ชุมพรแหล่งปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศ เกษตรกรโอดครวญราคาผลผลิตตกต่ำในรอบหลายปี จาก กก.80-85 ลงมาเหลือ 60.50 บาท วอนรัฐบาลช่วยแก้ปัญหา...
วันที่ 26 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันราคาพืชผลทางการเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มีราคาตกต่ำอย่างมาก ส่งผลให้เกษตรกรทางภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกหลักได้รับผลกระทบอย่างมาก นอกจากนั้นยังพบว่าผลผลิตกาแฟในจังหวัดชุมพร ก็ประสบปัญหาราคาตกต่ำเช่นเดียวกัน
นายอุดม แขกจัตุรัส อายุ 65 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านพันวาล หมู่ 20 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ตำบลรับร่อแห่งนี้ ที่มีเกษตรกรปลูกกาแฟมากที่สุดในจังหวัดชุมพร ซึ่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตเมล็ดกาแฟสุกจำนวน 4 ตัน เมื่อนำมาตากแห้งและสีให้เหลือแต่เมล็ด จะได้เมล็ดกาแฟเพียง 1 ตันเท่านั้น สำหรับตนปีนี้ได้ผลผลิตกาแฟตากแห้งแล้วประมาณ 2 ตัน แต่ราคาไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเดิมในรอบหลายปีที่ผ่านมาราคาเมล็ดกาแฟสีจะขายได้กิโลกรัมละ 80-85 บาท ปัจจุบันนี้ราคาตกลงมาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 60.50 บาท ขณะที่ราคาปุ๋ยและปัจจัยอื่นๆ กลับมีราคาสูงขึ้น ทำให้ชาวสวนกาแฟได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำ จึงอยากให้รัฐบาลหันมาสนใจเกษตรกรชาวสวนกาแฟบ้าง เพราะราคาในปัจจุบันทำให้ชาวสวนเดือดร้อนกันมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร พบว่า จังหวัดที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 60 ของการผลิตทั้งหมดของประเทศ กาแฟที่ปลูกเป็นพันธุ์โรบัสตา ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในอำเภอเมือง ท่าแซะ สวี ทุ่งตะโก และพะโต๊ะ เนื้อที่ 178,283 ไร่ ผลผลิตรวม 24,345 ตัน/ปี สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นเงินมากกว่า 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันต้องประสบปัญหาราคาตกต่ำในรอบหลายปี.
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ ชาวสวนกาแฟชุมพร แหล่งปลูก ‘โรบัสตา’ มากสุด ราคาตกในรอบหลายปีวอนรัฐช่วย
วันที่ 26 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันราคาพืชผลทางการเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มีราคาตกต่ำอย่างมาก ส่งผลให้เกษตรกรทางภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกหลักได้รับผลกระทบอย่างมาก นอกจากนั้นยังพบว่าผลผลิตกาแฟในจังหวัดชุมพร ก็ประสบปัญหาราคาตกต่ำเช่นเดียวกัน
นายอุดม แขกจัตุรัส อายุ 65 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านพันวาล หมู่ 20 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ตำบลรับร่อแห่งนี้ ที่มีเกษตรกรปลูกกาแฟมากที่สุดในจังหวัดชุมพร ซึ่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตเมล็ดกาแฟสุกจำนวน 4 ตัน เมื่อนำมาตากแห้งและสีให้เหลือแต่เมล็ด จะได้เมล็ดกาแฟเพียง 1 ตันเท่านั้น สำหรับตนปีนี้ได้ผลผลิตกาแฟตากแห้งแล้วประมาณ 2 ตัน แต่ราคาไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเดิมในรอบหลายปีที่ผ่านมาราคาเมล็ดกาแฟสีจะขายได้กิโลกรัมละ 80-85 บาท ปัจจุบันนี้ราคาตกลงมาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 60.50 บาท ขณะที่ราคาปุ๋ยและปัจจัยอื่นๆ กลับมีราคาสูงขึ้น ทำให้ชาวสวนกาแฟได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำ จึงอยากให้รัฐบาลหันมาสนใจเกษตรกรชาวสวนกาแฟบ้าง เพราะราคาในปัจจุบันทำให้ชาวสวนเดือดร้อนกันมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร พบว่า จังหวัดที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 60 ของการผลิตทั้งหมดของประเทศ กาแฟที่ปลูกเป็นพันธุ์โรบัสตา ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในอำเภอเมือง ท่าแซะ สวี ทุ่งตะโก และพะโต๊ะ เนื้อที่ 178,283 ไร่ ผลผลิตรวม 24,345 ตัน/ปี สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นเงินมากกว่า 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันต้องประสบปัญหาราคาตกต่ำในรอบหลายปี.