.
.
Unexplained Chinese Skeletons Found In Ancient London Tomb
1.
.
ชิ้นส่วนของโครงกระดูกที่ค้นพบ
ใน Lant Street : Museum of London
.
.
.
ที่สุสานโบราณ/หลุมขุดค้นโบราณคดีในมหานครลอนดอน
มีการค้นพบโครงกระดูกยุคโบราณจำนวน 22 ร่าง
มีอยู่ 2 ร่างที่คาดว่าเป็นชาวจีนโดยกำเนิด
ทำให้ต้องมีการทบทวนกันใหม่ในเรื่องสมมุติฐานที่เชื่อกันมาอย่างยาวนาน
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคจักรวรรดิ์โรมันกับนครรัฐในอังกฤษ
ทีมนักโบราณคดีกับนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคนิคที่ทันสมัยมากที่สุด
ด้วยการตรวจสอบกระดูกด้วย
วิธีการไอโซโทปคาร์บอน
ไอโซโทปสตอรนติอุม
และ
ไอโซโทปไนโตรเจน
พร้อมกับตรวจสอบรายงานผลที่สกัดจาก
กระดูกฟันด้วย
ไอโซโทปออกซิเจน
หลังจากศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของตัวอย่างเคลือบฟัน
ซึ่งได้ให้ข้อมูลร่องรอยเกี่ยวกับอาหารที่กินและดื่ม
แล้วนำมาเปรียบเทียบกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาต่าง ๆ ร่วมกับประชากรยุคใหม่
นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่า
โครงกระดูกที่พบไม่ได้เกิดและเติบโต
ในยุคโรมันที่
Londinium
ทำให้เป็นประจักษ์พยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันข้อเท็จจริงได้กว่าตำนาน/เรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีต
จากผลการตรวจสอบร่องรอยจาก
เคลือบฟันโครงกระดูกคนรวม 22 ร่าง
ที่ฝังอยู่ใต้ดินช่วงระหว่าง 200-400 ปีก่อนคริศตศักราช
ทีมงานวิจัยพบว่าโครงกระดูก 5 ร่าง
มาจากแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
และอีก 4 ร่างมาจากแอฟริกา
ซึ่งรวมทั้งเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง
ที่ขุดค้นพบพร้อมกับมีดพับงาช้างที่สลักเป็นรูปเสือดาว
ที่มีตำนานเชื่อมโยงกับอาณาจักร Carthage
จากผลการตรวจสอบเคลือบฟันของเด็กสาวแสดงให้เห็นว่า
เธอโตขึ้นในแอฟริกาเหนือและถูกนำตัวมายัง Londinium
หลังจากวัยเด็กของเธอ เพราะบางทีเธออาจจะเป็นทาสที่ถูกจับตัวมา
ภายหลังจากสงครามระหว่างจักรวรรดิ์โรมันกับอาณาจักร Carthage
https://goo.gl/mv4oAE
ที่สุดท้ายจักรวรรดิ์โรมันมีชัยชนะแบบเด็ดขาดในที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือการค้นพบว่าโครงกระดูก 2 คน
ที่ถูกฝังอยู่ในสุสานโรมันอาจมาจากแหล่งกำเนิดเอเชียซึ่งน่าจะมาจากประเทศจีน
การวิเคราะห์ไอโซโทบ(Isotope analysis)
.
2.
โครงกระดูกที่ค้นพบในหลุมขุดค้น
ทางโบราณคดีที่ Lant Street
ใน Southwark (Museum of London)
.
.
Dr.Rebecca Redfern ภัณฑรักษ์ด้านโครงกระดูกมนุษย์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งลอนดอน
เปิดเผยว่า มีโครงกระดูก 2 ร่างที่ระบุได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากจีน
จากการขุดค้นในหลุมโบราณคดีที่ Lant Street เขต Southwark ทางตอนใต้แม่น้ำ Thames
" เรื่องนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์มาก
นี่เป็นครั้งแรกในโรมันที่เราระบุได้ว่า
มีคนมาจากเอเซียช่วงยุคที่ 3 หรือ 4 ของจักรวรรดิ์โรมัน
การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องหักล้างและท้าทายมุมมองแบบดั้งเดิมที่ว่า
Roman Britain และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Londinium
ตามที่ได้เคยรู้จักกันมาแล้วนั้นเป็นชุมชนสังคมที่มีแต่พวกเดียวกัน "
เธอให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ BBC ในรายการ The World at One
Dr.Rebecca Redfern ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า จักรวรรดิโรมันกับจักรวรรดิ์จีน
อาจจะมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าที่นักประวัติศาสตร์หลายคนเคยคาดคิดไว้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่น่าจะเป็นเป็นไปได้ก็คือ
การค้าระหว่างกรุงโรมกับจีน มีอยู่ก่อนเส้นทางสายไหมที่โด่งดัง
จักรวรรดิโรมันกำลังรุ่งเรืองพร้อม ๆ กับจีนยุคราชวงศ์ฮั่น
Han Dynasty
เป็นยุคที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทคโนโลยีระหว่างกันในยุคนั้น
และเป็นที่ทราบกันดีว่าสองมหาอำนาจยุคโบราณมีการค้าขายกันบนเส้นทางสายไหม
หลังจากที่จักรวรรดิ์โรมันมีชัยชนะได้ครอบครองอียิปต์ในช่วง 30 ปีก่อนคริสตศักราช
และยังครอบครองพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
.
.
.
อนึ่ง มีงานโบราณคดีที่เคยค้นพบก่อนหน้าที่นี้ได้แสดงให้เห็นถึง
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมืองโบราณ
และความสำคัญของการเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ
นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการค้นพบกระดูกที่มีต้นกำเนิดจากจีนในยุคจักรวรรดิ์โรมัน
เพราะเคยมีการค้นพบโครงกระดูกคนเอเชียครั้งแรก
ที่เมือง Vagnari ประเทศอิตาลี
https://goo.gl/NXizpb
Dr.Rebecca Redfern ได้สรุปในวารสาร The Journal of Archaeological Science
https://goo.gl/9tuZ8H
" มีการขยายดินแดนครั้งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในยุโรปตะวันตกและในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทำให้เกิดการผสมผสานและการอพยพโยกย้ายของผู้คนมาจากชุมชนที่หลากหลายทั้งเชื้อชาติและทางภูมิศาสตร์
อำนาจและความมั่งคั่งของจักรวรรดิ์โรมัน นั่นหมายความว่าต้องมีการเชื่อมต่อเส้นทางการค้า
สำหรับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผ้าไหม ทั่วทั้งยุโรป แอฟริกา และไปทางทิศตะวันออก รวมทั้งอินเดียและจีน
มีผู้คนหลายคนเดินทางไปมา เพื่อทำมาค้าขาย หรือเป็นอาชีพของพวกเขา
เช่น ทหารรับจ้างในกองทัพ หรือสถานะสังคมของพวกเขา เช่น ถูกจับเป็นทาส "
นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ต่างพยายามจะอธิบาย
ถึงเรื่องราวเบื้องหลังการปรากฏตัวของชาวจีนในอังกฤษยุคจักรวรรดิ์โรมัน
การค้นพบนี้มีความเป็นไปได้ว่า พ่อค้าจีนได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่
และอาจจัดตั้งชุมชนการค้าของตนเองขึ้นในที่นี่
แต่อย่างไรก็ตาม Dr.Rebecca Redfern ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า
" เรื่องนี้อาจเป็นได้ว่า คนเหล่านี้อาจเป็นอิสรชน
หรือเป็นพวกทาส เพราะมีการค้าทาสที่นำมาจากเอเชีย
ระหว่างอินเดียกับจีน และถึงอินเดียกับโรม "
.
5.
.
แบบจำลองเมือง Londinium ยุคโรมัน
250 ก่อนคริสตศักราช Peter Foste/www.Museumoflondonprints
.
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
.
https://goo.gl/21zVRs
https://goo.gl/LHQmHf
https://goo.gl/r6hgHF
https://goo.gl/DZSZ2Q
.
.
6.
ที่มา
https://goo.gl/9tuZ8
.
7.
.
ซีกโลกตะวันออก Eastern Hemisphere
ช่วง 50 ปีก่อนคริสตศักราช
ช่วงกลางของศตวรรษที่ 1 ที่มา
https://goo.gl/u8PNwx
8.
การค้าระหว่างอาณาจักรโรม
กับซีกโลกตะวันออก รวมทั้งจีน
ในช่วงร้อยปีแรกก่อนคริสตศักราช
ตามเส้นทางการเดินเรือ
Periplus of the Erythraean Sea
ที่มา
https://goo.gl/u8PNwx
.
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
โรมัน กับ จีน มีการค้าขายกันก่อนมีเส้นทางสายไหม
แต่อาชีพพ่อค้าเคยเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจมากในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น
เพราะนักประวัติศาสตร์สังคมนิยมจีนเคยวิพากย์ ขงจื้อ ว่า
ตัวตนที่แท้จริงอยากสำเร็จความใคร่ทางปัญญา
อยากไต่เต้าทางชนชั้นในยุคศักดินาเดิม
อยากเป็นที่ปรึกษาเจ้าแคว้น/นายกรัฐมนตรี
แต่ไปไม่ถึงดวงดาว ในบั้นปลายชีวิตเลยมาเป็นอาจารย์
แล้วเลยพาลเกลียดพ่อค้า จนเหยียดหยามว่าเป็นชนขั้นต่ำกว่าชาวนา
เพราะพวกพ่อค้ามักเป็นคนเดินทางเร่ร่อน ต้องรู้มาก รู้หลบ รู้หลีกภัย
เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากการเปรียบเทียบระหว่างแคว้นต่าง ๆ
หลอกให้โง่ยาก หลอกให้เขื่อ/รับใช้เจ้าครองแคว้นยิ่งลำบาก
ในตำนานจีนมีพ่อค้าเพียงสองคนที่โด่งดัง
ที่ยอมรับใช้เจ้าแคว้นแบบลงทุนน้อยกำไรงาม/คุณภาพชีวิตสุดหรู
หลีปุ๊เว่ย ที่ลงทุนสนับสนุนราชันย์จนได้เป็นมหาอำมาตย์
และมีข่าวลือว่าเป็นพ่อของจิ๋นซีฮ่องเต๊ จักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน
https://goo.gl/dyT9qj (ไทย)
เถาจูกง หรือ ฟั่นหลี่ เสนาธิการโจวเกี้ยนที่พอช่วยราชันย์ล้างแค้นได้ก็รีบลาจากไป
พร้อมกับพานางไซซี ราชินีล่มแผ่นดินศัตรูไปอยู่กินด้วยกัน
และเป็นเจ้าของวาทกรรม เจ้านายบางคนร่วมทุกข์ได้ ร่วมสุขไม่ได้
https://goo.gl/Bwy38b (ไทย)
พ่อค้าจะไม่เหมือนกับพวกชาวไร่ชาวนาชาวบ้านกรรมกร
ที่ขงจื้อพร่ำสอนว่าให้กตัญญูพ่อแม่ เชื่อฟังพ่อแม่
กับการที่ขงจื้อสอนว่า ลูกหลานต้องเฝ้าหลุมศพฮวงจุ้ย(ฮวงซุ้ย)ถึง 3 ปี
จากจุดนี้ก็ขยายความไปถึงการเชื่อฟังพ่อแม่แล้วต้องเชื่อฟังเจ้าเมือง
รวมทั้งเวลามีศึกสงครามระหว่างแคว้น
ราชการก็จะตามตัวคนมารบทัพจับศึกได้ง่าย ๆ
เพราะคนเราถ้าอยู่ติดบ้านติดถิ่นกำเนิด
ไม่เป็นพ่อค้าเร่ร่อนไปต่างถิ่น ไปทำมาหากินแดนไกลก็ตามตัวได้ง่าย
บริบทนี้ใช้งานได้ดีในยุคสงครามระหว่างก๊ก ยุคเลียดก๊ก
ในสงครามระหว่างก๊กของจีนยุคโบราณ มีหลายครั้งที่ใช้วิชามาร
ล่าสุดก็ยุคเจียงไคเช็ครบกับเหมาเจ๋อตุง (ทั้งคู่ดุจมารกล่าวหาอสูร)
ที่ใช้หลักจิตวิทยาให้นักรบไปทำการรื้อทำลายฮวงจุ๊ยหลุมศพบรรพบุรุษฝ่ายศัตรู
ทำให้พวกศัตรูเสียขวัญกำลังใจและกลัวอาถรรพ์ต่าง ๆ ตามคำเล่าลือ
รวมทั้งถูกชาวบ้านถือโอกาสประณามว่า
ไร้ความกตัญญูไม่ดูแลฮวงจุ๊ยบรรพชน
เรื่องนี้แทบไม่ต่างกับเหมาเจ๋อตุง ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม
ที่ทำลายความเชื่อเก่า ๆ ว่า ไม่มีผี ไม่มีพระเจ้า
ไม่ต้องมีฮวงจุ๊ย ไม่ต้องมีสุเหร่า ไม่ต้องมีวัดวาอาราม
พ่อแม่ก็ไม่ใช่คนดีแล้วถ้าต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์
สรุป เหมาเจ๋อตุงดีที่สุดเหนือพระเจ้าเหนือพ่อแม่
ทุกคนต้องเคารพบูชาเหมาเจ๋อตุงเหนือสิ่งทั้งปวง
พร้อมกับพกพาหนังสือปกแดงติดตัวตลอดเวลา
บทสรุป เติ้งเสี่ยวผิง วิพากษ์เหมาเจ๋อตุง ว่า
เหมาชั่ว 3 ดี 7 ดี เจ๊ากันไป
.
.
การเคารพศพพวกมองโกล คือ การโยนศพให้หมาป่ากิน
เพราะเขื่อว่าต้นตระกูลมาจากหมาป่า
https://goo.gl/6L24fp (ไทย)
คนไทย อินเดีย คนนับถือศาสนาพุทธที่นิยมเผาศพกันมาก
เพื่อออกเดินทางไปตายเอาดาบหน้าไม่ต้องกังวลห่วงหน้าพะวงหลัง
วิธีการดังกล่าวทำให้การขุดค้นกระดูกไม่ค่อยมีมากเหมือนกับทางยุโรป
ส่วนศาสนาอิสลามนิกายสุนนี ที่นิยมฝังศพไว้ แต่ไม่ให้ระบุที่ฝังไว้ชัดเจน
ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ส่วนมากมักจะเป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อน
ต้องย้ายถิ่นทำมาหากินไปเรื่อย ๆ เพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้กับพวกตนและสัตว์เลี้ยง
ทำให้ลูกหลานที่รู้จักที่ฝังศพได้ดีมาทำการเคารพในเวลาอันควร
และออกเดินทางทำมาหากินไกลถิ่นไม่ต้องห่วงใยหลุมศพบรรพบุรุษ
อนึ่ง Attila the Huns เป็นชนเผ่ามองโกล
ที่เคยบุกยุโรปในยุคหลังอาณาจักรโรมันล่มสลายแล้ว
แต่ตำนาน Attila ตายเพราะถูกยาพิษจากนางกำนัลที่ศัตรูส่งมาเป็นนางบำเรอ
แต่บางตำนานว่าเป็นไข้ตาย เพราะยุคนั้นหยูกยาหายากมาก
แต่สรุปตรงกันทั้งสองตำนานว่าตายอย่างทรมานจากพิษไข้ที่เกิดขึ้น
พวกมองโกลเคยปกครองยุโรปตะวันออก เชคโก ฮังการี รัสเซีย ร่วม 200 กว่าปี
ทำให้คนยุโรปตะวันออกแถวนั้น บางคน มีตาชั้นเดียว
หน้าตาฝรั่งก็ไม่ใช่ จีนก็ไม่ใช่ ดูแปลก ๆ ตัวอย่าง ปูติน เยตซิน
เพราะมีพันธุกรรมที่หลงเหลือมาจากพวกมองโกล
จึงมีบางคนวิจารณ์คนรัสเซียว่า โหดสัตว์รัสเซีย
แบบใจดีเหมือนคนชนเผ่าสลาฟ โหดสัตว์เหมือนพวกมองโกล
เจ้าเล่ห์เหมือนชนเผ่าเร่ร่อนในยุคอดีตกาล
พบกระดูกคนจีนในยุคโรมันที่อังกฤษ
.
Unexplained Chinese Skeletons Found In Ancient London Tomb
1.
.
ชิ้นส่วนของโครงกระดูกที่ค้นพบ
ใน Lant Street : Museum of London
.
.
ที่สุสานโบราณ/หลุมขุดค้นโบราณคดีในมหานครลอนดอน
มีการค้นพบโครงกระดูกยุคโบราณจำนวน 22 ร่าง
มีอยู่ 2 ร่างที่คาดว่าเป็นชาวจีนโดยกำเนิด
ทำให้ต้องมีการทบทวนกันใหม่ในเรื่องสมมุติฐานที่เชื่อกันมาอย่างยาวนาน
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคจักรวรรดิ์โรมันกับนครรัฐในอังกฤษ
ทีมนักโบราณคดีกับนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคนิคที่ทันสมัยมากที่สุด
ด้วยการตรวจสอบกระดูกด้วย
วิธีการไอโซโทปคาร์บอน
ไอโซโทปสตอรนติอุม
และ ไอโซโทปไนโตรเจน
พร้อมกับตรวจสอบรายงานผลที่สกัดจาก
กระดูกฟันด้วย ไอโซโทปออกซิเจน
หลังจากศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของตัวอย่างเคลือบฟัน
ซึ่งได้ให้ข้อมูลร่องรอยเกี่ยวกับอาหารที่กินและดื่ม
แล้วนำมาเปรียบเทียบกับลักษณะทางสัณฐานวิทยาต่าง ๆ ร่วมกับประชากรยุคใหม่
นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่า
โครงกระดูกที่พบไม่ได้เกิดและเติบโต
ในยุคโรมันที่ Londinium
ทำให้เป็นประจักษ์พยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันข้อเท็จจริงได้กว่าตำนาน/เรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีต
จากผลการตรวจสอบร่องรอยจาก
เคลือบฟันโครงกระดูกคนรวม 22 ร่าง
ที่ฝังอยู่ใต้ดินช่วงระหว่าง 200-400 ปีก่อนคริศตศักราช
ทีมงานวิจัยพบว่าโครงกระดูก 5 ร่าง
มาจากแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
และอีก 4 ร่างมาจากแอฟริกา
ซึ่งรวมทั้งเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง
ที่ขุดค้นพบพร้อมกับมีดพับงาช้างที่สลักเป็นรูปเสือดาว
ที่มีตำนานเชื่อมโยงกับอาณาจักร Carthage
จากผลการตรวจสอบเคลือบฟันของเด็กสาวแสดงให้เห็นว่า
เธอโตขึ้นในแอฟริกาเหนือและถูกนำตัวมายัง Londinium
หลังจากวัยเด็กของเธอ เพราะบางทีเธออาจจะเป็นทาสที่ถูกจับตัวมา
ภายหลังจากสงครามระหว่างจักรวรรดิ์โรมันกับอาณาจักร Carthage https://goo.gl/mv4oAE
ที่สุดท้ายจักรวรรดิ์โรมันมีชัยชนะแบบเด็ดขาดในที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือการค้นพบว่าโครงกระดูก 2 คน
ที่ถูกฝังอยู่ในสุสานโรมันอาจมาจากแหล่งกำเนิดเอเชียซึ่งน่าจะมาจากประเทศจีน
การวิเคราะห์ไอโซโทบ(Isotope analysis)
.
โครงกระดูกที่ค้นพบในหลุมขุดค้น
ทางโบราณคดีที่ Lant Street
ใน Southwark (Museum of London)
.
Dr.Rebecca Redfern ภัณฑรักษ์ด้านโครงกระดูกมนุษย์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งลอนดอน
เปิดเผยว่า มีโครงกระดูก 2 ร่างที่ระบุได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากจีน
จากการขุดค้นในหลุมโบราณคดีที่ Lant Street เขต Southwark ทางตอนใต้แม่น้ำ Thames
" เรื่องนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์มาก
นี่เป็นครั้งแรกในโรมันที่เราระบุได้ว่า
มีคนมาจากเอเซียช่วงยุคที่ 3 หรือ 4 ของจักรวรรดิ์โรมัน
การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องหักล้างและท้าทายมุมมองแบบดั้งเดิมที่ว่า
Roman Britain และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Londinium
ตามที่ได้เคยรู้จักกันมาแล้วนั้นเป็นชุมชนสังคมที่มีแต่พวกเดียวกัน "
เธอให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ BBC ในรายการ The World at One
Dr.Rebecca Redfern ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า จักรวรรดิโรมันกับจักรวรรดิ์จีน
อาจจะมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าที่นักประวัติศาสตร์หลายคนเคยคาดคิดไว้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่น่าจะเป็นเป็นไปได้ก็คือ
การค้าระหว่างกรุงโรมกับจีน มีอยู่ก่อนเส้นทางสายไหมที่โด่งดัง
จักรวรรดิโรมันกำลังรุ่งเรืองพร้อม ๆ กับจีนยุคราชวงศ์ฮั่น Han Dynasty
เป็นยุคที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทคโนโลยีระหว่างกันในยุคนั้น
และเป็นที่ทราบกันดีว่าสองมหาอำนาจยุคโบราณมีการค้าขายกันบนเส้นทางสายไหม
หลังจากที่จักรวรรดิ์โรมันมีชัยชนะได้ครอบครองอียิปต์ในช่วง 30 ปีก่อนคริสตศักราช
และยังครอบครองพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
.
.
ราชวงศ์ฮั่น https://goo.gl/7fh7Y7 (ไทย)
4.
.
เส้นทางสายไหม https://goo.gl/YGiBAP
.
.
อนึ่ง มีงานโบราณคดีที่เคยค้นพบก่อนหน้าที่นี้ได้แสดงให้เห็นถึง
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมืองโบราณ
และความสำคัญของการเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ
นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการค้นพบกระดูกที่มีต้นกำเนิดจากจีนในยุคจักรวรรดิ์โรมัน
เพราะเคยมีการค้นพบโครงกระดูกคนเอเชียครั้งแรก
ที่เมือง Vagnari ประเทศอิตาลี https://goo.gl/NXizpb
Dr.Rebecca Redfern ได้สรุปในวารสาร The Journal of Archaeological Science https://goo.gl/9tuZ8H
" มีการขยายดินแดนครั้งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในยุโรปตะวันตกและในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทำให้เกิดการผสมผสานและการอพยพโยกย้ายของผู้คนมาจากชุมชนที่หลากหลายทั้งเชื้อชาติและทางภูมิศาสตร์
อำนาจและความมั่งคั่งของจักรวรรดิ์โรมัน นั่นหมายความว่าต้องมีการเชื่อมต่อเส้นทางการค้า
สำหรับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผ้าไหม ทั่วทั้งยุโรป แอฟริกา และไปทางทิศตะวันออก รวมทั้งอินเดียและจีน
มีผู้คนหลายคนเดินทางไปมา เพื่อทำมาค้าขาย หรือเป็นอาชีพของพวกเขา
เช่น ทหารรับจ้างในกองทัพ หรือสถานะสังคมของพวกเขา เช่น ถูกจับเป็นทาส "
นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ต่างพยายามจะอธิบาย
ถึงเรื่องราวเบื้องหลังการปรากฏตัวของชาวจีนในอังกฤษยุคจักรวรรดิ์โรมัน
การค้นพบนี้มีความเป็นไปได้ว่า พ่อค้าจีนได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่
และอาจจัดตั้งชุมชนการค้าของตนเองขึ้นในที่นี่
แต่อย่างไรก็ตาม Dr.Rebecca Redfern ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า
" เรื่องนี้อาจเป็นได้ว่า คนเหล่านี้อาจเป็นอิสรชน
หรือเป็นพวกทาส เพราะมีการค้าทาสที่นำมาจากเอเชีย
ระหว่างอินเดียกับจีน และถึงอินเดียกับโรม "
.
.
แบบจำลองเมือง Londinium ยุคโรมัน
250 ก่อนคริสตศักราช Peter Foste/www.Museumoflondonprints
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
.
https://goo.gl/21zVRs
https://goo.gl/LHQmHf
https://goo.gl/r6hgHF
https://goo.gl/DZSZ2Q
.
.
ที่มา https://goo.gl/9tuZ8
.
7.
.
ซีกโลกตะวันออก Eastern Hemisphere
ช่วง 50 ปีก่อนคริสตศักราช
ช่วงกลางของศตวรรษที่ 1 ที่มา https://goo.gl/u8PNwx
8.
การค้าระหว่างอาณาจักรโรม
กับซีกโลกตะวันออก รวมทั้งจีน
ในช่วงร้อยปีแรกก่อนคริสตศักราช
ตามเส้นทางการเดินเรือ
Periplus of the Erythraean Sea
ที่มา https://goo.gl/u8PNwx
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
โรมัน กับ จีน มีการค้าขายกันก่อนมีเส้นทางสายไหม
แต่อาชีพพ่อค้าเคยเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจมากในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น
เพราะนักประวัติศาสตร์สังคมนิยมจีนเคยวิพากย์ ขงจื้อ ว่า
ตัวตนที่แท้จริงอยากสำเร็จความใคร่ทางปัญญา
อยากไต่เต้าทางชนชั้นในยุคศักดินาเดิม
อยากเป็นที่ปรึกษาเจ้าแคว้น/นายกรัฐมนตรี
แต่ไปไม่ถึงดวงดาว ในบั้นปลายชีวิตเลยมาเป็นอาจารย์
แล้วเลยพาลเกลียดพ่อค้า จนเหยียดหยามว่าเป็นชนขั้นต่ำกว่าชาวนา
เพราะพวกพ่อค้ามักเป็นคนเดินทางเร่ร่อน ต้องรู้มาก รู้หลบ รู้หลีกภัย
เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากการเปรียบเทียบระหว่างแคว้นต่าง ๆ
หลอกให้โง่ยาก หลอกให้เขื่อ/รับใช้เจ้าครองแคว้นยิ่งลำบาก
ในตำนานจีนมีพ่อค้าเพียงสองคนที่โด่งดัง
ที่ยอมรับใช้เจ้าแคว้นแบบลงทุนน้อยกำไรงาม/คุณภาพชีวิตสุดหรู
หลีปุ๊เว่ย ที่ลงทุนสนับสนุนราชันย์จนได้เป็นมหาอำมาตย์
และมีข่าวลือว่าเป็นพ่อของจิ๋นซีฮ่องเต๊ จักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน https://goo.gl/dyT9qj (ไทย)
เถาจูกง หรือ ฟั่นหลี่ เสนาธิการโจวเกี้ยนที่พอช่วยราชันย์ล้างแค้นได้ก็รีบลาจากไป
พร้อมกับพานางไซซี ราชินีล่มแผ่นดินศัตรูไปอยู่กินด้วยกัน
และเป็นเจ้าของวาทกรรม เจ้านายบางคนร่วมทุกข์ได้ ร่วมสุขไม่ได้ https://goo.gl/Bwy38b (ไทย)
พ่อค้าจะไม่เหมือนกับพวกชาวไร่ชาวนาชาวบ้านกรรมกร
ที่ขงจื้อพร่ำสอนว่าให้กตัญญูพ่อแม่ เชื่อฟังพ่อแม่
กับการที่ขงจื้อสอนว่า ลูกหลานต้องเฝ้าหลุมศพฮวงจุ้ย(ฮวงซุ้ย)ถึง 3 ปี
จากจุดนี้ก็ขยายความไปถึงการเชื่อฟังพ่อแม่แล้วต้องเชื่อฟังเจ้าเมือง
รวมทั้งเวลามีศึกสงครามระหว่างแคว้น
ราชการก็จะตามตัวคนมารบทัพจับศึกได้ง่าย ๆ
เพราะคนเราถ้าอยู่ติดบ้านติดถิ่นกำเนิด
ไม่เป็นพ่อค้าเร่ร่อนไปต่างถิ่น ไปทำมาหากินแดนไกลก็ตามตัวได้ง่าย
บริบทนี้ใช้งานได้ดีในยุคสงครามระหว่างก๊ก ยุคเลียดก๊ก
ในสงครามระหว่างก๊กของจีนยุคโบราณ มีหลายครั้งที่ใช้วิชามาร
ล่าสุดก็ยุคเจียงไคเช็ครบกับเหมาเจ๋อตุง (ทั้งคู่ดุจมารกล่าวหาอสูร)
ที่ใช้หลักจิตวิทยาให้นักรบไปทำการรื้อทำลายฮวงจุ๊ยหลุมศพบรรพบุรุษฝ่ายศัตรู
ทำให้พวกศัตรูเสียขวัญกำลังใจและกลัวอาถรรพ์ต่าง ๆ ตามคำเล่าลือ
รวมทั้งถูกชาวบ้านถือโอกาสประณามว่า
ไร้ความกตัญญูไม่ดูแลฮวงจุ๊ยบรรพชน
เรื่องนี้แทบไม่ต่างกับเหมาเจ๋อตุง ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม
ที่ทำลายความเชื่อเก่า ๆ ว่า ไม่มีผี ไม่มีพระเจ้า
ไม่ต้องมีฮวงจุ๊ย ไม่ต้องมีสุเหร่า ไม่ต้องมีวัดวาอาราม
พ่อแม่ก็ไม่ใช่คนดีแล้วถ้าต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์
สรุป เหมาเจ๋อตุงดีที่สุดเหนือพระเจ้าเหนือพ่อแม่
ทุกคนต้องเคารพบูชาเหมาเจ๋อตุงเหนือสิ่งทั้งปวง
พร้อมกับพกพาหนังสือปกแดงติดตัวตลอดเวลา
บทสรุป เติ้งเสี่ยวผิง วิพากษ์เหมาเจ๋อตุง ว่า
เหมาชั่ว 3 ดี 7 ดี เจ๊ากันไป
.
.
การเคารพศพพวกมองโกล คือ การโยนศพให้หมาป่ากิน
เพราะเขื่อว่าต้นตระกูลมาจากหมาป่า https://goo.gl/6L24fp (ไทย)
คนไทย อินเดีย คนนับถือศาสนาพุทธที่นิยมเผาศพกันมาก
เพื่อออกเดินทางไปตายเอาดาบหน้าไม่ต้องกังวลห่วงหน้าพะวงหลัง
วิธีการดังกล่าวทำให้การขุดค้นกระดูกไม่ค่อยมีมากเหมือนกับทางยุโรป
ส่วนศาสนาอิสลามนิกายสุนนี ที่นิยมฝังศพไว้ แต่ไม่ให้ระบุที่ฝังไว้ชัดเจน
ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ส่วนมากมักจะเป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อน
ต้องย้ายถิ่นทำมาหากินไปเรื่อย ๆ เพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้กับพวกตนและสัตว์เลี้ยง
ทำให้ลูกหลานที่รู้จักที่ฝังศพได้ดีมาทำการเคารพในเวลาอันควร
และออกเดินทางทำมาหากินไกลถิ่นไม่ต้องห่วงใยหลุมศพบรรพบุรุษ
อนึ่ง Attila the Huns เป็นชนเผ่ามองโกล
ที่เคยบุกยุโรปในยุคหลังอาณาจักรโรมันล่มสลายแล้ว
แต่ตำนาน Attila ตายเพราะถูกยาพิษจากนางกำนัลที่ศัตรูส่งมาเป็นนางบำเรอ
แต่บางตำนานว่าเป็นไข้ตาย เพราะยุคนั้นหยูกยาหายากมาก
แต่สรุปตรงกันทั้งสองตำนานว่าตายอย่างทรมานจากพิษไข้ที่เกิดขึ้น
พวกมองโกลเคยปกครองยุโรปตะวันออก เชคโก ฮังการี รัสเซีย ร่วม 200 กว่าปี
ทำให้คนยุโรปตะวันออกแถวนั้น บางคน มีตาชั้นเดียว
หน้าตาฝรั่งก็ไม่ใช่ จีนก็ไม่ใช่ ดูแปลก ๆ ตัวอย่าง ปูติน เยตซิน
เพราะมีพันธุกรรมที่หลงเหลือมาจากพวกมองโกล
จึงมีบางคนวิจารณ์คนรัสเซียว่า โหดสัตว์รัสเซีย
แบบใจดีเหมือนคนชนเผ่าสลาฟ โหดสัตว์เหมือนพวกมองโกล
เจ้าเล่ห์เหมือนชนเผ่าเร่ร่อนในยุคอดีตกาล