หลังจากที่ผ่านวันที่13ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันสวรรคตครบ1ปี ของในหลวงร.๙ เรามีความตั้งใจทำพระกระยาหารทรงโปรด เพื่อใส่บาตรให้ท่าน แต่เนื่องด้วยเดือนนี้ ยังคงเป็นเดือนตุลาคม และเป็นเดือนสุดท้ายที่พวกเราพสกนิกรชาวไทย จะได้ใกล้ชิดพระองค์ท่าน เราจึงตั้งใจต่อเนื่อง ที่จะทำเมนูพระกระยาหารทรงโปรด ใส่บาตรพระอย่างต่อเนื่อง
เรายังไม่ได้แพลนว่าครั้งนี้ จะทำกี่เมนู แต่เราจะทำเรื่อยๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่าน
รอบนี้ เราไม่ไปตลาด ไม่ทำทีเดียว เพราะไม่มีเวลา แต่อาศัยศึกษารวมรวบข้อมูล แล้วเลือกซื้อของจากตลาดนัดใกล้บ้านแทน ทำวันละเมนู ใส่บาตรเช้าที่หน้าหมู่บ้าน
น้ำพริกลงเรือ เราพยายามค้นหาตำหรับของ เจ้าจอม หม่อมราชวงศ์สดับ ซึ่งเป็นสูตรแต่โบราณ พยายามหาจากหลายๆที่ จึงเป็นที่มาของเมนูพระกระยาหารทรงโปรดนี้
เจ้าจอมสดับทรงเป็นเจ้าจอมในสมัยร.๕ ในขณะที่ร.๕ เสด็จสวรรคต เจ้าจอมมีอายุราวๆ20ปี และได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงแผ่นดินร.๙ เจ้าจอมเป็นผู้ที่มีศิลปะในการรับประทานอาหาร และสามารถทำอาหารได้เก่งมากๆ ชนิดที่เรียกได้ว่า หาตัวจับได้ยาก ทั้งคาว ทั้งหวาน ซึ่งท่านได้เรียนรู้มาจาก พระวิมาดาเธอ พระอรรคชายาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนั้นพระวิมาดาเธอ ทรงเป็นหัวหน้าห้องเครื่อง เวลาพูดถึงน้ำพริกลงเรือ เจ้าจอมสดับจะเรียกเพื่อเป็นยกย่องว่า เป็นสูตรของพระวิมาดาเธอ
ในสมัยในหลวงร.๙ พระองค์ท่านได้ให้เจ้าจอมสดับ กลับเข้ามาอยู่ในรั้ววังอีกครั้ง จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย93ปี ปีพศ.2526
น้ำพริกลงเรือ
ประกอบไปด้วย น้ำพริก และอาหารเคียง3อย่าง หมูหวาน ไข่แดงเค็มดิบ และปลาดุกฟู
เราเริ่มเตรียมเครื่องเคียงกันก่อน ไข่แดงตามตำราคือไข่เค็มดิบ แต่วันนี้ขออนุญาตใช้ไข่เค็มต้มสุก เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีค่ะ เลาะไข่ขาวออก ใช้แต่ไข่แดง
ต่อมาคือปลาดุกฟู นำปลาดุกย่างเกือบสุก มาสับแล้วยีให้ฟู คลุกขนมปังป่น ลงทอด ใช้ตะหลิวกดให้ปลาดุกจมน้ำมัน พอสุกจะลอยขึ้น สีเหลืองทองก็ค่อยๆช้อนขึ้น พักไว้ค่ะ
หมูหวาน อร่อยมาก หลังจากทำเสร็จเราแบ่งมาชิม นำหอมแดงสับ ในลงกระทะ เราใช้น้ำมันหมู ที่บ้านทำเอง ผัดหอมให้หอม ใส่สามชั้นหั่นไม่ใหญ่ น้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ กับน้ำปลา และซีอิ๊วดำ อย่าเยอะค่ะ ดำมากไม่น่าทาน เคี่ยวให้งวด จะได้หมูหวานรสดี หวาน เค็ม หอมฉุยทีเดียว
[CR] พระกระยาหารทรงโปรด ในหลวงร.๙ (ภาคต่อ)
เรายังไม่ได้แพลนว่าครั้งนี้ จะทำกี่เมนู แต่เราจะทำเรื่อยๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่าน
รอบนี้ เราไม่ไปตลาด ไม่ทำทีเดียว เพราะไม่มีเวลา แต่อาศัยศึกษารวมรวบข้อมูล แล้วเลือกซื้อของจากตลาดนัดใกล้บ้านแทน ทำวันละเมนู ใส่บาตรเช้าที่หน้าหมู่บ้าน
น้ำพริกลงเรือ เราพยายามค้นหาตำหรับของ เจ้าจอม หม่อมราชวงศ์สดับ ซึ่งเป็นสูตรแต่โบราณ พยายามหาจากหลายๆที่ จึงเป็นที่มาของเมนูพระกระยาหารทรงโปรดนี้
เจ้าจอมสดับทรงเป็นเจ้าจอมในสมัยร.๕ ในขณะที่ร.๕ เสด็จสวรรคต เจ้าจอมมีอายุราวๆ20ปี และได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงแผ่นดินร.๙ เจ้าจอมเป็นผู้ที่มีศิลปะในการรับประทานอาหาร และสามารถทำอาหารได้เก่งมากๆ ชนิดที่เรียกได้ว่า หาตัวจับได้ยาก ทั้งคาว ทั้งหวาน ซึ่งท่านได้เรียนรู้มาจาก พระวิมาดาเธอ พระอรรคชายาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนั้นพระวิมาดาเธอ ทรงเป็นหัวหน้าห้องเครื่อง เวลาพูดถึงน้ำพริกลงเรือ เจ้าจอมสดับจะเรียกเพื่อเป็นยกย่องว่า เป็นสูตรของพระวิมาดาเธอ
ในสมัยในหลวงร.๙ พระองค์ท่านได้ให้เจ้าจอมสดับ กลับเข้ามาอยู่ในรั้ววังอีกครั้ง จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย93ปี ปีพศ.2526
น้ำพริกลงเรือ
ประกอบไปด้วย น้ำพริก และอาหารเคียง3อย่าง หมูหวาน ไข่แดงเค็มดิบ และปลาดุกฟู
เราเริ่มเตรียมเครื่องเคียงกันก่อน ไข่แดงตามตำราคือไข่เค็มดิบ แต่วันนี้ขออนุญาตใช้ไข่เค็มต้มสุก เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีค่ะ เลาะไข่ขาวออก ใช้แต่ไข่แดง
ต่อมาคือปลาดุกฟู นำปลาดุกย่างเกือบสุก มาสับแล้วยีให้ฟู คลุกขนมปังป่น ลงทอด ใช้ตะหลิวกดให้ปลาดุกจมน้ำมัน พอสุกจะลอยขึ้น สีเหลืองทองก็ค่อยๆช้อนขึ้น พักไว้ค่ะ
หมูหวาน อร่อยมาก หลังจากทำเสร็จเราแบ่งมาชิม นำหอมแดงสับ ในลงกระทะ เราใช้น้ำมันหมู ที่บ้านทำเอง ผัดหอมให้หอม ใส่สามชั้นหั่นไม่ใหญ่ น้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ กับน้ำปลา และซีอิ๊วดำ อย่าเยอะค่ะ ดำมากไม่น่าทาน เคี่ยวให้งวด จะได้หมูหวานรสดี หวาน เค็ม หอมฉุยทีเดียว