนินการอยู่ ก็ได้คำตอบว่าต้องใช้หนังสือยกเลิกรายการจากบริษัทจึงได้ประสานไป สรุป จนท. โทรมาบอกออกให้ไม่ได้ ที่ช้าเพราะรอหน้าบุ๊คแบงค์ลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้คุณไม่เคยบอกเลยว่าต้องถ่ายหน้าบุ๊คแบงค์ บริษัทเพิ่งบอกว่าจะใช้รูปตอนวันที่ 10 พ.ค. แต่มาบอกว่าดำเนินการคืนเงินและจ่ายค่าชดเชยไม่ได้เพราะรอหน้าบุ๊คแบงค์ลูกค้า โดยให้เหตุผลว่าที่ไมได้แจ้งเพราะคนประสานงานกับบริษัทแม่ที่ไต้หวันไม่รู้เรื่องเลยไม่ได้แจ้ง..
จากนั้นเลยต่อรองว่าถ้าบริษัทสามารถดำเนินการคืนเงินในบัตรได้ก่อนวันที่ 21 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ต้องจ่ายเงินได้ ก็โอเคไม่ต้องออกหนังสือมาเพื่อทำเรื่องกับ CITIBANK จนกระทั่งวันนี้ผมโทรไปเช็คกับบัตรเครดิต ก็ได้คำตอบว่ายังมียอดอยู่ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ผมสอบถามไปยัง KKDAY ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะทำไงดี ล่องลอยมาก ถ้าไม่จ่ายในวันที่ 21 พ.ค. ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ย แถมประวัติเสียอีก เห้ออเฮงซวยจิงๆ
ตอนแรกผมว่าจะไม่อะไรกับเรื่องนี้แล้ว แต่บริษัทนี้การบริหารจัดการเฮงซวยมาก ความผิดเกิดจากบริษัทเต็มๆ แต่ระดับความรับผิดชอบของบริษัทต่ำมาก รับปากว่าจะคืนเงินภายใน 14 วัน แต่ก็ทำไม่ได้ จึงขอเตือนทุกคนว่าคิดก่อนใช้บริการ ระวังคุณจะต้องมาเคว้งคว้างกับการไม่มีตั่วท่องเที่ยว แพลนของคุณอาจจะพังภาพไปเลย และยังต้องมาประสาทเสียกับความรับผิดชอบแย่ๆ ของบริษัท...