สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการเปลี่ยนชีวิตตตตตต กับการเทรนออนไลน์ค่ะ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องต้องบอกว่านี่เป็นกระทู้เเรกในชีวิตเลยค่ะ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่ะ 555
---- ต้องเล่าก่อนค่ะว่าจขกท. เป็นคนที่อ้วนมาตั้งเเต่เด็กๆค่ะ คือ ตั้งเเต่ป.4 ใส่กระโปรงเอี้ยม ตัวก็เเน่นมากเเล้ว 555 ที่พีคสุดๆคือตอน ม.1 ค่ะ เรา นน.ปาเข้าไป 83 กก.!!! ตอนนั้นเรามีความสุขกับการกินมาก กินมันทุกอย่างคะ เครป โรตี หมูปิ้ง โตเกียว ขนมหน้าโรงเรียน ไม่มีพลาดค่ะ จนกระทั่ง ตอนที่เเม่บอกเราว่า เราอ้วนเกินไปเเล้วนะ ต้องลด นน. ได้เเล้ว ไม่งั้นจะไม่มีทางผอมไปตลอดชีวิต เเล้วเเบบนี้ตอน ม.4 จะใส่ชุด ม.ปลายได้ยังไง (ชุด ม.ปลายรร.เรามันเป็นชุดเชิ้ตขาวเเขนยาว ผูกไทด์ กระโปรงเอวสูงสี น้ำเงินค่ะ อึดอัดสุด)
ตอนนั้นเราเลยคิดว่า เออจริง อย่างงี้เราต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว ไม่งั้น อ้วนมากกว่านี้ไม่น่าจะดี เราเลยเริ่มต้นเส้นทางการลดน้ำหนัก ตอนนั้นคะ คือตอนนั้นเรายังเด็กมาก สิ่งที่เราคิดตอนนั้นคือ มีคนบอกว่า อดเข้าเย็นสิ ออกกำลังกายสิ กินผลไม้สิ ไม่อ้วน กินๆเข้าไปเถอะ เอาเข็มขัดรัดเอวสิจะได้มีเอวงี้ กินชาชงๆที่ทำให้ระบายสิ เราก็เลยตัดสินใจโอเค เรามาเริ่มกันเถอะ
เราเริ่มเลยกับการกินผลไม้ทั้งวัน ไม่กินอย่างอื่นเลย เรากินพวกส้ม เเตงโม ฝรั่ง เเอ๊บเปิ้ล กินมันทั้งวันค่ะ เเทนข้าวกันเลยทีเดียว พอสามวันผ่านไป เราไปช่าง นน. ถึงขั้นตกใจ เห้ยยยลดไป 3 โลใน 3 วัน!!! เราก็เริ่มมีกำลังใจลดต่อ เเต่ตอนนั้นคือ ไม่ไหวเเล้วกินผลไม้ไม่ไหวเเล้วมันเบื่อมาก เราก็เริ่มกลับมากินข้าว สิ่งที่ได้กลับมาคือไม่นาน นน.มันก็ค่อยๆกลับมา (พอโตมาเเล้วหันกลับไปดู ไม่น่าเลย ผลไม้น้ำตาลทั้งนั้น สารอาหารก็ไม่ครบ วิธีนี้ไม่ไหว)
พอเวลาผ่านไปเรื่อย หลังจากที่เราเริ่มปรับการกินมาเรื่อยๆ เลี่ยงการกินมันๆ กินปริมาณข้าวที่น้อยลงมันก็เริ่มลดลง เราเริ่มมีการออกกำลังกาย มากขึ้น จากที่ไม่เคยออก เเต่มันก็ไม่ได้ออกเยอะ ทำให้ นน ก็ขึ้นๆลงๆมาตลอด จนกระทั้ง ณ ตอนนั้นเราผอมสุดในชีวิตคือ นน. 68 กก. ค่ะ
พอเข้ามหาลัย เริ่มไม่มีเวลา เริ่มมีเพื่อนชวนกินมาขึ้น งานเยอะไม่ได้ออกกำลังกาย ชีวิตเริ่ม นน. ขึ้นๆลง 72 กก. บ้าง 69 กก. บ้าง นน. มันไม่คงที่จริงๆ
พอเริ่มมาทำงาน เราก็เริ่มที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการกินมากขึ้น ความเครียดเริ่มมาก็เลยทำให้ ช่างมัน จะกิน เครียด!! มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นการกลับมาของ ความอ้วนนนนน นน. ทะยานพุ่งไป 75 กก. กระโปรงทำงานเริ่มใส่ไม่ได้ เสื้อเริ่มฟิต แขนขาใหญ่ขึ้นๆ เนื้อหลังนี่ไม่ต้องบรรยาย โอ้ยยยยย
ตอนนั้นเราก็เลยไปสมัครฟิตเนสเเถวบ้าน เราก็ไม่มีไอเดียเลยว่าเราควรจะเล่นอะไรยังไง เราก็วิ่งลู่เลยค่ะ พอมีเทรนเนอร์มาเเนะนำ ก็กั๊กๆ จะขายของตลอด เราก็เลยคิดว่าจะซื้อเเบบเหมาสักเดือนนึงก็น่าจะเล่นเป็นเเล้ว ค่อยมาเล่นต่อเอง ราคาเเพงพอตัว พี่ชายเราเลยบอกว่า เห้ยทำไมไม่ลองเทรนออนไลน์ดูอะ เค้าก็เลยส่งเพจให้ดู พอเราดูก็เห็นว่า มีคนเทรนเยอะเเล้วก็ลดไปได้เยอะ เเล้วคิดว่าเป็นผู้หญิงมาเทรนน่าจะเข้าใจกันได้ดีกว่า(ฟิตเนสที่ไปสมัครมีเเต่ เทรนเนอร์ที่เป็นผู้ชาย เป็นเด็กจบใหม่ด้วย) ก็เลยคิดว่าเออเอาวะ ลองดูเเล้วกัน
------ ก่อนที่จะเริ่มการเทรน เทรนเนอร์จะมีการสอบถามข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อยค่ะ จะเป็นคำถามทั่วๆไป ว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นยังไงเเล้วจุดประสงค์ของเราคืออะไร เราจริงจังมากเเค่ไหน เรื่องจริงจรังเทรนเนอร์เค้าให้ความสำคัญมากๆค่ะ เพราะว่าถ้าเราไม่จริงจัง เเค่อยากลอง ทำบ้างไม่ทำบ้างมันจะไม่เห็นผลค่ะ เทรนเนอร์ต้องการให้ได้ผลที่ดีที่สุดเกิดขึ้นกับผู้เทรนค่ะ
------ เริ่มจากการออกกำลังกายก่อน
ตารางที่เทรนเนอร์ให้มาคือเป็นตารางการออกกำลังกายที่สามารถทำเองได้ที่บ้านค่ะ โดยที่ใช้อุปกรณืคือ เสื่อโยคะ เเละดัมเบล เท่านั้น มันเป็นอะไรที่โอเคมากสำหรับเรา เพราะว่าเราเป็นคนที่ชอบอยู่บ้านออกกำลังกายมากกว่า ขี้เกียจเดินทางไปฟิตเนสคะ
ท่าที่เทรนเนอร์ให้มาก็จะเป็นพวกbody weight เเละ weight lifting ค่ะ ซึ่งจะมีการผสมกับการcardio ร่วมด้วย โดยท่าระดับความยากง่าย เค้าจะปรับให้เข้ากับตัวบุคคลนั้นๆคะ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง เเละ ความต้องการของเเต่ละคน รวมถึงอาการบาดเจ็บที่ คนเทรนอาจจะเป็นอยู่ด้วย เช่น เจ็บเข่า หรือ ปวดหลัง เทรนเนอร์ก็จะเลือกท่าที่ผู้เทรนนั้นๆสามารถออกได้ค่ะ โดนก่อนเทรน เค้าจะถามก่อนค่ะว่า มีปัญหาสุขภาพอะไรไหม เเล้วจุดประสงค์คืออะไร ไลฟ์สไตล์เป็ยยังไง ทำงานกี่โมงเลิกกี่โมงบลาๆ วันๆ เเอคทีฟขนาดไหน ประมาณนั้นคะ โดยตารางที่เราได้คือเราต้องออกกำลังกาย ปรมาณ 5 วันต่ออาทิตย์เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดค่ะ เทรนเนอร์จะมีตารางออกกำลังกายมาให้ 2 ตาราง ใช้สองอาทิตย์ค่ะ ออกสลับกัน เเละเมื่อมีการถ่ายรูปออกกำลังกายอีกทีจะมีการเปลี่ยนตารางใหม่ให้ค่ะ ท่าไหนทำได้ไม่ได้ หรือติดปัญหาอะไรสามารถถามได้ตลอดค่ะ ชอบมาก เพราะบางท่าเราก็ไม่เเน่ใจว่ามันทำยังไง เค้าจะสาธิตทำให้เราดูคะ
------- เรื่องอาหารการกิน
เทรนเนอร์ก็จะศึกษาพฤษติกรรมการกินเเละใช้ชีวิตของผู้สนใจมาเทรนก่อนว่า วันๆกินอะไรบ้าง กินชานม กาเเฟ เครื่องดื่ม แอลกอฮอร์ไหมเเต่ละวัน เเล้วอาหารสามมื้อเมนูส่วนใหญ่ที่จะกินคืออะไร รวมกระทั่งถึงเวลาการกินในเเต่ละมื้อค่ะ เพื่อที่จะสามารถเเนะนำเราได้ถูกว่า เราควรจะปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหนดี
เทรนเนอร์จะมีตารางอาหารให้ค่ะ ว่ามื้อไหนกินอะไรดี เราเเทบไม่ต้องคิดอะไรเลยค่ะ ชอบมากเลยตรงนี้ เเต่บางทีเราก็ไม่ได้ทำตามตาราง โดยทางเทรนเนอร์ก็จะบอกค่ะว่า กินอะไรบ้าง เนื้อสัตว์เท่าไหร่ ผักเท่าไหร่ คาร์บเท่าไหร่ เราก็สามารถทำเมนูที่เราอยากกินได้ เทรนเนอร์ใส่ใจในเรื่องอาหารมากค่ะ โดยที่เค้าย้ำเสมอว่า กินดี ร่างกายก็จะดี ออกกำลังกายมันเป็นเเค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เเต่การกินอาหารที่ดี เป็นสิ่งหลักที่ควรจะทำ โดยความใส่ใจนี้ เทรนเนอร์จะให้ส่งรูปอาหารที่เรากินทั้งวันให้เค้าเช็คตอนเย็นเสมอคะ โดย กฎก็คือ " โตไปไม่โกง" กินอะไรไปส่งรูปมาซะดีๆ 555 เเล้วเทรนเนอร์ก็จะสามารถเเนะนำได้ค่ะว่าเราควรกินหรือไม่ควรกินอะไร ชอบค่ะ ตรงดี ข้างล่างคือตัวอย่างอาหารที่เรากินคะ (แบ่งกินสองมื้อค่ะ)
----- พอทำได้สักระยะนึง มันเห็นผลจริงๆค่ะ เราเองก็เเทบไม่เชื่อว่า เราก็สามารถทำได้เหมือนกัน สัดส่วนที่เราไม่ชอบมากที่สุดเเล้วต้องการจะเอาออกอย่างด่วนๆ คือเนื้อที่หลังคะ เเล้วมันน่าตกใจมาก เพราะว่าเห็นผลจริงๆ ตอนนี้คือ นน.เราจาก 75 ลดลงเหลือ 60 กก.ค่ะ สัดส่วนลดลงตามนี้คะ
ต้นเเขน ลดลง 2.8 นิ้ว ( จาก 13" เป็น 10.2")
เอว ลดลง 4.5 นิ้ว ( จาก 31.5" เป็น 27")
สะโพก ลดลง 4.5 นิ้ว ( จาก 39.5" เป็น 35")
ต้นขา ลดลง 3 นิ้ว ( จาก 23.5" เป็น 20.5")
-----
ความประทับใจเเละสิ่งที่ได้รับ
คือจากคนที่อ้วนมาตลอด หลังจากได้เทรนกับเทรนเนอร์คนนี้ เเล้วเรารู้สึกว่า ชีวิตเราเปลี่ยนไป จากคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องการกินเลย กินมันทุกอย่าง ตอนนี้เรามีทัศนคติกับพฤติกรรมการกินของเรามากขึ้น ไม่ใช่ว่าพอเราเลิกลดเเล้ว เราจะกลับไปใช้ชีวิตเเบบเดิม ตอนนี้เราก็ยังใช้ชีวิตระวังเรื่องการกิน ต้องกินให้ครบห้าหมู่ ควบคุมปริมาณการกิน เเละออกกำลังกายสม่ำเสมอ เเละมีเป้าหมายที่จะให้พัฒนาตัวเองให้เเข็งเเรงมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งเเต่เริ่มควบคุมการกินเเละออกกำลังกายมา มันทำให้เรารู้สึกเเข็งเเรงขึ้น เราไม่เป็นหวัดเลย ไม่เเน่ใจว่าเกี่ยวกับรึเปล่า 555 เเต่โดยรวมเเล้วร่างกายเราเเข็งเเรงมากขึ้น มีกล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น อันนี้เป็นจุดประสงค์หลักของเราเลยค่ะ เราเป็นคนเนื้อนิ่มมาก กล้ามเนื้อน้อยจริงๆ ไขมันเป็นกอบเป็นกำ พอมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตรงไหนก็ตาม เช่น ขา เเขน ท้อง มันทำให้ เรารู้สึกว่าทำอะไรได้ง่ายขึ้น เช่นการขึ้นบันได เมื่อก่อนขึ้นเเล้วเมื่อยขามาก เเละมีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อย ตอนนี้เฉยๆ หรือการออกกำลังกายสามารถทำได้อย่างอึดขึ้น มันทำให้รู้สึกสนุก ในการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะว่าเราทำได้เต็มที่มากขึ้น
เราถือว่าสิ่งที่เราได้มามันคุ้มค่ามากๆค่ะ เรื่องสุขภาพนี่คือที่หนึ่งที่จริง ในสิ่งที่เราได้มา รูปร่างที่ดีขึ้นเราถือว่ามันเป็นผลพลอยได้ค่ะ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนี้จะมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณเทรนเนอร์จริงๆ ไม่งั้นป่านนี้คงกลมกลิ้งไปถึงไหนเเล้ว 5555
รีวิว เทรนเนอร์ออนไลน์ กับการเปลี่ยนชีวิต ของคนที่อ้วนเเต่เด็ก
ก่อนที่จะเข้าเรื่องต้องบอกว่านี่เป็นกระทู้เเรกในชีวิตเลยค่ะ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่ะ 555
---- ต้องเล่าก่อนค่ะว่าจขกท. เป็นคนที่อ้วนมาตั้งเเต่เด็กๆค่ะ คือ ตั้งเเต่ป.4 ใส่กระโปรงเอี้ยม ตัวก็เเน่นมากเเล้ว 555 ที่พีคสุดๆคือตอน ม.1 ค่ะ เรา นน.ปาเข้าไป 83 กก.!!! ตอนนั้นเรามีความสุขกับการกินมาก กินมันทุกอย่างคะ เครป โรตี หมูปิ้ง โตเกียว ขนมหน้าโรงเรียน ไม่มีพลาดค่ะ จนกระทั่ง ตอนที่เเม่บอกเราว่า เราอ้วนเกินไปเเล้วนะ ต้องลด นน. ได้เเล้ว ไม่งั้นจะไม่มีทางผอมไปตลอดชีวิต เเล้วเเบบนี้ตอน ม.4 จะใส่ชุด ม.ปลายได้ยังไง (ชุด ม.ปลายรร.เรามันเป็นชุดเชิ้ตขาวเเขนยาว ผูกไทด์ กระโปรงเอวสูงสี น้ำเงินค่ะ อึดอัดสุด)
ตอนนั้นเราเลยคิดว่า เออจริง อย่างงี้เราต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว ไม่งั้น อ้วนมากกว่านี้ไม่น่าจะดี เราเลยเริ่มต้นเส้นทางการลดน้ำหนัก ตอนนั้นคะ คือตอนนั้นเรายังเด็กมาก สิ่งที่เราคิดตอนนั้นคือ มีคนบอกว่า อดเข้าเย็นสิ ออกกำลังกายสิ กินผลไม้สิ ไม่อ้วน กินๆเข้าไปเถอะ เอาเข็มขัดรัดเอวสิจะได้มีเอวงี้ กินชาชงๆที่ทำให้ระบายสิ เราก็เลยตัดสินใจโอเค เรามาเริ่มกันเถอะ
เราเริ่มเลยกับการกินผลไม้ทั้งวัน ไม่กินอย่างอื่นเลย เรากินพวกส้ม เเตงโม ฝรั่ง เเอ๊บเปิ้ล กินมันทั้งวันค่ะ เเทนข้าวกันเลยทีเดียว พอสามวันผ่านไป เราไปช่าง นน. ถึงขั้นตกใจ เห้ยยยลดไป 3 โลใน 3 วัน!!! เราก็เริ่มมีกำลังใจลดต่อ เเต่ตอนนั้นคือ ไม่ไหวเเล้วกินผลไม้ไม่ไหวเเล้วมันเบื่อมาก เราก็เริ่มกลับมากินข้าว สิ่งที่ได้กลับมาคือไม่นาน นน.มันก็ค่อยๆกลับมา (พอโตมาเเล้วหันกลับไปดู ไม่น่าเลย ผลไม้น้ำตาลทั้งนั้น สารอาหารก็ไม่ครบ วิธีนี้ไม่ไหว)
พอเวลาผ่านไปเรื่อย หลังจากที่เราเริ่มปรับการกินมาเรื่อยๆ เลี่ยงการกินมันๆ กินปริมาณข้าวที่น้อยลงมันก็เริ่มลดลง เราเริ่มมีการออกกำลังกาย มากขึ้น จากที่ไม่เคยออก เเต่มันก็ไม่ได้ออกเยอะ ทำให้ นน ก็ขึ้นๆลงๆมาตลอด จนกระทั้ง ณ ตอนนั้นเราผอมสุดในชีวิตคือ นน. 68 กก. ค่ะ
พอเข้ามหาลัย เริ่มไม่มีเวลา เริ่มมีเพื่อนชวนกินมาขึ้น งานเยอะไม่ได้ออกกำลังกาย ชีวิตเริ่ม นน. ขึ้นๆลง 72 กก. บ้าง 69 กก. บ้าง นน. มันไม่คงที่จริงๆ
พอเริ่มมาทำงาน เราก็เริ่มที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการกินมากขึ้น ความเครียดเริ่มมาก็เลยทำให้ ช่างมัน จะกิน เครียด!! มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นการกลับมาของ ความอ้วนนนนน นน. ทะยานพุ่งไป 75 กก. กระโปรงทำงานเริ่มใส่ไม่ได้ เสื้อเริ่มฟิต แขนขาใหญ่ขึ้นๆ เนื้อหลังนี่ไม่ต้องบรรยาย โอ้ยยยยย
ตอนนั้นเราก็เลยไปสมัครฟิตเนสเเถวบ้าน เราก็ไม่มีไอเดียเลยว่าเราควรจะเล่นอะไรยังไง เราก็วิ่งลู่เลยค่ะ พอมีเทรนเนอร์มาเเนะนำ ก็กั๊กๆ จะขายของตลอด เราก็เลยคิดว่าจะซื้อเเบบเหมาสักเดือนนึงก็น่าจะเล่นเป็นเเล้ว ค่อยมาเล่นต่อเอง ราคาเเพงพอตัว พี่ชายเราเลยบอกว่า เห้ยทำไมไม่ลองเทรนออนไลน์ดูอะ เค้าก็เลยส่งเพจให้ดู พอเราดูก็เห็นว่า มีคนเทรนเยอะเเล้วก็ลดไปได้เยอะ เเล้วคิดว่าเป็นผู้หญิงมาเทรนน่าจะเข้าใจกันได้ดีกว่า(ฟิตเนสที่ไปสมัครมีเเต่ เทรนเนอร์ที่เป็นผู้ชาย เป็นเด็กจบใหม่ด้วย) ก็เลยคิดว่าเออเอาวะ ลองดูเเล้วกัน
------ ก่อนที่จะเริ่มการเทรน เทรนเนอร์จะมีการสอบถามข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อยค่ะ จะเป็นคำถามทั่วๆไป ว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นยังไงเเล้วจุดประสงค์ของเราคืออะไร เราจริงจังมากเเค่ไหน เรื่องจริงจรังเทรนเนอร์เค้าให้ความสำคัญมากๆค่ะ เพราะว่าถ้าเราไม่จริงจัง เเค่อยากลอง ทำบ้างไม่ทำบ้างมันจะไม่เห็นผลค่ะ เทรนเนอร์ต้องการให้ได้ผลที่ดีที่สุดเกิดขึ้นกับผู้เทรนค่ะ
------ เริ่มจากการออกกำลังกายก่อน
ตารางที่เทรนเนอร์ให้มาคือเป็นตารางการออกกำลังกายที่สามารถทำเองได้ที่บ้านค่ะ โดยที่ใช้อุปกรณืคือ เสื่อโยคะ เเละดัมเบล เท่านั้น มันเป็นอะไรที่โอเคมากสำหรับเรา เพราะว่าเราเป็นคนที่ชอบอยู่บ้านออกกำลังกายมากกว่า ขี้เกียจเดินทางไปฟิตเนสคะ
ท่าที่เทรนเนอร์ให้มาก็จะเป็นพวกbody weight เเละ weight lifting ค่ะ ซึ่งจะมีการผสมกับการcardio ร่วมด้วย โดยท่าระดับความยากง่าย เค้าจะปรับให้เข้ากับตัวบุคคลนั้นๆคะ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง เเละ ความต้องการของเเต่ละคน รวมถึงอาการบาดเจ็บที่ คนเทรนอาจจะเป็นอยู่ด้วย เช่น เจ็บเข่า หรือ ปวดหลัง เทรนเนอร์ก็จะเลือกท่าที่ผู้เทรนนั้นๆสามารถออกได้ค่ะ โดนก่อนเทรน เค้าจะถามก่อนค่ะว่า มีปัญหาสุขภาพอะไรไหม เเล้วจุดประสงค์คืออะไร ไลฟ์สไตล์เป็ยยังไง ทำงานกี่โมงเลิกกี่โมงบลาๆ วันๆ เเอคทีฟขนาดไหน ประมาณนั้นคะ โดยตารางที่เราได้คือเราต้องออกกำลังกาย ปรมาณ 5 วันต่ออาทิตย์เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดค่ะ เทรนเนอร์จะมีตารางออกกำลังกายมาให้ 2 ตาราง ใช้สองอาทิตย์ค่ะ ออกสลับกัน เเละเมื่อมีการถ่ายรูปออกกำลังกายอีกทีจะมีการเปลี่ยนตารางใหม่ให้ค่ะ ท่าไหนทำได้ไม่ได้ หรือติดปัญหาอะไรสามารถถามได้ตลอดค่ะ ชอบมาก เพราะบางท่าเราก็ไม่เเน่ใจว่ามันทำยังไง เค้าจะสาธิตทำให้เราดูคะ
------- เรื่องอาหารการกิน
เทรนเนอร์ก็จะศึกษาพฤษติกรรมการกินเเละใช้ชีวิตของผู้สนใจมาเทรนก่อนว่า วันๆกินอะไรบ้าง กินชานม กาเเฟ เครื่องดื่ม แอลกอฮอร์ไหมเเต่ละวัน เเล้วอาหารสามมื้อเมนูส่วนใหญ่ที่จะกินคืออะไร รวมกระทั่งถึงเวลาการกินในเเต่ละมื้อค่ะ เพื่อที่จะสามารถเเนะนำเราได้ถูกว่า เราควรจะปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหนดี
เทรนเนอร์จะมีตารางอาหารให้ค่ะ ว่ามื้อไหนกินอะไรดี เราเเทบไม่ต้องคิดอะไรเลยค่ะ ชอบมากเลยตรงนี้ เเต่บางทีเราก็ไม่ได้ทำตามตาราง โดยทางเทรนเนอร์ก็จะบอกค่ะว่า กินอะไรบ้าง เนื้อสัตว์เท่าไหร่ ผักเท่าไหร่ คาร์บเท่าไหร่ เราก็สามารถทำเมนูที่เราอยากกินได้ เทรนเนอร์ใส่ใจในเรื่องอาหารมากค่ะ โดยที่เค้าย้ำเสมอว่า กินดี ร่างกายก็จะดี ออกกำลังกายมันเป็นเเค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เเต่การกินอาหารที่ดี เป็นสิ่งหลักที่ควรจะทำ โดยความใส่ใจนี้ เทรนเนอร์จะให้ส่งรูปอาหารที่เรากินทั้งวันให้เค้าเช็คตอนเย็นเสมอคะ โดย กฎก็คือ " โตไปไม่โกง" กินอะไรไปส่งรูปมาซะดีๆ 555 เเล้วเทรนเนอร์ก็จะสามารถเเนะนำได้ค่ะว่าเราควรกินหรือไม่ควรกินอะไร ชอบค่ะ ตรงดี ข้างล่างคือตัวอย่างอาหารที่เรากินคะ (แบ่งกินสองมื้อค่ะ)
----- พอทำได้สักระยะนึง มันเห็นผลจริงๆค่ะ เราเองก็เเทบไม่เชื่อว่า เราก็สามารถทำได้เหมือนกัน สัดส่วนที่เราไม่ชอบมากที่สุดเเล้วต้องการจะเอาออกอย่างด่วนๆ คือเนื้อที่หลังคะ เเล้วมันน่าตกใจมาก เพราะว่าเห็นผลจริงๆ ตอนนี้คือ นน.เราจาก 75 ลดลงเหลือ 60 กก.ค่ะ สัดส่วนลดลงตามนี้คะ
ต้นเเขน ลดลง 2.8 นิ้ว ( จาก 13" เป็น 10.2")
เอว ลดลง 4.5 นิ้ว ( จาก 31.5" เป็น 27")
สะโพก ลดลง 4.5 นิ้ว ( จาก 39.5" เป็น 35")
ต้นขา ลดลง 3 นิ้ว ( จาก 23.5" เป็น 20.5")
----- ความประทับใจเเละสิ่งที่ได้รับ
คือจากคนที่อ้วนมาตลอด หลังจากได้เทรนกับเทรนเนอร์คนนี้ เเล้วเรารู้สึกว่า ชีวิตเราเปลี่ยนไป จากคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องการกินเลย กินมันทุกอย่าง ตอนนี้เรามีทัศนคติกับพฤติกรรมการกินของเรามากขึ้น ไม่ใช่ว่าพอเราเลิกลดเเล้ว เราจะกลับไปใช้ชีวิตเเบบเดิม ตอนนี้เราก็ยังใช้ชีวิตระวังเรื่องการกิน ต้องกินให้ครบห้าหมู่ ควบคุมปริมาณการกิน เเละออกกำลังกายสม่ำเสมอ เเละมีเป้าหมายที่จะให้พัฒนาตัวเองให้เเข็งเเรงมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งเเต่เริ่มควบคุมการกินเเละออกกำลังกายมา มันทำให้เรารู้สึกเเข็งเเรงขึ้น เราไม่เป็นหวัดเลย ไม่เเน่ใจว่าเกี่ยวกับรึเปล่า 555 เเต่โดยรวมเเล้วร่างกายเราเเข็งเเรงมากขึ้น มีกล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น อันนี้เป็นจุดประสงค์หลักของเราเลยค่ะ เราเป็นคนเนื้อนิ่มมาก กล้ามเนื้อน้อยจริงๆ ไขมันเป็นกอบเป็นกำ พอมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตรงไหนก็ตาม เช่น ขา เเขน ท้อง มันทำให้ เรารู้สึกว่าทำอะไรได้ง่ายขึ้น เช่นการขึ้นบันได เมื่อก่อนขึ้นเเล้วเมื่อยขามาก เเละมีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อย ตอนนี้เฉยๆ หรือการออกกำลังกายสามารถทำได้อย่างอึดขึ้น มันทำให้รู้สึกสนุก ในการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะว่าเราทำได้เต็มที่มากขึ้น
เราถือว่าสิ่งที่เราได้มามันคุ้มค่ามากๆค่ะ เรื่องสุขภาพนี่คือที่หนึ่งที่จริง ในสิ่งที่เราได้มา รูปร่างที่ดีขึ้นเราถือว่ามันเป็นผลพลอยได้ค่ะ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนี้จะมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณเทรนเนอร์จริงๆ ไม่งั้นป่านนี้คงกลมกลิ้งไปถึงไหนเเล้ว 5555