คืนนี้คืนเดือนเพ็ญ
พระจันทร์ทอแสงนวลตาเวลานี้มันส่องแสงอยู่เกือบกลางท้องฟ้า
ดวงดาวน้อยใหญ่พากันอับแสงไปเกือบสิ้น
อากาศเย็นเยียบของยามดึก ผสมกลับกลิ่นฟางและซังข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยว
สายลมหนาวพัดมาเป็นระลอก ราตรีนี้ช่างสงัด
มีเพียงหรีดหริ่งผู้เป็นดังกวีแห่งท้องทุ่ง ส่งเสียงขับกล่อมราตรีอันยาวนาน
มันยิ่งนานกว่าสำหรับคนที่กำลังเฝ้ารอ
มันจะรับรู้หรือไม่หนอ? ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง
ซึ่งก่อตัวขึ้น ณ ตำบลแห่งนี้
.
.
.
.
.
ไอ้พูล หนุ่มหน้ามนประจำทุ่งขี้เลนหล่ม นั่งคอยหญิงคนรักดังเช่นทุกคืนเดือนเพ็ญที่ผ่านมา
“ ใยเจ้ายังไม่มาหนอ ช่อชบาของพี่ ?“ ไอ้หนุ่มบ้านนาเริ่มออกอาการกระวนกระวาย
ชะเง้อมองรอบกาย ไม่มีแม้เสียงสวบสาบของหนูนาซักตัวเดียว
ขลุ่ยประจำกายถูกนำออกมาจากผ้าขาวม้าที่รัดไว้ที่คอ แล้วเป่าบรรเลงเป็นเพลงรักอุ่นละมุน
ล่องลอยไปตามสายลมเอื่อย ดังจะเรียกหาคนรักและปลอบประโลมใจของตนไปในที
“ ฟรึ่ดดด...” เสียงถอนหายใจของสัตว์ใหญ่ตัวหนึ่งดังขึ้นข้างกายทำให้ไอ้พูลสะดุ้ง
“ อ้าว..ควายใครหลงคอกมาหนอนี่? “ ไอ้พูลกล่าวกับควาย ผู้มาขัดจังหวะเพลงขลุ่ยของมัน
“ ฉันเองจ๊ะพี่ “ ควายตัวนั้นพูดขึ้น
“ เฮ้ย..ควายพูดได้ “ ไอ้พูลดูตกตะลึง
.
.
.
.
ที่แท้ก็เป็นชบา คนรักของมันนั่นเอง เธอปลอมตัวเป็นควายซะเหมือนเชียว
ใช่แล้ว ความรักของทั้งคู่ มิได้ราบรื่นเหมือนสไลเดอร์ในสวนสยามแต่อย่างใด
ชบานั้นป็นถึงลูกสาวกำนัน ส่วนมันนั้น เป็นเพียงลูกกำพร้าแม่ตาย ฐานะหรือก็ต้อยต่ำ
หาเช้ากินค่ำ ตัวดำเหมือนกา หน้าตาเหมือนเก้ง แต่ไม่ได้นักเลงหัวไม้นะ
แม่ของไอ้พูลนั้นสิ้นบุญเสียตั้งแต่วันที่เบ่งมันออกมา
เวรกรรมอันใดก็มิอาจรู้ได้ ทำให้แม่ของมัน นึกอยากินก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสขึ้นมาในตอนกำลังคลอด
ทำให้นางสำลักเส้นก๋วยเดี๋ยวตายอนาถ ตอนตัดสายรกไอ้พูลนั่นแล
.
.
.
ชบา สาวน้อยแรกแย้ม ดั่งเดือนเพ็ญในคืนฟ้าแจ้ง
เป็นที่หมายปองของคหบดีน้อยใหญ่ ด้วยความงามดุจดังเทพเทวาบรรจงปั้น
แต่สาวน้อยก็ตั้งใจมั่น ฝากดวงใจไว้กับไอ้พูลเพียงผู้เดียว
ช่างเป็นบุญของมันโดยแท้ทีเดียว
และเหตุที่สาวเจ้าปักใจเช่นนั้นก็เพราะไอ้พูลผู้ต้อยต่ำ มีหัวนมที่ดำนั่นเอง
เธอมักตอบให้ชายคนรักฟังเช่นนั้นเสมอ
ยามเมื่อถูกถามถึงความรักที่เธอมอบให้แด่ชายผู้มอซอผู้นี้
.
.
.
ตัดฉากมาที่ข้างกองฟางกองเดิม
“ ความรักของพี่ ทำเจ้าลำบากนัก ชบาเอ๋ย “ ไอ้พูลตัดพ้อชีวิต
“อะอาอั๊กอี้ อ๋าอ้ายอิ๊ดอ้าเอื่ยอัก “ เธอเคี้ยวฟางตุ้ยๆ ดูจะอินกับการปลอมเป็นควายมาก
แม้จะถอดเครื่องเคราออกหมดแล้วก็เถอะ
ชายหนุ่มยิ้มให้สาวเจ้า ช่วยเลือกฟางเส้นอวบๆให้เธอกิน จะได้เคี้ยวง่ายๆ
“ ภายใต้จันทร์เพ็ญงามปานนี้ แต่เจ้ากลับงามกว่า แม้ตอนเคี้ยวฟางก็ยังงามยิ่ง “ ไอ้พูลชมพลางแคะฟางที่ติดร่องฟันเธอออก
“ พี่จะชมฉันให้เขินอายอีกถึงเมื่อไร ? ส่วนร้ายชบาก็มี พี่ก็เห็นอยู่ “ เธออายแต่พองาม
“ ช่างปะไร พี่หาได้ใส่ใจ ความดีเจ้าท่วมท้น ความบกพร่องเล็กน้อยนั้น จะมีความหมายอันใด? “
“ ในสายตาพี่เพียงคนเดียว ที่ชบาไม่ใช่หญิงสาวผู้งดงามแต่เพียงเปลือกนอก ด้วยสายตาพี่เท่านั้น
ที่มองเห็นฉันถึงเนื้อใน ฉันจึงรักพี่ เพราะพี่รักที่ตัวฉันจริงๆ “ เธอกล่าวพร้อมเอียงอาย บิดซ้ายบิดขวา
“ มิใช่เพราะหัวนมพี่ดำอย่างเจ้าหยอกพี่หรือ? “ ไอ้พูลเย้า
“ อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง เขาว่าชายหัวนมดำนั้นจริงใจยิ่ง “ เธอเอียงอายเอาหัวซุกกองฟางแล้วทำทีเป็นแกล้งตาย
อายแปลกจัง
.
.
.
.
แล้วทั้งคู่ ก็พรอดรักกันไปอีกพักใหญ่ จากนั้นจึงชวนกันวิ่งเล่นรอบกองฟาง
ผมยาวสลวยของชบายามต้องแสงจันทร์นั้นดูเปล่งประกาย ราวกับเพิ่งไปจุ่มน้ำมันหมูมาเลยทีเดียว
ไอ้พูลพยายามไล่จับช่อชบา ที่ตอนนี้แกล้งวิ่งสี่ขาเหมือนหมา ไปขุดรูอยูริมคันนานู่น
ไอ้พูลถึงกับต้องเอาน้ำไปกรอกรู เธอถึงยอมโผล่ออกมา
และขณะที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่กันซะทั่วทุ่งอย่างสนุกสนานราวกับมีกันอยู่เพียงสองคนอยู่นั้น
ก็หาได้มีใครทันสังเกตไม่ ว่าที่ท้ายทุ่ง ตรงปลายเส้นขอบฟ้านั้น มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฎกายขึ้น
หาใช่ใครอื่น ไม่ต้องเดากันซะให้ยาก นั่นคือกำนันเสริมและลูกสมุนนั่นเอง
แกขึ้นชื่อนัก เรื่องความดุดัน หวงลูกสาว และทำมะขามกวนได้อร่อย
แนนอน แกไม่ได้มามือเปล่า ลูกซองแฝดคู่กายนั้น ดูน่าเกรงขามเมื่อมองด้วยมุมมองแบบพาโนราม่า
.
.
.
กำนันและสมุนเดินทางทิศที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่จับกันอยู่
คงจะถึงคราวเคราะห์เกราะแตกของไอ้พูลมัน เมื่อสาวเจ้าช่อชบา
ดันวิ่งไปสะดุดกองขี้ควายแห้ง คัวคะมำพื้น
ตัวมันเองก็สะดุดกุ๊ดจี่กลางคืนตัวหนึ่ง
ซึ่งกำลังทำรังใหม่อยู่ใกล้กองขี้ควายนั่นเอง หัวคะมำลงไปนอนเกยกัน
ในท่าทางที่ชวนให้คิดบัดสีได้สิ้นดีเลยเชียว
“ซี้ดดดดดดดดด” ชบาบาซี้ดขึ้น เพราะโดนเล็บนิ้วก้อยตัวเองทิ่มเข้าที่กลางหลัง
“ นี่แน่ะ จับได้คาหนังคาเขาเลยนะตัวเอง !!!! “ เสียงตวาดดุดันทรงพลังกังวานก้องดังขึ้น
โอ เสียงกำนันเสริมนั่นเอง
ไอ้พูลผู้อาภัพเงยหน้าขึ้น พร้อมรับชะตากรรม
กระบอกปืนจำนวนนับไม่ถ้วน ล้วนมีจุดประสงค์ที่จะเจาะรูบนหัวกบาลอันไม่เจียมของมันทั้งสิ้น
ใครคนหนึ่งในจำนวนนั้น ดีดนิ้วเข้าที่ติ่งหูมันเต็มๆ มันกุมมือคนรักไว้แน่น
ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับวูบไปด้วยแรงดีดหูอันทรงพลัง
.
.
.
.
.
.
.
.
ภาพพร่ามัวนั้นเริ่มชัดขึ้น เป็นภาพกำนันเสริมพร้อมลูกน้องนั่งตีวงรอบตัวมันอยู่
มีช่อชบา คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ไอ้พูลอย่างรักใคร่ทะนุถนอม
โดยเฉพาะตรงหัวนมดำของมันนั้นเธอจะเช็ดนานเป็นพิเศษ
“ ฉันขอโทษจ๊ะพ่อกำนัน “ ไอ้พูลรีบยกมือไหว้
“ ไม่เป็นไรหรอกลูกเอ๋ย หลังจากเจ้าหมดสติไปสามวัน พ่อก็เข้าใจเรื่องราวจนหมดสิ้นแล้ว “ กำนันก็ชอบจ้องหัวนมดำของไอ้พูลเหมือนลูกสาวแก
ไอ้พูลได้แต่มองหน้าคนรักกับกำนันเสริมอย่างงุนงง ลูกสาวเช็ด ส่วนพ่อก็จ้อง
“ คนเขาลือกันนัก ว่ากำนันเสริมแห่งทุ่งขี้เลนหล่มอย่างข้าหวงลูกสาว ยิ่งกว่าเสือจงอางหวงไข่ “
แกพยายามพูดให้เห็นภาพ น่าจะเป็นภาพเสือกำลังแผ่แม่เบี้ยพร้อมกับกกไข่น่ะแหละ
“ ข้าหวงเพราะข้ารักลูกข้า อยากให้มันเจอคนดีๆ และรักมันจริงๆ ก็เมื่อมันเจอกับเอ็งแล้ว ข้าก็เบาใจ “ กำนันช่างใจกว้างดีแท้
“ นับเป็นบุญของฉัน ที่ได้พบพ่อผู้มีใจประเสิรฐเลิศล้ำง้ำฟ้าง้ำดินอย่างพ่อกำนันจ๊ะ “ ไอ้พูลยกมือไหว้ท่วมหัว
“ เรียกข้าว่าพ่อเถิดลูก ไอ้เขยขวัญ “ กำนันยิ้มอย่างปราณี
ตอนนี้ช่อชบานั้นอายหน้าแดงเป็นไฟจราจร ไม่รู้จะขวยเขินยังไงดี
เธอเลยก้มลงดูดหัวนมดำของไอ้พูลอย่างเมามัน กำนันเห็นดังนั้น ก็มิรอช้า ใช้มือบี้ๆหัวนมข้างที่เหลืออย่างเมตตาทันที
.
.
.
.
.
จบบริบูรณ์
นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ รักใดไหนเล่าเท่าบิดรมารดา รักใดไหนเล่าเท่าหัวนมดำ “
... มนต์รักหัวนมดำ ...
พระจันทร์ทอแสงนวลตาเวลานี้มันส่องแสงอยู่เกือบกลางท้องฟ้า
ดวงดาวน้อยใหญ่พากันอับแสงไปเกือบสิ้น
อากาศเย็นเยียบของยามดึก ผสมกลับกลิ่นฟางและซังข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยว
สายลมหนาวพัดมาเป็นระลอก ราตรีนี้ช่างสงัด
มีเพียงหรีดหริ่งผู้เป็นดังกวีแห่งท้องทุ่ง ส่งเสียงขับกล่อมราตรีอันยาวนาน
มันยิ่งนานกว่าสำหรับคนที่กำลังเฝ้ารอ
มันจะรับรู้หรือไม่หนอ? ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง
ซึ่งก่อตัวขึ้น ณ ตำบลแห่งนี้
.
.
.
.
.
ไอ้พูล หนุ่มหน้ามนประจำทุ่งขี้เลนหล่ม นั่งคอยหญิงคนรักดังเช่นทุกคืนเดือนเพ็ญที่ผ่านมา
“ ใยเจ้ายังไม่มาหนอ ช่อชบาของพี่ ?“ ไอ้หนุ่มบ้านนาเริ่มออกอาการกระวนกระวาย
ชะเง้อมองรอบกาย ไม่มีแม้เสียงสวบสาบของหนูนาซักตัวเดียว
ขลุ่ยประจำกายถูกนำออกมาจากผ้าขาวม้าที่รัดไว้ที่คอ แล้วเป่าบรรเลงเป็นเพลงรักอุ่นละมุน
ล่องลอยไปตามสายลมเอื่อย ดังจะเรียกหาคนรักและปลอบประโลมใจของตนไปในที
“ ฟรึ่ดดด...” เสียงถอนหายใจของสัตว์ใหญ่ตัวหนึ่งดังขึ้นข้างกายทำให้ไอ้พูลสะดุ้ง
“ อ้าว..ควายใครหลงคอกมาหนอนี่? “ ไอ้พูลกล่าวกับควาย ผู้มาขัดจังหวะเพลงขลุ่ยของมัน
“ ฉันเองจ๊ะพี่ “ ควายตัวนั้นพูดขึ้น
“ เฮ้ย..ควายพูดได้ “ ไอ้พูลดูตกตะลึง
.
.
.
.
ที่แท้ก็เป็นชบา คนรักของมันนั่นเอง เธอปลอมตัวเป็นควายซะเหมือนเชียว
ใช่แล้ว ความรักของทั้งคู่ มิได้ราบรื่นเหมือนสไลเดอร์ในสวนสยามแต่อย่างใด
ชบานั้นป็นถึงลูกสาวกำนัน ส่วนมันนั้น เป็นเพียงลูกกำพร้าแม่ตาย ฐานะหรือก็ต้อยต่ำ
หาเช้ากินค่ำ ตัวดำเหมือนกา หน้าตาเหมือนเก้ง แต่ไม่ได้นักเลงหัวไม้นะ
แม่ของไอ้พูลนั้นสิ้นบุญเสียตั้งแต่วันที่เบ่งมันออกมา
เวรกรรมอันใดก็มิอาจรู้ได้ ทำให้แม่ของมัน นึกอยากินก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสขึ้นมาในตอนกำลังคลอด
ทำให้นางสำลักเส้นก๋วยเดี๋ยวตายอนาถ ตอนตัดสายรกไอ้พูลนั่นแล
.
.
.
ชบา สาวน้อยแรกแย้ม ดั่งเดือนเพ็ญในคืนฟ้าแจ้ง
เป็นที่หมายปองของคหบดีน้อยใหญ่ ด้วยความงามดุจดังเทพเทวาบรรจงปั้น
แต่สาวน้อยก็ตั้งใจมั่น ฝากดวงใจไว้กับไอ้พูลเพียงผู้เดียว
ช่างเป็นบุญของมันโดยแท้ทีเดียว
และเหตุที่สาวเจ้าปักใจเช่นนั้นก็เพราะไอ้พูลผู้ต้อยต่ำ มีหัวนมที่ดำนั่นเอง
เธอมักตอบให้ชายคนรักฟังเช่นนั้นเสมอ
ยามเมื่อถูกถามถึงความรักที่เธอมอบให้แด่ชายผู้มอซอผู้นี้
.
.
.
ตัดฉากมาที่ข้างกองฟางกองเดิม
“ ความรักของพี่ ทำเจ้าลำบากนัก ชบาเอ๋ย “ ไอ้พูลตัดพ้อชีวิต
“อะอาอั๊กอี้ อ๋าอ้ายอิ๊ดอ้าเอื่ยอัก “ เธอเคี้ยวฟางตุ้ยๆ ดูจะอินกับการปลอมเป็นควายมาก
แม้จะถอดเครื่องเคราออกหมดแล้วก็เถอะ
ชายหนุ่มยิ้มให้สาวเจ้า ช่วยเลือกฟางเส้นอวบๆให้เธอกิน จะได้เคี้ยวง่ายๆ
“ ภายใต้จันทร์เพ็ญงามปานนี้ แต่เจ้ากลับงามกว่า แม้ตอนเคี้ยวฟางก็ยังงามยิ่ง “ ไอ้พูลชมพลางแคะฟางที่ติดร่องฟันเธอออก
“ พี่จะชมฉันให้เขินอายอีกถึงเมื่อไร ? ส่วนร้ายชบาก็มี พี่ก็เห็นอยู่ “ เธออายแต่พองาม
“ ช่างปะไร พี่หาได้ใส่ใจ ความดีเจ้าท่วมท้น ความบกพร่องเล็กน้อยนั้น จะมีความหมายอันใด? “
“ ในสายตาพี่เพียงคนเดียว ที่ชบาไม่ใช่หญิงสาวผู้งดงามแต่เพียงเปลือกนอก ด้วยสายตาพี่เท่านั้น
ที่มองเห็นฉันถึงเนื้อใน ฉันจึงรักพี่ เพราะพี่รักที่ตัวฉันจริงๆ “ เธอกล่าวพร้อมเอียงอาย บิดซ้ายบิดขวา
“ มิใช่เพราะหัวนมพี่ดำอย่างเจ้าหยอกพี่หรือ? “ ไอ้พูลเย้า
“ อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง เขาว่าชายหัวนมดำนั้นจริงใจยิ่ง “ เธอเอียงอายเอาหัวซุกกองฟางแล้วทำทีเป็นแกล้งตาย
อายแปลกจัง
.
.
.
.
แล้วทั้งคู่ ก็พรอดรักกันไปอีกพักใหญ่ จากนั้นจึงชวนกันวิ่งเล่นรอบกองฟาง
ผมยาวสลวยของชบายามต้องแสงจันทร์นั้นดูเปล่งประกาย ราวกับเพิ่งไปจุ่มน้ำมันหมูมาเลยทีเดียว
ไอ้พูลพยายามไล่จับช่อชบา ที่ตอนนี้แกล้งวิ่งสี่ขาเหมือนหมา ไปขุดรูอยูริมคันนานู่น
ไอ้พูลถึงกับต้องเอาน้ำไปกรอกรู เธอถึงยอมโผล่ออกมา
และขณะที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่กันซะทั่วทุ่งอย่างสนุกสนานราวกับมีกันอยู่เพียงสองคนอยู่นั้น
ก็หาได้มีใครทันสังเกตไม่ ว่าที่ท้ายทุ่ง ตรงปลายเส้นขอบฟ้านั้น มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฎกายขึ้น
หาใช่ใครอื่น ไม่ต้องเดากันซะให้ยาก นั่นคือกำนันเสริมและลูกสมุนนั่นเอง
แกขึ้นชื่อนัก เรื่องความดุดัน หวงลูกสาว และทำมะขามกวนได้อร่อย
แนนอน แกไม่ได้มามือเปล่า ลูกซองแฝดคู่กายนั้น ดูน่าเกรงขามเมื่อมองด้วยมุมมองแบบพาโนราม่า
.
.
.
กำนันและสมุนเดินทางทิศที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่จับกันอยู่
คงจะถึงคราวเคราะห์เกราะแตกของไอ้พูลมัน เมื่อสาวเจ้าช่อชบา
ดันวิ่งไปสะดุดกองขี้ควายแห้ง คัวคะมำพื้น
ตัวมันเองก็สะดุดกุ๊ดจี่กลางคืนตัวหนึ่ง
ซึ่งกำลังทำรังใหม่อยู่ใกล้กองขี้ควายนั่นเอง หัวคะมำลงไปนอนเกยกัน
ในท่าทางที่ชวนให้คิดบัดสีได้สิ้นดีเลยเชียว
“ซี้ดดดดดดดดด” ชบาบาซี้ดขึ้น เพราะโดนเล็บนิ้วก้อยตัวเองทิ่มเข้าที่กลางหลัง
“ นี่แน่ะ จับได้คาหนังคาเขาเลยนะตัวเอง !!!! “ เสียงตวาดดุดันทรงพลังกังวานก้องดังขึ้น
โอ เสียงกำนันเสริมนั่นเอง
ไอ้พูลผู้อาภัพเงยหน้าขึ้น พร้อมรับชะตากรรม
กระบอกปืนจำนวนนับไม่ถ้วน ล้วนมีจุดประสงค์ที่จะเจาะรูบนหัวกบาลอันไม่เจียมของมันทั้งสิ้น
ใครคนหนึ่งในจำนวนนั้น ดีดนิ้วเข้าที่ติ่งหูมันเต็มๆ มันกุมมือคนรักไว้แน่น
ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับวูบไปด้วยแรงดีดหูอันทรงพลัง
.
.
.
.
.
.
.
.
ภาพพร่ามัวนั้นเริ่มชัดขึ้น เป็นภาพกำนันเสริมพร้อมลูกน้องนั่งตีวงรอบตัวมันอยู่
มีช่อชบา คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ไอ้พูลอย่างรักใคร่ทะนุถนอม
โดยเฉพาะตรงหัวนมดำของมันนั้นเธอจะเช็ดนานเป็นพิเศษ
“ ฉันขอโทษจ๊ะพ่อกำนัน “ ไอ้พูลรีบยกมือไหว้
“ ไม่เป็นไรหรอกลูกเอ๋ย หลังจากเจ้าหมดสติไปสามวัน พ่อก็เข้าใจเรื่องราวจนหมดสิ้นแล้ว “ กำนันก็ชอบจ้องหัวนมดำของไอ้พูลเหมือนลูกสาวแก
ไอ้พูลได้แต่มองหน้าคนรักกับกำนันเสริมอย่างงุนงง ลูกสาวเช็ด ส่วนพ่อก็จ้อง
“ คนเขาลือกันนัก ว่ากำนันเสริมแห่งทุ่งขี้เลนหล่มอย่างข้าหวงลูกสาว ยิ่งกว่าเสือจงอางหวงไข่ “
แกพยายามพูดให้เห็นภาพ น่าจะเป็นภาพเสือกำลังแผ่แม่เบี้ยพร้อมกับกกไข่น่ะแหละ
“ ข้าหวงเพราะข้ารักลูกข้า อยากให้มันเจอคนดีๆ และรักมันจริงๆ ก็เมื่อมันเจอกับเอ็งแล้ว ข้าก็เบาใจ “ กำนันช่างใจกว้างดีแท้
“ นับเป็นบุญของฉัน ที่ได้พบพ่อผู้มีใจประเสิรฐเลิศล้ำง้ำฟ้าง้ำดินอย่างพ่อกำนันจ๊ะ “ ไอ้พูลยกมือไหว้ท่วมหัว
“ เรียกข้าว่าพ่อเถิดลูก ไอ้เขยขวัญ “ กำนันยิ้มอย่างปราณี
ตอนนี้ช่อชบานั้นอายหน้าแดงเป็นไฟจราจร ไม่รู้จะขวยเขินยังไงดี
เธอเลยก้มลงดูดหัวนมดำของไอ้พูลอย่างเมามัน กำนันเห็นดังนั้น ก็มิรอช้า ใช้มือบี้ๆหัวนมข้างที่เหลืออย่างเมตตาทันที
.
.
.
.
.
จบบริบูรณ์
นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ รักใดไหนเล่าเท่าบิดรมารดา รักใดไหนเล่าเท่าหัวนมดำ “