สวัสดีครับ วันนี้ผมตั้งใจมาเล่าประสบการณ์ที่พึ่งโดนกับตัวจากค่ายมือถือที่ผมใช้บริการมานาน เมื่อวานผมไปรับเครื่องที่ผมสั่งจองไว้ (Iphone 8 plus) ที่ศูนย์ของ AIS (ขออนุญาตไม่ระบุสาขานะครับ)
ผมเดินเข้าไปแจ้งพนักงานพร้อมโชว์เอกสารการจองและยื่นบัตรประชาชนตามปกติ และเซ็นต์เอกสารพร้อมชำระเงิน หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็นำใบเสร็จมาให้พร้อมกล่องไอโฟน 8+ ที่ผมสั่งไว้ พนักงานให้ผมตรวจสอบกล่องว่าสภาพกล่องเรียบร้อยสมบูรณ์หรือไม่ ตอนนี้ความรู้สึกผมคืออยากใช้แล้วเพราะเครื่องเก่าผมเริ่มจะเสื่อมสภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เครื่องเก่าผมคือ ไอโฟน 5s ครับ ใช้จนคุ้ม 5555 แต่ผมก็รวบรวมสติและความรอบคอบตามนิสัยที่มีตั้งใจตรวจสอบดูพบว่าทุกอย่างปกติครับ หลังจากนั้นพนักงานแกะพลาสติกออก (วินาทีนั้นผมแอบแปลกใจว่ามันแกะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ เพราะตอนซื้อเครื่องที่ใช้อยู่ ถ้าจะเปิดเราต้องเอาคัตเตอร์กรีด แต่ก็คิดว่าคงเป็นการออกแบบใหม่) เมื่อเปิดกล่องมาพนักงานก็หยิบอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาวางบนถาดและแจกแจงว่ามีอะไรบ้าง พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูว่าเครื่องยังถูกห่อด้วยพลาสติกอยู่นะ ผมพงักหน้าด้วยอาการเบลอๆ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้า พนักงานค่อยๆแกะพลาสติกออกและยื่นโทรศัพท์มาให้ผมตรวจสอบ
วินาทีแรกที่ผมจับโทรศัพท์และหมุมดูรอบๆ ผมผิดหวังมากครับ ตัวเครื่องมีจุดสีดำด้านหน้า (ผมเลือกเครื่องสีทอง) ซึ่งถ้าถามว่ามันใหญ่มากไหม คำตอบคือไม่ครับ แต่ด้วยนิสัยของผมเองถ้าจะซื้ออะไรต้องตรวจสอบให้ดีก่อน ยอมเสียเวลาดูไม่นานดีกว่ามาเสียเวลาแก้ปัญหาทีหลัง ตอนนั้นผมปฏิเสธไม่รับเครื่องกับพนักงานทันทีครับ พร้อมโชว์ให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น....บทสนทนาที่ผมไม่คิดว่าจะต้องเจอก็เกิดขึ้น
พนักงาน:
จุดสีดำนี้ไม่ส่งผลต่อการใช้งานนะคะ คุณลูกค้า
(โอ้ววววววววโห......อุทานในใจ 5555) ตอนนั้นเกือบโมโหนะครับ แต่คิดว่าอย่าดีกว่า มันไม่น่าจะเกิดประโยชน์ เลยตอบกลับด้วยนำเสียงปกติ
ผม: "ถึงจะไม่มีผลต่อการใช้งาน แต่มีผลด้านจิตใจครับ โทรศัพท์ไม่ใช่เครื่องบาทสองบาทนะครับ ไหนๆจะซื้อแล้วต้องเลือกอันที่ไม่มีตำหนิสิครับ"
พนักงาน: ทำหน้าแบบนี้
และยืนยันด้วยประโยคเดิม
ผม: ครับ อาจจะใช่ แต่เครื่องนีผมรับไม่ได้จริงๆครับ รบกวนขอเปลี่ยนนะครับ
พนักงาน: ขอสอบถามกับทีมเทคนิคก่อนนะคะ แล้วก็เก็บกล่องนั้นกลับไป
เวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานก็เดินมาพร้อมกล่องใหม่ และเริ่มการตรวจเช็คแบบเดิม แต่ครั้งนี้พนักงานให้ผมเป็นคนแกะพลาสติกด้วยตัวเองตั้งแต่กล่องจนถึงตัวเครื่อง ผมตกใจกว่าเดิมอีกครับ เครื่องเมื่อกี้ที่ว่าแย่แล้ว เจอเครื่องนี้คือเซงครับ ผมมองแค่ด้านล่างและด้านข้างซ้าย คือจบเลยครับ และผมไม่ได้ไม่พอใจกับปัญหาของเครื่องอย่างเดียวนะครับ คำพูดที่พนักงานพูดกับผมต่อจากนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่มากครับ
ผม: เครื่องนี้ผมขอไม่รับนะครับ ดูไปพร้อมกับผมนนะ หน้าจอส่วนที่เป็นสีขาวมีรอยสีดำเป็นจุดด้านล่างมากกว่าเครื่องเมื่อกี้อีก แล้วดูด้านข้างนะครับ บริเวณรอยต่อของจอกับตัวเครื่องมีรอยสีดำๆ (รอยยาวประมาณ 1 ซม. เป็นไปได้ไหมครับว่าเกิดจากการประกอบจอไม่สนิท หรือปัญหาเกิดจากอะไร รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยครับ) และด้านข้างตรงกลางมีรอยบิ่นของตัวเครื่อง
พนักงาน: อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คะ รอยที่เครื่องไม่ได้มีผลต่อการใช้งานนะคะ
(ผมเกือบระงับอารมณืตัวเองไม่อยู่ครับ แต่ก็หายใจเข้าแล้วนับ1-3เร็วๆ)
ผม: งั้นผมขอถามคุณประโยคเดียวครับ ถ้าคุณเป็นผมคุณจะซื้อไหม
พนักงาน:
คุณลูกค้าต้องเลือกคะว่าจะเอาเครื่องนี้หรือเครื่องก่อนหน้านี้ เพราะลูกค้า 1 ท่าน มีสิทธิ์เปิดได้แค่ 2 เครื่อง
พอได้ยินประโยคนั้น ผมตัดสินใจไม่ซื้อและขอคืนเงินทันที
เพราะฉนั้นใครที่กำลังจะไปซื้อ ตรวจสอบดูดีๆนะครับ ปัญหานี้อาจจะเกิดกับทุกรายที่นำเข้ามาก็ได้ ยอมเสียเวลาไม่นานเพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาทีหลังครับ ส่วนตัวผมคงรอไปสักพักแล้วค่อยไปซื้อใหม่ในวันที่เหมาะสมครับ
ฝากถึงใครที่กำลังจะซื้อ IPHONE กับ AIS
ผมเดินเข้าไปแจ้งพนักงานพร้อมโชว์เอกสารการจองและยื่นบัตรประชาชนตามปกติ และเซ็นต์เอกสารพร้อมชำระเงิน หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็นำใบเสร็จมาให้พร้อมกล่องไอโฟน 8+ ที่ผมสั่งไว้ พนักงานให้ผมตรวจสอบกล่องว่าสภาพกล่องเรียบร้อยสมบูรณ์หรือไม่ ตอนนี้ความรู้สึกผมคืออยากใช้แล้วเพราะเครื่องเก่าผมเริ่มจะเสื่อมสภาพ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ผมก็รวบรวมสติและความรอบคอบตามนิสัยที่มีตั้งใจตรวจสอบดูพบว่าทุกอย่างปกติครับ หลังจากนั้นพนักงานแกะพลาสติกออก (วินาทีนั้นผมแอบแปลกใจว่ามันแกะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ เพราะตอนซื้อเครื่องที่ใช้อยู่ ถ้าจะเปิดเราต้องเอาคัตเตอร์กรีด แต่ก็คิดว่าคงเป็นการออกแบบใหม่) เมื่อเปิดกล่องมาพนักงานก็หยิบอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาวางบนถาดและแจกแจงว่ามีอะไรบ้าง พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูว่าเครื่องยังถูกห่อด้วยพลาสติกอยู่นะ ผมพงักหน้าด้วยอาการเบลอๆ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้า พนักงานค่อยๆแกะพลาสติกออกและยื่นโทรศัพท์มาให้ผมตรวจสอบ
วินาทีแรกที่ผมจับโทรศัพท์และหมุมดูรอบๆ ผมผิดหวังมากครับ ตัวเครื่องมีจุดสีดำด้านหน้า (ผมเลือกเครื่องสีทอง) ซึ่งถ้าถามว่ามันใหญ่มากไหม คำตอบคือไม่ครับ แต่ด้วยนิสัยของผมเองถ้าจะซื้ออะไรต้องตรวจสอบให้ดีก่อน ยอมเสียเวลาดูไม่นานดีกว่ามาเสียเวลาแก้ปัญหาทีหลัง ตอนนั้นผมปฏิเสธไม่รับเครื่องกับพนักงานทันทีครับ พร้อมโชว์ให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น....บทสนทนาที่ผมไม่คิดว่าจะต้องเจอก็เกิดขึ้น
พนักงาน: จุดสีดำนี้ไม่ส่งผลต่อการใช้งานนะคะ คุณลูกค้า
(โอ้ววววววววโห......อุทานในใจ 5555) ตอนนั้นเกือบโมโหนะครับ แต่คิดว่าอย่าดีกว่า มันไม่น่าจะเกิดประโยชน์ เลยตอบกลับด้วยนำเสียงปกติ
ผม: "ถึงจะไม่มีผลต่อการใช้งาน แต่มีผลด้านจิตใจครับ โทรศัพท์ไม่ใช่เครื่องบาทสองบาทนะครับ ไหนๆจะซื้อแล้วต้องเลือกอันที่ไม่มีตำหนิสิครับ"
พนักงาน: ทำหน้าแบบนี้ และยืนยันด้วยประโยคเดิม
ผม: ครับ อาจจะใช่ แต่เครื่องนีผมรับไม่ได้จริงๆครับ รบกวนขอเปลี่ยนนะครับ
พนักงาน: ขอสอบถามกับทีมเทคนิคก่อนนะคะ แล้วก็เก็บกล่องนั้นกลับไป
เวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานก็เดินมาพร้อมกล่องใหม่ และเริ่มการตรวจเช็คแบบเดิม แต่ครั้งนี้พนักงานให้ผมเป็นคนแกะพลาสติกด้วยตัวเองตั้งแต่กล่องจนถึงตัวเครื่อง ผมตกใจกว่าเดิมอีกครับ เครื่องเมื่อกี้ที่ว่าแย่แล้ว เจอเครื่องนี้คือเซงครับ ผมมองแค่ด้านล่างและด้านข้างซ้าย คือจบเลยครับ และผมไม่ได้ไม่พอใจกับปัญหาของเครื่องอย่างเดียวนะครับ คำพูดที่พนักงานพูดกับผมต่อจากนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่มากครับ
ผม: เครื่องนี้ผมขอไม่รับนะครับ ดูไปพร้อมกับผมนนะ หน้าจอส่วนที่เป็นสีขาวมีรอยสีดำเป็นจุดด้านล่างมากกว่าเครื่องเมื่อกี้อีก แล้วดูด้านข้างนะครับ บริเวณรอยต่อของจอกับตัวเครื่องมีรอยสีดำๆ (รอยยาวประมาณ 1 ซม. เป็นไปได้ไหมครับว่าเกิดจากการประกอบจอไม่สนิท หรือปัญหาเกิดจากอะไร รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยครับ) และด้านข้างตรงกลางมีรอยบิ่นของตัวเครื่อง
พนักงาน: อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คะ รอยที่เครื่องไม่ได้มีผลต่อการใช้งานนะคะ
(ผมเกือบระงับอารมณืตัวเองไม่อยู่ครับ แต่ก็หายใจเข้าแล้วนับ1-3เร็วๆ)
ผม: งั้นผมขอถามคุณประโยคเดียวครับ ถ้าคุณเป็นผมคุณจะซื้อไหม
พนักงาน: คุณลูกค้าต้องเลือกคะว่าจะเอาเครื่องนี้หรือเครื่องก่อนหน้านี้ เพราะลูกค้า 1 ท่าน มีสิทธิ์เปิดได้แค่ 2 เครื่อง
พอได้ยินประโยคนั้น ผมตัดสินใจไม่ซื้อและขอคืนเงินทันที
เพราะฉนั้นใครที่กำลังจะไปซื้อ ตรวจสอบดูดีๆนะครับ ปัญหานี้อาจจะเกิดกับทุกรายที่นำเข้ามาก็ได้ ยอมเสียเวลาไม่นานเพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาทีหลังครับ ส่วนตัวผมคงรอไปสักพักแล้วค่อยไปซื้อใหม่ในวันที่เหมาะสมครับ