กู่ คือที่บรรจุอัฐิ
เต้า มาจากคำว่า บะเต้า แปลว่าแตงโม
... บะเต้า แปลว่า แตงโม , แต่ น้ำเต้า กำเมืองฮ้องว่า บะน้ำ เจ้า ...
เวฬุวนา คือป่าไผ่ + อาราม คือวัด
เป็นวัดที่อยู่ติดสนามกีฬาจังหวัดเชียงใหม
ซึ่งครั้งหนึ่งใช้เป็นที่จัดงานฤดูหนาว ที่ย้ายมาจาก รร.ยุพราช เมื่อ พ.ศ. 2493
จึงเป็นที่รู้จักกันดี เพราะต้องไปจอดรถที่วัดนี้เวลามีงาน
อุโบสถ ทางเหนือจะไม่ให้ผู้หญิงเข้าโบสถ์
วิหาร
บันไดมกรคายนาค 3 สี
ปูนปั้นประดับบันได
เสาหงส์
หน้าบัน วิหาร พระนารายณ์ทรงครุฑ
ในช่องฝาปะกนเป็นรูปหม้อดอก หรือ ปูรณฆฏะ ... ปูรณ คือความอุดมสมบูรณ์ ฆฏะ แปลว่าหม้อน้ำ
ในซุ้มโขง มกรคายนาคหางพันกัน ... เป็นรูปนกยูง
พระประธาน ตามแบบพระมหามัยมุนีที่มัณฑะเลย์
ไปชมด้านล่างวิหาร
วิจิตรมาก
ตำนานว่า
เมื่อบุเรงนองตีได้ล้านนา
พม่าได้ส่ง พระเจ้าอโนรธาเมงสอ หรือ เจ้าฟ้าสารวดี พระโอรส มาปกครองแคว้นล้านนา (พ.ศ. 2121 - 2150)
พ.ศ. 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพจากพม่า
พม่าให้เจ้าฟ้าสารวตีต่อสู้ แต่สู้ไม่ได้จึงทรงสวามิภักดิ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในปี พ.ศ. 2139
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงให้เจ้าฟ้าสารวตีปกครองเชียงใหม่จนสิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2156
พระมหามังชวยเทา พระอนุชาได้จัดถวายเพลิงพระศพ
และโปรดให้สร้างสถูปเจดีย์กู่เต้าเพื่อบรรจุอัฐิและพระอังคารธาตุ ในบริเวณดงป่าใผ่
จึงได้ชื่อว่าวัดเวฬุวันกู่เต้า หรือ วัดกู่เต้า
เจดีย์
มีกำแพงแก้ว และซุ้มพระทั้งสี่ด้าน
ทางทิศตะวันออกประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะพม่า
ตอนยังไม่ได้สร้างวิหารหน้าเจดีย์
ตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม มีเจดีย์องค์เล็กและสิงห์ประจำมุมทั้งสี่
ฐานปัทม์ ... บัวคว่ำบัวหงาย ย่อมุม 20
ถัดไปเป็นฐานบัวหงายกลม รับเรือนธาตุกลมรูปบะเต้า หรือ แตงโม
เรือนธาตุซ้อนกัน 5 ชั้น มีซุ้มพระเจ้าชั้นละสี่ทิศ
ประดับกระเบื้อง
เหนือเรือนธาตุเป็นองค์ระฆังขนาดสีขาว และยอดฉัตร
มีนิทานเกี่ยวกับตอนสร้างเจดีย์นี้เป็นมุโขโลกนะ เล่าโดยอ้ายหนานเต๊อะ
ว่า
สมัยหนึ่งมีข้าศึกต่างเมืองอาจเป็นเมืองฮ่อมารบกับเชียงใหม่
เข้มแข็งมาก จนเจ้าเมืองเชียงใหม่เห็นจะสู้ไม่ได้
จึงใช้ทูตเจรจามาแข่งกันสร้างเจดีย์
ถ้าใครสร้างเสร็จก่อนก็เป็นผู้ชนะจะได้เมืองไป
แรกๆ ก็ก่อสร้างไปเรื่อย
พอสร้างเลยจากฐานขึ้นมา ทางเชียงใหม่เห็นจะนานเกินไป
จึงใช้ไม้ไผ่สานเป็นรูปน้ำเต้าแล้วทาด้วยปูนขาว
จนถึงยอดแล้วประดับด้วยฉัตรจึงแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว
ส่วนเมืองฮ่อ นั้นได้สร้างที่บริเวณ"หนองฮ่อ"
ซึ่งปรากฏมีซากเมืองเก่าและฐานเจดีย์อยู่
เมื่อฮ่อ มาเห็นเจดีย์กู่เต้าของทางเชียงใหม่เสร็จแล้ว
ดังนั้นก็อยอมแพ้และยกทัพกลับไป
นี้เป็นคำเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ลูกหลานฟังเป็นนิทานรอบกองไฟ
เมื่อเมืองฮ่อยกทัพกลับไปแล้ว
เจ้าเมืองเชียงใหม่จึงสร้างเจดีย์ด้วยของจริง
ในรูปแบบดังสานด้วยไม้ไผ่ดังที่เห็น
... ขอบคุณอ้ายหนานเตอะ เจ้า ...
เจดีย์หนึ่งเดียวในล้านนา ... เจดีย์วัดกู่เต้า
กู่ คือที่บรรจุอัฐิ
เต้า มาจากคำว่า บะเต้า แปลว่าแตงโม
... บะเต้า แปลว่า แตงโม , แต่ น้ำเต้า กำเมืองฮ้องว่า บะน้ำ เจ้า ...
เวฬุวนา คือป่าไผ่ + อาราม คือวัด
เป็นวัดที่อยู่ติดสนามกีฬาจังหวัดเชียงใหม
ซึ่งครั้งหนึ่งใช้เป็นที่จัดงานฤดูหนาว ที่ย้ายมาจาก รร.ยุพราช เมื่อ พ.ศ. 2493
จึงเป็นที่รู้จักกันดี เพราะต้องไปจอดรถที่วัดนี้เวลามีงาน
อุโบสถ ทางเหนือจะไม่ให้ผู้หญิงเข้าโบสถ์
วิหาร
บันไดมกรคายนาค 3 สี
ปูนปั้นประดับบันได
เสาหงส์
หน้าบัน วิหาร พระนารายณ์ทรงครุฑ
ในช่องฝาปะกนเป็นรูปหม้อดอก หรือ ปูรณฆฏะ ... ปูรณ คือความอุดมสมบูรณ์ ฆฏะ แปลว่าหม้อน้ำ
ในซุ้มโขง มกรคายนาคหางพันกัน ... เป็นรูปนกยูง
พระประธาน ตามแบบพระมหามัยมุนีที่มัณฑะเลย์
ไปชมด้านล่างวิหาร
วิจิตรมาก
ตำนานว่า
เมื่อบุเรงนองตีได้ล้านนา
พม่าได้ส่ง พระเจ้าอโนรธาเมงสอ หรือ เจ้าฟ้าสารวดี พระโอรส มาปกครองแคว้นล้านนา (พ.ศ. 2121 - 2150)
พ.ศ. 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพจากพม่า
พม่าให้เจ้าฟ้าสารวตีต่อสู้ แต่สู้ไม่ได้จึงทรงสวามิภักดิ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในปี พ.ศ. 2139
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงให้เจ้าฟ้าสารวตีปกครองเชียงใหม่จนสิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2156
พระมหามังชวยเทา พระอนุชาได้จัดถวายเพลิงพระศพ
และโปรดให้สร้างสถูปเจดีย์กู่เต้าเพื่อบรรจุอัฐิและพระอังคารธาตุ ในบริเวณดงป่าใผ่
จึงได้ชื่อว่าวัดเวฬุวันกู่เต้า หรือ วัดกู่เต้า
เจดีย์
มีกำแพงแก้ว และซุ้มพระทั้งสี่ด้าน
ทางทิศตะวันออกประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะพม่า
ตอนยังไม่ได้สร้างวิหารหน้าเจดีย์
ตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม มีเจดีย์องค์เล็กและสิงห์ประจำมุมทั้งสี่
ฐานปัทม์ ... บัวคว่ำบัวหงาย ย่อมุม 20
ถัดไปเป็นฐานบัวหงายกลม รับเรือนธาตุกลมรูปบะเต้า หรือ แตงโม
เรือนธาตุซ้อนกัน 5 ชั้น มีซุ้มพระเจ้าชั้นละสี่ทิศ
ประดับกระเบื้อง
เหนือเรือนธาตุเป็นองค์ระฆังขนาดสีขาว และยอดฉัตร
มีนิทานเกี่ยวกับตอนสร้างเจดีย์นี้เป็นมุโขโลกนะ เล่าโดยอ้ายหนานเต๊อะ
ว่า
สมัยหนึ่งมีข้าศึกต่างเมืองอาจเป็นเมืองฮ่อมารบกับเชียงใหม่
เข้มแข็งมาก จนเจ้าเมืองเชียงใหม่เห็นจะสู้ไม่ได้
จึงใช้ทูตเจรจามาแข่งกันสร้างเจดีย์
ถ้าใครสร้างเสร็จก่อนก็เป็นผู้ชนะจะได้เมืองไป
แรกๆ ก็ก่อสร้างไปเรื่อย
พอสร้างเลยจากฐานขึ้นมา ทางเชียงใหม่เห็นจะนานเกินไป
จึงใช้ไม้ไผ่สานเป็นรูปน้ำเต้าแล้วทาด้วยปูนขาว
จนถึงยอดแล้วประดับด้วยฉัตรจึงแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว
ส่วนเมืองฮ่อ นั้นได้สร้างที่บริเวณ"หนองฮ่อ"
ซึ่งปรากฏมีซากเมืองเก่าและฐานเจดีย์อยู่
เมื่อฮ่อ มาเห็นเจดีย์กู่เต้าของทางเชียงใหม่เสร็จแล้ว
ดังนั้นก็อยอมแพ้และยกทัพกลับไป
นี้เป็นคำเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ลูกหลานฟังเป็นนิทานรอบกองไฟ
เมื่อเมืองฮ่อยกทัพกลับไปแล้ว
เจ้าเมืองเชียงใหม่จึงสร้างเจดีย์ด้วยของจริง
ในรูปแบบดังสานด้วยไม้ไผ่ดังที่เห็น
... ขอบคุณอ้ายหนานเตอะ เจ้า ...
เรื่องเจดีย์ที่เคยเขียน
เจดีย์เหลี่ยมล้านนา https://ppantip.com/topic/36788989