ยังไม่ชัดเจน! การเยียวยากลุ่มผู้ซื้อรถหรู
.
ยังมีอีกความเห็นในการเยียวยาเหยื่อที่ซื้อรถหรูมาใช้งาน โดยไม่รู้ว่ารถมีการสำแดงภาษีเท็จ ที่เห็นว่าควรให้การคุ้มครอง เพราะเป็นผู้เสียหายในดคีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา รายละเอียดเป็นอย่างไร ไปติดตามจากรายงาน
ก่อนที่การเจรจาหาทางออกระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กับกรมศุลกากร เพื่อเยียวยากลุ่มผู้ที่ซื้อรถหรู ที่ไม่รู้ว่ารถที่ซื้อไป ผู้นำเข้าสำแดงภาษีเท็จ หรือชำระอากรไม่ครบ ที่จะเกิดขึ้นได้ในปีหน้า
ในมุมมองแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งอยู่เบื้องหลังในการทำคดีนี้ มองว่าทางออกของปัญหาทั้งหมด ต้องเริ่มจากการแบ่งแยกการดำเนินคดีระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยคดีที่เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร สำแดงราคาเป็นเท็จ ควรเป็นคดีอาญา ต้องดำเนินคดีกับกลุ่มผู้นำเข้ารถผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐที่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเก็บภาษี ส่วนคดีหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นคดีทางแพ่ง เห็นว่าผู้ที่ซื้อรถหรูเป็นผู้เสียหาย สมควรให้ความคุ้มครองผู้ซื้อเหล่านี้โดยสุจริต เพราะการซื้อขายเกิดขึ้นจากการนำเงินสุจริตไปซื้อ ไม่ใช่เกิดจากการรู้เห็นกับกลุ่มผู้นำเข้าตั้งแต่แรกและเห็นว่าไม่ควรยึดรถไว้เป็นของกลางในคดี
ขณะเดียวกันเรื่องการทำคดีนี้ เห็นว่าควรให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ใช้คำสั่ง คสช.ที่ 69/2557 เข้าไปเป็นเจ้าภาพแบ่งงานให้หน่วยที่รับผิดชอบเข้าไปดูแลเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ควรให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เข้ามาตรวจสอบความเสียหายของรัฐในคดีนี้ หาตัวผู้รับผิดชอบ และติดตามทรัพย์สินกลับคืนให้แผ่นดิน และกรมศุลกากร ควรหยุดการนำเข้ารถในข่ายความเสี่ยงไว้ชั่วคราว เพื่อเร่งออกกฎหมายจัดเก็บภาษีใหม่ โดยยึดเอาราคาขายที่แท้จริงเป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ
ขณะที่ความเห็นของผู้ประกอบการรถยนต์ เห็นว่า ผลกระทบจากเรื่องนี้ ทำให้การแข่งขันซื้อขายรถยนต์ในไทย เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะกับบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ผลิตและสั่งนำเข้ารถหรูมาขายโดยตรง ที่ไม่ใช่ผู้นำเข้าอิสระ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นจากผลคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรายังต้องติดตามเรื่องนี้กันต่อไป
.
เคริดตข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://twitter.com/BBTVChannel7/status/946373840178855936
.
.
DSI เตรียมหารือกรมศุลฯ กรณีเยียวยาผู้ซื้อรถหรู มกราคมปีหน้า
.
การเยียวยาเหยื่อซื้อรถหรูสำแดงเท็จ มีความชัดเจนจากดีเอสไอแล้วว่า มกราคมปีหน้านี้จะเข้าไปหารือหาข้อสรุป และยืนยันว่ามีการอายัดรถไว้เพียง 39 คัน ที่อยู่ในความครอบครองบริษัทนำเข้ารถหรูเท่านั้น ไปติดตามจากรายงาน
ปมสงสัยเรื่องการเยียวยาให้ผู้ซื้อรถหรูที่เป็นผู้เสียหายในคดีรถหรูสำแดงเท็จ กำลังจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นจากการนัดเจรจาหาทางออกระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และกรมศุลกากร ที่มีกำหนดนัดหาทางออกให้กับเรื่องนี้ เดือนมกราคม ปี 2561
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถหรู และเจ้าหน้าที่รัฐในคดีนี้ ในการแถลงผลการมอบนโยบายให้กับดีเอสไอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า จะให้ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าคดีต่าง ๆ ในเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเด็นในคดีนี้ที่ยังไม่มีคำตอบ เช่น การหาตัวผู้รับผิดชอบทั้งผู้ที่รับราคาไปคำนวณภาษี และการจับเก็บภาษีที่ขาดไป ปมสงสัยที่กรมศุลกากรปล่อยรถออกมาจำหน่ายในท้องตลาด รวมไปถึงการคำนวณเงินภาษีในคดีนี้ ที่เรายังต้องติดตามหาคำตอบกันต่อไป
.
เครดิตข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://twitter.com/bbtvchannel7/status/946730857909272576
จับตาการเยียวยากลุ่มผู้ซื้อรถหรู ล่าสุด DSI เตรียมหารือกรมศุลฯ มกราคมปีหน้า
ยังไม่ชัดเจน! การเยียวยากลุ่มผู้ซื้อรถหรู
.
ยังมีอีกความเห็นในการเยียวยาเหยื่อที่ซื้อรถหรูมาใช้งาน โดยไม่รู้ว่ารถมีการสำแดงภาษีเท็จ ที่เห็นว่าควรให้การคุ้มครอง เพราะเป็นผู้เสียหายในดคีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา รายละเอียดเป็นอย่างไร ไปติดตามจากรายงาน
ก่อนที่การเจรจาหาทางออกระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กับกรมศุลกากร เพื่อเยียวยากลุ่มผู้ที่ซื้อรถหรู ที่ไม่รู้ว่ารถที่ซื้อไป ผู้นำเข้าสำแดงภาษีเท็จ หรือชำระอากรไม่ครบ ที่จะเกิดขึ้นได้ในปีหน้า
ในมุมมองแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งอยู่เบื้องหลังในการทำคดีนี้ มองว่าทางออกของปัญหาทั้งหมด ต้องเริ่มจากการแบ่งแยกการดำเนินคดีระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยคดีที่เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร สำแดงราคาเป็นเท็จ ควรเป็นคดีอาญา ต้องดำเนินคดีกับกลุ่มผู้นำเข้ารถผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐที่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเก็บภาษี ส่วนคดีหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นคดีทางแพ่ง เห็นว่าผู้ที่ซื้อรถหรูเป็นผู้เสียหาย สมควรให้ความคุ้มครองผู้ซื้อเหล่านี้โดยสุจริต เพราะการซื้อขายเกิดขึ้นจากการนำเงินสุจริตไปซื้อ ไม่ใช่เกิดจากการรู้เห็นกับกลุ่มผู้นำเข้าตั้งแต่แรกและเห็นว่าไม่ควรยึดรถไว้เป็นของกลางในคดี
ขณะเดียวกันเรื่องการทำคดีนี้ เห็นว่าควรให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ใช้คำสั่ง คสช.ที่ 69/2557 เข้าไปเป็นเจ้าภาพแบ่งงานให้หน่วยที่รับผิดชอบเข้าไปดูแลเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ควรให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เข้ามาตรวจสอบความเสียหายของรัฐในคดีนี้ หาตัวผู้รับผิดชอบ และติดตามทรัพย์สินกลับคืนให้แผ่นดิน และกรมศุลกากร ควรหยุดการนำเข้ารถในข่ายความเสี่ยงไว้ชั่วคราว เพื่อเร่งออกกฎหมายจัดเก็บภาษีใหม่ โดยยึดเอาราคาขายที่แท้จริงเป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ
ขณะที่ความเห็นของผู้ประกอบการรถยนต์ เห็นว่า ผลกระทบจากเรื่องนี้ ทำให้การแข่งขันซื้อขายรถยนต์ในไทย เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะกับบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ผลิตและสั่งนำเข้ารถหรูมาขายโดยตรง ที่ไม่ใช่ผู้นำเข้าอิสระ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นจากผลคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรายังต้องติดตามเรื่องนี้กันต่อไป
.
เคริดตข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
.
DSI เตรียมหารือกรมศุลฯ กรณีเยียวยาผู้ซื้อรถหรู มกราคมปีหน้า
.
การเยียวยาเหยื่อซื้อรถหรูสำแดงเท็จ มีความชัดเจนจากดีเอสไอแล้วว่า มกราคมปีหน้านี้จะเข้าไปหารือหาข้อสรุป และยืนยันว่ามีการอายัดรถไว้เพียง 39 คัน ที่อยู่ในความครอบครองบริษัทนำเข้ารถหรูเท่านั้น ไปติดตามจากรายงาน
ปมสงสัยเรื่องการเยียวยาให้ผู้ซื้อรถหรูที่เป็นผู้เสียหายในคดีรถหรูสำแดงเท็จ กำลังจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นจากการนัดเจรจาหาทางออกระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และกรมศุลกากร ที่มีกำหนดนัดหาทางออกให้กับเรื่องนี้ เดือนมกราคม ปี 2561
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถหรู และเจ้าหน้าที่รัฐในคดีนี้ ในการแถลงผลการมอบนโยบายให้กับดีเอสไอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า จะให้ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าคดีต่าง ๆ ในเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเด็นในคดีนี้ที่ยังไม่มีคำตอบ เช่น การหาตัวผู้รับผิดชอบทั้งผู้ที่รับราคาไปคำนวณภาษี และการจับเก็บภาษีที่ขาดไป ปมสงสัยที่กรมศุลกากรปล่อยรถออกมาจำหน่ายในท้องตลาด รวมไปถึงการคำนวณเงินภาษีในคดีนี้ ที่เรายังต้องติดตามหาคำตอบกันต่อไป
.
เครดิตข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้