ฉันอยู่ใต้ท้องฟ้า ขอให้เธออยู่ที่เดิม โดย ภูระริน ตอนที่ 4

4


มารดาดูสีหน้าคนเมาแล้วบอกไม่ถูก คนอย่างเอกกวีทำอะไรรู้ตัวตลอด ท่านสอนลูกให้เข้มแข็งและอ่อนโยนให้ได้ในเวลาเดียวกัน แม้คนเจ้าชู้และทำอะไรตามใจตัว แต่ท่านก็แน่ใจว่าเขามีจุดยืนเป็นของตัวเอง

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเล่า “น้องโท....ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งไม่กี่วัน แต่รู้สึกผูกพันมากครับแม่” ชายหนุ่มใช้สรรพนามแทนตัวเองอย่างนี้กับแม่และพี่สาวเมื่อพูดคุยกันที่บ้าน คนเล่ามีสีหน้ากังวลแต่แววตาดูมีความสุข

“โทชิยูคิคุงก็เลยจีบ....และสำเร็จในสองวัน”

ชายหนุ่มส่ายหน้า “เปล่าเลยครับแม่ ไม่กล้าทำอะไรนอกจากบังคับให้ไปกินข้าวด้วย”

“ตาย!! ไม่กล้าเลยนะนั่น บังคับไป?!ผู้หญิงที่ไหนยอม?”

เมื่อถูกย้อนถามจึงได้คิด.....นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของเขาคนเดียวแล้ว หากชายหนุ่มเล่าให้มารดาฟังทั้งหมด “ละติน” อาจจะถูกมองไม่ดี เอกกวีไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งของหล่อนเท่านั้น แต่เป็นถึง “เจ้านาย”

“ใช้คำผิด.....ชวนครับ” เขารีบแก้ตัว

“แน่เหรอ??!! คนอย่างเอกกวีใช้คำผิด ลูกแม่นี่นะใช้คำผิด?”

ท่านเห็นความผิดปกติในตัวลูก เมื่อรู้สึกว่าลูกกำลังสร้างกรอบให้ตัวเอง “เอาเถอะ! อยากเล่าแค่ไหนก็ว่ามา แม่ไม่ซัก” ท่านเห็นชายหนุ่มอมยิ้ม ก่อนที่เขาจะเล่าต่อ “ขอบคุณครับ ก็อย่างที่บอก….เห็นหน้าแล้วรู้สึกผูกพัน เขาทำอะไรให้อย่างแค่เลื่อนแก้วน้ำมาให้เนี่ย น้องโทก็พูดอะไรไม่ออก แม่ว่าแปลกไหมครับ?”

“แสดงว่าเราคิดอะไรอยู่ ถ้าน้องโทไม่คิดอะไรกับเขาก็คงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไป ชอบเหรอลูก?”

ชายหนุ่มนั่งนิ่ง เขาไม่อยากตอบอย่างที่ใจคิด “ไม่แน่ใจครับ แต่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน”

“อืม....สวยไหม?”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “แต่คงไม่ฉลาดน้อย.....เขาพูดอะไรคิดก่อน น้องโทรู้สึก”

“ก็ดูกันไปก่อน มีอะไรกันหรือยัง?” ท่านถามตรงๆ

“แตะแค่ปลายนิ้ว.....แต่โทชิยูคิสั่น.....” เขาเล่าเบาๆ แต่ทำเอาคนเป็นแม่หัวเราะเสียงดัง

“ตายแล้ว!!!??? คนอย่างน้องโทสั่น???!!! ญี่ปุ่นหรือคนไทยลูก แม่อยากเห็นหน้า”

“อิเอะ!!! ไม่ใช่!!! อย่ามาย้ำน่ะ น้องโทแค่เปรียบเปรยให้แม่ฟัง ว่าไม่กล้าทำอะไรเขาต่างหาก!” ชายหนุ่มหัวเราะเช่นกัน เพราะรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยามจากสายตาของแม่ ท่านอมยิ้มแล้วส่ายหน้า

“ก็ได้!! ไม่ได้โง่!! แล้วทำไมไม่อยากได้หรอกเหรอ? ถ้าเป็นแม่นะ ชอบใครแม่ไม่มีถอยหรอก แม้จะยากแค่ไหนก็จะทำทุกอย่างให้ได้หัวใจเขามา หาไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะคนที่ทำให้เราสั่น” ท่านหัวเราะอารมณ์ดี ทำให้เอกกวีรู้สึกผ่อนคลาย

“พอแล้วไม่เล่าต่อละ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปเสียเฉยๆ

“อ้าว!! มาทำอยากรู้แล้วก็ไม่เล่าต่อ น้องโทเนี่ย!!”

“บอกได้คำเดียวครับ.....star ยังเอามากอดได้....ไม่มีอะไรที่โทชิยูคิจะไม่ได้!!!” เขาหัวเราะตาหยีก่อนจะเดินไป ชายหนุ่มฮัมเพลงภาษาญี่ปุ่นจากไปอย่างสบายอารมณ์

ผู้ชาย......คิดอยู่ไม่กี่เรื่อง!!! การงานและ.....น้องนาง

ผู้หญิงที่ทำให้ลูกชายสั่น......คงไม่ธรรมดา

~~~

เช้านี้ละตินเข้ามาจัดเอกสารแต่เช้า เหลือเวลาเกือบสามสิบนาทีที่จะเข้างาน หญิงสาวเดินออกไปที่ห้องอาหารสำหรับพนักงานเพื่อหาอะไรกินเล่น แซนด์วิชกับกาแฟหอมกรุ่นตรงหน้าทำให้บรรยากาศรอบกายดีขึ้น พนักงานหลายคนมองหล่อนอยู่ห่างๆ คงเพราะยังไม่คุ้นหน้านั่นเอง

                พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา หล่อนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “สวัสดีค่ะพี่.....” สมหวังทักเพื่อนรุ่นพี่ที่คุ้นหน้ามาเดือนหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเลย

“สวัสดีค่ะ เคยเห็นหน้าน้อง”

“ค่ะ หนูชื่อนกพี่ นั่งอยู่ล็อกในสุด ไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกับใครเลย งานเต็มหัว” คนบ่นยังหน้ายิ้ม

“พี่ชื่อติ......ว่างๆ ก็มาคุยกันได้นะคะ”

“ทราบแล้วค่ะ เห็นบอสมาถามหา หนูเลยจำชื่อพี่ได้แม่น” คนเล่าดูเหมือนไม่ได้คิดอะไร ทำให้ละตินรู้สึกปลอดภัยที่จะคุยด้วย อย่างน้อยน้องก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาให้เห็น

“พี่ติเคยรู้จักกับบอสมาก่อนหรือเปล่าคะ?” หญิงสาวถามหน้าซื่อ

“ไม่ค่ะ มีอะไรเหรอ?”

“อ๋อ....หนูได้ยินพวกป้าๆ ฝั่งโน้นเขาพูดกัน ว่าคุณโทสนใจพี่เป็นพิเศษ ถึงกับเรียกหาคุณการะเกด ทั้งๆ ที่ปกติหน้าแก คุณโทยังไม่มอง” คนเล่าๆ ละเอียด ไม่ได้สนใจสีหน้าคนฟังสักนิด “พวกคนแก่ก็คิดมากไปต่างๆ นานา หนูคนหนึ่งล่ะที่ไม่เข้าพวก เลยถูกเขี่ยมาที่นี่ ใครขัดพวกป้าๆ เป็นได้ถูกแยกพวกแหละ”

“แล้วนกไม่ชอบอยู่ตึกนี้เหรอคะ?”

“ชอบสิ!! เมื่อก่อนคุณโทไม่ได้อยู่ตึกนี้นะคะ ก็อยู่กับป้าๆ พวกนั้นแหละ แต่หลังๆ คุณโทมีผู้หญิงมาหาทุกวัน แล้วโดนรายงานให้คุณแม่เธอทราบละเอียดยิบ คุณโทเรียกไปเตือนหลายครั้งว่านี่เรื่องส่วนตัวของเธอ จะเล่าอะไรให้คุณแม่เธอฟัง ควรถามเธอก่อน เล่นเอาระเบิดลงเลยแหละ”

“ค่ะ....”

“นี่เลยแยกพวกของแท้!! คุณโทไม่ชอบใคร......เธอปล่อยไว้ฝั่งโน้น ทีเงี้ยเพิ่งเข้าใจว่า ใครกันแน่ที่ใหญ่ของแท้??!!! คุณโทเป็นรองคุณแม่เฉพาะในบ้านค่ะ ที่ออฟฟิศเธอใหญ่สุด พวกนั้นเลยหน้าแตก” หญิงสาวหัวเราะร่วน “ดีแล้วที่พี่ไม่ใช่เด็กเส้น ไม่งั้นได้เห็นดาวระยิบทุกวัน อิๆๆ”

“ใครคะ?”

“คุณดารา....ผู้หญิงของนาย”

“แฟนเหรอคะ?”

“ถ้าคำว่าแฟนของหนูนะ.....คือภรรยา แต่คุณดาราเป็นแค่ผู้หญิงของนาย....หนึ่งในผู้หญิงของนายค่ะ” จะพูดตรงๆ ว่าไม่ค่อยชอบหน้าก็ดูไม่ดีนัก คนที่ฟังอยู่อาจมองเธอไม่ดี จะหาว่าชอบนินทาเอาได้

“มาบ่อยเหรอจ๊ะ?”

“แล้วแต่ค่ะ......บางทีก็มาโดยมิได้นัดหมาย แต่คุณโทก็ไม่ชอบให้มาเดินเพ่นพ่านหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าจำเป็นต้องมาด้วย เธอขังไว้ในห้องค่ะ เว้นแต่เผลอ คนนั้นก็จะออกมาเดินแฟชั่นโชว์”

คนฟังบอกไม่ถูกเมื่อได้ฟังเรื่องของบุคคลที่สาม.....

ไม่แปลกที่คนหน้าตาดี และมีพร้อมทุกอย่างจะแวดล้อมไปด้วยสตรี บางที....ตัวเธอเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา.....ก็ไม่อยากคิดมากกว่าที่เห็น

“หวาย.....ตายยากจริงๆ มาโน่นแล้วพี่” สมหวังหมอบราบลงที่โต๊ะราวกับหนีระเบิด

“ใคร?” ละตินถามเบาๆ

“คุณดารา....น้อง star ของพี่โทไงฮ้า!”

ละตินหันไปมองที่ร้านขายอาหารห้องหนึ่งตามมือของสมหวัง จึงได้เห็นผู้หญิงผิวพรรณดี รูปร่างงดงามเดินนวยนาดชี้นิ้วสั่งอาหาร หล่อนยิ้มกราดไปทั่ว แม้จะมีพนักงานที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่ไม่กี่คน

“คนสำคัญ” มีพนักงานในร้านขายอาหารยกจานกับข้าวมาให้ถึงที่

“อึ๋ย....เจ๊ขมนมใหญ่.....บริการยิ่งกว่าเทวดา” คนข่อนคอดเงยหน้าขึ้นมานั่งให้เป็นปกติ “นี่นะ! หล่อนกินข้าวได้ที่ร้านนี้ร้านเดียวค่ะพี่ คนอื่นเขาไม่ยอมมาถวายถึงที่ ยกเว้นเจ๊ขม....อ้าวๆๆ เดินนมกระเพื่อม!!” สมหวังหัวเราะคิก

“ไปว่าเขาน่านก....คงได้ค่าบริการมั่งหรอกน่ะ”

“ไม่ได้!! ไม่เสียเงินค่าข้าวด้วย แต่ไปขอเบิกคุณโทโน่น!! ไม่เข็ดหลาบ โดนดุไปหลายที หลังๆ คุณโทให้คุณแววดูให้ เธอไม่ชอบแตะเงินค่ะ” คนเล่าดูจะรู้เรื่องของทุกคนดี ทำให้ละตินยิ้มเจื่อนๆ

เธอไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะมีประตู นำไปสู่ชีวิตของผู้ชายคนนี้

ดูดจิต.......ดึงกาย......เข้าหากันหนักขึ้นทุกวัน

“นกทำงานที่นี่มานานหรือยังคะ?”

“สามสี่ปีได้พี่......รู้หมดแหละพี่ติอยากรู้อะไร หนูบอกได้หมด เคยเมาเหล้ากับนาย หัวราน้ำกันมาแล้ว คุณโทนี่สุดยอดชายชาตรีแล้ว หนูเป็นทอมหนูยังเคยหลง!!” เจ้าตัวหัวเราะขันตัวเอง

“นกนี่นะเป็นทอม???!!”

“ช่าย.....แต่สังขารไม่อำนวย สวยไปหน่อย” คนเล่าหน้าตาเฉย แต่คนฟังแอบยิ้ม

สมหวังตัวสูงก็กว่าเธอนิดหน่อย ผิวสีดำแดง หน้าตาอย่างหล่อนเรียกว่าดูได้ แต่สังขารที่เจ้าตัวว่าไม่อำนวย น่าจะเป็นสะโพกที่ผายและหน้าอกที่เกินหน้าเกินตาคนอื่นนั่นเอง

“พี่ว่าเปลี่ยนใจยังทันนะนก”

“ไม่ล่ะ.....อยากแมน.....อยากเท่ห์เหมือนคุณโทชิยูคิ”

“ใครอีกล่ะ?”

คนถูกถามมองหน้าเธอซื่อๆ ก่อนจะถาม “มิรู้จัก???!!!”

ละตินพยักหน้ารับ

“โน่นไงพี่........โทชิยูคิ....มาสึดะ.....” สมหวังชี้นิ้วไปข้างหน้า คนที่เดินตัวปลิวมาสบตาหล่อน ก่อนจะยิ้มจางๆ ให้ ชายหนุ่มสบตาก่อนจะเดินไปอีกทาง ละตินหลบตาวูบก่อนจะหันมาหาสมหวัง

เต็มยศ......รู้จักแล้วชื่อญี่ปุ่นของเจ้านาย

“ว่าไงไอ้สมหวัง??!! มานั่งจีบพนักงานใหม่??”

ละตินเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงข้างๆ ทันที  เมื่อกี้!!! เดินผ่านไปแล้วนี่นา??!!

จะเอาอะไร? หล่อนถามในใจ

“ไม่ได้จีบฮะนาย!!! อยากคุยกับพี่ติเท่านั้นเอง เห็นเขาไม่ค่อยพูดกับใคร เลยกลัวเหงา” สมหวังหัวเราะ

“แล้วเรามาแต่เช้าเลยละติน??”

“ค่ะ.....ตื่นแต่เช้า นอนแต่หัวค่ำค่ะเมื่อคืน”

ตายาวมองมานิ่ง มือเรียวยาวเคาะที่โต๊ะไปมา “อืม....ปกตินอนแต่หัวค่ำเหรอ??”

“เปล่าค่ะ.....นอนดึกเหมือนกัน” ละตินพยายามพูดให้สั้นที่สุด เพราะพนักงานเริ่มหนาตา แต่คนร่างโปร่งไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบกาย อีกคนชะเง้อคอมองหาที่ประตูทางเข้า.....

“หวัง.....ไปกินเหล้ากันคืนนี้ พี่รอ.....ไม่ต้องรีบ” เขาสั่งสมหวังแล้วยิ้มให้ละติน ก่อนจะเดินจากไป

หญิงสาวไม่กล้ามองตามเขาไป เพราะไม่แน่ใจว่าใครมองพวกเธออยู่บ้าง

“ว่าไงพี่?”

“อะไรคะ?”

“ก็นายชวนไปเที่ยว!!!”

ละตินคิดไม่ทัน..... “เมื่อไหร่กัน?? เขาชวนสมหวังไม่ใช่ละติน”

“ทำไมจะไม่ชวน ก็เมื่อกี้เขายังพยักหน้าไปทางพี่ แต่เขาเรียกหวังเฉยๆ อย่างนกนี่ไม่ต้องชวนแล้ว เดินออกมาเห็น เราก็ไปด้วยกันได้แล้ว เมื่อกี้น่ะ นายชวนพี่!!”

“ไม่ใช่นก!!! พี่ไม่เห็นได้ยินแล้วก็ไม่รู้เรื่อง!!”

“โอ.......ไม่รู้ล่ะ ก็หนูเห็น นายยังยิ้มให้พี่เลย ไม่เชื่อคอยดูเย็นนี้สิ!!”

เพิ่งรู้........อีกหนึ่งประตูกำลังจะดึงหญิงสาวเข้าสู่โลกกลางคืนของเขา

โทชิยูคิ....

ทำไมไม่ชวนกันตรงๆ??

~~~

ละตินเหลือบมองนาฬิกาหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วมองไปรอบกาย เกือบหกโมงเย็นแล้วแต่พนักงานทุกคนก็ยังก้มหน้าก้มตาทำงานกัน หวังอยู่ลึกๆ ว่าจะไม่มีโครงการใดๆ หลังเลิกงานเป็นแน่ เพียงเธอออกไปพ้นจากโต๊ะทำงานได้ก็พอ

ใครกันจะเดินมาชวนลูกน้องออกไปเที่ยวหน้าตาเฉยได้ ที่สมหวังบอกเมื่อเช้าว่าเอกกวีชวนเธอไปเที่ยว ก็ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่

“ไม่เห็นจะได้ยินอะไร!” หล่อนพูดกับตัวเองเบาๆ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบาๆ ละตินก้มหน้ารับสายเพราะไม่ชอบการรับโทรศัพท์เอาเสียเลย แล้วดันมาร้องอะไรตอนที่คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ!! “ละตินค่ะ” เธอขานชื่อตัวเอง

“เจ๊.....ไปทาแป้งหน่อยไหม?” เสียงสมหวังดังขึ้น ก่อนที่ละตินจะหันไปมองที่นั่งของเจ้าตัว

“ทำไมล่ะ? จะกลับบ้านแล้ว ไม่ต้องสวยค่ะ”

“ไม่ได้นะเจ๊.....จะไปเที่ยวต้องสวยโว้ย! ไปดิพี่สนุกออก ไปกับคุณโทนะ!” สมหวังหัวเราะคิก หล่อนรู้สึกคุ้นเคยกับละตินมากขึ้น “คำ” ติดปากหลายคำหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว

“นก....พี่ติไม่ไปได้ใช่ไหมจ๊ะ? คือมีธุระน่ะ” จำใจมุสาเพราะไม่อยากถูกดึงไปเกี่ยวข้องกับเจ้านาย ยิ่งเห็นผู้หญิงของเขาเมื่อเช้า ละตินยิ่งรู้สึก....คำทำนายของทองสิบอยู่เป็นเงารอบตัว

“รอก่อนนะครับ ผมทำงานอีกนิด” ร่างโปร่งเดินใกล้เข้ามา ละตินยังถือหูโทรศัพท์ค้างอยู่ ตายาวหยุดมองในขณะที่อีกคนแทบจะแนบใบหน้าชิดโต๊ะ

“เห็นป่ะ? สั่งเรียบร้อย มาหาว่าน้องโกหก พี่ติเนี่ย!!”

“โอ…..ไม่เอาค่ะ” ละตินชักรู้สึกอ่อนแรงเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้เข้า เสียงปลายสายหัวเราะคิกและดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสัญญาณบอกหมดเวลาทำงานดังขึ้น

“นี่!! บอกให้รอก่อนได้ยินไหมครับ?!!” เอกกวียืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของหญิงสาว มือของชายหนุ่มเคาะเบาๆ ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “นี่ๆๆ You นั่นแหละ เพื่อนผมไปด้วยอีกคน อีกยี่สิบนาทีออกไปรอที่ลานจอดรถได้เลยนะ”

ละตินเงยหน้าขึ้นสบตาแต่ไม่พูดอะไร ก่อนจะพยักหน้าให้เจ้านายพลางยิ้มเจื่อน

“Good” เขาพูดแล้วก็รีบเดินเข้าห้องไป

พนักงานทยอยเดินกันออกไป ไม่มีใครสนเธอมากกว่าที่เคยแอบมอง อากาศในห้องทำงานเย็น แต่ตอนนี้ละตินกลับเหงื่อซึมที่มือ

“บอกแล้วว่าเอาจริง!!” สมหวังเดินเข้ามาในล็อกทำงานของเธอ เจ้าตัวยิ้มแฉ่งหวีผมเสียเรียบแปล้

“ไปทำผมที่ไหนมา? เตรียมพร้อมจริงๆ เลยนะเรา!”

“ไม่ได้หรอก กินเหล้าฟรี ชอบมากๆ!! ไปกับคนรู้ใจ ใครไม่ชอบ!!??”

“สนิทกันมาเหรอนก?” เธอหมายถึงเอกกวีและสมหวัง

“ฮะ.....ก็นกเป็นทอม ใครๆ ก็รู้ แม่นายก็ไม่ว่า เพราะเห็นกันมาตั้งแต่ยังเล็ก จะว่าไปตั้งแต่คุณโทอยู่ ม.ต้นเลยมั้ง จริงๆ เรียกพี่โทนะ แต่ในที่ทำงานเราก็ทำตามหน้าที่ฮะ นกน่ะไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติฮะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่