แผนชั่วร้าย
ในแผนเดิมนั้น หลังจากนั่งรถไฟไปลงเรือ 4 คืนแล้ว ในเช้าวันที่ 5 เรือจะกลับม่าถึง ฉงชิ่ง
ซึ่งเราจะบินกลับ กทม ใน ไฟลท์เย็นวันนั้นเลย
แต่...เราจะต้องมาติดแหง่ก ในสนามบิน หลายชั่วโมง ไม่มีอะไรทำ นอกจากนั่งเฝ้ากองกระเป๋า รอเช็คอิน
เราจึงเริ่มหาทางออกอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ - ตอนเช้า วันกลับมา ฝากกระเป๋า แล้วไปเดินเที่ยว ค่อยกลับมาตอนบ่าย ไปเช็คอินหนามบิน
ตอบ : ไม่ดี สมบัติเยอะไป ฝากที่ไหนได้ล่ะ แถมเสี่ยงจราจรติดขัด ตกไฟลท์เอาง่ายๆ
- เช็คเอ้าท์ไปลงเรือ โดยฝ่ากกระเป๋าที่ไม่ใช้ไว้ที่อพาร์ทเมนต์ จองห้องวันกลับนั้นไว้เพิ่มเลย
ลงมาจากเรือ แวะมาพักอพาร์ทเมนต์ (ไม่ไกลท่าเรือ) ถึงเวลาแล้วเรียกแท้กซี่ไปสนามบิน ชิล ชิล
ตอบ : อันนี้ดี ไม่ต้องแบกสมบัติหนักๆไปลงเรือ ไม่ต้องโบกแท้กซี่เอง ด้วย ภาษาจีน พรี-อนุบาล
- ไหนๆก็มีจองห้องเพิ่ม คืนหนึ่ง นอนมันเลยดีกว่า เลื่อนไฟลท์วันกลับไป 1 วัน เผื่อได้ไป ฉือซีโค่ว อ้ะ
วันกลับ กินข้าวเช้าอร่อย(จริง) ค่อยๆเก็บของ เดินไปซื้อผลไม้ จนท อพาร์ทเมนต์ เรียกแท้กซี่ให้ด้วย
555 อันนี้ ดีสุด ได้มติ ดกลงเป็นเอกฉันท์
มีการคัดค้านจาก จนท อพาร์ทเมนต์ ที่หน้าเคานเตอร์ เล็กน้อย ว่า
'ถ้าจองที่นี่ ให้ส่วนลด 25% ไม่ได้ อาม่าไปจองกะ booking.com ถูกกว่านะคะ'
อาม่า 'เสียวเจี่ย ทำจองให้อาม่าที่นี่เล้ย โทสับอาม่าใช้ interner ที่นี่ม่ายล่ายน่อว'
แผนชั่วร้าย สำเร็จ อาม่าพี่ รีบโทสับให้ลูกเลื่อนไฟลท์กลับออกไป 1 วัน
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
ผจญภัย นั่งรถไฟ หัวกระสุน
มีเรื่องลุ้น คงจะไม่ ใช่ไปหลง
มาเข้าคิว รอรถไฟ ใจมึนงง
บอกตรงตรง เสียวไส้ มิใช่น้อย
อี้ฉาง เป็นยังไง ไม่เคยเห็น
ใจตุ๊มต่อม ไม่ใช่เล่น กลัวงานกร่อย
ขึ้นรถไฟ บุกป่า ฝ่า
ยอดดอย
ไรัร่องรอย ตั้งครึ่งวัน มันน่ากลัว
มาถึงตอน จวนค่ำ ย่ำสนธยา
แท้กซี่พา ขึ้นลงเขา เดากันมั่ว
ทั้งคนขับ คนนั่ง ชั่งไม่ชัวร์
ซี่งไปทั่ว กว่าจะมา ถึงท่าเรือ
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
รถไฟหัวกระสุน ฉงชิ่ง-อี้ฉาง
วันลงเรือ :
อาม่าทั้ง 2 ตื่นลงไปกินข้าว (อร่อย) ตอน 8 โมง กินยากินน้ำ กินนมแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ค่อยๆเอากระเป๋า (บรรจุผ้าเน่า เหลือใช้) ไปฝาก จนท อพาร์ทเมนท์ ไว้ค่อยมาเอาวันกลับ
ออกจากที่พัก 11 โมง ไปขึ้นรถไฟ 12:34 (แท้กซี่ขับ ครึ่ง ช.ม.)
ปรากฏว่า วันนั้น หาแท้กซี่ยากมาก ไม่มีใครยอมไปสถานีรถไฟ (เพราะขี้เกียจรถติดยาวเหยียดใต้ถุนตึกสถานี)
แต่ จนท ก็โทรตามรถมาจนได้แหละน่า ไปถึงสถานีเกือบๆเที่ยง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใน เกท ที่จะเข้าชานขาลานั้น มีขึ้นป้ายรถ 2 ขบวน คือ ขบวนก่อนหน้า และ ขบวนที่อาม่าจะไป อี้ฉาง
เมื่อเกทเปิด ให้สอดตั๋วเข้าไปปลดที่กั้นคิว ทั้งคนในคิวที่ยีนหน้า และ อาม่า ทั้ง 2 เข้าไปไม่ได้
เพราะเขาตั้งไว้ ให้เฉพาะ ตั๋ว รถไฟขบวนแรกผ่านไปหมดก่อน
จึงเด้งกลับมากันระนาว อย่างงงงัน ก่อนจะ อ๋ออออ รอก่อน (แล้วไปตั้งเป็นหัวแถว เกะกะเขาทำไม?)
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลา เราก็เข้าเกทไป ก่อนเวลารถออกราว 5 นาที
เดินๆวิ่งๆ 100 เมตรนั้น ขึ้นรถไฟทันจนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอเก็บกระเป๋าไว้หน้าตู้ เสร็จเรียบร้อย
เข้าตู้ไปพบว่า ในที่นั่งตามตั๋วอาม่านั้น มีหนุ่มหนึ่งนั่งสบ๊ายๆ อยู่ ยิ้มหวานให้เราด้วย
เกิดการแสดงตั๋วกันนิดหน่อย จนหนุ่มนั้นร้อง 'อ้าว ปา (ตู้ 8)' แล้วเก็บข้าวของย้ายไปตู้ 7 แต่โดยดี
อาม่าทั้ง 2 โล่งจายยยย รื้อถุงเสบียงมื้อเที่ยง ออกมาโชว์ประชันผู้โดยสารฝั่งตรงข้าม ง่วนเลย
รถไฟหัวกระสุนสายนี้ เส้นทางคดโค้งเลืยบแม่น้ำไปตลอด จึงทำความเร็วได้เพียง 140-160 ก.ม. ต่อ ช.ม.
มีวิวให้ดูประปราย (คราวละ 10 วิ โดยเฉลี่ย) เพราะส่วนใหญ่ลอดอุโมงค์มืดตื๋อ ตลอดบ่ายวันนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และ หูของอามา(พี่) ก็อื้อสนิทไปตลอดทาง 4 ช.ม. ครึ่งนั้น
เดี๋ยวดับ เดี๋ยวลั่น เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ.....ราวกะเสียง แตกเนื้อสาว (เมื่อนานมาแล้ว)
กว่าจะเข้าคิวหน้าสถานี อี้ฉาง จนได้รถแท้กซี่ที่จะพาเราไปท่าเรือ พระอาทิตย์ก็จวนจะตกดิน
หลังจากเจรจา ไตรภาคี 2 ภาษา (ฝ่ายละภาษา) กับคนขับรถ และ ตำรวจ (ผู้ช่วยสามัญประจำทริป)
RAM ของ อาม่า ก็ประมวลผลออกมาว่า แท้กซี่ (หล่อ) พยายามแจ้งว่า
' หว่อ บอก หนี่ว์ ก่อนนะ ใช้มิเตอร์ไม่ได้ ท่าเรือไม่ได้อยู่ในเขตเมือง เอาเป็น อิ๊ไป่ (100 หยวน) ละกันนะ'
อาม่า (พี่) :
O.K. อิ๊ไป่ Go, go, go.
(อาม่าน้อง ซุบซิบ :
แพงไปป่าว 500 บาทเชียวนะ)
แท้กซี่พาขึ้นทางด่วน (จ่ายเองด้วย) ออกนอกเมือง เลียบน้ำ ขึ้นเขา ลงเนิน ขึ้นเขา ลงเนิน....
ชมพระอาทิตย์ใกล้ตกแสนงาม สีชมพูอมแดง กลมดิ๊ก ไปจนเกือบมืดสนิท ใจเริ่มตุ๊มต้อม
ลงไปถึงท่าเรือหนึ่ง ซึ่งเงียบๆไม่มีเรือสำราญ เรือรบ เรือแจว ฯลฯ อะไรเลย
นั่งงงๆกันแผ๊บ พอดีมีแท้กซึ่ผ่านมาอีกคัน คงไปท่าเรือเหมือนกัน เปลี่ยวขนาดนั้น จะไปไหนไดัอีกเล่า ?
คนขับแท้กซี่ ทั้งคู่เปิดการเจรจา (จีน) แล้ว รถเราขับย้อนกลับมา สู่เนินเขาหนึ่ง
ที่มีไม้ก้ั้น
'ห้ามเข้า' สีขาว-แดง และ มี หนึ่งอาซิ่ม ออกจากป้อมมาร่วมประชุมด้วย........
แท้กซี่อาม่า :
$/€^%$&£ อู่หยวน @#$/^&*(£ (พร้อมภาษากายเพียบ)
อาม่า(พี่)ส่ง
แบงค์ 5 ให้อาซิ่ม ผู้เดินไปเปิดไม้กั้นพร้อมยิ้มหวาน......ให้รถเราลงเขาไปถึงท่าเรือ
อาม่า(น้อง) จ่าย 100 หยวน ให้แท้กซี่ผู้ให้บริการสุดชีวิตจนนาทีสุดท้าย พร้อมทิปอีก 20 หยวน
เราจึงลงเรือกัน ในยามวิกาลเวลา ฟ้ามืดสนิทศิษย์วัดนอนเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป.ล. จากการเฝ้าระวังอย่างไม่กระพริบตา (เพราะ ระเบียงห้องเราอยูเหนือทางเดินเข้าสู่เรือพอดี)
พบว่า เรา (ไท่กั๋วเหล่าม่า) เป็นห้องเดียวของเรือ ที่มาถึงท่าเรือ ด้วยแท้กซี
คนอื่น(หลายร้อย)เขาเป็นทัวร์ มีรถบัสมาส่งทั้งสิ้น
ไม่ผิดที่ อาซิ่มจะปฏิเสธไม่ให้รถเข้า จนเห็น (ธน)บัตร 5 หยวน ใบนั้น
😎 เ ที่ ย ว • ม ว ง • จิน 😎 (จ า ก ฉ ง ชิ่ ง - ไ ป อี้ ฉ า ง)
ในแผนเดิมนั้น หลังจากนั่งรถไฟไปลงเรือ 4 คืนแล้ว ในเช้าวันที่ 5 เรือจะกลับม่าถึง ฉงชิ่ง
ซึ่งเราจะบินกลับ กทม ใน ไฟลท์เย็นวันนั้นเลย
แต่...เราจะต้องมาติดแหง่ก ในสนามบิน หลายชั่วโมง ไม่มีอะไรทำ นอกจากนั่งเฝ้ากองกระเป๋า รอเช็คอิน
เราจึงเริ่มหาทางออกอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผนชั่วร้าย สำเร็จ อาม่าพี่ รีบโทสับให้ลูกเลื่อนไฟลท์กลับออกไป 1 วัน
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
ผจญภัย นั่งรถไฟ หัวกระสุน
มีเรื่องลุ้น คงจะไม่ ใช่ไปหลง
มาเข้าคิว รอรถไฟ ใจมึนงง
บอกตรงตรง เสียวไส้ มิใช่น้อย
อี้ฉาง เป็นยังไง ไม่เคยเห็น
ใจตุ๊มต่อม ไม่ใช่เล่น กลัวงานกร่อย
ขึ้นรถไฟ บุกป่า ฝ่ายอดดอย
ไรัร่องรอย ตั้งครึ่งวัน มันน่ากลัว
มาถึงตอน จวนค่ำ ย่ำสนธยา
แท้กซี่พา ขึ้นลงเขา เดากันมั่ว
ทั้งคนขับ คนนั่ง ชั่งไม่ชัวร์
ซี่งไปทั่ว กว่าจะมา ถึงท่าเรือ
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
รถไฟหัวกระสุน ฉงชิ่ง-อี้ฉาง
วันลงเรือ :
อาม่าทั้ง 2 ตื่นลงไปกินข้าว (อร่อย) ตอน 8 โมง กินยากินน้ำ กินนมแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปรากฏว่า วันนั้น หาแท้กซี่ยากมาก ไม่มีใครยอมไปสถานีรถไฟ (เพราะขี้เกียจรถติดยาวเหยียดใต้ถุนตึกสถานี)
แต่ จนท ก็โทรตามรถมาจนได้แหละน่า ไปถึงสถานีเกือบๆเที่ยง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลา เราก็เข้าเกทไป ก่อนเวลารถออกราว 5 นาที
เดินๆวิ่งๆ 100 เมตรนั้น ขึ้นรถไฟทันจนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รถไฟหัวกระสุนสายนี้ เส้นทางคดโค้งเลืยบแม่น้ำไปตลอด จึงทำความเร็วได้เพียง 140-160 ก.ม. ต่อ ช.ม.
มีวิวให้ดูประปราย (คราวละ 10 วิ โดยเฉลี่ย) เพราะส่วนใหญ่ลอดอุโมงค์มืดตื๋อ ตลอดบ่ายวันนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กว่าจะเข้าคิวหน้าสถานี อี้ฉาง จนได้รถแท้กซี่ที่จะพาเราไปท่าเรือ พระอาทิตย์ก็จวนจะตกดิน
หลังจากเจรจา ไตรภาคี 2 ภาษา (ฝ่ายละภาษา) กับคนขับรถ และ ตำรวจ (ผู้ช่วยสามัญประจำทริป)
RAM ของ อาม่า ก็ประมวลผลออกมาว่า แท้กซี่ (หล่อ) พยายามแจ้งว่า
' หว่อ บอก หนี่ว์ ก่อนนะ ใช้มิเตอร์ไม่ได้ ท่าเรือไม่ได้อยู่ในเขตเมือง เอาเป็น อิ๊ไป่ (100 หยวน) ละกันนะ'
อาม่า (พี่) : O.K. อิ๊ไป่ Go, go, go.
(อาม่าน้อง ซุบซิบ : แพงไปป่าว 500 บาทเชียวนะ)
แท้กซี่พาขึ้นทางด่วน (จ่ายเองด้วย) ออกนอกเมือง เลียบน้ำ ขึ้นเขา ลงเนิน ขึ้นเขา ลงเนิน....
ชมพระอาทิตย์ใกล้ตกแสนงาม สีชมพูอมแดง กลมดิ๊ก ไปจนเกือบมืดสนิท ใจเริ่มตุ๊มต้อม
ลงไปถึงท่าเรือหนึ่ง ซึ่งเงียบๆไม่มีเรือสำราญ เรือรบ เรือแจว ฯลฯ อะไรเลย
นั่งงงๆกันแผ๊บ พอดีมีแท้กซึ่ผ่านมาอีกคัน คงไปท่าเรือเหมือนกัน เปลี่ยวขนาดนั้น จะไปไหนไดัอีกเล่า ?
คนขับแท้กซี่ ทั้งคู่เปิดการเจรจา (จีน) แล้ว รถเราขับย้อนกลับมา สู่เนินเขาหนึ่ง
ที่มีไม้ก้ั้น 'ห้ามเข้า' สีขาว-แดง และ มี หนึ่งอาซิ่ม ออกจากป้อมมาร่วมประชุมด้วย........
แท้กซี่อาม่า : $/€^%$&£ อู่หยวน @#$/^&*(£ (พร้อมภาษากายเพียบ)
อาม่า(พี่)ส่ง แบงค์ 5 ให้อาซิ่ม ผู้เดินไปเปิดไม้กั้นพร้อมยิ้มหวาน......ให้รถเราลงเขาไปถึงท่าเรือ
อาม่า(น้อง) จ่าย 100 หยวน ให้แท้กซี่ผู้ให้บริการสุดชีวิตจนนาทีสุดท้าย พร้อมทิปอีก 20 หยวน
เราจึงลงเรือกัน ในยามวิกาลเวลา ฟ้ามืดสนิทศิษย์วัดนอนเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้