แชร์ประสบการณ์ การผ่าตัดเพื่อใส่ตาเทียม 2 (ทำตาเทียมส่วนบุคคล)

จากกระทู้ที่แล้ว (https://ppantip.com/topic/43194776) ที่เขียนถึงการผ่าตัดก่อนใส่ตาเทียมไป กระทู้นี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ 2. การทำตาเทียมส่วนบุคคลค่ะ

ก่อนที่จะไปที่ขั้นตอนต่าง ๆ  เราขอแชร์ข้อมูลเรื่องตาเทียมสักนิดนึง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นค่ะ 
ตาเทียม คือ คือวัสดุที่ทำมาจากอะคริลิค มีรูปร่างหน้าตา สีสีน ไกล้เคียงกับดวงตาจริงของคน ใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เบ้าตาเดิมที่มองไม่เห็นหดตัวลง และเพื่อความสวยงาม สร้างเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจเท่านั้น ไม่สามารถทำให้กลับมามองเห็นได้ https://sirirajeyeprosthesis.com

ตาเทียมที่เราได้ใส่ จะมีอยู่หลัก ๆ 2 แบบ คือ ตาเทียมสำเร็จรูป และตาเทียมส่วนบุคคล 
- ตาเทียมสำเร็จรูป ขนาดอาจจะไม่พอดีกับเบ้าตาของเรา สีตาของตาเทียมสำเร็จรูปกับดวงตาจริงจะมีความคล้ายคลึงกันน้อย ความเป็นธรรมชาติน้อยกกว่า ตาเทียมส่วนบุคคล สามารถใส่ได้เลย ไม่ต้องมีการพิมพ์ตา และไม่ต้องรอ   
- ตาเทียมส่วนบุคคล ขนาดและสีจะมีความคล้ายคลึงดวงตาจริงของเรา เพราะมีการวัดเบ้าตาและพิมพ์ตาของสีตาโดยมีดวงตาจริงอีกข้างของเราเป็นแบบ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เมื่อพิมพ์ตาแล้ว ต้องรออย่างน้อยประมาณ 1 เดือน จึงจะไปรับตาเทียมตามวันนัด 
สามารถเลือกได้ว่าจะทำแบบไหนตามความสะดวกได้เลยค่ะ

เราเลือกที่จะทำตาเทียมส่วนบุคคล และโรงพยาบาลที่เราทำตาเทียมส่วนบุคคลก็คือ โรงพยาบาลศิริราช เหมือนเดิมค่ะ ที่โรงพยาบาลนี้มีศูนย์บริการตาเทียม หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จและแผลตาของเราหายดีแล้ว หมอแผนกจักษุก็ refer เรามาที่ศูนย์บริการตาเทียม

ระหว่างที่รอไปทำตาเทียมสำเร็จรูปตามนัด เราได้ลองใส่ตาเทียมสำเร็จรูปแล้วตามที่บอกไปในกระทู้ก่อนหน้า เรารออีกประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ถึงจะไปตามนัดพิมพ์ตา ในการพิมพ์ตาหรือทำตาเทียมส่วนบุคคลของเราก็มีขั้นตอนตามนี้เลยค่ะ 

- มีการซักประวัติและเก็บข้อมูลก่อนจะได้รับการพิมพ์ตา 
- หมอจะถอดตาเทียมสำเร็จรูปออกก่อน
- เช็คสภาพแผล และเนื้อตาของเรา
- หมอน่าจะหยอดยาชา และใส่ซิลิโคนเหลว ๆ ลงในตาของเรา เพื่อวัดขนาดของเบ้าตาเพื่อให้เมื่อพิมพ์ออกมาแล้วมีขนาดพอดีกับเบ้าตา และให้เท่ากับตาของเราอีกข้างนึง 
- หลังจากซิลิโคนข้างในตาแข็งตามขนาดเบ้าตาของเราแล้ว หมอจะให้เราหลับตาและลืมตาเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ขนาดที่ไกล้เคียงกันที่สุด หมอจะเขียนมาร์คจุดต่าง ๆ เช่น ตาดำ ว่าอยู่ตรงไหน โดยดูตาอีกข้างของเราเป็นฐาน หมอจะให้เรากลอกตาไปมาตามทิศต่าง ๆ เพื่อให้ดูว่าตาดำจะอยู่ตรงไหน เพื่อให้มีความเป็นธรรมชาติที่สุด เช่น เมื่อมองตรง ตาดำอยู่ตรงไหน เมื่อมองด้านข้าง ตาดำจะอยู่ตรงไหน 
- หมอจะถ่ายรูปหน้าตรงของเรา ถ่ายทั้งตอนลืมตาและหลับตา ถ่ายดวงตาจริง เพื่อเป็นแบบในการพิมพ์สีค่ะ 
- ในขั้นตอนการพิมพ์ตา จะมีหมอและพยาบาลหลายคนช่วยกัน เพราะมีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องเก็บเป็นข้อมูลในการพิพ์ตา 
- พอเรียบร้อยแล้วหมอก็จะใส่ตาเทียมสำเร็จรูปของเรากลับที่เดิม และทำนัดให้ค่ะ 
- การพิมพ์ตาเทียมส่วนบุคคล ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป ถึงจะมารับตาเทียมได้ ของเรารอประมาณเดือนกว่า ๆ ค่ะ
- ค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์บริการตาเทียมโรงพยาบาลศิริราช ตาเทียมสำเร็จรูปของเราราคา 500 บาท ตาเทียมส่วนบุคคลราคา 5,500 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็นสองครั้ง คือ ครั้งแรก 3,000 บาท ตอนที่ไปพิมพ์ตา ครั้งที่สอง ตอนที่ไปรับตาอีก  2,500 บาท และค่าบริการขัดตาในนัดแต่ละครั้งประมาณ 1,000+ บาท 
ของเราใช้สิทธิบัตรทองเบิกไม่ได้นะคะ ต้องจ่ายเอง แต่ก็สิทธิอื่นๆ ที่สามาถเบิกจ่ายได้บางส่วน เราแปะ link ศูนย์บริการตาเทียมของโรงพยาบาลศิริราชให้เพื่อเป็นข้อมูล ทั้งวิธีการ ขั้นตอน ราคา และอื่น ๆ เผื่อถ้าใครอยากรู้ก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้เลยค่ะ https://sirirajeyeprosthesis.com/about/
- เรารอประมาณหนึ่งเดือนกว่า ๆ ก็ไปรับตาเทียมตามนัดค่ะ ตอนที่ไปรับหมอจะใส่ให้ก่อนและให้เราดูว่าเป็นยังไง มีอาการระคายเคืองตารึเปล่า รู้สึกยังไง ตึงหรือแน่นเกินไป ถ้ามีปัญหาอะไรหมอจะได้แก้ไขให้ตรงนั้นได้ หรือสีตามีความคล้ายกันหรือไม่ ขั้นตอนนี้เราแนะนำว่าบอกความจริงและความรู้สึกเราทั้งหมดเพื่อหมอจะได้รู้ว่าควรจะทำยังไง และถ้ามีคำถามก็ถามหมอได้เลย ส่วนใหญ่การใส่ตาเทียมส่วนบุคคลครั้งแรกยังไม่มีการแก้สีตาแต่ว่าจะดูตำแหน่งว่าโอเคหรือไม่ หลวมหรือแน่นเกินไปไหม และให้เราลองใส่ก่อนเพื่อที่จะได้รู้ว่ามีอาการระคายเคืองต่าง ๆ ไหม แล้วจึงมาแก้ไขในนัดครั้งต่อ ๆ ไป ตอนนี้เราใส่ตาเทียมสำเร็จรูปแล้ว กำลังรอนัดครั้งที่สองในอีกสองเดือนข้างหน้า
 
รีวิวหลังใส่ตาเทียมสำเร็จรูปของตัวเอง
- ส่วนตัวเราคิดว่ามีความคลายคลึงมาก ถึงจะไม่เหมือน 100% แต่มีความเป็นธรรมชาติมาก ทั้งสีตาและเส้นเลือดต่าง ๆ รู้สึกว่าดีกว่าที่คาดหวังไว้ ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีคนมาสังเกตได้เลยว่าเป็นตาเทียมถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน คนรู้จักรอบตัวก็บอกว่าธรรมชาติมากถ้าไม่สังเกตหรือจ้องตรง ๆ นาน ๆ
- เราไม่มีอาการเจ็บหรือปวดอะไรเหมือนตอนก่อนที่จะผ่าตัดใส่ตาเทียม มีบ้างแค่ระคายเคืองถ้าโดนสิ่งสกปรกเข้าไปเยอะ ๆ แต่นาน ๆ ที
- ช่วงแรก ๆ จะไม่ชินกับหน้าตัวเองเพราะอยู่กับตาแต่ละข้างที่ไม่เหมือนกันมาตลอด แต่หลายวันไปก็โอเคแล้ว
- วันแรก ๆ จะมีความรู้สึกตึง ๆ เหมือนมีอะไรอยู่ในตา แต่หลังจากนั้น 2-3 วันก็ปกติ (อาการตึงหรืออื่น ๆ จะไม่เหมือนกันในแต่ละเคส)
- มีอาการตาแห้งบ้างช่วงแรก เราคิดว่าเป็นเพราะตาอาจจะยังไม่ชิน แต่หลังจากนั้นก็ดีขึ้น มีรู้สึกบ้างเป็นบางครั้งถ้าใช้สายตาเยอะ แต่หยอดน้ำตาเทียมก็โอเคแล้ว 
- รู้สึกว่าช่วยสร้างเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจมากขึ้น แต่ของเรามีอาการหนังตาตกเยอะร่วมด้วย จึงดูเหมือน lazy eye ในบางทีเพราะตาจะยังไม่เท่ากันดี ถ้าทุกคนอ่านกระทู้แรกจะรู้ว่าก่อนผ่าตัดเรามีอาการตาโปน ทำให้หนังตาเราขยายไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้หลังจากผ่าตัดและเบ้าตาเล็กลง หนังตาจึงยานและตก หมอที่ทำตาเทียมให้เราจึงแนะนำให้ผ่าตัดหนังตา เพื่อให้ดูธรรมชาติมากขึ้น และเพื่อให้การขัดและแก้ไขตาเทียมครั้งต่อ ๆ ไปทำได้ดีมากยิ่งขึ้น 

การทำตาเทียมส่วนบุคคลของเราก็ประมาณนี้ค่ะ ทั้งหมดข้างบนคือเราพึ่งจะได้ใส่ตาเทียมสำเร็จรูปครั้งแรก ตอนนี้รอไปตามนัดครั้งที่สองค่ะ ว่าจะมีการแก้ไขอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ในระหว่างที่รอนัดครั้งที่สอง เราตัดสินใจไปผ่าตัดหนังตาตามคำแนะนำของหมอทำตาเทียมค่ะเพราะตกเยอะจริง ๆ แต่ผ่าตัดหนังตาตกเราไม่ได้ทำที่โรงพยาบาลศิริราชแล้วนะคะ ทำที่โรงพยาบาลอื่น ไว้เราจะมาต่อให้อีกกระทู้นะคะเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาของเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่