อาเจ๊ VS ของกินอินเดีย จุดจบอาเจ๊ 02
https://ppantip.com/topic/37064636/comment3
หลังจากไปอ๊วกแตกที่เนปาลมาแล้ว ทริปนี้อาเจ๊ได้รับมอบหมายให้ชิมอาหารข้างทางอินเดียอีกครั้ง
ขอเล่าเรื่องอาหาร แยกออกมาจากสถานที่ท่องเที่ยวนะคะ เพราะเนื้อหาเยอะ
ทริปนี้ถึงกับนอนร้องไห้อยากกลับบ้านเลยทีเดียว มาดูกันว่าอาเจ๊ชิมอะไรได้บ้าง
(ชื่อขนมและส่วนผสมอาจมีผิดพลาด ท่านใดมีความรู้เพิ่มเติมแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ ^^ )
อุ่นเครื่องด้วยอาหารจาก Jet Airways มีให้เลือกระหว่าง omelet กับ vegetarian
omelet
อร่อยดี ไข่หนานุ่ม ถั่วในซอสมะเขือเทศมีกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อย ไส้กรอก มันอบ ขนมปัง เนย ผลไม้
vegetarian
แป้งเม็ดหยาบนุ่มเนื้อสัมผัสคล้ายขนมตาล ซีกซ้ายรสเผ็ดเปรี้ยว เค็มอ่อนๆ มีเครื่องเทศนิดหน่อย
ซีกขวารสออกเค็มๆ นมๆ เสิร์ฟพร้อมซอสอะไรม่ายรุ รสนมเช่นกัน
สบ๊าย กินง่าย อร่อย ปลอดภัย
มื้อแรกที่เดลี
ลงเครื่องมาอย่างมึน ขึ้นรถด่วนจากสนามบิน แบกกระเป๋าผจญกับพี่ตุ๊กๆ จนมาถึงที่พัก
แต่ยังไม่ได้ทันพัก โดนลากออกมากินข้าวซะแล้ว
Sita Ram Diwan Chand
พิกัด 28.6422669 77.2103381
ร้านเก่าแก่ขนาดเล็ก ขายเมนูเดียวคือ แกงถั่ว (Chole Bhature / Channa Bhatura)
อาหารขึ้นชื่อจากรัฐปัญจาบ ทางเหนือของอินเดีย
สั่งอาหารที่เคาเตอร์ จ่ายเงิน แล้วเดินมารับแกงใส่ถาด
จากนั้นมารับแป้ง Bhature อุ่นร้อนๆ กับมือ พร้อมเสิร์ฟ
แป้ง Bhature สอดไส้เครื่องเทศ ผักชี มันฝรั่งบดเล็กน้อย เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม
Chole คือ แกงถั่วลูกไก่ รสเค็มๆ มันๆ กลิ่นเครื่องเทศพอไหวไม่ฉุนมาก แต่เด่นกว่ารสชาติ
กินแกล้มกับผักดอง หอมแดง พริกเขียว
ชุดละ 60รูปี แกง1ถาด แป้ง 2แผ่น ชุดเดียวอิ่มจุก
ภายในร้าน ไม่มีเก้าอี้ ใช้มือยืนกินกันตรงนั้น
ด้านในมีอ่างล้างมือ ก๊อกน้ำดื่มพร้อมแก้วบริการตัวเอง
รสชาติอาหารใช้ได้ แต่เพราะเหนื่อยเลยไม่หิว กินม่ายหมด
โชคดีได้ Lassi อร่อย หวานเปรี้ยวเย็นชื่นใจ 40 รูปี หยิบเอาเองจากตู้แช่
ร้านชาริมทาง
พิกัด 28.642749, 77.210505
เสร็จจากแกงถั่ว ต้องการคาเฟอีนอย่างมาก พุ่งหาร้านชาแต่สั่งกาแฟ
กาแฟที่นี่ไม่อร่อยเท่าชา รสชาตินมต้มน้ำตาล ไม่ได้กลิ่นกาแฟซักกะนิด
พ่อค้าภูมิใจนำเสนอถ้วยดิน หยิบมาให้ดูนี่ฝุ่นอย่างเขรอะ แต่อาเจ้ก็เลือก 555
ราคา 20 รูปี สำหรับถ้วยดิน ถ้วยกระดาษ 15 รูปี
Lassi
พิกัด 28.640693, 77.210737
ร้าน Lassi สามแยกแถวที่พัก มี 3ร้านเรียงติดกัน หน้าร้านมีเก้าอี้ไม้ยาวให้นั่งจิบเพลินๆ
อุปกรณ์ คือ โถปั่นและไม้กระบองในมือ ข้างในโถมีน้ำแข็งก้อนโตสำหรับให้ความเย็น
พ่อค้าจะตักโยเกิร์ตจากกาละมังใหญ่ใส่โถ เติมน้ำตาล ปั่นด้วยไม้ให้เข้ากัน จนน้ำแข็งเริ่มละลายเป็นโยเกิร์ตเหลว ดื่มได้
ใกล้ๆกัน ตั้งกระทะกวนนม ไว้ทำโยเกิร์ต
เราสั่ง Banana Lassi ราคา 35 รูปี กล้วยที่นี่ รสเปรี้ยวอมฝาด ไม่หวานหอมเหมือนบ้านเรา
แถมยังเหลือเนื้อกล้วยหยึยๆ พร้อมความเย็นแบบไม่ค่อยเย็น อาเจ้ชิมคำเดียว ยกให้เฮียหมีทั้งแก้ว 555
(เท่าที่เจอทริปนี้ Lassi ในร้านข้าวมัก เข้มข้น หวานอร่อยกว่าร้านริมทางแบบนี้)
เช้าวันที่สอง ชิมขนมระหว่างทางไป Red Fort
Old Famous Jalebi Wala
พิกัด 28.656093 77.233519
ร้านเก่าแก่ที่ใครๆ ก็แนะนำ เปิดมา133 กว่าปี
ขนม Jalebi แป้งทอดขดเป็นวง ทอดร้อนๆ แล้วนำมาจุ่มในกระบะน้ำเชื่อมที่อยู่ติดกันให้ชุ่ม
อร่อยดี แป้งนอกกรอบนิดๆ เนื้อในนุ่มชุ่มน้ำเชื่อม
หวานเยิ้มหยดย้อยตามสไตล์ขนมอินเดีย
ร้านขนมในอินเดียขายแบบชั่งตวง ชิ้นนี้ 100 กรัม ราคา 50 รูปี
Daulat Ki Chaat
เดินเข้ามาในซอยร้าน Old Famous Jalebi Wala เจอรถขายขนม Daulat Ki Chaat อยู่
ทำมาจากนมตีจนฟูเบาเหมือนวิปครีม ส่วนที่เป็นสีเหลืองมาจากนมผสมหญ้าฝรั่น
มักขายในช่วงหน้าหนาว เพราะถ้าร้อนเกินไปขนมจะละลาย
หมีเป็ดไป กลางเดือนตุลาคมก็ได้ชิมแล้ว
เหมือนกินวิปครีม โรยน้ำตาล โรยถั่ว มันๆ หวานๆ อร่อยเบาๆ ราคา 50 รูปี
ถัดมาอีกไม่ไกลกันนัก เอาอีกละ ร้านอะไรที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังนี่ เฮียหมีขอแจมตลอด
เห็นป้ายรูปแก้วนม ราคา 10 รูปี ส่วนตัวหนังสือแปลว่าอะไรไม่รู้ วิ่งแจ้นไปซื้อมาชิม
ร้านขายแกงมันฝรั่งราดแป้งโรตี และของว่างที่เป็นแป้งพองกลมยัดไส้เครื่องเทศ
เจ้านี่คือ
Salt Lassi นมเปรี้ยวรสเค็มแบบดั้งเดิมที่คนอินเดียนิยมกัน
โรยผงเครื่องเทศและแป้งพองกรอบๆ
หน้าตาว่าแปลกแล้ว รสชาติยิ่งไม่คุ้นหนัก 555 รสเค็มนำค่อนข้างมาก ตามด้วย เปรี้ยว มัน
พร้อมกลิ่นเครื่องเทศ ปรับอารมณ์ไม่ถูกว่ากำลังกินขนมหรือน้ำซุป
Rabri Falooda
พิกัด ร้านเล็กๆ อยู่ระหว่าง 28.6562632 77.2341482 - 28.656435 77.2305561
เราข้ามถนนจากฝั่ง Old Famous Jalebi Wala เพื่อกลับไปขึ้นรถใต้ดินสถานี Chandni Chowk
ผ่านร้าน Rabri Falooda ขนมหน้าร้อนที่ทำจากนม เติมน้ำตาล/นมข้นหวาน
เคี่ยวจนข้นหอมคล้ายคาราเมล ใส่ถั่ว น้ำเชื่อมกุหลาบ และ เครื่องเทศ เรียกว่า Rabri
เมื่อจะเสิร์ฟ ใส่เส้นแป้ง Falooda sev คล้ายสลิ่ม แล้วคนๆๆๆ จนเข้ากัน เหนียวไปทั้งแก้ว 55
ฝรั่งเรียก Noodle Milkshake
อารมณ์คล้าย ลอดช่องใส่นม ผสมสลิ่ม แบบใส่น้ำแข็งก้อนเดียว
มันๆ นมๆ หวานปะแล่มๆ มีความหอมจากคาราเมล ถั่ว และน้ำเชื่อมกุหลาบผสมกัน
จินตนาการรสชาติตามกันไม่ถูกเล้ย
ตามล่าหาไอติมที่อร่อยที่สุดในเดลี
ช่วงบ่าย ออกตามหาไอติมแบบอินเดีย เป็นผลไม้คว้านไส้ยัดไอศกรีมแล้วแช่แข็งทั้งลูก
แต่กูเกิลพาซอกซอนตามตรอก หลงไปหลงมาจนเหนื่อย
ถนนในตลาดอินเดีย ไม่ได้มีอุปสรรคแค่แสงแดด แถมพ่วงมาทั้งเสียงแตร ฝุ่นควัน ขยะ
ข้าวของเกะกะตลอดทาง เหนื่อยกว่าปกติอีก 2เท่า.. ฮัดช่าาา!
ข่าวดีกว่านั้นคือ เมื่อไปถึงร้าน เราก็พบว่ามันปิด..
ระหว่างทางเดินถอดใจกลับ หันไปเจอร้านนี้ ไม่เจอไอติม กินขนมก็ได้!
Channar Puli
ขนม Channar Puli ทำจาก แป้ง นม เนย น้ำตาล นวดๆ เอาไปทอด แล้วจุ่มน้ำเชื่อมอีกรอบ
รสสัมผัสคล้ายทองหยอดบ้านเรา แต่มีกลิ่นเครื่องเทศติดมาด้วย
หวานนนนนนนนุ่มชุ่มน้ำเชื่อม
อันนี้ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร เนื้อคล้าย Channar Puli ด้านบน แต่มีเนื้อมะพร้าวขูดมาด้วย
หวานกว่าอันแรกอี๊ก
Laddu
ทำจากถั่วบดนานาชนิด กวนในน้ำตาลเคี่ยว ใส่เนย แป้ง เครื่องเทศต่างๆ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม
รสถั่ว หวานๆ มันๆ
Plain barfi
Barfi เป็นตระกูลขนมหวานที่ทำจากนม ผสมน้ำตาล นำไปเคี่ยวจนข้น ฝรั่งเรียก milk fudge
โปะแผ่นเงินกินได้เรียกว่า vark / varak
รสน๊มนม หวานมัน ไม่หวานเจี๊ยบเหมือนสองอันแรก ชอบสุดในร้านนี้ 10 รูปี
ชิ้นสุดท้าย ไม่ทราบชื่อ
คุณลุงเห็นซื้อแล้วซื้ออีก ยืนชิมสู้แดดกันอยู่หน้าร้าน เลยแถมจานนี้ให้พร้อมส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก
ตัวแป้งกรอบพอง ไส้ในเป็นแป้งเม็ดหยาบ นุ่มๆ หวานๆ แปลกดี
หมดนี่จ่ายไปราวๆ 40 รูปี น้ำตาลพุ่งพรวด ขาดีด พร้อมออกเดินทางต่อได้
ร้านข้าวแกง ริมถนน Hauz Qazi Chowk
พิกัด 28.6492796 77.2264822
เดินจากร้านขนมมาเพื่อจะขึ้นรถใต้ดินที่วงเวียน
เฮียหมีอยากลองชิมของคาวล้างปาก แวะร้านแผงลอยเล็กๆ มีโต๊ะให้ยืนกินอยู่ด้านหลัง
ชี้มั่วๆ ได้แกงถั่วราดข้าวมา 1 จาน 20 รูปี
อร่อยแฮะ แกงถั่วเค็มๆ มันๆ ตัดด้วยรสเผ็ดจากซอสสีเขียว ข้าวบาสมาตีเม็ดร่วนกรุบเข้ากับแกง
เรายืนกินข้าวอยู่กลางสี่แยก รายล้อมไปด้วยขยะ และเสียงแตรรถที่ยังทำงานตลอดเวลา
แต่กลับรู้สึกสงบ ผ่อนคลายอย่างประหลาด คงเพราะเริ่มปรับตัวได้
อินเดียจ๋าา พี่มาแล้ว
กินเสร็จ เอาจานไปทิ้งถังขยะ เฮียหมีสบตากับพ่อหนุ่มอินเดียเข้า ทักทายกันอิท่าไหนไม่รู้
หนุ่มอินเดียสั่งแกงมันฝรั่ง ราดแป้งปูริทอด มาเลี้ยงเราเฉย
รสเค็มเผ็ดกว่าแกงถั่วจานแรก แถมบนโต๊ะยังมีถ้วยเกลือผสมเครื่องเทศ ไว้เป็นเครื่องปรุงอีกด้วย
ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตัวจริงหล่อนะฮะ แต่ภาพนี้มุมไม่ดี ( มุมหล่ออยู่ในภาพหน้าร้านด้านบน คนที่ชูสองนิ้ว )
จบครึ่งแรก ยังรอดปลอดภัยท้องไส้ปกติดีอยู่
วันนี้ถึงจะเหนื่อย หลงทาง หาร้านไอติมไม่เจออย่างที่ตั้งใจไว้
แต่อาเจ๊กลับเริ่มรักอินเดียขึ้นมานิดๆ แล้วหล่ะ
ครึ่งหลัง จะพาไปชิมอาหารโฮมสเตย์ เมืองอักรา และจุดจบของอาเจ๊กันค่าา 😆
[CR] อาเจ๊ VS ของกินอินเดีย ท้องไม่เสีย เจ๊ไม่เลิก 01
https://ppantip.com/topic/37064636/comment3
หลังจากไปอ๊วกแตกที่เนปาลมาแล้ว ทริปนี้อาเจ๊ได้รับมอบหมายให้ชิมอาหารข้างทางอินเดียอีกครั้ง
ขอเล่าเรื่องอาหาร แยกออกมาจากสถานที่ท่องเที่ยวนะคะ เพราะเนื้อหาเยอะ
ทริปนี้ถึงกับนอนร้องไห้อยากกลับบ้านเลยทีเดียว มาดูกันว่าอาเจ๊ชิมอะไรได้บ้าง
(ชื่อขนมและส่วนผสมอาจมีผิดพลาด ท่านใดมีความรู้เพิ่มเติมแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ ^^ )
อุ่นเครื่องด้วยอาหารจาก Jet Airways มีให้เลือกระหว่าง omelet กับ vegetarian
omelet
อร่อยดี ไข่หนานุ่ม ถั่วในซอสมะเขือเทศมีกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อย ไส้กรอก มันอบ ขนมปัง เนย ผลไม้
vegetarian
แป้งเม็ดหยาบนุ่มเนื้อสัมผัสคล้ายขนมตาล ซีกซ้ายรสเผ็ดเปรี้ยว เค็มอ่อนๆ มีเครื่องเทศนิดหน่อย
ซีกขวารสออกเค็มๆ นมๆ เสิร์ฟพร้อมซอสอะไรม่ายรุ รสนมเช่นกัน
สบ๊าย กินง่าย อร่อย ปลอดภัย
มื้อแรกที่เดลี
ลงเครื่องมาอย่างมึน ขึ้นรถด่วนจากสนามบิน แบกกระเป๋าผจญกับพี่ตุ๊กๆ จนมาถึงที่พัก
แต่ยังไม่ได้ทันพัก โดนลากออกมากินข้าวซะแล้ว
Sita Ram Diwan Chand
พิกัด 28.6422669 77.2103381
ร้านเก่าแก่ขนาดเล็ก ขายเมนูเดียวคือ แกงถั่ว (Chole Bhature / Channa Bhatura)
อาหารขึ้นชื่อจากรัฐปัญจาบ ทางเหนือของอินเดีย
สั่งอาหารที่เคาเตอร์ จ่ายเงิน แล้วเดินมารับแกงใส่ถาด
จากนั้นมารับแป้ง Bhature อุ่นร้อนๆ กับมือ พร้อมเสิร์ฟ
แป้ง Bhature สอดไส้เครื่องเทศ ผักชี มันฝรั่งบดเล็กน้อย เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม
Chole คือ แกงถั่วลูกไก่ รสเค็มๆ มันๆ กลิ่นเครื่องเทศพอไหวไม่ฉุนมาก แต่เด่นกว่ารสชาติ
กินแกล้มกับผักดอง หอมแดง พริกเขียว
ชุดละ 60รูปี แกง1ถาด แป้ง 2แผ่น ชุดเดียวอิ่มจุก
ภายในร้าน ไม่มีเก้าอี้ ใช้มือยืนกินกันตรงนั้น
ด้านในมีอ่างล้างมือ ก๊อกน้ำดื่มพร้อมแก้วบริการตัวเอง
รสชาติอาหารใช้ได้ แต่เพราะเหนื่อยเลยไม่หิว กินม่ายหมด
โชคดีได้ Lassi อร่อย หวานเปรี้ยวเย็นชื่นใจ 40 รูปี หยิบเอาเองจากตู้แช่
ร้านชาริมทาง
พิกัด 28.642749, 77.210505
เสร็จจากแกงถั่ว ต้องการคาเฟอีนอย่างมาก พุ่งหาร้านชาแต่สั่งกาแฟ
กาแฟที่นี่ไม่อร่อยเท่าชา รสชาตินมต้มน้ำตาล ไม่ได้กลิ่นกาแฟซักกะนิด
พ่อค้าภูมิใจนำเสนอถ้วยดิน หยิบมาให้ดูนี่ฝุ่นอย่างเขรอะ แต่อาเจ้ก็เลือก 555
ราคา 20 รูปี สำหรับถ้วยดิน ถ้วยกระดาษ 15 รูปี
Lassi
พิกัด 28.640693, 77.210737
ร้าน Lassi สามแยกแถวที่พัก มี 3ร้านเรียงติดกัน หน้าร้านมีเก้าอี้ไม้ยาวให้นั่งจิบเพลินๆ
อุปกรณ์ คือ โถปั่นและไม้กระบองในมือ ข้างในโถมีน้ำแข็งก้อนโตสำหรับให้ความเย็น
พ่อค้าจะตักโยเกิร์ตจากกาละมังใหญ่ใส่โถ เติมน้ำตาล ปั่นด้วยไม้ให้เข้ากัน จนน้ำแข็งเริ่มละลายเป็นโยเกิร์ตเหลว ดื่มได้
ใกล้ๆกัน ตั้งกระทะกวนนม ไว้ทำโยเกิร์ต
เราสั่ง Banana Lassi ราคา 35 รูปี กล้วยที่นี่ รสเปรี้ยวอมฝาด ไม่หวานหอมเหมือนบ้านเรา
แถมยังเหลือเนื้อกล้วยหยึยๆ พร้อมความเย็นแบบไม่ค่อยเย็น อาเจ้ชิมคำเดียว ยกให้เฮียหมีทั้งแก้ว 555
(เท่าที่เจอทริปนี้ Lassi ในร้านข้าวมัก เข้มข้น หวานอร่อยกว่าร้านริมทางแบบนี้)
เช้าวันที่สอง ชิมขนมระหว่างทางไป Red Fort
Old Famous Jalebi Wala
พิกัด 28.656093 77.233519
ร้านเก่าแก่ที่ใครๆ ก็แนะนำ เปิดมา133 กว่าปี
ขนม Jalebi แป้งทอดขดเป็นวง ทอดร้อนๆ แล้วนำมาจุ่มในกระบะน้ำเชื่อมที่อยู่ติดกันให้ชุ่ม
อร่อยดี แป้งนอกกรอบนิดๆ เนื้อในนุ่มชุ่มน้ำเชื่อม
หวานเยิ้มหยดย้อยตามสไตล์ขนมอินเดีย
ร้านขนมในอินเดียขายแบบชั่งตวง ชิ้นนี้ 100 กรัม ราคา 50 รูปี
Daulat Ki Chaat
เดินเข้ามาในซอยร้าน Old Famous Jalebi Wala เจอรถขายขนม Daulat Ki Chaat อยู่
ทำมาจากนมตีจนฟูเบาเหมือนวิปครีม ส่วนที่เป็นสีเหลืองมาจากนมผสมหญ้าฝรั่น
มักขายในช่วงหน้าหนาว เพราะถ้าร้อนเกินไปขนมจะละลาย
หมีเป็ดไป กลางเดือนตุลาคมก็ได้ชิมแล้ว
เหมือนกินวิปครีม โรยน้ำตาล โรยถั่ว มันๆ หวานๆ อร่อยเบาๆ ราคา 50 รูปี
ถัดมาอีกไม่ไกลกันนัก เอาอีกละ ร้านอะไรที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังนี่ เฮียหมีขอแจมตลอด
เห็นป้ายรูปแก้วนม ราคา 10 รูปี ส่วนตัวหนังสือแปลว่าอะไรไม่รู้ วิ่งแจ้นไปซื้อมาชิม
ร้านขายแกงมันฝรั่งราดแป้งโรตี และของว่างที่เป็นแป้งพองกลมยัดไส้เครื่องเทศ
เจ้านี่คือ Salt Lassi นมเปรี้ยวรสเค็มแบบดั้งเดิมที่คนอินเดียนิยมกัน
โรยผงเครื่องเทศและแป้งพองกรอบๆ
หน้าตาว่าแปลกแล้ว รสชาติยิ่งไม่คุ้นหนัก 555 รสเค็มนำค่อนข้างมาก ตามด้วย เปรี้ยว มัน
พร้อมกลิ่นเครื่องเทศ ปรับอารมณ์ไม่ถูกว่ากำลังกินขนมหรือน้ำซุป
Rabri Falooda
พิกัด ร้านเล็กๆ อยู่ระหว่าง 28.6562632 77.2341482 - 28.656435 77.2305561
เราข้ามถนนจากฝั่ง Old Famous Jalebi Wala เพื่อกลับไปขึ้นรถใต้ดินสถานี Chandni Chowk
ผ่านร้าน Rabri Falooda ขนมหน้าร้อนที่ทำจากนม เติมน้ำตาล/นมข้นหวาน
เคี่ยวจนข้นหอมคล้ายคาราเมล ใส่ถั่ว น้ำเชื่อมกุหลาบ และ เครื่องเทศ เรียกว่า Rabri
เมื่อจะเสิร์ฟ ใส่เส้นแป้ง Falooda sev คล้ายสลิ่ม แล้วคนๆๆๆ จนเข้ากัน เหนียวไปทั้งแก้ว 55
ฝรั่งเรียก Noodle Milkshake
อารมณ์คล้าย ลอดช่องใส่นม ผสมสลิ่ม แบบใส่น้ำแข็งก้อนเดียว
มันๆ นมๆ หวานปะแล่มๆ มีความหอมจากคาราเมล ถั่ว และน้ำเชื่อมกุหลาบผสมกัน
จินตนาการรสชาติตามกันไม่ถูกเล้ย
ตามล่าหาไอติมที่อร่อยที่สุดในเดลี
ช่วงบ่าย ออกตามหาไอติมแบบอินเดีย เป็นผลไม้คว้านไส้ยัดไอศกรีมแล้วแช่แข็งทั้งลูก
แต่กูเกิลพาซอกซอนตามตรอก หลงไปหลงมาจนเหนื่อย
ถนนในตลาดอินเดีย ไม่ได้มีอุปสรรคแค่แสงแดด แถมพ่วงมาทั้งเสียงแตร ฝุ่นควัน ขยะ
ข้าวของเกะกะตลอดทาง เหนื่อยกว่าปกติอีก 2เท่า.. ฮัดช่าาา!
ข่าวดีกว่านั้นคือ เมื่อไปถึงร้าน เราก็พบว่ามันปิด..
ระหว่างทางเดินถอดใจกลับ หันไปเจอร้านนี้ ไม่เจอไอติม กินขนมก็ได้!
Channar Puli
ขนม Channar Puli ทำจาก แป้ง นม เนย น้ำตาล นวดๆ เอาไปทอด แล้วจุ่มน้ำเชื่อมอีกรอบ
รสสัมผัสคล้ายทองหยอดบ้านเรา แต่มีกลิ่นเครื่องเทศติดมาด้วย
หวานนนนนนนนุ่มชุ่มน้ำเชื่อม
อันนี้ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร เนื้อคล้าย Channar Puli ด้านบน แต่มีเนื้อมะพร้าวขูดมาด้วย
หวานกว่าอันแรกอี๊ก
Laddu
ทำจากถั่วบดนานาชนิด กวนในน้ำตาลเคี่ยว ใส่เนย แป้ง เครื่องเทศต่างๆ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม
รสถั่ว หวานๆ มันๆ
Plain barfi
Barfi เป็นตระกูลขนมหวานที่ทำจากนม ผสมน้ำตาล นำไปเคี่ยวจนข้น ฝรั่งเรียก milk fudge
โปะแผ่นเงินกินได้เรียกว่า vark / varak
รสน๊มนม หวานมัน ไม่หวานเจี๊ยบเหมือนสองอันแรก ชอบสุดในร้านนี้ 10 รูปี
ชิ้นสุดท้าย ไม่ทราบชื่อ
คุณลุงเห็นซื้อแล้วซื้ออีก ยืนชิมสู้แดดกันอยู่หน้าร้าน เลยแถมจานนี้ให้พร้อมส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก
ตัวแป้งกรอบพอง ไส้ในเป็นแป้งเม็ดหยาบ นุ่มๆ หวานๆ แปลกดี
หมดนี่จ่ายไปราวๆ 40 รูปี น้ำตาลพุ่งพรวด ขาดีด พร้อมออกเดินทางต่อได้
ร้านข้าวแกง ริมถนน Hauz Qazi Chowk
พิกัด 28.6492796 77.2264822
เดินจากร้านขนมมาเพื่อจะขึ้นรถใต้ดินที่วงเวียน
เฮียหมีอยากลองชิมของคาวล้างปาก แวะร้านแผงลอยเล็กๆ มีโต๊ะให้ยืนกินอยู่ด้านหลัง
ชี้มั่วๆ ได้แกงถั่วราดข้าวมา 1 จาน 20 รูปี
อร่อยแฮะ แกงถั่วเค็มๆ มันๆ ตัดด้วยรสเผ็ดจากซอสสีเขียว ข้าวบาสมาตีเม็ดร่วนกรุบเข้ากับแกง
เรายืนกินข้าวอยู่กลางสี่แยก รายล้อมไปด้วยขยะ และเสียงแตรรถที่ยังทำงานตลอดเวลา
แต่กลับรู้สึกสงบ ผ่อนคลายอย่างประหลาด คงเพราะเริ่มปรับตัวได้
อินเดียจ๋าา พี่มาแล้ว
กินเสร็จ เอาจานไปทิ้งถังขยะ เฮียหมีสบตากับพ่อหนุ่มอินเดียเข้า ทักทายกันอิท่าไหนไม่รู้
หนุ่มอินเดียสั่งแกงมันฝรั่ง ราดแป้งปูริทอด มาเลี้ยงเราเฉย
รสเค็มเผ็ดกว่าแกงถั่วจานแรก แถมบนโต๊ะยังมีถ้วยเกลือผสมเครื่องเทศ ไว้เป็นเครื่องปรุงอีกด้วย
ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตัวจริงหล่อนะฮะ แต่ภาพนี้มุมไม่ดี ( มุมหล่ออยู่ในภาพหน้าร้านด้านบน คนที่ชูสองนิ้ว )
จบครึ่งแรก ยังรอดปลอดภัยท้องไส้ปกติดีอยู่
วันนี้ถึงจะเหนื่อย หลงทาง หาร้านไอติมไม่เจออย่างที่ตั้งใจไว้
แต่อาเจ๊กลับเริ่มรักอินเดียขึ้นมานิดๆ แล้วหล่ะ
ครึ่งหลัง จะพาไปชิมอาหารโฮมสเตย์ เมืองอักรา และจุดจบของอาเจ๊กันค่าา 😆