ผมเพิ่งเรียนจบตอนเดือน พ.ค.2558 แล้วก็เริ่มทำงานเลยในเดือน มิ.ย. ปีเดียวกัน ในตำแหน่งของล่ามภาษาญี่ปุ่นที่โรงงานแห่งหนึ่ง อาทิตย์แรกที่เข้าไป ทางนายญี่ปุ่นเขาก็มีให้เทรนงานก่อน โดยเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานในโรงงาน และการทำงานของแผนกต่าง คือ โรงงานผมจะมีการผลิตอยู่ด้วยกัน 3 แผนก 3 แบบใหญ่ ๆ ก็ต้องเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับแผนกเหล่านั้น รวมไปถึงคำศัพท์ต่าง ๆ ด้วย เพื่อจะได้แปลได้เวลาที่นายเรียกใช้งาน และยังมีนายญี่ปุ่นอีกคนที่ทำสรุปคำศัพท์ที่มักเจอในโรงงาน แต่มันก็เล่มบางมาก ๆ มีแค่คำศัพท์ที่พบได้บ่อยเท่านั้น
การเทรนงานเกี่ยวกับ 3 แผนกจบใน 3 วัน พูดง่าย ๆ ก็คือแผนกละวันนั่นแหละ ซึ่งผมก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเกี่ยวกับการเทรนงานในแผนกต่าง ๆ (มีพี่คนไทยที่ประจำอยู่ตามแผนกต่าง ๆ เป็นคนเทรน นายญี่ปุ่นไม่เกี่ยว) หลังจากนั้นก็เริ่มทำงาน ปรากฏว่านายญี่ปุ่นเขาคงคิดว่าการเทรนงาน 3 วัน คงจะทำให้ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานในบริษัทแล้ว ก็ให้เริ่มทำงานแบบจริงจัง ซึ่งหลังจากนั้น ผมก็มักจะโดนนายญี่ปุ่นคนนี้โมโหอยู่บ่อย ๆ ทั้งในเรื่องของการที่ผมสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่องบ้าง ซึ่งบางครั้งก็ยอมรับว่าเกิดจากความที่ผมไม่เก่งเอง แต่บางเรื่องก็เกิดจากการที่ผมยังใหม่ ยังไม่รู้ระบบงานมากนัก แต่เขาทำเหมือนผมทำงานที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว พอผมทำให้ไม่ได้ ก็โมโหกันไปยกใหญ่
อีกอย่าง พอผมเข้าไปได้แค่ประมาณเดือนหรือสองเดือน ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ เขาก็มีงานใหญ่ที่จะอบรมพนักงานฝ่ายควบคุมคุณภาพ แน่นอนเขาก็ต้องเอาผมเข้าไปเป็นล่าม ซึ่งตอนนั้นพอดีนายญี่ปุ่นเขามีสคริปต์สำหรับซ้อมไว้ก่อน ผมก็เลยเหมือนได้เตรียมตัว ทำให้พอแปลได้ แต่เอาจริงคือคำศัพท์ที่นายญี่ปุ่นคนนั้นใช้ก็จะเป็นศัพท์ยากจริง ๆ บางคำผมก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกจากเขาตอนที่อบรมด้วย (เป็นศัพท์เฉพาะทาง) จริง ๆ อันนี้ผมไม่ได้ติดใจเท่าไร แต่พอผมลาออกจากที่นั่น มาทำงานในที่ปัจจุบัน ซึ่งในที่ปัจจุบันนี่ กว่าเขาจะปล่อยผม (รวมถึงทุกคนที่เข้าใหม่) ไปทำงานแบบจริงจัง หรือทำงานแบบเดี่ยว ๆ ได้โดยไม่มีรุ่นพี่ตามประกบ ก็ใช้เวลาอยู่หลายเดือน 3-4 เดือนได้เลย แบบกะจะเอาให้แน่ใจว่าทำได้แล้วถึงปล่อยให้ทำเดี่ยว ๆ) ซึ่งพอผมเล่าให้พี่หัวหน้า (คนไทย) ที่ทำงานปัจจุบันฟังถึงที่ทำงานเดิม เขาก็แบบตกใจว่าทำไมที่ทำงานเดิมถึงปล่อยให้ทำงานจริงจังเลยโดยที่มีการเทรนแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ และเป็นงานใหญ่ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะที่ทำงานเดิมขาดคนด้วย เลยทำให้ไม่มีเวลาจะมาเทรนมากเหมือนกับที่ปัจจุบัน
มีที่ทำงานไหนบ้างครับ ที่เข้าไปถึงแล้วก็ให้ทำงานใหญ่ ๆ เลยโดยไม่มีการเทรนงานก่อน
การเทรนงานเกี่ยวกับ 3 แผนกจบใน 3 วัน พูดง่าย ๆ ก็คือแผนกละวันนั่นแหละ ซึ่งผมก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเกี่ยวกับการเทรนงานในแผนกต่าง ๆ (มีพี่คนไทยที่ประจำอยู่ตามแผนกต่าง ๆ เป็นคนเทรน นายญี่ปุ่นไม่เกี่ยว) หลังจากนั้นก็เริ่มทำงาน ปรากฏว่านายญี่ปุ่นเขาคงคิดว่าการเทรนงาน 3 วัน คงจะทำให้ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานในบริษัทแล้ว ก็ให้เริ่มทำงานแบบจริงจัง ซึ่งหลังจากนั้น ผมก็มักจะโดนนายญี่ปุ่นคนนี้โมโหอยู่บ่อย ๆ ทั้งในเรื่องของการที่ผมสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่องบ้าง ซึ่งบางครั้งก็ยอมรับว่าเกิดจากความที่ผมไม่เก่งเอง แต่บางเรื่องก็เกิดจากการที่ผมยังใหม่ ยังไม่รู้ระบบงานมากนัก แต่เขาทำเหมือนผมทำงานที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว พอผมทำให้ไม่ได้ ก็โมโหกันไปยกใหญ่
อีกอย่าง พอผมเข้าไปได้แค่ประมาณเดือนหรือสองเดือน ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ เขาก็มีงานใหญ่ที่จะอบรมพนักงานฝ่ายควบคุมคุณภาพ แน่นอนเขาก็ต้องเอาผมเข้าไปเป็นล่าม ซึ่งตอนนั้นพอดีนายญี่ปุ่นเขามีสคริปต์สำหรับซ้อมไว้ก่อน ผมก็เลยเหมือนได้เตรียมตัว ทำให้พอแปลได้ แต่เอาจริงคือคำศัพท์ที่นายญี่ปุ่นคนนั้นใช้ก็จะเป็นศัพท์ยากจริง ๆ บางคำผมก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกจากเขาตอนที่อบรมด้วย (เป็นศัพท์เฉพาะทาง) จริง ๆ อันนี้ผมไม่ได้ติดใจเท่าไร แต่พอผมลาออกจากที่นั่น มาทำงานในที่ปัจจุบัน ซึ่งในที่ปัจจุบันนี่ กว่าเขาจะปล่อยผม (รวมถึงทุกคนที่เข้าใหม่) ไปทำงานแบบจริงจัง หรือทำงานแบบเดี่ยว ๆ ได้โดยไม่มีรุ่นพี่ตามประกบ ก็ใช้เวลาอยู่หลายเดือน 3-4 เดือนได้เลย แบบกะจะเอาให้แน่ใจว่าทำได้แล้วถึงปล่อยให้ทำเดี่ยว ๆ) ซึ่งพอผมเล่าให้พี่หัวหน้า (คนไทย) ที่ทำงานปัจจุบันฟังถึงที่ทำงานเดิม เขาก็แบบตกใจว่าทำไมที่ทำงานเดิมถึงปล่อยให้ทำงานจริงจังเลยโดยที่มีการเทรนแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ และเป็นงานใหญ่ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะที่ทำงานเดิมขาดคนด้วย เลยทำให้ไม่มีเวลาจะมาเทรนมากเหมือนกับที่ปัจจุบัน