“พาณิชย์” เผยตั้งแต่ต้นปีข้าวเปลือกหอมมะลิราคาเพิ่ม 60% ด้านผู้ผลิตส่งสัญญาณข้าวถุงแพงขึ้น
“พาณิชย์” เผยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตั้งแต่ต้นปีถึง พ.ค.ราคาเพิ่มขึ้น 60% บางช่วงทะลุถึง 1.7 หมื่นบาท ส่วนข้าวนาปี 2561/62 คาดผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-20% แต่ยังมั่นใจราคาข้าวหอมมะลิไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่น ข้าวเจ้า 8 พัน ด้านผู้ผลิตส่งสัญญาณข้าวถุงหอมมะลิแพงถึงสิ้นปีหลังต้นทุนเพิ่ม เตรียมเลิกส่วนลด ทำราคาขยับขึ้นถุงละ 20-30 บาท ส่วนการยื่นประมูลข้าวคนกิน 4.37 หมื่นตัน มีผู้สนใจยื่นตรวจเอกสาร 43 ราย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 2561 ปรับตัวสูงขึ้น จากราคาตันละ 10,037 บาท เป็นเฉลี่ยตันละ 16,052 เพิ่มขึ้น 60% และมีบางช่วงที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 16,500-17,350 บาทต่อตัน ซึ่งส่งผลดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลผลิตข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้น 10-20% โดยรัฐบาลได้เตรียมมาตรการดูแลไว้แล้ว ทั้งการส่งเสริมให้ปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ การปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูง และมีการเชื่อมโยงตลาดรองรับ โดยคาดว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง หรือมีราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้าราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตันละ 8,000 บาท
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ข้าวสารบรรจุถุงหอมมะลิ 5 กิโลกรัม (กก.) มีแนวโน้มราคาสูงไปจนถึงสิ้นปี หรือมีราคาเกินถุงละ 200 บาท เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิในปีนี้ลดลงจากภัยธรรมชาติ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับตัวสูง ทำให้ผู้ประกอบการข้าวถุงต้องยกเลิกโปรโมชัน หรือการส่งเสริมการขายข้าวถุงจากเดิมที่ขายต่ำกว่า 200 บาทต่อถุง โดยจะปรับขึ้นราคา 20-30 บาทต่อถุง หรือเพิ่มขึ้น 35% ทำให้ราคาขายจะอยู่ที่ 230-240 บาทต่อถุงแล้วแต่ยี่ห้อ แต่ก็ยังต่ำกว่าราคาหน้าถุงที่อยู่ที่ 260-280 บาทต่อถุง โดยราคาไม่น่าจะเกินไปจากราคาหน้าถุงเพราะยังมีช่องว่างให้ขึ้นราคาได้ และเชื่อว่าราคาจะอ่อนตัวลง หลังจากที่ข้าวฤดูกาลใหม่ออกมา
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า วานนี้ (16 พ.ค.) กรมฯ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นข้าวกลุ่ม 1 ที่คนบริโภคได้ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน โดยมีผู้สนใจเข้ายื่นซองคุณสมบัติรวม 43 ราย ถือว่าได้รับความสนใจเข้าร่วมประมูลข้าวเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นข้าวที่บริโภคได้ล็อตสุดท้ายแล้ว โดยกรมฯ จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติ ก่อนประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 15 พ.ค. 2561 และให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกัน จากนั้นจะเปิดซอง ก่อนสรุปผลเข้าที่ประชุมคณะทำงาน และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว เพื่อนำเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
https://mgronline.com/business/detail/9610000048537
ข้าวหอมมะลิถุงปรับขึ้นตามตลาดโลก
นนทบุรี 16 พ.ค. - รัฐมนตรีพาณิชย์เผยราคาข้าวเปลือกหอมในตลาดดีต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ขณะผู้ผลิตข้าวถุงยันราคาข้าวหอมบรรจุถุงขึ้นจริง แต่ไม่ปรับเพิ่มมากกว่าหน้าถุงแน่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตข้าวปีนี้จะมากขึ้นกว่าร้อยละ 10-20 เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้จะเร่งส่งเสริมคุณภาพข้าวของไทย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว และทำให้ไทยคงความเป็นผู้นำข้าวหอมมะลิของโลก โดยคาดว่ามาตรการดูแลราคาข้าวที่รัฐบาลจะออกมาทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกเจ้า คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นและสินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากขึ้น
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมข้าวถุงไทยและผู้บริหารข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า ราคาข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมตามห้างสรรพสินค้าขณะนี้มีราคาปรับขึ้นจริงต่อถุง 20-30 บาท ซึ่งเป็นการขึ้นแบบไม่มีโปรโมชั่นเหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่คงจะไม่ขึ้นมากกว่าราคาหน้าถุงอย่างแน่นอน สาเหตุที่ราคาข้าวถุงขึ้นน่าจะมาจากสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิตลาดโลกและปริมาณข้าวหอมมะลิในช่วงนี้น้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวถุงหอมมะลิยี่ห้อต่าง ๆ สูงตาม แต่เชื่อว่าจะไม่ปรับขึ้นไปมากกว่านี้ และผู้ประกอบการคงจะไม่ปรับราคาข้าวถุงเกินกว่าราคาหน้าถุงที่กำหนดไว้ตามที่หลายฝ่ายกังวล หากราคาข้าวหอมมะลิในตลาดยังสูงขึ้นมากกว่านี้ผู้ผลิตข้าวถุงอาจจำเป็นต้องปรับราคาข้าวถุงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาข้าวถุงตามห้างสรรพสินค้าจะปรับสูงขึ้นบ้าง แต่เท่าที่สำรวจไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากนัก เพราะจากการแข่งขันในตลาดสูงและมีข้าวหอมมะลิถุงในตลาดมีหลายยี่ห้อทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อข้าวถุงยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาไม่แพงมาก ประกอบกับผู้บริโภคหันไปบริโภคข้าวชนิดอื่น ๆ ที่มีราคาถูกทดแทนได้ โดยเฉพาะข้าวเจ้าที่มีราคาไม่แพง แต่โดยรวมราคาข้าวเจ้าบรรจุถุงก็ไม่ได้ปรับขึ้นไปมากส่วนใหญ่ราคาจะทรงตัว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (16 พ.ค.) กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ประกอบการยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติประมูลข้าวสารในสตอกของรัฐเป็นการทั่วไป หรือข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค ครั้งที่ 1 ของปี 2561 ในสตอกทั้งหมดกว่า 43,700 ตัน จำนวน 20 คลัง ใน 15 จังหวัด โดยเป็นคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ทั้งหมด ประกอบด้วยข้าว 9 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าว A1 เลิศ ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าว A1 และข้าวท่อนหอมมะลิ โดยมีเอกชนมียื่นซองทั้งสิ้น 43 ราย และหลังจากนี้ทางกรมฯ จะตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อและให้ยื่นเสนอซองประมูลวันที่ 18 พฤษภาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
http://www.tnamcot.com/view/5afbd94be3f8e4f605859e80
พาณิชย์ คาดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ แพงขึ้น 60% จากปีก่อน ไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่นบาท หลังผลผลิตออกน้อย ขณะที่ผู้ผลิตข้าวถุง ยอมรับข้าวหอมมะลิ ขยับขึ้นแล้ว ถุงละ 20-30 บาท
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในปีนี้จะทรงตัวในระดับสูง หรือเกินตันละ 15,000 บาทตลอดทั้งปี ซึ่งตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.61 ราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นมาก จากตันละ 11,000 บาท ล่าสุดอยู่ที่เฉลี่ยตันละ 16,000 บาทหรือสูงขึ้น 60% และบางช่วงราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ตันละ 16,500-17,300 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้าในปีนี้ เชื่อว่าราคาจะไม่ต่ำกว่าตันละ 8,000 บาท ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ที่ต้องการจะผลักดันราคาเพื่อเพิ่มรายได้ให้ภาคเกษตร
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/1283186
ข้าวถุงหอมมะลิแพงขึ้น ผู้บริโภคคงไม่บ่นเท่าไหร่นะคะ เพราะเห็นว่าแพงแค่สิ้นปีนี้ พอต้นฤดูก็จะได้ข้าวใหม่ที่ราคาถูกลง เพราะปี 62 น่าจะมีผลผลิตเพิ่ม ส่วนข้าวขาวก็ราคาไม่แพง หรืออาจไม่ขึ้นราคาเลย
แต่ชาวนาได้ขายข้าวราคาดีไม่มีตกแบบนี้ไปจนถึงปีหน้ามีผลผลิตออกใหม่ เป็นอะไรๆที่มหัศจรรย์จริงๆค่ะ
ที่ข้าวราคาดีหลังจากที่เราขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเก่าหมดไป ชาวนาคงรู้จักใช้ยุ้งฉางเพื่อเก็บข้าวไว้ขายแล้วนะคะ สิ่งที่ดีๆที่บรรพบุรุษเคยทำไว้นำกลับมาใช้ ได้ผลอย่าทอดทิ้งไปอีกค่ะ
จะว่าเป็นผลงานรัฐบาลลุงตู่ชิ้นเอกก็น่าจะพูดได้ เจ้าหน้าที่เหน็ดเหนื่อยกันแค่ไหน กว่าจะมาถึงวันนี้
ขอให้ทำสิ่งดีๆประสบความสำเร็จตลอดไปนะคะ
🕊~มาลาริน~ยินดีค่ะ..ข้าวเปลือกราคาเพิ่ม และทรงตัวอยู่ในระดับสูงไปจนถึงข้าวนาปี 61/62 แต่ข้าวสารถุงแพงขึ้นไปถึงแค่สิ้นปี
“พาณิชย์” เผยตั้งแต่ต้นปีข้าวเปลือกหอมมะลิราคาเพิ่ม 60% ด้านผู้ผลิตส่งสัญญาณข้าวถุงแพงขึ้น
“พาณิชย์” เผยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตั้งแต่ต้นปีถึง พ.ค.ราคาเพิ่มขึ้น 60% บางช่วงทะลุถึง 1.7 หมื่นบาท ส่วนข้าวนาปี 2561/62 คาดผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-20% แต่ยังมั่นใจราคาข้าวหอมมะลิไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่น ข้าวเจ้า 8 พัน ด้านผู้ผลิตส่งสัญญาณข้าวถุงหอมมะลิแพงถึงสิ้นปีหลังต้นทุนเพิ่ม เตรียมเลิกส่วนลด ทำราคาขยับขึ้นถุงละ 20-30 บาท ส่วนการยื่นประมูลข้าวคนกิน 4.37 หมื่นตัน มีผู้สนใจยื่นตรวจเอกสาร 43 ราย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. 2561 ปรับตัวสูงขึ้น จากราคาตันละ 10,037 บาท เป็นเฉลี่ยตันละ 16,052 เพิ่มขึ้น 60% และมีบางช่วงที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 16,500-17,350 บาทต่อตัน ซึ่งส่งผลดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลผลิตข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้น 10-20% โดยรัฐบาลได้เตรียมมาตรการดูแลไว้แล้ว ทั้งการส่งเสริมให้ปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ การปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูง และมีการเชื่อมโยงตลาดรองรับ โดยคาดว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง หรือมีราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้าราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตันละ 8,000 บาท
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ข้าวสารบรรจุถุงหอมมะลิ 5 กิโลกรัม (กก.) มีแนวโน้มราคาสูงไปจนถึงสิ้นปี หรือมีราคาเกินถุงละ 200 บาท เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิในปีนี้ลดลงจากภัยธรรมชาติ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับตัวสูง ทำให้ผู้ประกอบการข้าวถุงต้องยกเลิกโปรโมชัน หรือการส่งเสริมการขายข้าวถุงจากเดิมที่ขายต่ำกว่า 200 บาทต่อถุง โดยจะปรับขึ้นราคา 20-30 บาทต่อถุง หรือเพิ่มขึ้น 35% ทำให้ราคาขายจะอยู่ที่ 230-240 บาทต่อถุงแล้วแต่ยี่ห้อ แต่ก็ยังต่ำกว่าราคาหน้าถุงที่อยู่ที่ 260-280 บาทต่อถุง โดยราคาไม่น่าจะเกินไปจากราคาหน้าถุงเพราะยังมีช่องว่างให้ขึ้นราคาได้ และเชื่อว่าราคาจะอ่อนตัวลง หลังจากที่ข้าวฤดูกาลใหม่ออกมา
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า วานนี้ (16 พ.ค.) กรมฯ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นข้าวกลุ่ม 1 ที่คนบริโภคได้ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน โดยมีผู้สนใจเข้ายื่นซองคุณสมบัติรวม 43 ราย ถือว่าได้รับความสนใจเข้าร่วมประมูลข้าวเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นข้าวที่บริโภคได้ล็อตสุดท้ายแล้ว โดยกรมฯ จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติ ก่อนประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 15 พ.ค. 2561 และให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกัน จากนั้นจะเปิดซอง ก่อนสรุปผลเข้าที่ประชุมคณะทำงาน และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว เพื่อนำเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
https://mgronline.com/business/detail/9610000048537
ข้าวหอมมะลิถุงปรับขึ้นตามตลาดโลก
นนทบุรี 16 พ.ค. - รัฐมนตรีพาณิชย์เผยราคาข้าวเปลือกหอมในตลาดดีต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ขณะผู้ผลิตข้าวถุงยันราคาข้าวหอมบรรจุถุงขึ้นจริง แต่ไม่ปรับเพิ่มมากกว่าหน้าถุงแน่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตข้าวปีนี้จะมากขึ้นกว่าร้อยละ 10-20 เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้จะเร่งส่งเสริมคุณภาพข้าวของไทย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว และทำให้ไทยคงความเป็นผู้นำข้าวหอมมะลิของโลก โดยคาดว่ามาตรการดูแลราคาข้าวที่รัฐบาลจะออกมาทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกเจ้า คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นและสินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากขึ้น
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมข้าวถุงไทยและผู้บริหารข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า ราคาข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมตามห้างสรรพสินค้าขณะนี้มีราคาปรับขึ้นจริงต่อถุง 20-30 บาท ซึ่งเป็นการขึ้นแบบไม่มีโปรโมชั่นเหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่คงจะไม่ขึ้นมากกว่าราคาหน้าถุงอย่างแน่นอน สาเหตุที่ราคาข้าวถุงขึ้นน่าจะมาจากสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิตลาดโลกและปริมาณข้าวหอมมะลิในช่วงนี้น้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวถุงหอมมะลิยี่ห้อต่าง ๆ สูงตาม แต่เชื่อว่าจะไม่ปรับขึ้นไปมากกว่านี้ และผู้ประกอบการคงจะไม่ปรับราคาข้าวถุงเกินกว่าราคาหน้าถุงที่กำหนดไว้ตามที่หลายฝ่ายกังวล หากราคาข้าวหอมมะลิในตลาดยังสูงขึ้นมากกว่านี้ผู้ผลิตข้าวถุงอาจจำเป็นต้องปรับราคาข้าวถุงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาข้าวถุงตามห้างสรรพสินค้าจะปรับสูงขึ้นบ้าง แต่เท่าที่สำรวจไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากนัก เพราะจากการแข่งขันในตลาดสูงและมีข้าวหอมมะลิถุงในตลาดมีหลายยี่ห้อทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อข้าวถุงยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาไม่แพงมาก ประกอบกับผู้บริโภคหันไปบริโภคข้าวชนิดอื่น ๆ ที่มีราคาถูกทดแทนได้ โดยเฉพาะข้าวเจ้าที่มีราคาไม่แพง แต่โดยรวมราคาข้าวเจ้าบรรจุถุงก็ไม่ได้ปรับขึ้นไปมากส่วนใหญ่ราคาจะทรงตัว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (16 พ.ค.) กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ผู้ประกอบการยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติประมูลข้าวสารในสตอกของรัฐเป็นการทั่วไป หรือข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค ครั้งที่ 1 ของปี 2561 ในสตอกทั้งหมดกว่า 43,700 ตัน จำนวน 20 คลัง ใน 15 จังหวัด โดยเป็นคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ทั้งหมด ประกอบด้วยข้าว 9 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าว A1 เลิศ ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าว A1 และข้าวท่อนหอมมะลิ โดยมีเอกชนมียื่นซองทั้งสิ้น 43 ราย และหลังจากนี้ทางกรมฯ จะตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อและให้ยื่นเสนอซองประมูลวันที่ 18 พฤษภาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
http://www.tnamcot.com/view/5afbd94be3f8e4f605859e80
พาณิชย์ คาดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ แพงขึ้น 60% จากปีก่อน ไม่ต่ำกว่าตันละ 1.5 หมื่นบาท หลังผลผลิตออกน้อย ขณะที่ผู้ผลิตข้าวถุง ยอมรับข้าวหอมมะลิ ขยับขึ้นแล้ว ถุงละ 20-30 บาท
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในปีนี้จะทรงตัวในระดับสูง หรือเกินตันละ 15,000 บาทตลอดทั้งปี ซึ่งตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.61 ราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นมาก จากตันละ 11,000 บาท ล่าสุดอยู่ที่เฉลี่ยตันละ 16,000 บาทหรือสูงขึ้น 60% และบางช่วงราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ตันละ 16,500-17,300 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้าในปีนี้ เชื่อว่าราคาจะไม่ต่ำกว่าตันละ 8,000 บาท ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ที่ต้องการจะผลักดันราคาเพื่อเพิ่มรายได้ให้ภาคเกษตร
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1283186
ข้าวถุงหอมมะลิแพงขึ้น ผู้บริโภคคงไม่บ่นเท่าไหร่นะคะ เพราะเห็นว่าแพงแค่สิ้นปีนี้ พอต้นฤดูก็จะได้ข้าวใหม่ที่ราคาถูกลง เพราะปี 62 น่าจะมีผลผลิตเพิ่ม ส่วนข้าวขาวก็ราคาไม่แพง หรืออาจไม่ขึ้นราคาเลย
แต่ชาวนาได้ขายข้าวราคาดีไม่มีตกแบบนี้ไปจนถึงปีหน้ามีผลผลิตออกใหม่ เป็นอะไรๆที่มหัศจรรย์จริงๆค่ะ
ที่ข้าวราคาดีหลังจากที่เราขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเก่าหมดไป ชาวนาคงรู้จักใช้ยุ้งฉางเพื่อเก็บข้าวไว้ขายแล้วนะคะ สิ่งที่ดีๆที่บรรพบุรุษเคยทำไว้นำกลับมาใช้ ได้ผลอย่าทอดทิ้งไปอีกค่ะ
จะว่าเป็นผลงานรัฐบาลลุงตู่ชิ้นเอกก็น่าจะพูดได้ เจ้าหน้าที่เหน็ดเหนื่อยกันแค่ไหน กว่าจะมาถึงวันนี้
ขอให้ทำสิ่งดีๆประสบความสำเร็จตลอดไปนะคะ