ว่าด้วยอานิสงส์สติปัฏฐาน 4

๓๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้   อย่างนี้ ตลอด
๗ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ   พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมี
อุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ ๗ ปี    ยกไว้ ผู้ใดผู้หนึ่งพึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้
ตลอด ๖ ปี ... ๕ ปี ... ๔ ปี ... ๓ ปี ... ๒ ปี ... ๑ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
พระอรหัตผลใน  ปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ ๑ ปียกไว้

ผู้ใดผู้  หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ตลอด ๗ เดือน เขาพึงหวังผล ๒ ประการ    อย่างใดอย่าง
หนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่    เป็นพระอนาคามี ๑ ๗ เดือน ยกไว้

ผู้ใดผู้หนึ่งเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ อย่างนี้  ตลอด ๖ เดือน ... ๕ เดือน ... ๔ เดือน ...
๓ เดือน ... ๒ เดือน ... ๑ เดือน ... กึ่ง    เดือน เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
พระอรหัตผลในปัจจุบัน  ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ กึ่งเดือนยกไว้

ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ตลอด ๗ วัน เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใด
อย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็น      พระอนาคามี ๑ ฯ

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อ
ล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์โทมนัส เพื่อ  บรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้
แจ้งซึ่งพระนิพพาน หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔      ประการ ฉะนี้แล คำที่เรากล่าว ดังพรรณนา
มาฉะนี้ เราอาศัยเอกายนมรรคกล่าว  แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่