ผ่าตัดไส้เลื่อน ตอนอายุ 30 ต้นๆ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมาผมได้เข้าทำการผ่าตัดไส้เลื่อน จึงอยากแชร์ประสบการณ์
สาเหตุที่บอกว่าไม่ใส่กางเกงในคงไม่ใช่หรอกครับผมใส่ตั้งแต่เด็กยังเป็นแต่อาจเป็นเพราะความผิดปกติของร่างกายที่ผนังช่องท้องมันบางทำให้ไส้มันเลื่อนลงมาได้ ซึ่งพี่ชายที่เป็นลูกป้าผม 2 คนก็เป็น แต่เค้าผ่ากันตอนเป็นเด็ก เรื่องของผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังจะผ่า หรือเพิ่งผ่า หรือมีญาติที่เป็นอยู่ เริ่มเลยแล้วกันนะครับ

"ผมเป็นไส้เลื่อนเพิ่งมารู้ตัวตอนเรียน ปวส.(อายุ 18-19 ปี) แต่เดาว่าเป็นตั้งแต่เด็กแล้วก็ไม่สนใจเท่าไร เพราะว่าใช้ชีวิตตามปกติ เล่นกีฬาหนักๆได้ไม่มีปัญหา แต่ที่ผิดปกติที่ อัณฑะ ผมเป็นข้างซ้าย มันจะใหญ่กว่าอีกข้าง อาบน้ำทีไรก็จะเห็น แต่ก็ปล่อยมันผ่านไป ช่วงปี 2559(อายุ 32) ผมเริ่มปั่นจักรยาน และ ก็เริ่มปั่นหนักขึ้นสูงสุด 100 กิโลเมตร อาการไส้เลื่อนเริ่มแสดงชัดเจนคือเริ่มปวดหน่วงๆที่ช่องท้องและอัณฑะ ปวดเป็นอาทิตย์ และจะหายไปแต่ถ้าปั่นจักรยานหนักๆก็จะเหมือนเดิม จุดที่ตัดสินใจเข้าไปหาหมอเพื่อรับการผ่าตัดคือ กระแสการวิ่งกำลังมาเลยลองวิ่งเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร นั่นแหละครับความเจ็บมันมาเป็นเดือนๆ ปั่นจักรยานก็เจ็บเพิ่มไปอีก กลายเป็นทำอะไรก็จะเจ็บไปหมด เช่น เดินในที่ทำงานมากๆ กลับไปก็ต้องนอนเจ็บ คิดในใจว่าทำอะไรไม่ได้คงต้องผ่าแล้วละ คือรำคาญตัวเองตอนนั้นมาก ในกลุ่มเค้าไปวิ่ง 42 กิโล กันหมดแล้ว 5555  ก่อนที่จะผ่าผมก็หาข้อมมูลต่างๆนานานั่นแหละครับรวมทั้ง pantip นี้ด้วยครับ แต่ก็ไม่ค่อยละเอียดเท่าไร พี่ที่ทำงานเคยผ่าแกบอกว่าไปหาไม่ใช่ว่าจะได้ผ่าเลยรอคิว 2-3 เดือน(ผมใช้สิทธิประกันสังคม) ผมเลยเอาว่ะไปเจอหมอสักที
พอถึงวันที่เจอหมอ
หมอ : เป็นไส้เลื่อนเหรอ
ผม   : ครับ
หมอ  :งั้นถอดกางเกงเลย(หมอเป็นผู้หญิงแต่แกเป็นทอม)
ผมถอดกางเกงแบบเขินๆ 5555 โดยหมอก็ใช้มันมาคลำๆอัณฑะ แล้วบอกว่า "โห้ๆ ไส้เลื่อนจริงด้วย" ผมคิดในใจขำตรงไหนเนี่ยหมอ
หมอ  :อาทิตย์หน้านัดผ่าเลยนะ
ผม    :ห๊า..... อาทิตย์หน้าเลยเหรอ ในหัวมึนงงไปหมดเพราะว่าไม่คิดว่าจะไวขนาดนี่ไหนบอก 2 เดือน 5555
หมอ  :หมอให้คุณไปเตรียมตัว ไปเคลียร์งาน เสียงบุรุษพยาบาลแทรกมา บอกเมียด้วย
ผม    :ผ่ายังไงครับ ต้องพักนานไหม วางยาไหม บลาๆ ด้วยความกลัว
หมอ  :เหมือนผ่าตัดไส้ติ่งแหละ บล็อคหลัง เสร็จแล้ว สามเดือนห้ามยกของหนัก ไม่ต้องกลัวมันเป็นการผ่าตัดเล็ก
เสร็จแล้วผมก็กลับบ้านพร้อมใบนัดของหมอ จัดการลางานเรียบร้อย
ถึงวันผ่าตัด
(ในใบนัดระบุควรนำญาติมาด้วย 1 คน ) ผมมากับแฟน
ยื่นใบนัดให้พยาบาลตรวจร่างกายโดยระเอียด คลื่นหัวใจ ความดัน x-ray ส่วนแฟนผมติดต่อเรื่องห้องพิเศษซึ่งคุยกันว่าจะใช้ห้องพิเศษเพื่อสะดวกในการเฝ้า เลือกห้องเดี่ยวขนาดกลาง(ขนาดเล็กเต็ม)ซึ่งต้องจ่ายเพิ่ม 2,300 บาท ซึ่งตอนหลังคิดถูกจริงๆที่เลือกห้องพิเศษ ซึ่งสะดวกมาก ทำเรื่องห้องพิเศษก็นั่งรถเข็นไปที่ห้องพักเพื่อเตรียมตัว 1 วัน วันรุ่งขึ้นถึงผ่าวัดความดันทุก 2 ชม. เจาะให้น้ำเกลือตอนเจาะเจ็บมาก เจาะแล้วปวดฉี่ทุกๆครึ่ง ชั่วโมง เดินเข้าห้องน้ำบ่อยมาก แจ้งพยาบาลจึงลดการไหลของน้ำเกลือก็ปวดน้อยลง ถึงวันผ่าตัดเช้าก็มีพยาบาลมาทำความสะอาดโกนขนทั้งหมดของเราก็รู้สึกเขินๆนะ เสร็จแล้วพยาบาลบอกให้อาบน้ำให้สะอาด ตอนสายๆ หมอที่จะทำการผ่าตัดเข้ามาพูดคุยนิดหน่อยแจ้งว่าตอนเที่ยงจะทำการผ่าตัด ถึงเที่ยงรอแล้วรออีก รอถึงบ่ายสามครึ่ง ซึ่งเวลาที่รอมันนานมาก นานที่สุดในชีวิตเลย จนทนไม่ไหวแฟนจึงไปถามพยาบาลว่าเมื่อไรจะมาคนไข้จะเป็นลมแล้ว ซึ่งอดข้าวอดน้ำบวกกับความตื่นเต้นด้วยมั้งครับ 555 สักพักเตียงก็ขึ้นมารับ ได้เวลาแล้วเวลานั้นคิดในใจอยากให้มันจบเร็วๆ
ห้องผ่าตัด
พอถึงห้องผ่าตัดเข็นมาแล้วย้ายเตียงขึ้นเตียงผ่าตัดลักษณะเหมือนไม้กางเขียง ต่อสายต่างๆ มีจอทีวี เปิดยูทูป เปิดเพลงให้ฟัง
มีการถามชื่อถามน้ำหนักเป็นไส้เลื่อนข้างไหน ถึงเวลาทุกคนใส่ผ้าปิดหน้าหมดไม่รู้ใครเป็นใคร
ได้ยินว่า “คนไข้จะแสบแขนหน่อยนะครับ”
ผมเห็นเค้าฉีดยาผ่านสายน้ำเกลือ รู้สึกแสบไล่จากแขนแปล๊บบบบ มาถึงหน้าอกแล้วเหมือนอาการปิดไฟเลย วูบบบบ!!!!!!!
เหมือนหายไปจากโลกนี้แบบไม่มีตัวตน
เสียงพยาบาล…. “คนไข้ค่ะ คนไข้ค่ะ”
เหมือนผมรู้สึกตัวโดยอัตโนมัติ ตื่นมาฉับพลัน คำแรกผมถามพยาบาลว่า “ผมอยู่ไหนแล้วครับ กี่โมงแล้วครับ”
พยาบาล “ห้องพักฟื้นคะ ห้าโมงเย็นแล้วคะ” จากนั้นพยาบาลก็โทรให้พนักงานมารับผมกลับห้อง
ผมลองขยับตัวรู้สึกว่า อ่อ เราเป็นแผลแล้วถ้าไม่ขยับตัวก็เจ็บ ตรงแผลแปะผ้าไว้หนามาก
ถึงห้องพักตอนย้ายเตียงรู้สึกว่า โอ้!!!! เจ็บแผลมากก ค่อยๆได้ไหม มันระบมอย่างบอกไม่ถูก เป็นไปได้ไม่อยากขยับตัวเลย
จากนั้นก็มีข้าวมาเสริฟพร้อมกับยา กินเรียบร้อย
ตอนกลางคืน
มีความรู้สึกปวดฉี่มันไม่ฉี่ เอาละสิ!!!! อ่านในนี้เค้าบอกให้ตามพยาบาลมาสวน ผมเลยทำตาม พยาบาลมาบอกว่า
“เจ็บนะคะไม่จำเป็นอย่าสวนเลยคนไข้พยามฉี่เองนะคะ” พร้อมกับให้ถุงเจลเย็บมาไว้หน้าท้อง ผมพยามฉี่หลายครั้งแต่ไม่ออก
ซึงต้องลุกยืนมาฉี่ใส่กระบอก บอกเลยลุกยืนยากมากทั้งเจ็บทั้งระบมอย่างบอกไม่ถูก แอบหงุดหงิดใส่แฟนด้วย รู้สึกผิดมาถึงตอนนี้เลยครับ ถึงประมาณเที่ยงคืน ลุกฉี่ครั้งที่ 4 ฉี่ออกแล้ว!!!! เย้ !!!!!  หลับได้ 5555+
ตอนเช้า
พยาบาลมาตรวจความดันปกติ พร้อมแจ้งรอหมอมาตรวจอีกครั้ง
หมอเวรมาตรวจ เปิดแผลดู แล้วบอก “โอเคแผลสวยดี ไม่อักเสบไร กลับบ้านได้” พยาบาลก็เช็ดรอบๆแผลแล้วปิดแผลพร้อมแจ้งว่า ก่อนถึงวันนัดดูแผลห้ามแกะและห้ามโดนน้ำเด็ดขาด
เย้..!!!! ได้กลับบ้านแล้วววว  สักพัก พนักงานก็เอารถเข็นมารับลงข้างล่างพร้อมพยาบาลให้ยาต่างๆมาให้เรียบร้อย
กล่าวขอบคุณพยาบาลกับทุกคนๆที่ช่วยดูแลผมเรียบร้อย
นั่งรถของน้องสาวกลับบ้าน
เป็นกระทู้ที่ผมตั้งเป็นกระทู้แรก ผิดถูกขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยครับ เพราะผมเห็นว่าก่อนผ่าตัดผมก็หาข้อมูลในนี้และก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมจึงมาแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้คนที่กำลังจะตัดใจผ่าตัด ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน หวังว่าจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ส่วนตอนกลับมาบ้านผมปฏิบัติตัวอย่างไร ตอนนี้ผมเป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะมาแชร์ในนี้อีกครั้งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่