จากการวิจัยจากมหาวิทยาลัย King ลอนดอนได้ชี้ว่า ลูกชายของพ่อที่เป็นผู้สูงอายุจะมีความฉลาดเฉลียวมาก มีการโฟกัสสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจมากกว่าและไม่ต่างอะไรกับบุคลิกภาพแบบ ‘Geek’ มากนัก
แม้ว่างานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่า เด็กที่มีพ่อผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูงต่อเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคออทิซึมหรือมีความผิดปกติทางจิต จากงานวิจัยใหม่ที่ได้มีการตีพิมพ์ใน Translational Psychiatry นี้ก็ชี้ว่า เด็กที่มีพ่อเป็นผู้สูงอายุอาจมีข้อได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆทั้งด้านการศึกษาและอาชีพการงาน
นักวิจัยหลายคนจากมหาวิทยาลัย King ลอนดอน และกับสถาบันการศึกษาวิจัยและการรักษาโรคออทิซึมที่โรงเรียนการแพทย์ในอเมริกาก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมและรวบรวมข้อมูลกระบวนการรับรู้ของฝาแฝดในประเทศอังกฤษจากสถาบัน TEDS
เมื่อฝาแฝดมีอายุได้ 12 ขวบ พวกเขาก็ได้ทำการทดสอบผ่านระบบออนไลน์โดยทำการประเมินแนวโน้มบุคลิกแบบ ‘Geek’ ซึ่งก็รวมไปถึงการทดสอบทาง IQ,การโฟกัสสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจและการอยู่โดดเดี่ยวทางสังคม ผู้ปกครองหลายคนก็ได้ทำการสอบถามลูกๆของพวกเขาว่า จะทำการดูแลลูกของพวกเขาให้เหมือนกับคนอื่นได้อย่างไร และหากลูกให้ความสนใจสิ่งต่างๆในแต่ละช่วงเวลา ก็จะมีการใช้ข้อมูลนี้ในการทำการวิจัย ทางด้านนักวิจัยก็ได้ทำการคำนวณดัชนีความเป็น Geek ของเด็กทุกๆคนที่อยู่ในงานวิจัย ผลที่ออกมาพบว่า ค่าดัชนีความเป็น Geek ที่มีคะแนนสูงสุดก็คือ ลูกที่มีพ่อเป็นผู้สูงอายุ ผลที่ออกมานี้ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มีการตรวจสอบสถานะทางสังคม/เศรษฐกิจของผู้ปกครองแล้ว ทั้งคุณสมบัติกับหน้าที่การงาน นอกจากนั้นแล้วพวกเขาพบว่า ลูกๆของพวกเขาที่เป็น ‘Geek’ จะทำคะแนนสอบได้ดีกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการสอบ STEM (วิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี,วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์) ซึ่งจะต้องใช้เวลาหลายปีในการทำการประเมินดัชนี Geek
Dr.Magdalena Janecka จากมหาวิทยาลัย King ลอนดอนและทำงานให้กับศูนย์วิจัยโรคออทิซึมได้กล่าวว่า : ‘งานวิจัยของพวกเราได้ชี้ว่า คุณพ่อสูงอายุยังมีข้อดีในการให้กำเนิดบุตรอยู่บ้าง พวกเรามักจะรู้เกี่ยวกับข้อเสียของผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้พวกเราได้เห็นแล้วว่า ลูกๆของพวกเขาอาจมีการศึกษาดีและมีความก้าวหน้าทางอาชีพการงานมากกว่า’
แม้ว่างานวิจัยจะไม่ได้มีการวิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางตรง แต่ก็มีเหตุผลที่ทำไมคุณพ่อผู้สูงอายุหลายคนมีแนวโน้มที่จะได้ลูกแบบ Geek ตัวอย่างเช่น คุณพ่อผู้สูงอายุหลายคนมีความเป็นไปได้ที่จะทำการประเมินอาชีพที่เหมาะสมกับลูกและมีสถานะเศรษฐกิจสังคมที่ดีกว่าตอนที่คุณพ่อยังหนุ่มแน่น หมายความว่าลูกๆของพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และมีโอกาสเข้าโรงเรียนที่ดีกว่า
ผลลัพธ์ต่างๆเหล่านี้ก็มีความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ปกครองที่มีอายุมากขึ้น,โรคออทิซึมและบุคลิกภาพที่มีแนวโน้มไปทาง ‘Geek’ แม้ว่านักวิจัยหลายคนจะไม่สามารถทำการประเมินได้ในทางตรง แต่พวกเขาก็สันนิษฐานว่า มียีนต์บางอย่างที่ทำให้เกิดบุคลิกแบบ Geek และทับซ้อนส่วนที่เป็นออทิซึม และยีนต์ต่างๆเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดจากคุณพ่อผู้สูงอายุมากกว่า ทางด้าน Dr.Janecka ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า : ‘เมื่อลูกได้เกิดมาพร้อมกับยีนต์เหล่านี้ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้ในโรงเรียน อย่างไรก็ตามหากมีปริมาณยีนต์ที่มากขึ้นและเมื่อเจอกับปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆเข้ามาด้วยแล้ว พวกเขาก็อาจมีแนวโน้มจบลงด้วยการเป็นโรคออทิซึม เรื่องนี้ก็มีการสนับสนุนจากงานวิจัยที่ได้ทำไม่นานมานี้ที่แสดงให้เห็นว่า ยีนต์ที่ทำให้เป็นออทิซึมก็ความเชื่อมโยงกับภาวะไอคิวที่สูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน’
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
คุณพ่อผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะได้ลูกชายแบบ “Geek”
จากการวิจัยจากมหาวิทยาลัย King ลอนดอนได้ชี้ว่า ลูกชายของพ่อที่เป็นผู้สูงอายุจะมีความฉลาดเฉลียวมาก มีการโฟกัสสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจมากกว่าและไม่ต่างอะไรกับบุคลิกภาพแบบ ‘Geek’ มากนัก
แม้ว่างานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่า เด็กที่มีพ่อผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูงต่อเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคออทิซึมหรือมีความผิดปกติทางจิต จากงานวิจัยใหม่ที่ได้มีการตีพิมพ์ใน Translational Psychiatry นี้ก็ชี้ว่า เด็กที่มีพ่อเป็นผู้สูงอายุอาจมีข้อได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆทั้งด้านการศึกษาและอาชีพการงาน
นักวิจัยหลายคนจากมหาวิทยาลัย King ลอนดอน และกับสถาบันการศึกษาวิจัยและการรักษาโรคออทิซึมที่โรงเรียนการแพทย์ในอเมริกาก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมและรวบรวมข้อมูลกระบวนการรับรู้ของฝาแฝดในประเทศอังกฤษจากสถาบัน TEDS
เมื่อฝาแฝดมีอายุได้ 12 ขวบ พวกเขาก็ได้ทำการทดสอบผ่านระบบออนไลน์โดยทำการประเมินแนวโน้มบุคลิกแบบ ‘Geek’ ซึ่งก็รวมไปถึงการทดสอบทาง IQ,การโฟกัสสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจและการอยู่โดดเดี่ยวทางสังคม ผู้ปกครองหลายคนก็ได้ทำการสอบถามลูกๆของพวกเขาว่า จะทำการดูแลลูกของพวกเขาให้เหมือนกับคนอื่นได้อย่างไร และหากลูกให้ความสนใจสิ่งต่างๆในแต่ละช่วงเวลา ก็จะมีการใช้ข้อมูลนี้ในการทำการวิจัย ทางด้านนักวิจัยก็ได้ทำการคำนวณดัชนีความเป็น Geek ของเด็กทุกๆคนที่อยู่ในงานวิจัย ผลที่ออกมาพบว่า ค่าดัชนีความเป็น Geek ที่มีคะแนนสูงสุดก็คือ ลูกที่มีพ่อเป็นผู้สูงอายุ ผลที่ออกมานี้ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มีการตรวจสอบสถานะทางสังคม/เศรษฐกิจของผู้ปกครองแล้ว ทั้งคุณสมบัติกับหน้าที่การงาน นอกจากนั้นแล้วพวกเขาพบว่า ลูกๆของพวกเขาที่เป็น ‘Geek’ จะทำคะแนนสอบได้ดีกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการสอบ STEM (วิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี,วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์) ซึ่งจะต้องใช้เวลาหลายปีในการทำการประเมินดัชนี Geek
Dr.Magdalena Janecka จากมหาวิทยาลัย King ลอนดอนและทำงานให้กับศูนย์วิจัยโรคออทิซึมได้กล่าวว่า : ‘งานวิจัยของพวกเราได้ชี้ว่า คุณพ่อสูงอายุยังมีข้อดีในการให้กำเนิดบุตรอยู่บ้าง พวกเรามักจะรู้เกี่ยวกับข้อเสียของผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้พวกเราได้เห็นแล้วว่า ลูกๆของพวกเขาอาจมีการศึกษาดีและมีความก้าวหน้าทางอาชีพการงานมากกว่า’
แม้ว่างานวิจัยจะไม่ได้มีการวิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางตรง แต่ก็มีเหตุผลที่ทำไมคุณพ่อผู้สูงอายุหลายคนมีแนวโน้มที่จะได้ลูกแบบ Geek ตัวอย่างเช่น คุณพ่อผู้สูงอายุหลายคนมีความเป็นไปได้ที่จะทำการประเมินอาชีพที่เหมาะสมกับลูกและมีสถานะเศรษฐกิจสังคมที่ดีกว่าตอนที่คุณพ่อยังหนุ่มแน่น หมายความว่าลูกๆของพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และมีโอกาสเข้าโรงเรียนที่ดีกว่า
ผลลัพธ์ต่างๆเหล่านี้ก็มีความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ปกครองที่มีอายุมากขึ้น,โรคออทิซึมและบุคลิกภาพที่มีแนวโน้มไปทาง ‘Geek’ แม้ว่านักวิจัยหลายคนจะไม่สามารถทำการประเมินได้ในทางตรง แต่พวกเขาก็สันนิษฐานว่า มียีนต์บางอย่างที่ทำให้เกิดบุคลิกแบบ Geek และทับซ้อนส่วนที่เป็นออทิซึม และยีนต์ต่างๆเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดจากคุณพ่อผู้สูงอายุมากกว่า ทางด้าน Dr.Janecka ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า : ‘เมื่อลูกได้เกิดมาพร้อมกับยีนต์เหล่านี้ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้ในโรงเรียน อย่างไรก็ตามหากมีปริมาณยีนต์ที่มากขึ้นและเมื่อเจอกับปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆเข้ามาด้วยแล้ว พวกเขาก็อาจมีแนวโน้มจบลงด้วยการเป็นโรคออทิซึม เรื่องนี้ก็มีการสนับสนุนจากงานวิจัยที่ได้ทำไม่นานมานี้ที่แสดงให้เห็นว่า ยีนต์ที่ทำให้เป็นออทิซึมก็ความเชื่อมโยงกับภาวะไอคิวที่สูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน’
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com