ส่วนมากจะเป็นคนที่มีความกลัวในจิตใจลึกๆ จนไม่ค่อยกล้าทำอะไรมาก
เมื่อตกใจ ร่างกายต้องยอมทำตามผู้กระทำ
ทุกอย่าง ทั้งๆที่ใจไม่อยากทำ
ราวกับเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกกระทำออกมาเอง
โดยไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น
แบ่งออกได้2ชนิด
1. ชนิดทำตามเมื่อตกใจกลัว
เกิดขึ้นได้บ่อยมาก สำหรับคนทั่วไป ส่วนมากจะเกิดขึ้นได้จากผู้หญิงวัยกลางคน หรือเป็นมาตั้งแต่เกิด
ในขณะที่พวกเขากำลังทำกิจกรรมอยู่
ถ้าหากว่าเราเกิดไปทำให้เขาตกใจ
และให้แสดงท่าทีอย่างอื่นเข้า
เขาก็จะทำตามโดยที่ใจไม่อยากทำ
ซึ่งอาการแบบนี้ ยากที่จะรักษาหายได้
2. ชนิดที่ต้องถึงเนื้อถึงตัวก่อน จึงจะบ้าจี้ได้
แต่จะต้องตกใจสุดๆ หรือต้องถูกจี้เอวหรือตามอวัยวะร่างกายเสียก่อน จึงจะยอมทำตาม
ตลอดเวลาที่ถูกจี้ผู้ป่วยรู้สึกตัว
และสามารถคัดค้านได้
ถ้าหากสิ่งที่โดนบังคับมันรุนแรงเกินไป
ผู้ป่วยมักจะตกเป็นเหยื่อการล้อเลียนของบุคคลอื่น ซึ่งยากที่จะรักษา
โรคบ้าจี้มักจะพบกันได้บ่อยใน แถบมาเลเซีย และตามเอเชียทั่ว เนื่องจากเคยประสบความหวาดกลัว
หรือสิ่งที่กดดันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้อาการนี้ติดมากับผู้หญิงอย่างเงียบๆ จนสามารถแพร่มาทางพันธุกรรมได้
ปัจจุบันถึงแม้จะมีบ้างแต่ก็เริ่มมีน้อยลง
เพราะสภาพแวดล้อมบ้านเมืองปลอดภัยมากขึ้น
ไม่ว่าใครจะเป็นโรคบ้าจี้หรือไม่ ก็ขอให้เราอย่าไปกลั่นแกล้งเขาเพียงเพราะความสนุก
เพราะนั่นถือเป็นการทารุณเขาทางอ้อมอยู่
ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้ต้องการทำตามใคร
อย่างที่ควรจะเป็น
Malaysia มีสงครามไรเหรอ
ทั้งคู่ที่โดนแกล้ง อารมณ์ดี
ทั้งวันคงใช้พลังมาก
จะขับรถได้เหรอ บางจังหวะ อันตรายได้
บ้าจี้ โรคทางจิตชนิดหนึ่ง แกล้งมากไปก็อันตราย
เมื่อตกใจ ร่างกายต้องยอมทำตามผู้กระทำ
ทุกอย่าง ทั้งๆที่ใจไม่อยากทำ
ราวกับเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกกระทำออกมาเอง
โดยไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น
แบ่งออกได้2ชนิด
1. ชนิดทำตามเมื่อตกใจกลัว
เกิดขึ้นได้บ่อยมาก สำหรับคนทั่วไป ส่วนมากจะเกิดขึ้นได้จากผู้หญิงวัยกลางคน หรือเป็นมาตั้งแต่เกิด
ในขณะที่พวกเขากำลังทำกิจกรรมอยู่
ถ้าหากว่าเราเกิดไปทำให้เขาตกใจ
และให้แสดงท่าทีอย่างอื่นเข้า
เขาก็จะทำตามโดยที่ใจไม่อยากทำ
ซึ่งอาการแบบนี้ ยากที่จะรักษาหายได้
2. ชนิดที่ต้องถึงเนื้อถึงตัวก่อน จึงจะบ้าจี้ได้
แต่จะต้องตกใจสุดๆ หรือต้องถูกจี้เอวหรือตามอวัยวะร่างกายเสียก่อน จึงจะยอมทำตาม
ตลอดเวลาที่ถูกจี้ผู้ป่วยรู้สึกตัว
และสามารถคัดค้านได้
ถ้าหากสิ่งที่โดนบังคับมันรุนแรงเกินไป
ผู้ป่วยมักจะตกเป็นเหยื่อการล้อเลียนของบุคคลอื่น ซึ่งยากที่จะรักษา
โรคบ้าจี้มักจะพบกันได้บ่อยใน แถบมาเลเซีย และตามเอเชียทั่ว เนื่องจากเคยประสบความหวาดกลัว
หรือสิ่งที่กดดันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้อาการนี้ติดมากับผู้หญิงอย่างเงียบๆ จนสามารถแพร่มาทางพันธุกรรมได้
ปัจจุบันถึงแม้จะมีบ้างแต่ก็เริ่มมีน้อยลง
เพราะสภาพแวดล้อมบ้านเมืองปลอดภัยมากขึ้น
ไม่ว่าใครจะเป็นโรคบ้าจี้หรือไม่ ก็ขอให้เราอย่าไปกลั่นแกล้งเขาเพียงเพราะความสนุก
เพราะนั่นถือเป็นการทารุณเขาทางอ้อมอยู่
ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้ต้องการทำตามใคร
อย่างที่ควรจะเป็น
Malaysia มีสงครามไรเหรอ
ทั้งคู่ที่โดนแกล้ง อารมณ์ดี
ทั้งวันคงใช้พลังมาก
จะขับรถได้เหรอ บางจังหวะ อันตรายได้