หลังจากตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนรีวิวทำตาดีไหม ตั้งแต่ปีสองปีที่แล้ว จนตอนนี้ทำตามา 4 ปีแล้ว
คิดว่าผลลัพธ์ข้างจะแน่นอนแล้ว ตัดสินใจมาบอกต่อสำหรับคนที่กำลังอยากทำตาสไตล์นี้
*อย่างไรแล้ว อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจนะครับ*
ก่อน - หลัง ลดขนาดชั้นตา 4 ปี
ประมาณ 4 ปีที่ช่วงโควิดหลังล็อคดาวน์เป็นช่วงที่เราหาคลินิก/โรงพยาบาลที่สามารถทำตาให้ชั้นเล็กลง หรือตาแบบคนเกาหลี
ปัญหาตาเราคือชั้นตาหนา บางวันตาสามชั้น ช่วงหลักๆ มีปัญหาเพิ่มคือรู้สึกตาตัวเองหนักเวลาลืมตาหลับตา
ไม่ได้รู้สึกง่วงนอน แต่รู้สึกตัวเองลืมตาไม่ขึ้น และยิ่งเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่ทราบสาเหตุด้วย
ก่อนลดขนาดชั้นตา
ก่อนลดขนาดชั้นตา ช่วงที่รู้สึกตาเริ่มลืมไม่ค่อยขึ้น สังเกตได้ว่าชั้นตาหนาขึ้นด้วย
จริงๆ อยากทำตามานานแล้วแต่เงินไม่พร้อม พอเงินพร้อมก็เริ่มนัดปรึกษาแต่ละที่ ที่ไหนดัง หมอเก่งๆ นัดปรึกษาหมด
แต่สรุปคือทุกหมอไม่กล้าการันตีว่าสามารถทำตาแบบลดชั้นตาให้เราได้ หมอบางท่านบอกตาสวยอยู่แล้ว ไม่แนะนำให้ทำ
บางท่านบอกทำแล้วไม่เหมาะหรอก โหงวเฮ้งเปลี่ยน บลาๆ เหตุผล108 มีที่นึงขนาดเรานัดผ่ากับอาจารย์หมอแล้ว
พอวันผ่าคุณหมอขอปฏิเสธที่จะทำตาให้เรา เพราะไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำตาให้แบบที่เราต้องการได้
(โดนเทหน้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนชุดไรเรียบร้อยแล้วด้วยนะ
)
จนประมาณช่วงพฤศจิกายน นัดกินข้าวกับเพื่อนเก่าที่ไปแก้ตาที่เกาหลีมา ซึ่งเพื่อนทำตาแบบลดขนาดชั้นตามา !!
เพื่อนบอกว่าหมอไม่ได้ทำการตลาดที่ไทย เป็นอาจารย์หมอที่เคยทำตาให้พวกดารา ไอดอลเกาหลี ฟีลแบบหมอลับไรงี้
ตอนนั้นเห็นว่าผลลัพธ์ของเพื่อนมันว้าวมาก จากตาหอยแครงเป็นชั้นตาเล็กๆ เหมือนคนเกาหลี เลยให้เพื่อนติดต่อคุณหมอให้
จำได้ว่าใช้เวลาตัดสินใจไม่ถึงอาทิตย์ก็บินไปผ่ากับคุณหมอเลย (บินไปถึงผ่าเลย และอีกวันบินกลับ เพราะไม่มีเวลาลางาน)
วันปรึกษา + ผ่าตัด (อาจจะมีจำผิดจำถูกบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะมันนานมากแล้ว)
รูปภาพโรงพยาบาล (รูปจากอินเตอร์เน็ต)
โรงพยาบาลชื่อโรงพยาบาลอันซองมิน อยู่แถวๆ นอกเมือง ถ้าจำไม่ผิดคือห่างไม่จากสนามบินกิมโป แต่มีเจ้าหน้าที่นั่งแท็กซี่มารับถึงที่พัก
ใช้เวลาเดินทางไปโรงพยาบาลประมาณชั่วโมง เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ ตอนนั้นเค้าขอบคุณเรามากที่บินมาผ่าตัด
เพราะเป็นช่วงหลังโควิด คนไข้เองก็น้อย รีวิวลดขนาดชั้นตาก็น้อย แต่เราก็เลือกที่จะผ่าตัดกับเขา
พอถึงโรงพยาบาลก็กรอกประวัติต่างๆ และได้ปรึกษากับคุณหมอ คุณหมอชื่อคุณหมออันซองมิน ตามชื่อรพ. คุณหมอสื่อสารภาษาอังกฤษได้
คุณหมอจะประเมินปัญหาตาของเราก่อน หลักๆ ปัญหาตาของเราก็คือชั้นมันหนา และที่เรารู้สึกว่าลืมตาหลับตาแล้วมันหนักๆ
เพราะเรามีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ... ตอนนั้นตกใจ เพราะไม่คิดว่าตาตัวเองจะมีปัญหาอะไรขนาดนั้น
ใครๆ ก็ชมว่าชั้นตาสวยอยู่แล้ว จะทำทำไม แต่สรุป .. ตาเรามีปัญหาซะงั้น คุณหมอก็อธิบายว่าสาเหตุน่าจะมาจาก
ที่เราใช้สายตามองคอมเยอะ และมีการขยี้ตาบ่อย ทำให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อตาด้านในมันหย่อนลง บวกกับชั้นตาเรามันหนาอยู่แล้ว
ทำให้กล้ามเนื้อตาที่มันเสื่อมสมรรถภาพ ไม่สามารถแบกรับชั้นตาเราได้ดีเหมือนเมื่อก่อน
หลังจากคุยปัญหาเสร็จ คุณหมอก็ถามความต้องการ เราขอชั้นหลบใน ไม่เอาชั้นตาหนา จะไม่เห็นชั้นตาเลยก็ด้
แล้วรูปที่แนบคือแจฮยอนวง NCT
แจฮยอน NCT (รูปที่แนบไม่ได้แนบรูปนี้นะครับ จำไม่ได้แล้วว่ารูปไหนแต่ชั้นตาหลบในกว่านี้นิดนึง)
คุณหมอก็ถามว่าชัวร์ใช่ไหม จะเอาแบบหลบในเลยนะ ตาจะเปลี่ยนมากเลยนะ แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะทำ
ตอบคุณหมอเลยว่าใช่ ใครจะบอกว่าทำแล้วโหงวเฮ้งเปลี่ยน ไม่เหมาะ ไม่เข้า แต่ใจเราคือต้องการแบบนี้เท่านั้น
คุณหมอถึงกับชื่นชมในความแน่วแน่ของเรา ถึงขนาดบินเกาหลีมาผ่าตัดคนเดียว (และบินกลับในวันถัดไปด้วยนะ5555555)
หลังจากปรึกษาก็ไปวัดความดัน เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้า เตรียมเข้าห้องผ่าตัด บรรยากาศโรงพยาบาลมีความมินิมอลมากๆ
พื้นที่ไม่เยอะ แต่แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนได้ดีมาก มารู้ทีหลังว่าเกาหลีที่ค่อนข้างแพง เพราะฉะนั้นต่อให้พื้นที่น้อย เค้าก็จะแบ่งสัดส่วนได้ดี
สำหรับตอนผ่าตัด ไม่มีอะไรมากนอกจากเราต้องฟังว่าคุณหมอจะให้เราทำอะไร คุณหมอจะสื่อสารภาอังกฤษ
open, close, look at me, look at my finger มีแค่นี้ ชิลมาก ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษก็เข้าใจ แต่ต้องคอยฟังและมีสติดีๆ
เพราะบางทีจะมีช่วงที่เรารู้สึกว่าเครื่องมือมันอยู่ใกล้ๆ ตาเราแล้วเราจะตกใจ แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเป็นพิเศษจะมีแค่ช่วงฉีดยาชา
ของเราจะรู้สึกมากช่วงบริเวณหัวตา แต่จุดอื่นๆ แทบไม่รู้สึก คุณหมอจะฉีดยาชาจุดเล็กๆ และมีการเติมยาชาให้เราเรื่อยๆ
หลังผ่าตัด ทำตาและลดขนาชั้นตาเสร็จทันที
หลังผ่าตัดเสร็จทันที จะมีข้างซ้ายที่มีอาการช้ำหน่อยๆ เพราะตาเรามีแผลเป็น พอเปิดเข้าไปเลยเจอพังผืด
คุณหมอจะต้องเลาะพังผืดเลยมีส่วนที่โดนเส้นเลือดทำให้ช้ำกว่าอีกข้าง ส่วนพลาสเตอร์ที่เห็นคือพลาสเตอร์ประครองไขมัน
ตอนนั้นเราก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรมากเพราะชั้นตามันก็ยังหนาเหมือนเดิม
แต่ที่รู้สึกชัดเจนคือหลับตาลืมตาแล้วสบายตาแล้วอ่ะ ไม่หนักเหมือนเดิม ซึ่งคุณหมอจะถามตั้งแต่ในห้องผ่าตัดตาแล้วว่าลืมตาหลับตาดีขึ้นไหม
ตอนนั้นยังไม่ทันคิดอะไรมากเพราะผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ ยังตึงๆ มึนๆ คุณหมอกำชับว่าหลังผ่าห้ามมองต่ำนะ เพราะกล้ามเนื้อเราจะหลุด
หากต้องการมองหรือใช้สายตาให้กดคางลงก่อน แล้วพยาบาลก็จะพาไปซื้อยาและแนะนำวิธีการกินยาคือเช้ากลางวันเย็น
ประคบเย็น 1-3 วันแรก มีน้ำตาเทียมให้หยอดถ้ารู้สึกตาแห้ง แล้วก็มีเจลคล้ายๆ ขี้ผึ้งให้ทาบริเวณรอยไหม
ขั้นตอนไม่ค่อยมีอะไรยุ่งยาก เจ้าหน้าที่พากลับไปส่งที่ที่พัก แล้วอีกวันก็นั่งมารับตอนเช้าไปติดตามผล แผลไม่มีปัญหา
ออกใบรับรองแพทย์สำหรับขึ้นเครื่อง บินกลับไทยได้เลย เราก็นั่งตรงจากโรงพยาบาลไปสนามบินอินชอน ขึ้นเครื่องได้ปกติ
หลังจากกลับมาไทยครบ 7 วันก็ไปตัดไหมที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นก็มีการถ่ายรูปให้คุณหมอเป็นระยะๆ
ซึ่งช่วงระยะเวลาเดือนแรกนี่แหละเป็นอะไรที่เซ็งมาก เพราะชั้นตามันแทบไม่ต่างจากเดิม หนาเหมือนเดิม
ทักไปบ่นกับเพื่อนจนแทบจะทะเลาะกัน เพื่อนก็ติดต่อคุณหมอให้ จนประมาณครบเดือนหมอบินมาเที่ยวไทย นัดเจอนัดคุยกัน
หมอก็เปิดรูปเราก่อนทำให้ดู กับปัจจุบัน... เออ ชั้นตามันก็เล็กลงแล้วนะ ถึงจะยังไม่เล็กลงมาก แต่มันก็เริ่มเล็กลงแล้ว
ตอนนั้นรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย หลังจากนั้นคือเลิกสนใจตาตัวเองเลย ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ55555555555555555
หลังทำตาและลดขนาดชั้นตาประมาณเดือนแรก
(ต่อคอมเมนต์)
[CR] รีวิว ทำตาแบบลดขนาดชั้นตา เปลี่ยนชั้นตาแขก ชั้นตาหอยแครง เป็นชั้นตาหลบในแบบคนเกาหลี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้