เรื่องของลูก ตอน อย่าฟังเสียงของลูกด้วยหู แต่จงฟังเสียงนั้นด้วยหัวใจ

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านนะคะ

แม่ต่ายขออนุญาตแชร์เรื่องราวระหว่างแม่ต่ายและน้องไอให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ
แม่ต่ายพยายามเล่าเรื่องราวการเลี้ยงลูกผ่านมุมมองของแม่มือใหม่ที่ไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเด็กเลย จนกระทั่งวันที่เรามีลูกเหตุการณ์ในแต่ละวันค่อยๆสอนเราไปเรื่อยๆ




ปกติไอจังไม่ใช่เด็กงอแง หรือร้องไห้พร่ำเพรื่อ ตั้งแต่เกิดมาเธอร้องไห้น้อยมาก
เมื่อตอนเล็กๆ เธอร้อง เมื่อปวดท้อง หรือ ไม่สบายตัวเท่านั้น

เมื่อลูกโตขึ้นมาอีกนิด เรียกว่าวัยทองของเด็กนั่นเอง เธอเริ่มร้องไห้เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น
อยากได้อะไรก็ร้องไห้ โวยวาย แต่ถ้าสิ่งไหนบอกว่า อันตราย ไม่ใช่ของเล่น เธอจะหยุดร้องได้อย่างง่ายดาย
แต่สิ่งไหนที่มันเป็นของลูกแล้วถูกแย่งไป หรือ เคยเล่นได้แต่วันนี้กลับเล่นไม่ได้ หรือเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอจะร้องแบบไม่ลืมหูลืมตาทันที

มีอยู่ครั้งนึง แม่ต้องพาลูกไปบ้านคุณตาที่ต่างจังหวัด
เธอต้องนั่งรถหลายชั่วโมงมากโดยที่ไม่ได้พักเลย พอใกล้ถึงบ้านคุณตา ป๊ากับมี๊แวะซื้อของเพื่อเข้าบ้าน พอลูกได้ก้าวลงจากรถ เธอก็เดินเล่นใหญ่เลย เธอดูสนุกมากทั้งๆที่ร้านสะดวกซื้อตรงนั้นไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเลยสักอย่างเดียว
เมื่อแม่ซื้อของเสร็จ เห็นท่าทีลูกแล้วก็รู้ทันทีว่าเธอคงไม่ยอมขึ้นรถง่ายๆแน่ แต่แม่เองก็รีบเพราะค่ำแล้ว จึงรีบเบี่ยงเบนความสนใจลูกอาศัยช่วงที่ลูกเผลอพาเธอขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อทันที
เมื่อลูกเริ่มรู้ว่าตัวถูกหลอก ลูกเริ่มร้องไห้จะลงจากรถให้ได้ แต่เส้นทางตรงนั้นมืดและเปลี่ยว ทางเดียวที่ทำได้คือขับไปให้ถึงจุดหมายเท่านั้น
ลูกเริ่มร้องไห้หนักขึ้น สุดท้ายจากที่ร้องไห้กลายเป็นเริ่มชักดิ้นชักงอจนสติหลุดและควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป

เสียงแผดร้องท่ามกลางความทือ และแคบบนรถนั้นมันกดดันจนแม่อยากจะลงไปดิ้นแล้วกรีดร้องแบบที่ลูกทำด้วยซ้ำ
แต่แทนที่จะทำแบบนั้น แม่พยายามดึงสติกลับมา กอดลูกไว้ เบี่ยงเบนความสนใจให้ลูกสงบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ลูกก็ยังคงร้องแบบไม่ลืมหูลืมตาต่อไป
แม่กอดลูกไว้อย่างเข้าอกเข้าใจ และเห็นใจลูก เธอคงเหนื่อยมากและอยากวิ่งเล่นตามวัยของเธอเท่านั้น
แม่กอดลูกไว้จนถึงจุดหมาย ลูกหยุดร้องไห้และสักพักเธอก็เริ่มยิ้มได้อีกครั้ง

วันนั้นถ้าแม่ไม่เข้าใจลูก หรือเผลอระเบิดอารมณ์ใส่ลูกไป นอกจากเหตุการณ์จะเลวร้ายลงแล้วยังเป็นการทำร้ายจิตใจน้อยๆของเธออีกด้วย
และเมื่อเด็กเล็กๆนั้น เค้ายังสื่อสารกับเราได้ไม่ทุกอย่าง แม่จึงเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า “อย่าฟังเสียงของลูกด้วยหู แต่จงฟังเสียงนั้นด้วยหัวใจ”

ติดตามและเป็นกำลังใจให้แม่ต่ายได้ที่  https://www.facebook.com/เรื่องของลูก-298426333986298/
(ไม่ได้ขายของ ไม่ได้มีสปอนซอร์ค่ะ แค่อยากแชร์เรื่องราวของลูกเท่านั้นค่ะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่