วันสิ้นโลก มันต้องมาถึง ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาหรือไม่นับถือ แต่ความตาย อาจมาถึงในวันนี้ และวันต่อๆไป

>>>>พระพุทธเจ้าได้พยากรณ์ไว้ ว่าอีกกาลนานไกล จะเกิดยุคฝนแล้ง พืชพรรณจะล้มตาย อีกกาลนานไกล ดวงอาทิตย์ดวงที่สองจะปรากฎ และจะปรากฎไปจนถึงเจ็ดดวง แต่ละครั้งที่ดวงอาทิตย์แต่ละดวงปรากฎ เหตุการณ์บนโลกจะระอุขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้าย โลกจะลุกไหม้หลอมละลาย ผมจึงนึกถึงคำพยากรณ์ของนักดาราศาสตร์ ที่ว่า อีกกาลนานไกล ดาราจักรทางช้างเผือก จะปะทะกับดาราจักรแอนดรอมิดา ซึ่งนักดาราศาสตร์บอกว่า ใหญ่กว่าทางช้างเผือก แต่มีมวลน้อยกว่า แน่นอนว่า ถ้าดาราจักรทั้งสองชนกันจริง เหตุการณ์ดวงอาทิตย์ปรากฎบนท้องฟ้าถึงเจ็ดดวง ไม่ได้เกินความจริงไปเลย และอีกอย่างหนึ่ง นักดาราศาสตร์ได้ทำนายว่า อีกกาลนานไกล ดวงอาทิตย์ของเรา จะขยายขนาด จนสามารถทำลายดาวเคราะชั้นในได้ทั้งหมด ซึ่งจากเทคโนโลยีกล้องโทรทัศน์ในปัจจุบัน ทำให้เห็นเหตุการณ์พวกนี้ในอวกาศ !!!
>>>>>>>ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง (อนิจฺจ) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืน (อธุว) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งที่หวังอะไรไม่ได้ (อนสฺสาสิก). ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! ขุนเขาสิเนรุ โดยยาว ๘๔,๐๐๐ โยชน์ โดยกว้าง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ หยั่งลงในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์ สูงขึ้นจากผิวพื้นสมุทร ๘๔,๐๐๐ โยชน์ :-
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งล่วงไปหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี ที่ฝนไม่ตกเลย. เมื่อฝนไม่ตก (ตลอดเวลาเท่านี้). ป่าใหญ่ๆอันประกอบด้วยพืชคามภูตคามไม้หยูกยาและหญ้าทั้งหลาย ย่อมเฉา ย่อมเหี่ยวแห้งมีอยู่ไม่ได้ (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืน ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งที่หวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่ง กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สอง ย่อมปรากฏ. เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สองปรากฏ, แม่น้ำน้อย หนอง บึง ทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่ (นี้ฉันใด); ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. !เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่ง กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สาม ย่อมปรากฏ. เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สามปรากฏ, แม่น้ำสายใหญ่ ๆ เช่นแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มยิ้ม ทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่ (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่ง กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่สี่ ย่อมปรากฏ. เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่สี่ปรากฏ, มหาสระทั้งหลาย อันเป็นที่เกิดแห่งแม่น้ำใหญ่ๆเช่นแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มยิ้ม มหาสระเหล่านั้นทั้งหมดก็งวดแห้งไป ไม่มีอยู่ (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่ง กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่ห้า ย่อมปรากฏ. เมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่ห้าปรากฏ, น้ำในมหาสมุทรอันลึกร้อยโยชน์ ก็งวดลง น้ำในมหาสมุทรอันลึก สอง-สาม-สี่ห้า-หก-เจ็ดร้อยโยชน์ก็งวดลง เหลืออยู่เพียงเจ็ดชั่วต้นตาล ก็มี เหลืออยู่เพียงหก-ห้า-สี่-สาม-สอง กระทั่งหนึ่งชั่วต้นตาล ก็มี งวดลง เหลืออยู่เพียงเจ็ดชั่วบุรุษ ก็มี เหลืออยู่เพียง หก-ห้า-สี่-สาม-สอง-หนึ่ง กระทั่งครึ่งชั่วบุรุษ ก็มี งวดลง เหลืออยู่เพียงแค่สะเอว เพียง แค่เข่า เพียง แค่ข้อเท้า กระทั่งเหลืออยู่ ลึกเท่าน้ำในรอยเท้าโค ในที่นั้นๆเช่นเดียวกับน้ำในรอยเท้าโคเมื่อฝนเม็ดใหญ่เริ่มตกในฤดูสารท ลงมาในที่นั้นๆ. ภิกษุ ท. ! เพราะการปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่ห้า น้ำในมหาสมุทรไม่มีอยู่แม้สักว่าองคุลีเดียว. (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่ง กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่หก ย่อมปรากฏ. เพราะความปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่หก, มหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ ก็มีควันขึ้น ยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้น เปรียบเหมือนเตาเผาหม้อ อันนายช่างหม้อสุมไฟแล้ว ย่อมมีควันขึ้นโขมง ยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้น ฉะนั้น (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! มีสมัยซึ่งในกาลบางครั้งบางคราว โดยการล่วงไปแห่งกาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่เจ็ด ย่อมปรากฏ. เพราะความปรากฏแห่งอาทิตย์ดวงที่เจ็ด, มหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีไฟลุก โพลงๆ มีเปลวเป็นอันเดียวกัน. เมื่อมหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุ อันไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่อย่างนี้ เปลวไฟถูกลมซัดขึ้นไป จนถึงพรหมโลก. ภิกษุ ท. ! เมื่อขุนเขาสิเนรุถูกไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่ วินาศอยู่ อันกองไฟท่วมทับแล้ว, ยอดทั้งหลายอันสูงร้อยโยชน์บ้าง สอง - สาม - สี่ - ห้าร้อยโยชน์บ้าง ก็พังทำลายไป. ภิกษุ ท. ! เมื่อมหาปฐพีนี้และขุนเขาสิเนรุอันไฟเผาอยู่ ไหม้อยู่, ขี้เถ้าและเขม่าย่อมไม่ปรากฏ เหมือนเมื่อเนยใส หรือน้ำมันถูกเผา ขี้เถ้าและเขม่าย่อมไม่ปรากฏ ฉะนั้น (นี้ฉันใด) ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนฉันนั้น, สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งหวังอะไรไม่ได้ ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอแล้วเพื่อจะคลายกำหนัด พอแล้วเพื่อจะปล่อยวาง.
ภิกษุ ท. ! ในข้อความนั้น ใครจะคิด ใครจะเชื่อ ว่า “ปฐพีนี้และ ขุนเขาสิเนรุ จักลุกไหม้ จักวินาศ จักสูญสิ้นไปได้” นอกเสียจาก พวกมีบทอันเห็นแล้ว.

- สตฺตก. อํ ๒๓/๑๐๒ - ๑๐๕/๖๓.
รู้จักเลือก : “สังฆทานดีกว่า !”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ทานประจำสกุลวงศ์ข้าพระองค์ยังให้อยู่ แต่ว่าทานนั้นข้าพระองค์ให้เฉพาะหมู่ภิกษุผู้เป็นอรหันต์ หรือปฏิบัติอรหัตตมรรค ที่อยู่ป่า ที่ถือบิณฑบาต ที่ถือผ้าสุกุล เป็นวัตร”.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่