ดิฉันอ่านข่าวนายกฯลุงตู่เขียนจดหมายให้รัฐมนตรีทุกคนในครม.อ่าน
และสื่อสารเรื่องสำคัญให้มีความเข้าใจและปฏิบัติให้ตรงกัน
รู้สึกชอบการทำงานของท่านมากค่ะ....
ท่านเขียนด้วยลายมือของท่านเองอย่างตั้งใจ
มีความคิดของท่านในการบริหารงาน
ชี้แนวทางในการแก้ไขปัญหา การรับมือกับอุปสรรคต่างๆที่รัฐบาลเผชิญอยู่
เตือนให้ทุกคนยึดในหลักการทำงานที่ซื่อสัตย์เพื่อประชาชน
และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือประชาชน เน้นความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ดิฉันมองเห็นความฉลาดในการเป็นผู้นำของท่า ที่จะนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้า
อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีความเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ
รู้สึกภูมิใจในตัวท่าน..
มีผู้นำที่สมเป็นผู้นำทำให้ประชาชนรู้สึกดีมากค่ะ
ขอบคุณที่ท่านเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองนะคะ...💗💗💗💗💗
สลค.เวียน “จดหมายบิ๊กตู่” เปิด 5 ข้อใหญ่ 12 ข้อย่อย ถึงรัฐมนตรี ชู “คนไทยรักกัน-คนไทยไม่ทิ้งกัน”
เน้นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
ชู “คนไทยรักกัน-คนไทยไม่ทิ้งกัน - เมืองไทยน่าอยู่-วิถีไทยวิถีพอเพียง -รู้สิทธิ รู้หน้าที่ -รู้กลไกการบริหารราชการ -รู้รักประชาธิปไตย-รู้เท่าทันเทคโนโลยี-แก้ปัญหายาเสพติด พร้อมให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนทุกระดับ สั่งมท.เตรียมประชุมผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนกุมภาพันธ์นี้
วันนี้ (19 ม.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แจกเอกสารที่เขียนด้วยลายมือบนกระดาษ เอ 4 จำนวน 12 หน้า ให้กับรัฐมนตรีทุกคนในวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือ โดยเป็นข้อสั่งการ เรื่อง “การมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ถึง รองนายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง รวมถึงหน่วยงานราชการระดับกรม และเลขานุการ คสช. มีใจความว่า ด้วยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 นายกรัฐมนตรี เสนอว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม จึงสมควรที่จะดำเนินการ ดังนี้
1. กำหนดกรอบหลักการในการดำเนินการเพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทย สู่ความยั่งยืน ดังนี้
1.1 คนไทยรักกัน ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคม หรือเรียกอย่างอื่นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน 1.2 คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 1.3 เมืองไทยน่าอยู่ ด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน
“1.4 วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ 1.5 รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ด้วยการให้ความรู้แก่ประขาขนในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี 1.6 รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหาร ราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน 1.7 รู้รักประชาธิปไตย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล”
“1.8 รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญ ต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน 1.9 บูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร”
2. ให้มีคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนทุกระดับ โดยแต่งตั้ง 2.1 คณะอำนวยการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 2.2 คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 2.3 คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ทั้งนี้ ให้มีทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบล ประกอบด้วย ข้าราชการและหน่วยงานความมั่นคง ปราชญ์ชาวบ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการตามแนวทางประซารัฐ
3. ให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมการจัดประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่นายกรัฐมนตรี จะมอบนโยบายและวางกรอบการปฏิบัติร่วมกันให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงาน เพี่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลสัมฤทธิ์ในพื้นที่ต่อไป
4. ให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานที่มี หรือจะมีโครงการ/กิจกรรม ที่จะดำเนินการในระดับตำบล หมู่บ้าน บูรณาการการดำเนินการร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพี่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบลเป็นแกนหลัก รวมทั้งสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับด้วย
5. ให้เริ่มขับเคลื่อนการดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดำเนินการต่อไป
“ซึ่งคณะรัฐมนตรี พิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบในหลักการตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมาย ให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป”
มีรายงานว่า เมื่อสายวันนี้ ( 19 ม.ค.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จดหมายดังกล่าว นายกฯ แจกประเด็นต่างๆ ที่อยากให้มีการขับเคลื่อน ซึ่งนายกฯ จะจดข้อมูลด้วยมือตัวเองทุกครั้งในการประชุม ครม. และจะอ่านให้ ครม. ฟังในวาระของนายกฯ โดยจะระบุว่าอยากให้เน้นในเรื่องอะไร โครงการไหนเป็นโครงการที่สำคัญที่อยากให้มีการขับเคลื่อน ซึ่งจะทำให้ ครม. และข้าราชการเดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีพลัง จากนั้นนายกฯ ก็จะส่งให้รัฐมนตรีเพื่อนำกลับไปอ่าน โดยในปีนี้นายกฯมีเป้าหมายต่อสู้ความยากจน เศรษฐกิจฐานราก การเร่งรัดกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนมีการกำหนดตัวชี้วัดรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่าและอธิบดีในทุกๆ 3 เดือน เป็นการขันน็อตหรือไม่ นายกอบศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่แน่ใจไม่รู้
https://mgronline.com/politics/detail/9610000006220
✏📝~มาลาริน~ เห็นด้วยไหมคะ...อวยนายกฯเขียนโพยดีกว่าอวยนายกฯอ่านโพย เพราะดูฉลาดกว่า มีความเป็นผู้นำกว่า มีเป้าหมายทำงาน
และสื่อสารเรื่องสำคัญให้มีความเข้าใจและปฏิบัติให้ตรงกัน
รู้สึกชอบการทำงานของท่านมากค่ะ....
ท่านเขียนด้วยลายมือของท่านเองอย่างตั้งใจ
มีความคิดของท่านในการบริหารงาน
ชี้แนวทางในการแก้ไขปัญหา การรับมือกับอุปสรรคต่างๆที่รัฐบาลเผชิญอยู่
เตือนให้ทุกคนยึดในหลักการทำงานที่ซื่อสัตย์เพื่อประชาชน
และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือประชาชน เน้นความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ดิฉันมองเห็นความฉลาดในการเป็นผู้นำของท่า ที่จะนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้า
อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีความเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ
รู้สึกภูมิใจในตัวท่าน..
มีผู้นำที่สมเป็นผู้นำทำให้ประชาชนรู้สึกดีมากค่ะ
ขอบคุณที่ท่านเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองนะคะ...💗💗💗💗💗
สลค.เวียน “จดหมายบิ๊กตู่” เปิด 5 ข้อใหญ่ 12 ข้อย่อย ถึงรัฐมนตรี ชู “คนไทยรักกัน-คนไทยไม่ทิ้งกัน”
เน้นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
ชู “คนไทยรักกัน-คนไทยไม่ทิ้งกัน - เมืองไทยน่าอยู่-วิถีไทยวิถีพอเพียง -รู้สิทธิ รู้หน้าที่ -รู้กลไกการบริหารราชการ -รู้รักประชาธิปไตย-รู้เท่าทันเทคโนโลยี-แก้ปัญหายาเสพติด พร้อมให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนทุกระดับ สั่งมท.เตรียมประชุมผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนกุมภาพันธ์นี้
วันนี้ (19 ม.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แจกเอกสารที่เขียนด้วยลายมือบนกระดาษ เอ 4 จำนวน 12 หน้า ให้กับรัฐมนตรีทุกคนในวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือ โดยเป็นข้อสั่งการ เรื่อง “การมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ถึง รองนายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง รวมถึงหน่วยงานราชการระดับกรม และเลขานุการ คสช. มีใจความว่า ด้วยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 นายกรัฐมนตรี เสนอว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม จึงสมควรที่จะดำเนินการ ดังนี้
1. กำหนดกรอบหลักการในการดำเนินการเพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทย สู่ความยั่งยืน ดังนี้
1.1 คนไทยรักกัน ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคม หรือเรียกอย่างอื่นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน 1.2 คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 1.3 เมืองไทยน่าอยู่ ด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน
“1.4 วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ 1.5 รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ด้วยการให้ความรู้แก่ประขาขนในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี 1.6 รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหาร ราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน 1.7 รู้รักประชาธิปไตย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล”
“1.8 รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญ ต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน 1.9 บูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร”
2. ให้มีคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนทุกระดับ โดยแต่งตั้ง 2.1 คณะอำนวยการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 2.2 คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 2.3 คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ทั้งนี้ ให้มีทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบล ประกอบด้วย ข้าราชการและหน่วยงานความมั่นคง ปราชญ์ชาวบ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการตามแนวทางประซารัฐ
3. ให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมการจัดประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่นายกรัฐมนตรี จะมอบนโยบายและวางกรอบการปฏิบัติร่วมกันให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงาน เพี่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลสัมฤทธิ์ในพื้นที่ต่อไป
4. ให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานที่มี หรือจะมีโครงการ/กิจกรรม ที่จะดำเนินการในระดับตำบล หมู่บ้าน บูรณาการการดำเนินการร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพี่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบลเป็นแกนหลัก รวมทั้งสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับด้วย
5. ให้เริ่มขับเคลื่อนการดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดำเนินการต่อไป
“ซึ่งคณะรัฐมนตรี พิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบในหลักการตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมาย ให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป”
มีรายงานว่า เมื่อสายวันนี้ ( 19 ม.ค.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จดหมายดังกล่าว นายกฯ แจกประเด็นต่างๆ ที่อยากให้มีการขับเคลื่อน ซึ่งนายกฯ จะจดข้อมูลด้วยมือตัวเองทุกครั้งในการประชุม ครม. และจะอ่านให้ ครม. ฟังในวาระของนายกฯ โดยจะระบุว่าอยากให้เน้นในเรื่องอะไร โครงการไหนเป็นโครงการที่สำคัญที่อยากให้มีการขับเคลื่อน ซึ่งจะทำให้ ครม. และข้าราชการเดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีพลัง จากนั้นนายกฯ ก็จะส่งให้รัฐมนตรีเพื่อนำกลับไปอ่าน โดยในปีนี้นายกฯมีเป้าหมายต่อสู้ความยากจน เศรษฐกิจฐานราก การเร่งรัดกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนมีการกำหนดตัวชี้วัดรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่าและอธิบดีในทุกๆ 3 เดือน เป็นการขันน็อตหรือไม่ นายกอบศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่แน่ใจไม่รู้
https://mgronline.com/politics/detail/9610000006220