คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
นี้เป็น คหสต. ของดิฉันเท่านั้น ถ้าจะตัดสินให้แน่ชัด ลงไปว่าวิปัสสนาหรือไม่ ให้ดูที่ "ไตรลักษณ์" ถ้าท่านได้เห็น ลักษณะของความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป โดยมิได้ทำความรู้สึกนึกคิด ให้เห็น ให้รู้ โดยตัวของท่านเอง แต่สิ่งนั้นเกิดขึ้น สิ่งนั้นตั้งอยู่ สิ่งนั้นดับไป และท่านเข้าไปเห็นสิ่งนั้นได้เอง ดิฉันคิดว่าอย่างนั้นคือ วิปัสสนา
แต่สิ่งที่ท่าน ได้เห็นอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ดิฉันคิดว่า เป็นทางเริ่มต้น ที่จะทำให้ท่าน ไปสู่ไตรลักษณ์ได้อย่างแน่นอน เพราะครั้งหนึ่งดิฉันก็เคยเห็นแบบที่ท่านเห็น นั้นคือเห็นความเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ ความไม่มีอะไรแน่นอน ของกายและจิต และสิ่งทีท่านได้จากการเห็นจริงแบบนี้ ด้วยตัวท่านเองคือจิตของท่านจะปล่อยวาง คลายความยึดมั่นลง เป็นการชำระจิตใจได้ระดับหนึ่ง และจะนำท่านไปสู่การแยก กายกับจิต ที่ชัดเจนให้ท่านเห็นได้ต่อไป ต่อไปท่านจะเห็นได้ว่า ปวดที่แท้แล้วอยู่ที่ตรงไหน
สิ่งที่ท่านเห็น นับว่าเป็นการเห็น สิ่งที่เป็นความจริงของชีวิตที่ถูกต้อง เมื่อท่านเห็นจริงได้โดยวิธีใด ท่านก็ทำไปอย่างนั้น ความปวดในระดับที่ท่านเล่า เป็นเพียงความปวดในระดับเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าท่านดูปวดต่อไป ท่านจะได้พบความปวดที่อยู่ในขั้นลึกๆลงไปอีก เมื่อใจท่านสู้ทุกข์ จากความบีบคั้นของความปวด ในระดับต่างๆ เกินกว่าที่คนทั่วไปจะทำได้ ความบีบคั้นที่เกิดในชีวิตประจำวัน ทางกาย วาจา ใจ นั้นจะมีแรงกำลังเบา กว่าความบีบคั้นที่ท่านได้เคยฝึก ท่านจะกลายเป็นคนมีสติอดทน ต่อสิ่งต่างๆได้ดี เมื่อนั้นการดำเนินชีวิตทางโลกจะง่าย อยากดับทุกข์ ก็ต้องจับเอาทุกข์มาดู ต้องศึกษาให้เห็นภายในทุกข์ ว่าเป็นอย่างไร
ปล. ถ้าท่านจะใช้วิธีนี้ ขอให้ท่านสู้กิเลสความปวดแบบนี้ ให้เลยขาดใจตายให้ได้ แล้วท่านจะพบพระธรรม ก่อนจะภาวนา ให้น้อมจิต น้อมใจ เชื่อมั่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตั้งจิตตั้งใจให้ดี แน่วแน่ รักษาศึล รักษาสัจจะ ให้มั่น จะช่วยให้ทำได้สำเร็จ อนุโมทนา และขอเป็นกำลังใจให้ทำได้สำเร็จ
แต่สิ่งที่ท่าน ได้เห็นอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ดิฉันคิดว่า เป็นทางเริ่มต้น ที่จะทำให้ท่าน ไปสู่ไตรลักษณ์ได้อย่างแน่นอน เพราะครั้งหนึ่งดิฉันก็เคยเห็นแบบที่ท่านเห็น นั้นคือเห็นความเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ ความไม่มีอะไรแน่นอน ของกายและจิต และสิ่งทีท่านได้จากการเห็นจริงแบบนี้ ด้วยตัวท่านเองคือจิตของท่านจะปล่อยวาง คลายความยึดมั่นลง เป็นการชำระจิตใจได้ระดับหนึ่ง และจะนำท่านไปสู่การแยก กายกับจิต ที่ชัดเจนให้ท่านเห็นได้ต่อไป ต่อไปท่านจะเห็นได้ว่า ปวดที่แท้แล้วอยู่ที่ตรงไหน
สิ่งที่ท่านเห็น นับว่าเป็นการเห็น สิ่งที่เป็นความจริงของชีวิตที่ถูกต้อง เมื่อท่านเห็นจริงได้โดยวิธีใด ท่านก็ทำไปอย่างนั้น ความปวดในระดับที่ท่านเล่า เป็นเพียงความปวดในระดับเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าท่านดูปวดต่อไป ท่านจะได้พบความปวดที่อยู่ในขั้นลึกๆลงไปอีก เมื่อใจท่านสู้ทุกข์ จากความบีบคั้นของความปวด ในระดับต่างๆ เกินกว่าที่คนทั่วไปจะทำได้ ความบีบคั้นที่เกิดในชีวิตประจำวัน ทางกาย วาจา ใจ นั้นจะมีแรงกำลังเบา กว่าความบีบคั้นที่ท่านได้เคยฝึก ท่านจะกลายเป็นคนมีสติอดทน ต่อสิ่งต่างๆได้ดี เมื่อนั้นการดำเนินชีวิตทางโลกจะง่าย อยากดับทุกข์ ก็ต้องจับเอาทุกข์มาดู ต้องศึกษาให้เห็นภายในทุกข์ ว่าเป็นอย่างไร
ปล. ถ้าท่านจะใช้วิธีนี้ ขอให้ท่านสู้กิเลสความปวดแบบนี้ ให้เลยขาดใจตายให้ได้ แล้วท่านจะพบพระธรรม ก่อนจะภาวนา ให้น้อมจิต น้อมใจ เชื่อมั่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตั้งจิตตั้งใจให้ดี แน่วแน่ รักษาศึล รักษาสัจจะ ให้มั่น จะช่วยให้ทำได้สำเร็จ อนุโมทนา และขอเป็นกำลังใจให้ทำได้สำเร็จ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบว่าที่ปฎิบัติมาเริ่มเป็นวิปัสนาหรือยังครับ