สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์ การขอ refund ค่าตั๋วเครื่องบิน ที่จองผ่านเอเจนซี่นกสีฟ้านะคะ
ขอออกตัวก่อนเลยค่ะว่า ไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อตำหนิเอเจนซี่ หรือสายการบิน นะคะ ตั้งมาเพื่อแชร์ประสบการณ์เท่านั้นค่ะ
ขอเเบ่งเรื่องออกเป็น 3 ตอนนะคะ
ตอนที่1: กด refund (ความโลภบังตา)
- จขกท จะไปไต้หวันกับน้องสาวค่ะ จึงได้ทำการจองตั๋วไป-กลับ ไต้หวัน (BKK-TPE, TPE-BKK) ผ่านเอเจนซี่ ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนครึ่งค่ะ
โดยตั๋วเครื่องบินที่จองเป็นสายการบิน EVA air ราคาที่จองได้คือประมาณ 24,600 บาท (คนละ 12,300 บาท) ทำการชำระผ่านบัตรเดบิตค่ะ
- ตอนที่ตัดสินใจจอง คือ คอยเฝ้าดูราคาตั๋วเครื่องบินมาซักพักใหญ่ๆเลยค่ะ เห็นว่านิ่งมาก คงไม่ลดลงแล้ว เลยตัดสินใจซื้อ เพราะกังวลว่าถ้าปล่อยเวลานานไป ราคาจะแพงขึ้นค่ะ
- และต้องขอบอกก่อนว่า จขกท เคยไปต่างประเทศค่ะ แต่จองตรงกับสายการบินตลอด ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่จองผ่านเอเจนซี่
- ตอนที่จองไม่ได้สังเกตเงื่อนไขว่าเป็นการจองแบบ ขอคืนเงินไม่ได้ (Non-refunable)
- จนเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ไอโฟนแจ้งเตือนว่ามีตั๋วโปรลดราคาไปไต้หวันของสายการบินสิงโตแดง
- จขกท ก็ตาลุกวาวสิคะ เลยเข้าไปดูในแอพของสายการบินนี้ แล้วกดเลือกไฟลท์เพื่อดูราคารวม เจอว่าประมาณ 18,000 บาท (คนละ 9,000 บาท) ได้แต่แอบเสียดาย
- ทีนี้ มาถึงช่วงเวลาพีคๆแล้วค่ะ คือกดเข้าไปดูในแอพเอเจนซี่ ที่ได้จองตั๋วไปแล้ว พระเจ้า ความโลภบังตาค่ะ มองเห็นปุ่ม request refund
จขกท ขอสารภาพเลยค่ะว่า เห็นคำว่า Non-refunable ตัวเทาๆจางๆนะคะ แต่ก็คิดว่าลองกด request refund ดูหน่อยดีกว่า มันก็ขึ้นเงื่อนไขการขอคืนเงินมาให้อ่านค่ะ
- จขกท อ่านทุกข้อนะคะ มีข้อนึงเขียนว่า จะทำเรื่องคืนเงินภายใน 30 วัน เราก็คำนวณวันเวลาคร่าวๆ ก็น่าจะได้เงินคืนทันก่อนที่จะไปเที่ยว
มีช่องเหตุผลให้เลือกด้วยค่ะว่า ทำไมถึงขอคืนเงินค่าตั๋ว เราก็เลือกไปตามจริงค่ะว่า Self-cancellation
- กดยืนยันอะไรไปเรียบร้อย ก็มีอีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาว่า เราได้ทำการขอคืนเงินเรียบร้อยแล้ว ตั๋วบินที่จองไปถูกยกเลิกแล้ว ให้รอ 30 วัน
- อีกไม่ถึง 5 นาที ก็มีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาอีกว่า ตอนนี้เรื่องการขอคืนเงิน ทางสายการบินได้รับทราบแล้ว ให้รอตอบกลับ
- จขกท ยังไม่รู้ตัวค่ะว่าทำอะไรลงไป กำลังดีใจว่า ประหยัดเงินไปได้ตั้ง 6000 บาท
- คืนวันเดียวกันนั้น ก็กดจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินสิงโตแดงไปอย่างรวดเร็วเลยค่ะ
ตอนที่ 2: ได้สติ เเละได้เงินคืน
- สามสี่วันต่อมา มันรู้สึกว่าทำไมสายการบินช้าจัง อยากได้เงืนคืนแล้ว เลยเข้ามาหาข้อมูลการขอคืนตั๋วเครื่องบินในกระทู้พันทิป แล้วก็ถึงได้สติว่า ตัวเองทำอะไรลงไป จากที่หาดูมาประมาณสี่ห้ากระทู้ ไม่มีกระทู้ไหนได้เงินคืนเลยค่ะ บางรายได้คืนแค่ค่าภาษีสนามบิน มิหนำซ้ำ สาเหตุเค้าสมควรได้มากกว่าเราเยอะ ==! เริ่มเครียดแล้วค่ะ
- เลยตัดสินใจโทรหา คอลเซ็นเตอร์ของเอเจนซี่เลยค่ะ ถามเค้าว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว พนักงานคอลเซ็นเตอร์ตอบเราว่า เรื่องส่งไปที่สายการบินแล้ว ตอนนี้คือต้องรอทางสายการบินตัดสินใจว่าจะคืนหรือไม่ ให้รอประมาณ 30 วันทำการ
- เราเลยถามไปอีกว่า เราจะได้เงินคืนแน่ๆ มั้ยคะ พนักงานคอลเซ็นเตอร์ของเอเจนซี่ตอบเราว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะเงื่อนไขการจองตั๋วคือเป็นแบบ Non-refundable เราก็ขอบคุณแล้ววางสายค่ะ น้ำตาตกเลยค่ะ เครียดมาก คือในใจคิดไปแล้วว่า ไม่ได้คืนแน่ๆ เป็นเราเองที่กดขอคืนเงิน ไม่ได้ดูเงื่อนไขการจองตั๋วให้ดีๆ ร้องไห้อยู่นาน คิดว่าจะเอาเงินมาจากไหนไปเที่ยว โรงแรมก็จองไปแล้ว ไม่อยากยกเลิกทริปให้น้องผิดหวังด้วยค่ะ เพราะจะเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของน้อง เราเป็นคนซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายทุกอย่างตลอดทริปค่ะ
- จขกท ยังเป็นนักศึกษาอยู่นะคะ เงินที่เอาไปจองตั๋ว ไปเที่ยว เป็นเงินส่วนตัวของ จขกท ค่ะ เราก็เครียดมาก จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว สมัครสอนพิเศษไป คิดว่าจะขายตั๋วเครื่องบินให้ใครดี คิดเยอะไปหมดค่ะ
- ลองโทรหาสายการบิน EVA air เค้าก็บอกว่า ถ้าจองผ่านเอเจนซี่ เราต้องไปติดต่อเอเจนซี่ค่ะ เพราะเอเจนซี่จะทำหน้าที่ติดต่อกับสายการบิน
มันเครียดมากจริงๆค่ะ
- เลยตัดสินใจโทรหาแม่ เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง ซึ่งผิดคาดมากๆค่ะ ที่แม่ไม่ด่า แม่ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร ให้เป็นบทเรียนแล้วกันนะ
แม่ก็ถามว่ามีโอกาสได้คืนมั้ย จขกท ก็ตอบไปว่า ไม่แน่ใจเลย คือเหตุผลไม่น่าได้คืน แล้วถึงได้คืนก็ไม่น่าจะทันวันที่ไปเที่ยว แม่ก็ใจดีมาก บอกว่าจะให้เงินเราไปเที่ยวก่อนสองหมื่น เรารู้สึกโล่งใจนะคะ แต่ก็เสียใจที่ทำให้แม่ต้องมาเดือดร้อนช่วยออกเงินให้ก่อน แต่เราก็สัญญากับแม่ไปค่ะ ว่าถ้าหาเงินได้มา จะเอาไปคืนให้ครบ จขกท มีรายได้จากการสอนพิเศษและเงินเบิกจากคณะที่เรียนค่ะ ซึ่งทำเรื่องเบิกไปแล้วค่ะ พยายามทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งสติ แล้วก็สัญญากับตัวเองว่า คราวอื่นๆ จะไม่จองผ่านเอเจนซี่เด็ดขาด จะจองตรงกับสายการบิน แล้วก็จะตัดสินใจอย่างรอบคอบ
- หลังจากนั้นประมาณห้าวันได้ค่ะ มีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาว่า เราได้รับเงินคืนค่ะ รอธนาคารจ่ายเงินเข้าบัตรเครดิตเราภายใน 14 วัน ตอนนั้นคือดีใจมาก ที่คาอยู่ในใจมันไปหมดเลยค่ะ
- จขกท ได้เงินคืนมา 19000 บาท ทางเอเจนซี่หักค่าธรรมเนียมการขอคืนตั๋ว 300 บาท ได้คืนสุทธิ 18700 บาท
ตอนที่ 3: ความกังวลขั้นสุดท้าย
- เวลาผ่านไป 7 วัน เรายังไม่ได้เงิรคืนค่ะ เงินยังไม่เข้ามาในบัญชี เลยคิดว่ารออีก 7 วันเเล้วกัน ในเมลล์เอเจนซี่บอก 14 วันนี่นา
- ในใจก็เริ่มกังวลอีกรอบ นั่งคิดว่าทำไมช้าจัง ตอนตัดเงินนี่อย่างไวเลย อีกอย่างเอเจนซี่ขึ้นสถานะ refund complete เเล้วนะ ตอนนี้เรื่องน่าจะอยู่ที่ธนาคารสินะ
- เริ่มหาข้อมูลอีกแล้วค่ะ ว่าทำไมเงิน refund จากการตัดผ่านบัตรเดบิต ของธนาคารสีฟ้าถึงได้ช้า
- เเละเเล้วก็ถึงบางอ้อ เลยค่าาาาาาา คือจากที่พนักงานของธนาคารสีฟ้าให้คำตอบไว้ในกระทู้พันทิปอันนึง เค้าตอบว่าต้องรอเงินจากทาง VISA ประมาณ 45-60 วัน เเม่เจ้าาาาาา เเล้วเราจะเอาเงินไนไปเที่ยว
- ตอนนั้นตีสามเเล้วค่ะ นั่งหาข้อมูลอย่างบ้าคลั่ง เเละก็เจอว่าคอลเซนเตอร์ธนาคาร 24 ชั่วโมง ก็โทรเลยค่ะ เเล้วก็ถามว่ามีเงิน refund เข้ามาบ้างมั้ยคะ
- พนง ก็ถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อยืนยันตัวตน เเล้วเช็คให้ค่ะ เค้าถามว่าจ่ายเงินออกไปวันไหน จำนวนกี่บาท ไอเราก็จำไม่ค่อยได้ เลยบอกวันที่แบบประมาณไป พนงก็บอกไม่เจอข้อมูลนั้น เถียงกันอยู่นาน เราเลยเปิดอีเมลล์เลยค่ะ เจอวันที่จ่ายเงิน เท่านั้นแหล่ะค่ะ พนง บอกว่าเจอยอดเเล้ว ==! เล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด
- พนง บอกว่าให้ส่งรายละเอียดการจ่ายเงิน, การขอ refund, เอกสารยืนยันจากเอเจนซี่ ว่าได้ทำการคืนเงินให้เราเรียบร้อยเเล้ว ไปที่อีเมลล์ของธนาคาร เเล้วให้รอการดำเนินการประมาณ 7-30 วัน
- เราก็จัดการส่งให้ตอนนั้นเลยค่ะ วันนั้นเป็นวันเสาร์ ตั้งใจว่าวันจันทร์จะไปธนาคาร จะถามอีกรอบว่าเรื่องไปถึงไหนเเล้ว จุดนี้คือยังไงก็ต้องได้เงินให้ทันก่อนไปเที่ยว ไม่งั้นเเย่เเน่ๆ
- เช้าวันจันทร์ที่รอคอยมาถึง รีบไปธนาคารเเต่เช้า พนง ที่ธนาคารบอกว่ารับเรื่องไว้เเล้ว เเต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องดำเนินการถึงไหน
- เราก็ไม่ยอมเเพ้ค่ะ โทรหาคอลเซนเตอร์ธนาคาร เราบอกไปว่าส่งอีเมลล์หลักฐานทุกอย่างไปแล้วนะ เค้าก็ตอบเหมือนกันเลยค่ะว่า รับเรื่องไว้เเล้ว เราเลยถามต่อว่า เอกสารที่ส่งไปทางอีเมลล์เพียงพอมั้ยคะ พนง ถามว่าอีเมลล์เราคืออะไร พอบอกไปเท่านั้นแหล่ะ ==! อุทานในใจว่า นี่มันเวรกกรรมอะไรของตรูเนี่ยยยยยย
- พนง เเจ้งว่ายังไม่ได้รับอีเมลล์ ฮือออออออออออ พนง บอกให้เราส่งอีเมลล์มาใหม่ เเจ้งอีเมลล์ธนาคารใหม่ เราก็จดไว้
- เราไปเช็คในอีเมลล์เราค่ะ คือมันขึ้นว่าส่งเเล้ว เเละอีเมลล์ธนาคารที่ส่งไป มันไม่ผิดด้วย
- เราก็ส่งอีเมลล์ไปอีกรอบค่ะ เเล้วโทรเช็คกับคอลเซนเตอร์ธนาคารอีกรอบด้วย พนง ก็บอกว่าได้รับอีเมลล์เรียบร้อยนะคะ ให้รอ 7-30 วัน
- เราได้เเต่ภาวนาว่า ขอให้ได้เงินเร็วๆ ด้วยเทิ้ดดดด จะจำบทเรียนนี้ไปจนวันตาย 55555
- บราโว่ๆๆๆๆๆ วันรุ่งขึ้น เงินเข้าบัญชีเลยค่ะ ==! ทำไมไม่บอกตรูเเต่เเรกว่า ส่งหลักฐานเเล้วมันจะเร็วขึ้น
สุดท้ายอยากจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เจอมาในอินเทอร์เน็ตและที่เจอเอง เกี่ยวกับการขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน แบบเป็นข้อๆ นะคะ
1. อ่านเงื่อนไขก่อนกดจองให้ดีค่ะ ขอคืนเงินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ให้พิจารณาวันเดินทางให้รอบคอบค่ะ ท่องไว้ว่าง จองไปแล้วขอคืนเงินยาก และจะวุ่นวายใจมากๆ
2. เปอร์เซ็นต์การได้คืนของสายการบิน low cost หรือตั๋วราคาโปรโมชั่น จะน้อยมากๆ จนถึงถึงไม่ได้คืนค่ะ
3. ถ้าจองโดยตรงกับสายการบิน ให้ศึกษาเงื่อนไขทุกอย่างดีๆ ค่ะ เผื่อกรณีที่เราจะขอเงินคืน จะได้ไม่ตกใจ และประเมินได้คร่าวๆ ว่าจะได้คืนหรือไม่
4. ถ้าจะเดินทางไปประเทศที่ต้องขอวีซ่า อย่าจองตั๋วเครื่องบินก่อนได้วีซ่าเด็ดขาด
5. ส่งหลักฐานการขอคืนเงินสำเร็จ ทุกอย่างให้กับธนาคาร จะทำให้ได้เงินคืนเร็วขึ้นค่ะ (จขกท ไม่เเน่ใจนะคะ ถ้าเป็นบัตรเครดิต อาจจะได้ไวกว่า เเต่ก็ไม่น่าจะได้เป็นเงินสด เท่าที่อ่านรีวิวมา จะได้เป็นวงเงินไว้รูดใช้จ่ายผ่านบัตรค่ะ)
6. ข้อเสียของบัตรเดบิต คือ การขอคืนเงิน นี่แหล่ะค่ะ ที่จะได้ช้ามากๆๆๆๆๆๆๆ
7. อย่าให้ความโลภบังตาค่ะ ตั้งสติ และตัดสินใจอย่างรอบคอบนะคะ
เรื่องทั้งหมดที่อยากจะแชร์ก็มีเท่านี้ค่ะ เผื่อใครหลงทำแบบเรา ก็อยากจะให้ความหวังว่าจะได้เงินคืนบ้างซักกระทู้ค่ะ
[CR] รีวิว การขอ refund ตั๋วเครื่องบินผ่านเอเจนซี่
ขอออกตัวก่อนเลยค่ะว่า ไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อตำหนิเอเจนซี่ หรือสายการบิน นะคะ ตั้งมาเพื่อแชร์ประสบการณ์เท่านั้นค่ะ
ขอเเบ่งเรื่องออกเป็น 3 ตอนนะคะ
ตอนที่1: กด refund (ความโลภบังตา)
- จขกท จะไปไต้หวันกับน้องสาวค่ะ จึงได้ทำการจองตั๋วไป-กลับ ไต้หวัน (BKK-TPE, TPE-BKK) ผ่านเอเจนซี่ ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนครึ่งค่ะ
โดยตั๋วเครื่องบินที่จองเป็นสายการบิน EVA air ราคาที่จองได้คือประมาณ 24,600 บาท (คนละ 12,300 บาท) ทำการชำระผ่านบัตรเดบิตค่ะ
- ตอนที่ตัดสินใจจอง คือ คอยเฝ้าดูราคาตั๋วเครื่องบินมาซักพักใหญ่ๆเลยค่ะ เห็นว่านิ่งมาก คงไม่ลดลงแล้ว เลยตัดสินใจซื้อ เพราะกังวลว่าถ้าปล่อยเวลานานไป ราคาจะแพงขึ้นค่ะ
- และต้องขอบอกก่อนว่า จขกท เคยไปต่างประเทศค่ะ แต่จองตรงกับสายการบินตลอด ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่จองผ่านเอเจนซี่
- ตอนที่จองไม่ได้สังเกตเงื่อนไขว่าเป็นการจองแบบ ขอคืนเงินไม่ได้ (Non-refunable)
- จนเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ไอโฟนแจ้งเตือนว่ามีตั๋วโปรลดราคาไปไต้หวันของสายการบินสิงโตแดง
- จขกท ก็ตาลุกวาวสิคะ เลยเข้าไปดูในแอพของสายการบินนี้ แล้วกดเลือกไฟลท์เพื่อดูราคารวม เจอว่าประมาณ 18,000 บาท (คนละ 9,000 บาท) ได้แต่แอบเสียดาย
- ทีนี้ มาถึงช่วงเวลาพีคๆแล้วค่ะ คือกดเข้าไปดูในแอพเอเจนซี่ ที่ได้จองตั๋วไปแล้ว พระเจ้า ความโลภบังตาค่ะ มองเห็นปุ่ม request refund
จขกท ขอสารภาพเลยค่ะว่า เห็นคำว่า Non-refunable ตัวเทาๆจางๆนะคะ แต่ก็คิดว่าลองกด request refund ดูหน่อยดีกว่า มันก็ขึ้นเงื่อนไขการขอคืนเงินมาให้อ่านค่ะ
- จขกท อ่านทุกข้อนะคะ มีข้อนึงเขียนว่า จะทำเรื่องคืนเงินภายใน 30 วัน เราก็คำนวณวันเวลาคร่าวๆ ก็น่าจะได้เงินคืนทันก่อนที่จะไปเที่ยว
มีช่องเหตุผลให้เลือกด้วยค่ะว่า ทำไมถึงขอคืนเงินค่าตั๋ว เราก็เลือกไปตามจริงค่ะว่า Self-cancellation
- กดยืนยันอะไรไปเรียบร้อย ก็มีอีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาว่า เราได้ทำการขอคืนเงินเรียบร้อยแล้ว ตั๋วบินที่จองไปถูกยกเลิกแล้ว ให้รอ 30 วัน
- อีกไม่ถึง 5 นาที ก็มีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาอีกว่า ตอนนี้เรื่องการขอคืนเงิน ทางสายการบินได้รับทราบแล้ว ให้รอตอบกลับ
- จขกท ยังไม่รู้ตัวค่ะว่าทำอะไรลงไป กำลังดีใจว่า ประหยัดเงินไปได้ตั้ง 6000 บาท
- คืนวันเดียวกันนั้น ก็กดจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินสิงโตแดงไปอย่างรวดเร็วเลยค่ะ
ตอนที่ 2: ได้สติ เเละได้เงินคืน
- สามสี่วันต่อมา มันรู้สึกว่าทำไมสายการบินช้าจัง อยากได้เงืนคืนแล้ว เลยเข้ามาหาข้อมูลการขอคืนตั๋วเครื่องบินในกระทู้พันทิป แล้วก็ถึงได้สติว่า ตัวเองทำอะไรลงไป จากที่หาดูมาประมาณสี่ห้ากระทู้ ไม่มีกระทู้ไหนได้เงินคืนเลยค่ะ บางรายได้คืนแค่ค่าภาษีสนามบิน มิหนำซ้ำ สาเหตุเค้าสมควรได้มากกว่าเราเยอะ ==! เริ่มเครียดแล้วค่ะ
- เลยตัดสินใจโทรหา คอลเซ็นเตอร์ของเอเจนซี่เลยค่ะ ถามเค้าว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว พนักงานคอลเซ็นเตอร์ตอบเราว่า เรื่องส่งไปที่สายการบินแล้ว ตอนนี้คือต้องรอทางสายการบินตัดสินใจว่าจะคืนหรือไม่ ให้รอประมาณ 30 วันทำการ
- เราเลยถามไปอีกว่า เราจะได้เงินคืนแน่ๆ มั้ยคะ พนักงานคอลเซ็นเตอร์ของเอเจนซี่ตอบเราว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะเงื่อนไขการจองตั๋วคือเป็นแบบ Non-refundable เราก็ขอบคุณแล้ววางสายค่ะ น้ำตาตกเลยค่ะ เครียดมาก คือในใจคิดไปแล้วว่า ไม่ได้คืนแน่ๆ เป็นเราเองที่กดขอคืนเงิน ไม่ได้ดูเงื่อนไขการจองตั๋วให้ดีๆ ร้องไห้อยู่นาน คิดว่าจะเอาเงินมาจากไหนไปเที่ยว โรงแรมก็จองไปแล้ว ไม่อยากยกเลิกทริปให้น้องผิดหวังด้วยค่ะ เพราะจะเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของน้อง เราเป็นคนซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายทุกอย่างตลอดทริปค่ะ
- จขกท ยังเป็นนักศึกษาอยู่นะคะ เงินที่เอาไปจองตั๋ว ไปเที่ยว เป็นเงินส่วนตัวของ จขกท ค่ะ เราก็เครียดมาก จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว สมัครสอนพิเศษไป คิดว่าจะขายตั๋วเครื่องบินให้ใครดี คิดเยอะไปหมดค่ะ
- ลองโทรหาสายการบิน EVA air เค้าก็บอกว่า ถ้าจองผ่านเอเจนซี่ เราต้องไปติดต่อเอเจนซี่ค่ะ เพราะเอเจนซี่จะทำหน้าที่ติดต่อกับสายการบิน
มันเครียดมากจริงๆค่ะ
- เลยตัดสินใจโทรหาแม่ เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง ซึ่งผิดคาดมากๆค่ะ ที่แม่ไม่ด่า แม่ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร ให้เป็นบทเรียนแล้วกันนะ
แม่ก็ถามว่ามีโอกาสได้คืนมั้ย จขกท ก็ตอบไปว่า ไม่แน่ใจเลย คือเหตุผลไม่น่าได้คืน แล้วถึงได้คืนก็ไม่น่าจะทันวันที่ไปเที่ยว แม่ก็ใจดีมาก บอกว่าจะให้เงินเราไปเที่ยวก่อนสองหมื่น เรารู้สึกโล่งใจนะคะ แต่ก็เสียใจที่ทำให้แม่ต้องมาเดือดร้อนช่วยออกเงินให้ก่อน แต่เราก็สัญญากับแม่ไปค่ะ ว่าถ้าหาเงินได้มา จะเอาไปคืนให้ครบ จขกท มีรายได้จากการสอนพิเศษและเงินเบิกจากคณะที่เรียนค่ะ ซึ่งทำเรื่องเบิกไปแล้วค่ะ พยายามทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งสติ แล้วก็สัญญากับตัวเองว่า คราวอื่นๆ จะไม่จองผ่านเอเจนซี่เด็ดขาด จะจองตรงกับสายการบิน แล้วก็จะตัดสินใจอย่างรอบคอบ
- หลังจากนั้นประมาณห้าวันได้ค่ะ มีเมลล์จากเอเจนซี่เข้ามาว่า เราได้รับเงินคืนค่ะ รอธนาคารจ่ายเงินเข้าบัตรเครดิตเราภายใน 14 วัน ตอนนั้นคือดีใจมาก ที่คาอยู่ในใจมันไปหมดเลยค่ะ
- จขกท ได้เงินคืนมา 19000 บาท ทางเอเจนซี่หักค่าธรรมเนียมการขอคืนตั๋ว 300 บาท ได้คืนสุทธิ 18700 บาท
ตอนที่ 3: ความกังวลขั้นสุดท้าย
- เวลาผ่านไป 7 วัน เรายังไม่ได้เงิรคืนค่ะ เงินยังไม่เข้ามาในบัญชี เลยคิดว่ารออีก 7 วันเเล้วกัน ในเมลล์เอเจนซี่บอก 14 วันนี่นา
- ในใจก็เริ่มกังวลอีกรอบ นั่งคิดว่าทำไมช้าจัง ตอนตัดเงินนี่อย่างไวเลย อีกอย่างเอเจนซี่ขึ้นสถานะ refund complete เเล้วนะ ตอนนี้เรื่องน่าจะอยู่ที่ธนาคารสินะ
- เริ่มหาข้อมูลอีกแล้วค่ะ ว่าทำไมเงิน refund จากการตัดผ่านบัตรเดบิต ของธนาคารสีฟ้าถึงได้ช้า
- เเละเเล้วก็ถึงบางอ้อ เลยค่าาาาาาา คือจากที่พนักงานของธนาคารสีฟ้าให้คำตอบไว้ในกระทู้พันทิปอันนึง เค้าตอบว่าต้องรอเงินจากทาง VISA ประมาณ 45-60 วัน เเม่เจ้าาาาาา เเล้วเราจะเอาเงินไนไปเที่ยว
- ตอนนั้นตีสามเเล้วค่ะ นั่งหาข้อมูลอย่างบ้าคลั่ง เเละก็เจอว่าคอลเซนเตอร์ธนาคาร 24 ชั่วโมง ก็โทรเลยค่ะ เเล้วก็ถามว่ามีเงิน refund เข้ามาบ้างมั้ยคะ
- พนง ก็ถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อยืนยันตัวตน เเล้วเช็คให้ค่ะ เค้าถามว่าจ่ายเงินออกไปวันไหน จำนวนกี่บาท ไอเราก็จำไม่ค่อยได้ เลยบอกวันที่แบบประมาณไป พนงก็บอกไม่เจอข้อมูลนั้น เถียงกันอยู่นาน เราเลยเปิดอีเมลล์เลยค่ะ เจอวันที่จ่ายเงิน เท่านั้นแหล่ะค่ะ พนง บอกว่าเจอยอดเเล้ว ==! เล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด
- พนง บอกว่าให้ส่งรายละเอียดการจ่ายเงิน, การขอ refund, เอกสารยืนยันจากเอเจนซี่ ว่าได้ทำการคืนเงินให้เราเรียบร้อยเเล้ว ไปที่อีเมลล์ของธนาคาร เเล้วให้รอการดำเนินการประมาณ 7-30 วัน
- เราก็จัดการส่งให้ตอนนั้นเลยค่ะ วันนั้นเป็นวันเสาร์ ตั้งใจว่าวันจันทร์จะไปธนาคาร จะถามอีกรอบว่าเรื่องไปถึงไหนเเล้ว จุดนี้คือยังไงก็ต้องได้เงินให้ทันก่อนไปเที่ยว ไม่งั้นเเย่เเน่ๆ
- เช้าวันจันทร์ที่รอคอยมาถึง รีบไปธนาคารเเต่เช้า พนง ที่ธนาคารบอกว่ารับเรื่องไว้เเล้ว เเต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องดำเนินการถึงไหน
- เราก็ไม่ยอมเเพ้ค่ะ โทรหาคอลเซนเตอร์ธนาคาร เราบอกไปว่าส่งอีเมลล์หลักฐานทุกอย่างไปแล้วนะ เค้าก็ตอบเหมือนกันเลยค่ะว่า รับเรื่องไว้เเล้ว เราเลยถามต่อว่า เอกสารที่ส่งไปทางอีเมลล์เพียงพอมั้ยคะ พนง ถามว่าอีเมลล์เราคืออะไร พอบอกไปเท่านั้นแหล่ะ ==! อุทานในใจว่า นี่มันเวรกกรรมอะไรของตรูเนี่ยยยยยย
- พนง เเจ้งว่ายังไม่ได้รับอีเมลล์ ฮือออออออออออ พนง บอกให้เราส่งอีเมลล์มาใหม่ เเจ้งอีเมลล์ธนาคารใหม่ เราก็จดไว้
- เราไปเช็คในอีเมลล์เราค่ะ คือมันขึ้นว่าส่งเเล้ว เเละอีเมลล์ธนาคารที่ส่งไป มันไม่ผิดด้วย
- เราก็ส่งอีเมลล์ไปอีกรอบค่ะ เเล้วโทรเช็คกับคอลเซนเตอร์ธนาคารอีกรอบด้วย พนง ก็บอกว่าได้รับอีเมลล์เรียบร้อยนะคะ ให้รอ 7-30 วัน
- เราได้เเต่ภาวนาว่า ขอให้ได้เงินเร็วๆ ด้วยเทิ้ดดดด จะจำบทเรียนนี้ไปจนวันตาย 55555
- บราโว่ๆๆๆๆๆ วันรุ่งขึ้น เงินเข้าบัญชีเลยค่ะ ==! ทำไมไม่บอกตรูเเต่เเรกว่า ส่งหลักฐานเเล้วมันจะเร็วขึ้น
สุดท้ายอยากจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เจอมาในอินเทอร์เน็ตและที่เจอเอง เกี่ยวกับการขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน แบบเป็นข้อๆ นะคะ
1. อ่านเงื่อนไขก่อนกดจองให้ดีค่ะ ขอคืนเงินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ให้พิจารณาวันเดินทางให้รอบคอบค่ะ ท่องไว้ว่าง จองไปแล้วขอคืนเงินยาก และจะวุ่นวายใจมากๆ
2. เปอร์เซ็นต์การได้คืนของสายการบิน low cost หรือตั๋วราคาโปรโมชั่น จะน้อยมากๆ จนถึงถึงไม่ได้คืนค่ะ
3. ถ้าจองโดยตรงกับสายการบิน ให้ศึกษาเงื่อนไขทุกอย่างดีๆ ค่ะ เผื่อกรณีที่เราจะขอเงินคืน จะได้ไม่ตกใจ และประเมินได้คร่าวๆ ว่าจะได้คืนหรือไม่
4. ถ้าจะเดินทางไปประเทศที่ต้องขอวีซ่า อย่าจองตั๋วเครื่องบินก่อนได้วีซ่าเด็ดขาด
5. ส่งหลักฐานการขอคืนเงินสำเร็จ ทุกอย่างให้กับธนาคาร จะทำให้ได้เงินคืนเร็วขึ้นค่ะ (จขกท ไม่เเน่ใจนะคะ ถ้าเป็นบัตรเครดิต อาจจะได้ไวกว่า เเต่ก็ไม่น่าจะได้เป็นเงินสด เท่าที่อ่านรีวิวมา จะได้เป็นวงเงินไว้รูดใช้จ่ายผ่านบัตรค่ะ)
6. ข้อเสียของบัตรเดบิต คือ การขอคืนเงิน นี่แหล่ะค่ะ ที่จะได้ช้ามากๆๆๆๆๆๆๆ
7. อย่าให้ความโลภบังตาค่ะ ตั้งสติ และตัดสินใจอย่างรอบคอบนะคะ
เรื่องทั้งหมดที่อยากจะแชร์ก็มีเท่านี้ค่ะ เผื่อใครหลงทำแบบเรา ก็อยากจะให้ความหวังว่าจะได้เงินคืนบ้างซักกระทู้ค่ะ