วัฒนธรรมจีนเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่เก่าแก่และหลากหลายที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 5,000 ปี วันนี้จีนไทยนิวส์จะพาทุกคนไปรู้จักกับ “10 มรดกทางวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นจีน” มาดูกันว่าคุณจะรู้จักกี่อัน
1️⃣ ปักผ้า (刺绣)
การปักผ้าเป็นงานฝีมือดั้งเดิมที่ใช้เข็มและด้ายสร้างลวดลายอันงดงามบนผืนผ้า มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ในอดีตถือเป็นทักษะสำคัญของผู้หญิงชั้นสูง และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเส้นทางสายไหม
ผ้าปักสี่สำนักที่มีชื่อเสียงของจีน ได้แก่ ซูซิ่ว (苏绣) ของมณฑลเจียงซู, เซียงซิ่ว (湘绣) ของมณฑลหูหนาน, เยว่ซิ่ว (粤绣) ของมณฑลกว่างตงและสู่ซิ่ว (蜀绣) ของมณฑลเสฉวน ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ
2️⃣ ตัดกระดาษ (剪纸)
การตัดกระดาษเป็นงานฝีมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสรรค์ลวดลายที่สวยงาม แต่ยังแฝงไปด้วยความหมาย สำหรับการนำไปใช้ เช่น เทศกาลตรุษจีน ผู้คนมักจะตัดกระดาษเป็นลวดลายตัวแทนของสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและคำอวยพรต่างๆ ติดไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศความสุขในช่วงเทศกาล
3️⃣ หมากล้อม (围棋)
หมากล้อม เกมกระดานที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนและแพร่หลายไปทั่วโลก มีประวัติยาวนานกว่า 4,000 ปี ถือเป็นเกมที่ฝึกฝนความคิดเชิงกลยุทธ์ โดยการผสมผสานวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และการแข่งขันเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ หมากล้อมถือเป็นหนึ่งในสี่งานอดิเรกยอดฮิตในหมู่ปัญญาชนของจีน (琴棋书画)
4️⃣ เครื่องเคลือบ (瓷器)
เครื่องเคลือบ หรือ เครื่องปั้นดินเผาจีน มักจะมีการตกแต่งด้วยการวาดลวดลายสีสันบนพื้นผิว เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก โดยเฉพาะเครื่องเคลือบจากเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของจีน และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผาของโลก” โดยประเทศแถบตะวันตกจะใช้คำว่า “China” เรียกเครื่องปั้นดินเผาที่มาจากประเทศจีน แสดงถึงการรู้จักและยอมรับประเทศจีน
5️⃣ วิถีแห่งชา (茶道)
การดื่มชาถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 7,000 ปี ตั้งแต่สมัย “เสินหนง” ค้นพบใบชาและพบว่าชามีคุณสมบัติทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ซึ่งชาไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มที่รสชาติดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและความพิถีพิถัน เรียกว่า “วิถีแห่งชา”
สำหรับประเทศจีน ชามีสถานะคล้ายกับกาแฟในประเทศแถบตะวันตก และได้รับความนิยมในหลายประเทศและกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก
6️⃣ ชุดฮั่นฝู (汉服)
จุดกำเนิดของชุดฮั่นฝูสามารถย้อนกลับไปถึงยุคสามราชาห้าจักรพรรดิ เดิมทีฮั่นฝูเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของชาวฮั่น มีต้นกำเนิดในสมัยพระเจ้าหวงตี้ (黄帝) ถูกพัฒนาในสมัยราชวงศ์โจว (1046 — 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ก่อนจะถูกกำหนดรูปแบบที่ชัดเจนและแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ. 220) จึงเป็นที่มาของชื่อเครื่องแต่งกายประเภทนี้
7️⃣ อุปรากรหรืองิ้ว (京剧)
“อุปรากรปักกิ่ง” หรือ “งิ้วปักกิ่ง” หนึ่งในห้าสุดยอดอุปรากรจีน มีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1616 – 1911) และมีอายุยาวนานถึง 200 ปี เป็นศิลปะการแสดงที่รวมเอาดนตรี การแสดงท่าทาง วรรณกรรมและการวาดใบหน้าเข้าไว้ด้วยกัน และได้รับการยกย่องในระดับสากลว่าเป็น “บทเพลงแห่งบูรพา”
ห้าสุดยอดอุปรากรจีน ประกอบไปด้วย งิ้วปักกิ่ง (京剧), งิ้วผิง (评剧), งิ้วเยว่ (越剧), งิ้วหวงเหมย (黄梅戏) และงิ้วอวี้ (豫剧)
8️⃣ การแพทย์แผนจีน (中医)
การแพทย์แผนจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ใช้วิธีการศึกษาการทำงานของร่างกาย การวินิจฉัยและรักษาโรคมีหลากหลายวิธี อาทิ ใช้สมุนไพรและฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลร่างกาย
ตามตำนานโบราณ “เสินหนง (神农)” คือชาวจีนที่ทดลองใช้สมุนไพรหลายชนิดกับตัวเอง เพื่อค้นหาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค และเป็นที่มาของวิชาการแพทย์แผนจีนที่มีมาแต่โบราณและยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
9️⃣ ศิลปะการต่อสู้ (武术)
ศิลปะการต่อสู้ หรือที่เรียกกันว่า “กังฟู” เป็นการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความสำคัญอย่างมาก ในอดีต ช่วงที่ยังไม่มีปืนหรืออาวุธสำหรับการทำสงคราม การต่อสู้ด้วยมือเปล่าจึงถือเป็นวิธีหลักในการต่อสู้ และเป็นกุญแจสำคัญที่เอาชนะอีกฝ่าย
ศิลปะการต่อสู้ของจีนได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากการที่ “บรูซ ลี (Bruce Lee)” ได้นำกังฟูไปใส่ในภาพยนตร์ ทำให้กังฟูกลายเป็นที่รู้จักในระดับสากล
🔟 เขียนอักษรพู่กันจีน (书法)
การเขียนอักษรพู่กันจีน หรือที่เรียกว่า “Calligraphy” เป็นศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี และมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
ตั้งแต่ยุคของการจารึกบนกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่า (甲骨文) ไปจนถึงการการแกะสลักหิน (石刻文) และตามมาด้วยการพัฒนาเป็นอักษรหรือฟ้อนต์รูปแบบต่าง ๆ เช่น “อักษรจ้วน” (篆书), “อักษรลี่” (隶书), “อักษรข่าย” (楷书), “อักษรสิง” (行书), และ “อักษรเฉ่า” (草书)
ข้างต้นคือ 10 สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นจีน ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่ควรศึกษาและรักษาไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความลุ่มลึกและนัยยะของวัฒนธรรมจีน
ข้อมูลจาก:
https://www.facebook.com/share/15tmoQAWD4/?mibextid=wwXIfr
🔟 มรดกทางวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นจีน
วัฒนธรรมจีนเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่เก่าแก่และหลากหลายที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 5,000 ปี วันนี้จีนไทยนิวส์จะพาทุกคนไปรู้จักกับ “10 มรดกทางวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นจีน” มาดูกันว่าคุณจะรู้จักกี่อัน
1️⃣ ปักผ้า (刺绣)
การปักผ้าเป็นงานฝีมือดั้งเดิมที่ใช้เข็มและด้ายสร้างลวดลายอันงดงามบนผืนผ้า มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ในอดีตถือเป็นทักษะสำคัญของผู้หญิงชั้นสูง และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเส้นทางสายไหม
ผ้าปักสี่สำนักที่มีชื่อเสียงของจีน ได้แก่ ซูซิ่ว (苏绣) ของมณฑลเจียงซู, เซียงซิ่ว (湘绣) ของมณฑลหูหนาน, เยว่ซิ่ว (粤绣) ของมณฑลกว่างตงและสู่ซิ่ว (蜀绣) ของมณฑลเสฉวน ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ
2️⃣ ตัดกระดาษ (剪纸)
การตัดกระดาษเป็นงานฝีมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสรรค์ลวดลายที่สวยงาม แต่ยังแฝงไปด้วยความหมาย สำหรับการนำไปใช้ เช่น เทศกาลตรุษจีน ผู้คนมักจะตัดกระดาษเป็นลวดลายตัวแทนของสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและคำอวยพรต่างๆ ติดไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศความสุขในช่วงเทศกาล
3️⃣ หมากล้อม (围棋)
หมากล้อม เกมกระดานที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนและแพร่หลายไปทั่วโลก มีประวัติยาวนานกว่า 4,000 ปี ถือเป็นเกมที่ฝึกฝนความคิดเชิงกลยุทธ์ โดยการผสมผสานวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และการแข่งขันเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ หมากล้อมถือเป็นหนึ่งในสี่งานอดิเรกยอดฮิตในหมู่ปัญญาชนของจีน (琴棋书画)
4️⃣ เครื่องเคลือบ (瓷器)
เครื่องเคลือบ หรือ เครื่องปั้นดินเผาจีน มักจะมีการตกแต่งด้วยการวาดลวดลายสีสันบนพื้นผิว เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก โดยเฉพาะเครื่องเคลือบจากเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของจีน และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผาของโลก” โดยประเทศแถบตะวันตกจะใช้คำว่า “China” เรียกเครื่องปั้นดินเผาที่มาจากประเทศจีน แสดงถึงการรู้จักและยอมรับประเทศจีน
5️⃣ วิถีแห่งชา (茶道)
การดื่มชาถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 7,000 ปี ตั้งแต่สมัย “เสินหนง” ค้นพบใบชาและพบว่าชามีคุณสมบัติทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ซึ่งชาไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มที่รสชาติดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและความพิถีพิถัน เรียกว่า “วิถีแห่งชา”
สำหรับประเทศจีน ชามีสถานะคล้ายกับกาแฟในประเทศแถบตะวันตก และได้รับความนิยมในหลายประเทศและกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก
6️⃣ ชุดฮั่นฝู (汉服)
จุดกำเนิดของชุดฮั่นฝูสามารถย้อนกลับไปถึงยุคสามราชาห้าจักรพรรดิ เดิมทีฮั่นฝูเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของชาวฮั่น มีต้นกำเนิดในสมัยพระเจ้าหวงตี้ (黄帝) ถูกพัฒนาในสมัยราชวงศ์โจว (1046 — 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ก่อนจะถูกกำหนดรูปแบบที่ชัดเจนและแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ. 220) จึงเป็นที่มาของชื่อเครื่องแต่งกายประเภทนี้
7️⃣ อุปรากรหรืองิ้ว (京剧)
“อุปรากรปักกิ่ง” หรือ “งิ้วปักกิ่ง” หนึ่งในห้าสุดยอดอุปรากรจีน มีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1616 – 1911) และมีอายุยาวนานถึง 200 ปี เป็นศิลปะการแสดงที่รวมเอาดนตรี การแสดงท่าทาง วรรณกรรมและการวาดใบหน้าเข้าไว้ด้วยกัน และได้รับการยกย่องในระดับสากลว่าเป็น “บทเพลงแห่งบูรพา”
ห้าสุดยอดอุปรากรจีน ประกอบไปด้วย งิ้วปักกิ่ง (京剧), งิ้วผิง (评剧), งิ้วเยว่ (越剧), งิ้วหวงเหมย (黄梅戏) และงิ้วอวี้ (豫剧)
8️⃣ การแพทย์แผนจีน (中医)
การแพทย์แผนจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ใช้วิธีการศึกษาการทำงานของร่างกาย การวินิจฉัยและรักษาโรคมีหลากหลายวิธี อาทิ ใช้สมุนไพรและฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลร่างกาย
ตามตำนานโบราณ “เสินหนง (神农)” คือชาวจีนที่ทดลองใช้สมุนไพรหลายชนิดกับตัวเอง เพื่อค้นหาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค และเป็นที่มาของวิชาการแพทย์แผนจีนที่มีมาแต่โบราณและยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
9️⃣ ศิลปะการต่อสู้ (武术)
ศิลปะการต่อสู้ หรือที่เรียกกันว่า “กังฟู” เป็นการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความสำคัญอย่างมาก ในอดีต ช่วงที่ยังไม่มีปืนหรืออาวุธสำหรับการทำสงคราม การต่อสู้ด้วยมือเปล่าจึงถือเป็นวิธีหลักในการต่อสู้ และเป็นกุญแจสำคัญที่เอาชนะอีกฝ่าย
ศิลปะการต่อสู้ของจีนได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากการที่ “บรูซ ลี (Bruce Lee)” ได้นำกังฟูไปใส่ในภาพยนตร์ ทำให้กังฟูกลายเป็นที่รู้จักในระดับสากล
🔟 เขียนอักษรพู่กันจีน (书法)
การเขียนอักษรพู่กันจีน หรือที่เรียกว่า “Calligraphy” เป็นศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี และมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
ตั้งแต่ยุคของการจารึกบนกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่า (甲骨文) ไปจนถึงการการแกะสลักหิน (石刻文) และตามมาด้วยการพัฒนาเป็นอักษรหรือฟ้อนต์รูปแบบต่าง ๆ เช่น “อักษรจ้วน” (篆书), “อักษรลี่” (隶书), “อักษรข่าย” (楷书), “อักษรสิง” (行书), และ “อักษรเฉ่า” (草书)
ข้างต้นคือ 10 สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นจีน ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่ควรศึกษาและรักษาไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความลุ่มลึกและนัยยะของวัฒนธรรมจีน
ข้อมูลจาก: https://www.facebook.com/share/15tmoQAWD4/?mibextid=wwXIfr