"เพื่อไทย"เย้ยรัฐยิ่งอยู่นานยิ่งพบทุจริต
https://www.dailynews.co.th/politics/629131

อัดมาตรฐานการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลด้อยลงหรือไม่ ถามปชช.จะมั่นใจ อย่างไรว่าโครงการต่างๆที่ลงสู่พื้นที่จะคุ้มค่าและประโยชน์ตกในมือประชาชนอย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งว่า ยิ่งรัฐบาลคสช. อยู่นานประชาชนกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามาตรฐานการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลด้อยลงหรือไม่เพราะพบเห็นการทุจริตในวงกว้างแทบทุกระดับและเกี่ยวเนื่องกับข้าราชการระดับสูงมากขึ้น การโกงในแบบเงินทอนพบเห็นได้มาก จากเงินทอนวัด มาถึงเงินทอนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จิตใจทำด้วยอะไร รัฐบาลรู้สึกอย่างไรที่เจ้าหน้าที่รัฐในยุคของท่านเข้าไปพัวพันกับเรื่องการทุจริต ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าโครงการต่างๆที่ลงสู่พื้นที่จะคุ้มค่าและประโยชน์ตกในมือประชาชนอย่างแท้จริง สถานการณ์แบบนี้ถือเป็นวิกฤติศรัทธาอันเกิดจากวิกฤติการทุจริตคอรัปชั่นที่พบอย่างแพร่หลายหรือไม่ หน่วยงานตรวจสอบในกำกับของรัฐและองค์กรอิสระมีประสิทธิภาพน้อยกว่านักศึกษาฝึกงานที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้หรือไม่

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรจะมีมาตรการที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ในการดำเนินการเอาผิดและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นที่พบมากในช่วงท้ายของรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ที่เครือข่ายของรัฐบาลเริ่มไม่เชื่อมั่นและเกียร์ว่าง เลยไม่เกรงกลัวและไม่เชื่อมั่นรัฐบาลว่าจะเอาผิดกับผู้กระทำความผิด รวมถึงสัญญาณที่รัฐบาลเรียกร้องให้ลดราวาศอกกับบุคคลระดับแกนนำรัฐบาลที่มีคำถามในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมและการยึดหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ ท่าทีขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(ทีไอ)ชี้ว่า แทบไม่เห็นผลงานการปราบทุจริตของคณะ xxxxxx ไทย ต่างจากที่ว่าไว้เมื่อเข้าสู่อำนาจ 4 ปีก่อน ปมแหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน สะท้อนช่องโหว่ของกลไกคุณธรรมจริยธรรมของไทย ประชาชนอยากเห็นมาตรฐานการตรวจสอบที่ไม่เลือกปฏิบัติ เด็ดขาดเอาจริงเอาจังกับผู้กระทำความผิดไม่เลือกปฏิบัติไม่สองมาตรฐาน และต้องยอมรับอย่างจริงใจว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นพบมากขึ้นในระยะหลังเกิดจากสาเหตุอะไรเพื่อจะได้แก้ไขให้ตรงจุดหรือไม่ เพราะยิ่งปล่อยให้เวลาทอดยาวออกไปความเชื่อมั่นก็จะลดลงตามเวลาที่สูญเสียไป.

---

"ทิชา"ชี้ช่องโหว่ทำเกิดเหตุงุบงิบเงินคนจน
https://www.dailynews.co.th/politics/629144

อดีตสปช.เชื่อโกงเงินคนจนมีมูล เพราะต้นเรื่องมาจากนศ. ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ชี้ย้ายปลัด-รองปลัดพม. หวังประวิงซื้อเวลา

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงปัญหาการทุจริตเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในหลายจังหวัด ว่า เชื่อว่าปมการทุจริตครั้งนี้มีมูล เพราะผู้ออกมาเปิดเผยเป็นนักศึกษา ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง  ส่วนช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการทุจริตนั้น เห็นว่าเป็นเพราะขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในระดับท้องถิ่น  การเบิกจ่ายเงินทำในระดับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดมีความละโมบขึ้นได้  ส่วนคำสั่งย้ายนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. เพื่อเปิดทางการสอบสวนข้อเท็จจริง  มองว่าไม่ได้มีส่วนช่วยป้องปราม เพราะย้ายไปยังได้เงินเดือนเท่าเดิม และกว่ากระบวนการสอบสวนจะเสร็จสิ้น จนได้ข้อเท็จจริงไม่ได้ทำให้เกิดความตระหนักหรือระมัดระวังในการเบิกจ่าย ตรงข้ามเป็นเหมือนการสปอยด์ ข้าราชการด้วยซ้ำ  

"เงินนี้เป็นเงินแผ่นดินใช้เพื่อคนจน และคนยากไร้  ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ที่มีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือคนยากจน คนยากไร้คนด้อยโอกาส แต่กลับไม่ตระหนักและรัดกุม  การย้ายมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมองว่า เป็นการทอดเวลาให้นานออกไปเท่านั้น"นางทิชา กล่าว.