[Spoil] Vanitas no Carte ความทรงจำที่ 22 -Hurler- เสียงเพรียกหา

สวัสดีรายเดือน! ตอนนี้เป็นตอนที่ 22
เพราะว่าตอน 20.5 ในรวมเล่มที่ 4 ถูกแก้เป็นตอนที่ 21 แล้วค่ะ

Vanitas no Carte เล่ม 4
ใหญ่โตอลังการ พร้อมภาพสีปกรองสุดงดงาม! (ft.โรลองด์)

ส่วนนิตยสาร Gangan Joker เดือนนี้ฌานกับวานิทัสได้ขึ้นปก แถมปกเวอร์ชั่นพิเศษ ‘โนเอะโดนตาลุงใจร้ายปิดปาก’
ยังไม่หมดแค่นี้ อ.จุนวาดหน้าเปิดสีคู่ให้ด้วย ถ้ายังไม่จุใจ goods ทั้งหลาย ผ้าขนหนู สแตรปยาง เข็มกลัด
ทุกอย่างวางขายที่ญี่ปุ่นแล้ววันนี้! ส่วนที่ไทยก็อยากให้ lc สักทีนะเม่าโศก

Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Yen Press
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ความเดิมตอนที่แล้ว:
- เดทของวานิทัสกับฌานจบลงที่การเสียเลือดเสียเนื้อเล็กน้อย(?)
- โดมินิค เดอ ซาด? ใครเหรอ? ก็คนน่าสงสารที่เหมือนจะมีบทในตอนต่อไปแต่ปรากฏว่าไม่มียังไงล่ะ

ความทรงจำที่ 22 - Hurler - เสียงเพรียกหา
Hurler(Fr) = เห่าหอน/ กรีดร้อง


- ฌานทำหมวกกับร่มกันแดดที่โดมินิคให้มาหล่นหาย เธอเลยอยากกลับไปหา
แต่วานิทัสรีบเบรกเอาไว้เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์อาจจะเรียกเชสเซอร์แล้วก็ได้ การวกกลับไปจุดเดิมจึงไม่ใช่ความคิดที่ดี
ฌานเข้าใจแต่ก็แอบงอแงนิดหน่อยเพราะเป็นของที่โดมิอุตส่าห์ให้มา วานิทัสก็แหย่เล่นตามประสา
ทำให้แวมไพร์สาวหลุดเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวัน (ฮา)
วานิทัสยิ้มเผล่แล้วบอกกับฌานว่าวันนี้เธอสวยมากแต่ฉันชอบเธอตอนที่เป็นแบบนี้ที่สุด ฌานก็เขินไปสิ จะให้ทำยังไง

แล้ววานิทัสก็พูดต่อว่า เขายังแปลกใจอยู่ที่ลูกะยอมให้เธอมาหาเขาตามลำพัง
แต่ปรากฏว่าฌานไม่ได้บอกลูก้าว่าจะมาโลกฝั่งนี้ ฌานอธิบายว่าตอนนี้ลูก้าอยู่กับพี่ชายของเขา บีสต์เทีย “โลกิ”
ไม่มีที่ใดจะปลอดภัยยิ่งไปกว่าข้างกายของโลกิแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่เธอต้องอยู่คุ้มกันเด็กชาย



Beastia = คำนำหน้าชื่อของแวมไพร์ที่ได้รับเกียรติให้เป็น “คมเขี้ยวของราชินี”
พี่สาวของโดมินิคที่ชื่อ เวโรนิก้า ก็มีสถานะเป็นบีสต์เทียเช่นกัน


ฌานอธิบายต่อว่าถึงยังไงเธอก็ได้รับอนุญาตให้มาหาเขาที่ฝั่งนี้ ดังนั้นคงไม่เป็นไร
วานิทัสสงสัยว่าเธอต้องขออนุญาตใครด้วยเหรอ แต่แล้วคำตอบก็เด้งขึ้นมาในหัวทันที ลอร์ดรูธเวนนั่นเอง!
พอฌานรับว่าใช่ เจ้าหนุ่มที่พึ่งรู้ตัวว่าเผลอปล่อยเพื่อนเอาไว้ในสภาพที่อาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ
ก็รีบวิ่งสับเท้าสุดชีวิตกลับไปที่โรงแรม ทิ้งให้แวมไพร์สาวยืนเอ๋อเดียวดายอยู่กลางถนน

- พอกลับไปถึงห้องพัก วานิทัสก็ตะโกนเรียกโนเอะ และสิ่งที่ปรากฏอยู่เบี้องหน้าเขาก็คือ--



โนเอะที่นอนย้วยตกเตียงอยู่ในท่าเดิม

...

วานิทัสถึงกับอึ้งกิมกี่
แวมไพร์หนุ่มตื่นขึ้นมาทำหน้างัวเงียใส่เพื่อนมนุษย์ แล้วสะดุ้งตกใจที่ฟ้าด้านนอกมืดแล้ว
โนเอะงงเพราะคลับคล้ายคลับคลาว่าตัวเองกำลังนั่งกินทาร์ตแอปเปิ้ลอยู่ที่คาเฟ่จนถึงเมื่อสักครู่นี้นี่เอง..
พอเห็นหน้าเพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไรไป วานิทัสที่เป็นห่วงเก้อก็ได้แต่เอามือกุมหัวแล้วบอกปัดไปว่า ไม่มีอะไร


---ภาพตัดกลับมาทาง ฌาน --

เธอยังยืนรอวานิทัสอยู่ที่เดิม พอรู้ว่าเขาคงจะไม่กลับมาแล้วสีหน้าของเธอก็สลดลง (โถ แม่ลูกหมาน้อย)
แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อของเธอ พอหันไปดูก็พบว่าเป็นลอร์ดรูธเวนที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ไกล ฌานเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปหา
เธอเรียกเขาว่า “อาจารย์รูธเวน” ฝ่ายชายผู้มีสถานะเหนือกว่าก็เหยียดยิ้มให้เล็กน้อย

- ฌานถามว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ ลอร์ดรูธเวนตอบว่าเขาได้ยินว่าเกิดเหตุวุ่นวายที่เนินเขามงมาร์ต เลยลองมาตรวจสอบดู
นั่นเป็นฝีมือของเธอใช่ไหม? ฌานถูกจับได้ก็ออกอาการลนลาน
ทว่าลอร์ดรูธเวนกลับยื่นมือมาสัมผัสแก้มเด็กสาวอย่างนุ่มนวล แล้วเอ่ยปากชมว่าชุดนี้เหมาะกับเธอดี
เขามั่นใจว่าเอริคกับลูอิส พ่อกับแม่ของฌาน จะต้องอยากเห็นตัวเธอในตอนนี้แน่ๆ
--ภาพ Flashback คล้ายควันและเปลวเพลิง ปรากฏขึ้น--


^ นึกว่าจะเป็นความสัมพันธ์เคร่งครัดแบบนาย-บ่าว แต่นี่มันอะไรกัน!




อีกด้านหนึ่ง โอลิวิเย่ร์ขอเข้าไปในห้องทำงานของหญิงสาวใส่แว่นผมกระเซิงที่ชื่อ มิร่า (Mira)


^ สาวเจ้าดันขอจูบเป็นค่าผ่านทางซะนี่ 555555

โอลิวิเย่ร์เป็นผู้ชายรักนวลสงวนตัวเลยบอกว่าไว้จะเอาเหล้ามาให้แทนก็แล้วกัน
เขาเดินไปหาโรลองด์ที่กำลังนั่งขลุกอยู่ที่ห้องสมุดด้านใน พอชะโงกหน้าไปดูก็เห็นว่าเพื่อนกำลังอ่านหนังสือ
ว่าด้วยประวัติศาสตร์ของแวมไพร์และมนุษย์อยู่ เห็นเรื่องสุ่มเสี่ยงจะผิดศีลธรรมของนักล่าแวมไพร์อยู่ตรงหน้าเช่นนั้น
มีหรือจะยอมปล่อยผ่าน พ่อหนุ่มผมยาวสลวยแสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด จนโรลองด์ต้องบอกให้ใจเย็นๆ
แล้วอธิบายให้เพื่อนฟังว่าที่เขามานั่งอ่านหนังสือพวกนี้ใหม่อีกรอบเนี่ย เป็นเพราะว่าเขาอาจจะได้เห็นอะไรบางอย่าง
จากมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน

แต่ก่อนโรลองด์เคยคิดว่าพวกแวมไพร์นั้นชั่วบริสุทธิ์ หาดีไม่ได้สักนิดเดียว เขาไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยจนกระทั่ง
ได้เจอกับโนเอะที่สุสานใต้ดิน ชายหนุ่มพูดต่อไปจนถึงเรื่องที่ว่าบางทีพระเจ้าเองก็อาจจะรักพวกแวมไพร์เหมือนกัน

พอหลุดประโยคที่ไม่ควรจะพูดออกมา ทีนี้โอลิวิเย่ร์ยิ่งปรี๊ดแตกหนักกว่าเดิม
โอลิวิเย่ร์เข้าไปปัดเอกสารออกจากมือของอีกฝ่าย เขาเตือนโรลองด์ว่านายเป็นเป็นเชสเซอร์นะ
หากเบื้องบนทราบเรื่องนี้เข้า ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด พ่อแม่กับน้องๆ ของนายก็จะพลอยตกอยู่ในอันตรายไปด้วย

- โรลองด์เงียบไป จากนั้นก็ถามขึ้นเบาๆ ว่า นี่โอลิวิเย่ร์ นายคิดว่าลำพังตัวฉันคนเดียวจะจัดการพาลาดินได้สักกี่คน?
3 หรือ 4? ชายหนุ่มพูดต่อไปว่าตัวเลขอาจจะมากกว่านั้นสักหน่อยหากเขาพร้อมที่เอาชีวิตเข้าแลก

“แต่ว่านะ..” โรลองด์ยิ้มให้เพื่อน


- เห็นเพื่อนแยกเขี้ยวพร้อมกัดแบบนั้น โอลิวิเย่ร์ก็เลิกเถียง เขาเหลือบดูเอกสารที่โรลองด์กำลังก้มเก็บอยู่
โรลองด์ชมว่าลอร์ดรูธเวนเป็นคนที่เจ๋งมาก โอลิวิเย่ร์ที่ใจอ่อนแล้วก็ก้มลงไปช่วยเก็บเอกสารอีกแรง
แล้วเขาก็บังเอิญไปเห็นรายงานเกี่ยวกับ La Bête du Gévaudan-สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง

..มันเป็นเหตุการณ์ในอดีตสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ที่ลอร์ดรูธเวนเข้าไปมีบทบาทสำคัญ
มีคนนับร้อยถูกฆ่าตายที่มณฑลเฌโวด็อง แม้ผู้คนภายนอกจะเข้าใจว่าเป็นฝีมือของฝูงหมาป่า
แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการไล่สังหารโหดในครั้งนั้นคือแวมไพร์ตนหนึ่ง
คดีนี้มีชื่อเสียงเพราะมันเป็นคดีที่ทำให้แวมไพร์และศาสนจักรต้องจับมือสู้ด้วยกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แต่โชคไม่ดีที่จู่ๆ วันหนึ่งฆาตกรต่อเนื่องก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้คดีต้องปิดลงทั้งๆ ที่ปริศนายังไม่กระจ่าง


The Beast of Gévaudan (French: La Bête du Gévaudan) คืออะไร?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่