เรื่องสั้นหน้าเดียว : รักนับครั้งไม่ถ้วน

แดงแวะมาหาผมที่บ้านริมคลองตอนบ่าย ผมจึงได้พักสายตากับคอมพิวเตอร์ แล้วไปง่วนทำกับข้าวที่กวีหนุ่มจากสิงห์บุรีหอบหิ้ววัตถุดิบมาสองถุงใหญ่ ขณะผมง่วนอยู่ในครัวหนุ่มก้านยาวเคราดกก็หยิบสมุดบันทึกมาเขียนกวีชมนกชมไม้ของเขาไปตามเรื่อง บางทีก็ฮัมเพลงศรคีรี ศรีประจวบเป็นพัก ๆ วงเหล้าเริ่มเมื่อย่ำค่ำที่จันทร์เพ็ญสว่างสะท้อนน้ำในคลองเหมือนสาวงามสองนางอวดโฉมประชันกัน “คนเขียนเรื่องรัก มักจะอกหักบ่อย ๆ ไม่ก็เป็นนักรักชั้นเซียนไปเลย เอ็งเป็นแบบไหน” เพื่อนสนิทถามผมต่อหน้ากับแกล้มและเหล้าที่เหลือค่อนขวด “อย่างแรก” ผมตอบ “ร้อยก็ไม่เชื่อหมื่นก็ไม่เชื่อ” แดงว่า “เอ็งตกคำนวณแหง”  ผมขำกับสำนวนกวีหนุ่มแล้วเราก็หัวเราะพร้อมกัน

“แดงปรึกษาอะไรหน่อย” มันจ้องหน้าผมแล้วพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้ผมว่าไป มันจะเงี่ยหูฟังตอนชงเหล้าไปด้วย “กูจะรับเขียนบทละครทีวี” “ห่า จะแย่งงานกูทำอีกล่ะ” ผมรู้ว่ามันเย้าแกล้งฟังผิดแต่ก็อดอธิบายเพื่อจะเล่นงานเพื่อนต่อไม่ได้ “บทละครทีวี ไม่ใช่บทกวี หูเอ็งเข้าพรรษาแล้ว” แดงยิ้ม ๆ “เขียนได้ นิยายรักน้ำเน่ายังเขียนได้เป็นสิบเล่ม ว่าแต่อย่าลืมเขียนฉากคนใช้คุยกันในครัวด้วยนะกูชอบ” ผมไม่ขำกับมุกนี้ของมันเลยเสไปเติมเหล้าเพิ่ม “ว่าแต่นิยายของใคร” แดงถามเข้าจุด “ของพี่แต๋ม” แดงนิ่งไป ผมเดาได้ในสมองของเพื่อนคงมีภาพของสาวนักเขียนรุ่นพี่คนนี้ลอยอยู่เต็มสมอง เราต่างคนต่างทราบดีว่าพี่แต๋มเป็นนักเขียนฝีมือดี เป็นสาวสมัยใหม่บุคลิกมาดมั่น สวยเปี่ยมเสน่ห์และที่สำคัญเคยคบหากับผมอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่บ้านริมคลองแห่งนี้

“ทางช่องเขาติดตรงคนเขียนบท พี่แต๋มบอกจะขายให้ถ้ากูเป็นคนเขียน” ผมบอกแดงเหมือนที่ทางช่องโทรมาหาผมเมื่อตอนสาย” กวีจอมทะเล้นยกแก้วยื่นมาตรงหน้าผมแล้วว่า “เอ็งทำได้อยู่แล้ว อ้อ งานเจ๊เขาดัง ๆ หลายเรื่อง ช่องเลือกเรื่องไหน ? ” “รักนับครั้งไม่ถ้วน” ผมตอบสั้น ๆ วงเหล้าสองหนุ่มนักเขียนถึงกับเงียบจนได้ยินเสียงแมลงกลางคืนร้องเพลง นิยายเรื่องรักนับครั้งไม่ถ้วนนี้ ผมกับแดงแต๋มเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้พี่แต๋มเขียนถึงเรื่องราวความรักของผมกับเธอและมันก็จบแบบไม่สมหวัง “ตอนท้ายนางเอกพูดว่า พี่ไม่เคยนับความรักครั้งแรก พี่จะจำครั้งสุดท้ายเท่านั้น ใช่หรือเปล่า” แดงถามผมถึงวรรคทองในเรื่อง ผมพยักหน้า “กูไม่รู้เอ็งอยากเป็นคนสุดท้ายอยู่หรือเปล่า แต่เอ็งทำได้กูเชื่อ” ผมยังครุ่นคิดต่อกับคำตอบของแดงพลางจุดบุหรี่พ่นระบายควันออกเป็นทางยาวให้ไปหยอกล้อกับพระจันทร์ริมหน้าต่าง “เอ็งว่าตลกไหม ผู้ชายสองคนคุยถึงผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นบุคคลที่สาม” ผมยิ้มกับคำถามของกวีและตอบเพื่อนไปในใจว่าพี่แต๋มไม่ใช่บุคคลที่สามสำหรับผมแน่ถึงผมจะไม่เก่งเลขนักก็เถอะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่