.......ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้
อย่างนี้ ตลอด ๗ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ ........
ก่อนจะปฎิบัติ สติปัฎฐาน๔ ศรัทธาต้องมีก่อน แล้ววิริยะ ความพากเพียรในการทำก็ต้องมีขึ้นมาเป็นพื้นฐาน
สำหรับ สติ สมาธิ ปัญญา ได้จากการปฎิบัติสติป้ฎฐาน๔
เมื่อปฎิบัติสติปัฎฐาน๔จนเห็นผลระดับหนึ่งแล้ว ก็จะเกิดศรัทธายิ่งขึ้น แล้ววิริยะก็มากขึ้นตาม
เป็นวงจรวนเวียนส่งเสริมกัน
........เมื่อสติปัฎฐาน๔บริบูรณ์ก็จะทำให้โพชฌงค์๗บริบูรณ์
เจริญโพชฌงค์ ๗ บริบูรณ์แล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้ว
อย่างนี้ชื่อว่าบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้ ฯ..........
สติปัฎฐาน๔ หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก กับ พละ๕ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เพื่อการบรรลุธรรมใน๗ปีตามพุทธดำรัส
อย่างนี้ ตลอด ๗ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ ........
ก่อนจะปฎิบัติ สติปัฎฐาน๔ ศรัทธาต้องมีก่อน แล้ววิริยะ ความพากเพียรในการทำก็ต้องมีขึ้นมาเป็นพื้นฐาน
สำหรับ สติ สมาธิ ปัญญา ได้จากการปฎิบัติสติป้ฎฐาน๔
เมื่อปฎิบัติสติปัฎฐาน๔จนเห็นผลระดับหนึ่งแล้ว ก็จะเกิดศรัทธายิ่งขึ้น แล้ววิริยะก็มากขึ้นตาม
เป็นวงจรวนเวียนส่งเสริมกัน
........เมื่อสติปัฎฐาน๔บริบูรณ์ก็จะทำให้โพชฌงค์๗บริบูรณ์
เจริญโพชฌงค์ ๗ บริบูรณ์แล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้ว
อย่างนี้ชื่อว่าบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้ ฯ..........