แชร์ประสบการณ์ การผ่าตัดตาเพื่อใส่ตาเทียม

สวัสดีค่ะ เราเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการผ่าตัดใส่ตาเทียมและได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว เวลาผ่านมาได้ประมาณ 6 เดือนแล้วค่ะ ในตอนที่เริ่มรักษาเราตั้งใจไว้ว่าจะมาแชร์เป็นข้อมูลให้กับคนอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นจะต้องผ่าตัดตาเพื่อใส่ตาเทียมหรือตาปลอมและกำลังหาข้อมูลอยู่ ดังนั้น กระทู้นี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดและการรักษาทั้งหมดทุกขั้นตอนของเราเพื่อให้เป็นข้อมูลให้กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แต่ขอแจ้งไว้ก่อนว่าทั้งหมดที่เราจะเขียนต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากคนอื่น ๆ นะคะ
 
ก่อนจะเริ่ม เราขอให้ข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับตัวเองและอาการตาของเราก่อนจะได้รับการรักษา เพื่อให้เข้าใจง่ายมากขึ้น
 
เรามีปัญหาตาข้างซ้าย คือไม่สามารถมองเห็นได้โดยเกิดจากอุบัติเหตุในวัยเด็กมาก ๆ  ในตอนนั้นเราได้รับการรักษาโดยแพทย์จักษุในโรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้เนื่องจาก เลนตาของเราถูกทำลายโดยตรง และเนื่องด้วยสมัยนั้นเทคโนโลยียังไม่พัฒนามาก การรักษาต่าง ๆ จึงไม่ได้เป็นไปตามที่หวังเท่าไหร่ นอกจากตาซ้ายเราไม่สามารถกลับมองเห็นได้แล้ว รูปลักษณ์ของตาเราก็มีสีที่เปลี่ยนไป นั่นคือส่วนตาที่เป็นสีดำกับสีน้ำตาล (พูดง่าย ๆ คือ ส่วนที่เป็นม่านตา)ก็กลายเป็นสีน้าเงินฟ้ามาตั้งแต่นั้น การใช้ชีวิตก็ปกติ สามารถเห็นทุกอย่างได้เหมือนกับคนอื่น ๆ เพียงแต่สีตาแต่ละข้างจะไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง เรารักษาตามอาการมาตลอดเรื่อย ๆ หลายปี และไม่ได้รับการผ่าตัดอะไรต่อหลังจากนั้น
 
แต่เหตุผลที่เราตัดสินใจมาผ่าตัดอีกครั้งและใส่ตาเทียมเนื่องจากว่า พอโตขึ้น ตาข้างซ้าย(ข้างที่มองไม่เห็น) เริ่มเปลี่ยนไป นั่นคือ ส่วนม่านตาที่เป็นสีฟ้ามีอาการนูนหรือโปนขึ้นมาเรื่อย ๆ เบ้าตาข้างซ้ายใหญ่กว่าข้างขวาอย่างเห็นได้ชัด มีอาการปวดและระคายเคืองง่ายและมากขึ้นเรื่อย ๆ ตาปิดไม่สนิทเมื่อหลับตา ทำให้ใช้ชีวิตได้ค่อนข้างยาก เราจึงได้ไปพบแพทย์อย่างจริงจังอีกครั้ง แพทย์แนะนำว่าควรผ่าตัดเพื่อให้ไม่เป็นอันตรายหรือมีปัญหาในอนาคตเพราะถ้าหากไม่ได้รับการรักษา จะทำให้มีการอักเสบขึ้นเรื่อย ๆ  และหลังจากผ่าตัดก็ใส่ตาเทียมเพื่อความสวยงามของดวงตา และเหตุผลที่ต้องใส่ตาเทียมหลังจากนั้น เป็นเพราะว่าอาการตาโปนของเราเมื่อผ่าตัดไปแล้ว รูปตาจะไม่เหมือนเดิม จะเหลือเพียงกล้ามเนื้อตาข้างใน ดังนั้นใส่ตาเทียมให้เหมือนอีกข้าง สำหรับเราแล้วคิดว่าดีที่สุด โรงพยาบาลที่เราเข้าไปรับการรักษาทั้งการผ่าตัดและทำตาเทียมคือ โรงพยาบาลศิริราช โดยแผนการรักษาสั้น ๆ ตามลำดับ ก็คือ [b]1. ผ่าตัดดวงตาเดิมก่อน 2. ทำตาเทียมส่วนบุคคล[/b]
[b] [/b]
รีวิวนี้เราจะเขียนแยกเป็น 2 ข้อใหญ่ ๆ ตามลำดับแผนการรักษาที่ได้บอกไป เพื่อให้เข้าใจง่ายมากขึ้น 
เริ่มเลยจาก...
 
[b]1. ผ่าตัดดวงตาเดิมก่อน (เพื่อให้พร้อมที่จะใส่ตาเทียม)[/b]
- ก่อนที่จะผ่าตัด ต้องตรวจเช็คสภาพดวงตากับหมอก่อน ของเราตรวจกับแพทย์จักษุก่อนแล้วจึงพบอาจารย์หมออีกครั้ง  ว่าจะทำการรักษายังไง  ทำความเข้าใจกับอาการและสภาพดวงตาของตัวเอง และเข้าใจวิธีการรักษาของหมอ อย่างที่บอกไปคืออาการตาของเรามีการโปนขึ้นของเบ้าตา ดังนั้น วิธีการผ่าตัดคือ ต้องมีการตัดเอาบางส่วนออก เพื่อให้เบ้าตามีขนาดเล็กลงจึงจะสามารถใส่ตาเทียมได้ 
- เมื่อรู้แล้วว่าจะต้องผ่าตัดยังไง หมอก็จะนัดวันผ่าตัดให้เรา ของเราหมอจะให้ option วันที่สามารถผ่าตัดได้ และถามความสะดวกของเราด้วย
- พยาบาลจะนัดให้เรามาตรวจสุขภาพประมาณหนึ่งเดือนก่อนผ่าตัด การตรวจเท่าที่จำได้ คือเราต้องเจาะเลือด x-ray พูดคุยเตรียมความพร้อมกับหมอดมยา (การผ่าตัดจะต้องมีการใช้ยาสลบ) 
- หลังจากมาตรวจร่างกายแล้วถ้าหากมีอะไรที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับผลเลือดเราทางโรงพยาบาลจะติดต่อมา แต่ถ้าไม่มีอะไร ก็มาตามนัดวันผ่าตัดได้เลย ซึ่งของเราก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็รอไปตามนัดผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
- ก่อนจะถึงวันผ่าตัด เราต้องโทรไปฟังเลขที่เตียงที่เราจะไป admit ตามเบอร์ติดต่อและวันที่ที่แจ้งมาในบัตรนัด (ถ้าไม่โทรไปก่อนจะไม่มีเตียงให้เราตอนที่ไปแอดมิท) 
- พยาบาลจะแจ้ง ชื่อตึก/อาคาร ชั้น วันที่และเวลาที่เราต้องไปรายงานตัวก่อนผ่าตัด (เราต้องไปวันแอดมิทก่อนวันผ่าตัด 1 วัน พยาบาลนัดให้เราไปตั้งแต่เช้าเลย ประมาน 7 โมงกว่า ๆ )
- [b]วันที่แอดมิท [/b]ในตอนเช้า หมอจะทำการตรวจตาอย่างละเอียดอีกครั้ง (ของเราหมอหลายคนมาก น่าจะเพราะต้องมีการปรึกษากัน และมีการเช็คที่ค่อนข้างละเอียดมาก) เปิดรูม่านตา ตรวจการมองเห็น และวัดความดันลูกตาของทั้งสองข้าง x-ray ดวงตาข้างซ้าย และได้คุยกับหมอดมยา ว่าจะมีการสอดท่อเข้าปาก มีการใช้ยาสลบ และอื่น ๆ ตอนบ่าย พยาบาลจะมาเปิดเส้นที่หลังมือและให้ไปอาบน้ำ [u]ผมต้องห้ามใส่ออยและไม่ทาเล็บ ต้องงดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน [/u]
- [b]วันผ่าตัด [/b]ก่อนผ่าตัด ตรวจตาอีกครั้งนึง พยาบาลจะใส่สายน้ำเกลือให้ หมอดมยาจะเข้ามาคุยกับเราอีกครั้ง แล้วก็รอเจ้าหน้าที่จากห้องผ่าตัดมารับ
- [b]ห้องผ่าตัด [/b]หมอจะให้เราดม Oxygen แล้วเราจะหลับไปหลังจากนั้น รู้ตัวอีกที คือได้ยินพยาบาลเรียกให้ตื่น และเข็นเรากลับตึกผู้ป่วยใน เราใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดราว ๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หมอเย็บหนังตาบนล่างของเราให้ชิดกันเพื่อให้แผลสมานดีขึ้น ป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไป
- [b]อาการหลังผ่าตัด [/b]สำหรับเราคิดว่าหมอเก่งมาก ๆ ค่ะ แผลเราไม่มีเลือดออกเลยหลังจากวันผ่าตัดแต่ก็จะมีอาการปวดหลังการผ่าตัดปกติ 
[u]วันแรก[/u] มีอาการเวียนหัวนิดหน่อยเนื่องจากยาสลบ กินข้าวมื้อแรกแล้วอาเจียน มีอาการเจ็บคอนิดหน่อยเนื่องจากการสอดท่อเข้าไปตอนที่ได้รับการผ่าตัด รู้สึกถ่ายยากทั้งถ่ายเบาและถ่ายหนัก มีอาการปวดตา ต้องขอประคบ และกินยาแก้ปวด ส่วน[u]วันต่อ ๆ ไป[/u] หมอก็จะเข้ามาตรวจทุกเช้า ถามอาการ และดูแผล เราอยู่ในโรงพยาบาลรวมตั้งแต่วันแรก ประมาน 5 วัน
- ก่อนกลับบ้าน หมอก็จะสั่งยา มียาหยอด ยาป้าย และยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ และนัดมาตรวจตาเรื่อย ๆ
- ในช่วงแรก ๆ หมออาจจะนัดถี่หน่อย เพื่อมาเช็กอาการหลังผ่าตัด ว่ามีการอักเสบ ติดเชื้อหรือไม่ แผลโอเครึเปล่า ต้องนานเท่าไหร่กว่าจะพร้อมทำตาเทียม ของเราช่วงเดือนแรก ๆ เบ้าตาซ้ายมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ไม่ได้มีอาการปวดอะไรยกเว้นในดวงตาที่มีอาการบ้างบางครั้ง
- ในข่วงที่แผลยังไม่หายดี [u]น้ำต้องห้ามเข้าตาเด็ดขาด[/u] เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ถ้าเราไม่ดูแลแผลดี ๆ จะทำให้แผลหายช้า และต้องรอนานไปอีก ของเราไม่ให้น้ำเข้าตาเลยประมาน 2-3 เดือน
- เราไปตามนัดหมอเรื่อย ๆ ประมาน 2-3 เดือน แผลเริ่มดีขึ้น หมอจึงให้ลองใส่ตาเทียมสำเร็จรูปเพื่อให้มีความเคยชินก่อนแล้วจึงนัดมาทำตาเทียมส่วนบุคคลอีกที 
- [u]ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมด[/u] รวม ๆ แล้วประมาน 30,000++ บาท แต่สามารถเบิกได้บางส่วน และจ่ายส่วนเกินเองบางส่วน (ไม่แพงมาก) ของเราใช้สิทธิบัตรทอง จ่ายส่วนเกินประมานไม่เกินหนึ่งพันบาท ค่าตาเทียมสำเร็จรูปประมาณ 500 บาท 
 
[u]*Note[/u] หลาย ๆ คนสงสัยว่าถ้าผ่าตัดตาเพื่อใส่ตาเทียม คือต้องเอาตาของเราออกทั้งลูกเลยใช่หรือไม่? เพราะกังวลเรื่องความเป็นธรรมชาติ เช่น การกลอกตาไปมา เพราะถ้าเอาดวงตาออกทั้งลูก ก็อาจจะกลัวว่าการกลอกตาไปมาก็อาจจะทำได้ยากและจะไม่มีความเป็นธรรมชาติ จากที่ได้รับการรักษาและถามหมอมา คือ พื้นฐานกล้ามเนื้อดวงตา อาการต่าง ๆ และความรุนแรงของตาแต่ละเคสไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะต้องเอาออกทั้งลูก บางคนผ่าตัดเพียงแค่บางส่วน (เคสเราคือเอาออกส่วนที่โปนออกมา) บางคนที่ได้รับการผ่าตัดแค่บางส่วนก็มีความมากน้อยของส่วนที่ผ่าตัดออกไปต่างกัน ดังนั้น ความคิดเห็นของเราคือ [u]ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงดีที่สุด[/u] และถ้าหากรู้ว่าควรแก้ไขก็ควรทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของตัวเราเอง
 
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์การผ่าตัดตาก่อนใส่ตาเทียมของเรานะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่เข้ามาอ่านบ้างไม่มากก็น้อย
จริง ๆ ก่อนที่จะปรึกษาแพทย์เรื่องการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช เราก็ได้หาข้อมูลเองก่อนคร่าว ๆ ทั้งถามคนที่มีประสบการณ์และจาก Google มีกระทู้นึงที่เขียนแชร์เรื่องราวการผ่าตัดทำตาเทียมไว้ได้ดีมาก ๆ เราต้องขอขอบคุณคุณพี่เจ้าของกระทู้นั้นมากจริง ๆ เพราะทำให้เข้าใจการผ่าตัดดวงตาขึ้นเยอะเลย เราแปะ link ไว้ให้ด้านล่านี้เพื่อเป็นอีกแนวทางนึงให้กับทุกคนนะคะ
https://ppantip.com/topic/34332379
 
การเขียนอาจจะมีงงหรือไม่เข้าใจบ้าง ถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยอะไรก็ comment มาถามกันได้นะคะ ย้ำว่าที่เขียนไปทั้งหมดคือประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าหากใครเคยมีประสบการณ์การผ่าตัดและใส่ตาเทียมก็เข้ามาแชร์กันได้ เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางให้กับคนที่เข้ามาอ่าน ส่วนเรื่องการทำตาเทียมส่วนบุคคล เราจะมาต่อให้ในกระทู้ถัดไปค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่