แชร์ประสบการณ์ การผ่าตัดเพื่อใส่ตาเทียม 3 (ผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาเพิ่มเติม)

หลังจากที่เราได้ใส่ตาเทียมส่วนบุคคลครั้งแรกแล้ว ระหว่างรอนัดครั้งที่สอง เราก็ไปหาหมอเพื่อปรึกษาอาการหนังตาตก สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมต้องไปศัลยกรรมหนังตา กลับไปอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ของเราได้นะคะ (https://ppantip.com/topic/43195759)

ครั้งนี้เราไปปรึกษาหมอเกี่ยวกับอาการหนังตาตกที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ถ้าใครจะไปโรงพยาบาลนี้ ขอแนะนำให้รีบไปเลยนะคะ เพราะคิวยาวมากเป็นหลายเดือนเลย จากการสอบถามพยาบาลแล้ว หมอที่เชี่ยวชาญด้านหนังตาที่โรงพยาบาลนี้มีจำนวนค่อนข้างจำกัดค่ะ และโรงพยาบาลในจังหวัดพิษณุโลก หมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ก็มีแค่ที่นี่ด้วย เนื่องจากคิวค่อนข้างยาว แต่เราต้องการที่จะผ่าตัดเร็ว พยาบาลจึงแนะนำให้ใช้บริการพิเศษนอกเวลาค่ะ ซึ่งก็คือการตรวจกับหมอหลังเวลาราชการในตอนเย็น

ค่าใช้จ่ายในการตรวจจะใช้สิทธิบัตรทองไม่ได้นะคะ เราต้องจ่ายเอง ขั้นตอนการพบหมอก็ไม่มีอะไรมาก ตามปกติเลย เราก็ปรึกษาถึงอาการหนังตาของเราหมอก็จะให้คำปรึกษา แนะนำ และบอกแนวทางการรักษา และนัดวันผ่าตัด หลังจากได้วันนัดแล้ว หมอก็ให้เราไปเจาะเลือดวันนั้นเลยค่ะ เพราะรอวันนัดอีกแค่ประมาณ 1 เดือน ค่าใช้จ่ายบริการพิเศษนอกเวลาในวันนั้นทั้งหมดประมาณ 1,565 บาท (ค่าบริการพิเศษนอกวลา 500 บาท ค่าเจาะเลือด ยา และอื่น ๆ 1,065 บาท) โดยวันนัดผ่าตัดของเราก็ใช้บริการพิเศษนอกเวลา ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้บางส่วนและต้องจ่ายส่วนเกินอีกบางส่วน ประมาณครึ่งต่อครึ่ง
 
วันผ่าตัด
- เราไม่ได้ admit เพราะเป็นเพียงการผ่าตัดเล็ก ๆ 
- ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลจะอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดคร่าว ๆ และก่อนผ่าตัดในห้องผ่าตัด หมอก็จะอธิบายขั้นตอน และอื่น ๆ ให้อีกรอบ เช่น อาจจะรู้สึกตึง ๆ หลังฉีด ยาชา 
- หมอจะตรวจให้เราอีกรอบ โดยให้หลับตา ลืมตา และกลอกตาไปมาตามที่หมอบอก เช็คหนังตาอีกข้าง และมาร์คจุดไว้ว่าจะทำยังไงประมาณไหน
- หลังจากมาร์คจุดต่าง ๆ แล้ว หมอจะให้เรานอนบนเตียง ห่มผ้า และพยาบาลจะติดเครื่องมือประมาณ 2-3 อย่างไว้ตามร่างกาย แต่ไม่มีอาการเจ็บอะไร
- หลังจากที่พยาบาลติดเรียบร้อยแล้ว หมอก็จะเอาผ้ามาปิดตาเราอีกข้างและเริ่มฉีดยาชา
- หมอจะใช้ยาชาเฉพาะที่ ก็คือฉีดตรงหนังตาของเรา มีอาการเจ็บจี๊ด ๆ นิด ๆ ตรงหนังตาตอนฉีด หลังจากนั้นก็จะรู้สึกชา ๆ ตึง ๆ
- หมอจะใช้เครื่องมือมาเลเซอร์หนังตาก่อน ขั้นตอนนี้เราจะได้กลิ่นไหม้ ๆ ของผิวหนัง (อันนี้หมอแจ้งก่อนผ่าตัดแล้ว)
- หมอก็จะทำการเย็บแผลไปด้วย ในระหว่างผ่าตัดหมอจะไม่ให้เราหลับตา แต่จะให้ลืมตาเบา ๆ และมองล่างไว้
- หมอจะทำการผ่าตัด และเช็คไปด้วยเสมอ
- ของเราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในห้องผ่าตัด แผลเย็บประมาณ 10 เข็ม
- แนะนำว่า ถ้าเวลาเริ่มเดินไปเรื่อย ๆ ในตอนผ่าตัด แล้วมีอาการเจ็บ ก็ให้รีบบอกหมอและขอยาชาเพิ่มได้ ของเราเริ่มเจ็บตอนหลัง ๆ บอกหมอไปแล้ว แต่ว่าน่าการผ่าตัดจะไกล้เสร็จ หมอก็เลยไม่เพิ่มให้ 
- หลังจากผ่าตัดเสร็จ หมอจะปิดแผลให้ สั่งยา และให้วันนัดตัดไหม 
- พยาบาลจะสอนวิธีการทำความสะอาดและใส่ยาต่าง ๆ ห้ามแผลโดนน้ำเด็ดขาดอย่างประมาณ 1-2 สัปดาห์หรือจนกว่าจะตัดไหม และต้องประคบตามที่หมอสั่ง
- อาการหลังผ่าตัด มีปวดคืนแรกหละงจากผ่าตัด และบวม แต่วันที่สองเป็นต้นไปอาการปวดจะลดลงเรื่อย ๆ ของเราคือวันที่สองไม่ปวดแล้ว มีแค่จี๊ด ๆ ตรงแผลที่เย็บบ้างบางครั้ง อาการบวมก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ของเราได้นัดตัดไหมหลังจากผ่าตัดประมาณ 10 วัน
- ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 30,000++ บาท แต่เราเบิกได้แค่ส่วนเดียว และจ่ายส่วนเกินอีก 14,418 บาท

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์ผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาของเรา หลายคนอาจมีคำถามว่าถ้าไปคลิกนิกเสริมความงามอื่น ๆ เลยได้หรือไม่? เหมือนกับที่คนอื่นทำศัยกรรมหนังตากัน สำหรับเคสเราเนื่องจากว่าไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่ต้องทำร่วมด้วยไปกับการรักษา เพื่อให้การใส่ตาเทียมของเราไม่มีปัญหาตามหลังและเพื่อให้ดีที่สุด ดังนั้นจึงต้องเป็นการรักษาและผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังตาโดยเฉพาะจริง ๆ 

สำหรับกระทู้นี้ก็เป็นกระทู้สุดท้ายแล้วของซีรีย์การแชร์ประสบการณ์การผ่าตัด ใส่ตาเทียมส่วนบุคคล และศัลยกรรมหนังตาตกเพิ่มเติม เราหวังว่ากระทู้ทั้งหมดของเราที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องตาของเรานี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลาย ๆ คน ที่เข้ามาอ่าน ทั้งคนที่มีความจำเป็นจะต้องผ่าตัด คนที่อยากได้ความความรู้ หรืออะไรก็ตาม การเขียนอาจจะมีงงบ้าง วกไปวนมาบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ย้ำอีกครั้งว่าทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง ถ้าใครมีคำถามหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติม ก็ comment กันมาได้ หรือถ้าใครอยากจะแชร์อะไรก็มาร่วมพูดคุยกันได้ค่ะ 

สุดท้ายนี้ เราอยากจะบอกทุกคนว่า ดวงตาเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ๆ ในการใช้ชีวิต ถ้าหากถูกทำลายหรือขาดหายไป ยากที่จะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะการรักษานั้นค่อนข้างยาก ละเอียดสูง บุคลากรทางการแพทย์ก็ยังน้อยสำหรับเคสที่ยาก และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าหากว่าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้น จงถนอม และรักษาไว้ให้ดีที่สุดนะคะ

และสำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยเฉพาะคนทื่สูญเสียการมองเห็น เราขอส่งกำลังใจและเอาใจช่วยให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดนะคะ เราเข้าใจมาก ๆ ว่ามันยากขนาดไหนที่จะยอมรับและเผชิญกับสิ่งนี้ ยิ่งบางคนที่ทุนทรัพย์ไม่เอื้ออำนวยต่อการรักษา  ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก แต่เราเชื่อและมั่นใจว่ามันจะมีทางออกที่ดีที่สุดให้ตัวเองในไม่ช้าก็เร็ว ของให้สู้เพื่อตัวเองนะคะ สู้ ๆ ค่ะ 

*Note for me* ทั้งหมดของการรักษา เราขอขอบคุณจากใจจริง ๆ ขอบคุณครอบครัวที่สนับสนุนและอยู่เคียงข้างเสมอ ขอบคุณอาจารย์ที่คอยช่วยเหลือ เพื่อน ๆ และคนรอบข้างที่เข้าใจและให้กำลังใจตลอดมา ขอบคุณเจ้าหน้าที่ พยาบาล คุณหมอ ทั้งจากโรงพยาบาลศิริราช และ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ผลลัพธ์ทุกอย่างที่ออกมา ดีกว่าที่คาดหวังไว้มาก ๆ และขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้ อดทน กล้าเผชิญ และสู้เพื่อตัวเองเสมอมา 
with love and respect 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่