สวัสดีครับทุกคน ><
ห่างหายกันไปนานเลยทีเดียว สำหรับการมาเยือนในพันทิป วันนี้ว่างๆเลยอยากจะมาเล่าเรื่องของบรรดา"สี่ยอดกุมาร" รวมทั้งอัพเดตชีวิตครอบครัวของพะโล้ซึ่งตอนนี้มีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยละครับ
ก่อนอื่นสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องราวครอบครัวของพะโล้สามารถเข้าไปกดดูได้ที่กระทู้ด้านล่างนี้เลยครับ
1.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู :
https://ppantip.com/topic/36168516
2.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู พะโล้ของพร่องงงงง :
https://ppantip.com/topic/36390427
3.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู เขียวหวานของพร่องงงง :
https://ppantip.com/topic/36490739
4.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู ฉงนหมาเลี้ยงหมู :
https://ppantip.com/topic/36538471
เอาละครับมาเข้าเรื่องกันได้เลย
อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีว่าลูกๆรอบแรกของเขียวหวานที่ยังอยู่ในความดูแลของพวกผมทุกวันนี้มีกันทั้งหมด 4 ตัว คือ ฟักทอง คะน้า กระเพรา และอีวัว วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลูกหมูทั้งสี่ให้เพิ่มขึ้นดีกว่าครับ
เริ่มจากตัวแรก ด.ญ.ฟักทอง สาวน้อยร่างใหญ่หัวใจตะมุตะมิ
ฟักทองเป็นผู้หญิงที่จะมีลักษณะพิเศษมากๆกว่าลูกหมูตัวอื่นๆก็คือจะมีลายด้านหลังที่ผิดแปลกจากลูกหมูที่เหลืออีก 9 ตัว
เป็นตัวแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ผมแยกออกและจำได้เพราะสังเกตดูจากลายบนตัว อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ฟักทองค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวอื่นๆนั่นก็คือ ฟักทองเป็นหมูที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่โตกว่าตัวอื่นๆ ใหญ่โดดเลยแหละครับ ทุกวันนี้ตัวจะเท่าแม่เขียวหวานอยู่แล้ว 555 สำหรับลายกลางหน้าผากของฟักทองนั้นจะมีสีขาวๆคล้ายๆสามเหลี่ยมแปะอยู่นั่นเอง
เรื่องเล่าที่มีต่อฟักทอง จำได้ว่าตอนฟักทองเป็นเด็ก ฟักทองคือตัวแรกเลยที่ผมตั้งใจจะเอาให้คนอื่นไปเลี้ยง เพราะตอนเด็กนั้นฟักทองขี้โวยวายมากจับต้องนิดหน่อยเป็นต้องแหกปากร้องลั่นทั่วบ้าน บางทีแค่ตั้งท่าจะเอื้อมมือไปแตะ ก็ร้องลั่นและวิ่งหนีไปไกลละ ตอนนั้นเลยคิดว่าถ้ามีใครมาถามซื้อหรือขอไปเลี้ยงนะ รับรองฟักทองไปก่อนแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทุกครั้งที่มีการติดต่อขอรับไปเลี้ยงฟักทอง คนๆนั้นมีอันต้องยกเลิกไปทุกที 3-4 ครั้งเห็นจะได้ พอยิ่งเวลาผ่านไปเหมือนความผูกพันมันเกิดขึ้น พอมีคนมาขอซื้อฟักทองกลายเป็นผมเองที่ไม่ยอมขายซะงั้น จนสุดท้ายฟักทองเลยได้ย้ายจากหมูเมืองกรุง มากลายเป็นหมูสาวที่บ้านนอกแทนนั่นเอง
หลังย้ายมาเมืองกรุง สาวน้อยร่างใหญ่ก็ต้องปรับตัวนิดนึง จนในที่สุดก็เริ่มกลมกลืนกับธรรมชาติ
เมื่อก่อนตอนเด็กๆจะจับอาบน้ำที แทบจะต้องใช้ที่ปิดหูป้องกันเสียงกรีดร้องของฟักทอง แต่เดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องเลยครับ แค่เปิดสายยางก็วิ่งมาหาทันที นอนนิ่งให้อาบน้ำฟอกสบู่ นิ่งแบบนิ่งมากๆ จนบางทีคิดว่าวิญญาณออกจากร่างของฟักทองไปแล้ว
บางทีก็นอนหลับขณะอาบน้ำอยู่ก็มีครับ
ความน่าสงสารอย่างหนึ่งของฟักทองนั่นก็คือ มักจะตกเป็นที่ระบายอารมณ์ของฉงนอยู่เสมอ อย่าเพิ่งคิดลึกกันไปนะครับ ในที่นี้หมายถึงมักจะถูกฉงนวิ่งไล่งับไล่เห่าบ่อยมาก ไล่ทีก็โวยวายทั้งหมาทั้งหมู แรกๆฟักทองก็ยอมเพราะไม่รู้จะสู้ยังไง แต่ถ้าวันไหนเป็นเมนส์ขึ้นมาวันนั้นถือว่าฉงนชะตาขาดเพราะฟักทองก็จะไล่งับฉงนคืนเหมือนกัน
ความสามารถพิเศษของฟักทองที่ตัวอื่นทำไม่ได้นั่นคือการนอนกินหญ้า 555
หรือจะเป็นความพยายามในการขโมยอาหารของตัวอื่น ฟักทองก็เป็นที่หนึ่งไม่แพ้ใครนะครับ
และนี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆของฟักทอง หนึ่งในสมาชิกหมู"สี่ยอดกุมาร" ยังไงเดี๋ยวไว้กลับมาต่ออีกสามตัวที่เหลือ รวมทั้งอัพเดตชีวิตของทุกตัวให้ฟังอีกทีนะครับ
เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : สี่ยอดกุมาร
ห่างหายกันไปนานเลยทีเดียว สำหรับการมาเยือนในพันทิป วันนี้ว่างๆเลยอยากจะมาเล่าเรื่องของบรรดา"สี่ยอดกุมาร" รวมทั้งอัพเดตชีวิตครอบครัวของพะโล้ซึ่งตอนนี้มีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยละครับ
ก่อนอื่นสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องราวครอบครัวของพะโล้สามารถเข้าไปกดดูได้ที่กระทู้ด้านล่างนี้เลยครับ
1.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : https://ppantip.com/topic/36168516
2.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู พะโล้ของพร่องงงงง : https://ppantip.com/topic/36390427
3.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู เขียวหวานของพร่องงงง : https://ppantip.com/topic/36490739
4.เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู ฉงนหมาเลี้ยงหมู : https://ppantip.com/topic/36538471
เอาละครับมาเข้าเรื่องกันได้เลย
อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีว่าลูกๆรอบแรกของเขียวหวานที่ยังอยู่ในความดูแลของพวกผมทุกวันนี้มีกันทั้งหมด 4 ตัว คือ ฟักทอง คะน้า กระเพรา และอีวัว วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลูกหมูทั้งสี่ให้เพิ่มขึ้นดีกว่าครับ
เริ่มจากตัวแรก ด.ญ.ฟักทอง สาวน้อยร่างใหญ่หัวใจตะมุตะมิ
ฟักทองเป็นผู้หญิงที่จะมีลักษณะพิเศษมากๆกว่าลูกหมูตัวอื่นๆก็คือจะมีลายด้านหลังที่ผิดแปลกจากลูกหมูที่เหลืออีก 9 ตัว
เป็นตัวแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ผมแยกออกและจำได้เพราะสังเกตดูจากลายบนตัว อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ฟักทองค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวอื่นๆนั่นก็คือ ฟักทองเป็นหมูที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่โตกว่าตัวอื่นๆ ใหญ่โดดเลยแหละครับ ทุกวันนี้ตัวจะเท่าแม่เขียวหวานอยู่แล้ว 555 สำหรับลายกลางหน้าผากของฟักทองนั้นจะมีสีขาวๆคล้ายๆสามเหลี่ยมแปะอยู่นั่นเอง
เรื่องเล่าที่มีต่อฟักทอง จำได้ว่าตอนฟักทองเป็นเด็ก ฟักทองคือตัวแรกเลยที่ผมตั้งใจจะเอาให้คนอื่นไปเลี้ยง เพราะตอนเด็กนั้นฟักทองขี้โวยวายมากจับต้องนิดหน่อยเป็นต้องแหกปากร้องลั่นทั่วบ้าน บางทีแค่ตั้งท่าจะเอื้อมมือไปแตะ ก็ร้องลั่นและวิ่งหนีไปไกลละ ตอนนั้นเลยคิดว่าถ้ามีใครมาถามซื้อหรือขอไปเลี้ยงนะ รับรองฟักทองไปก่อนแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทุกครั้งที่มีการติดต่อขอรับไปเลี้ยงฟักทอง คนๆนั้นมีอันต้องยกเลิกไปทุกที 3-4 ครั้งเห็นจะได้ พอยิ่งเวลาผ่านไปเหมือนความผูกพันมันเกิดขึ้น พอมีคนมาขอซื้อฟักทองกลายเป็นผมเองที่ไม่ยอมขายซะงั้น จนสุดท้ายฟักทองเลยได้ย้ายจากหมูเมืองกรุง มากลายเป็นหมูสาวที่บ้านนอกแทนนั่นเอง
หลังย้ายมาเมืองกรุง สาวน้อยร่างใหญ่ก็ต้องปรับตัวนิดนึง จนในที่สุดก็เริ่มกลมกลืนกับธรรมชาติ
เมื่อก่อนตอนเด็กๆจะจับอาบน้ำที แทบจะต้องใช้ที่ปิดหูป้องกันเสียงกรีดร้องของฟักทอง แต่เดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องเลยครับ แค่เปิดสายยางก็วิ่งมาหาทันที นอนนิ่งให้อาบน้ำฟอกสบู่ นิ่งแบบนิ่งมากๆ จนบางทีคิดว่าวิญญาณออกจากร่างของฟักทองไปแล้ว
บางทีก็นอนหลับขณะอาบน้ำอยู่ก็มีครับ
ความน่าสงสารอย่างหนึ่งของฟักทองนั่นก็คือ มักจะตกเป็นที่ระบายอารมณ์ของฉงนอยู่เสมอ อย่าเพิ่งคิดลึกกันไปนะครับ ในที่นี้หมายถึงมักจะถูกฉงนวิ่งไล่งับไล่เห่าบ่อยมาก ไล่ทีก็โวยวายทั้งหมาทั้งหมู แรกๆฟักทองก็ยอมเพราะไม่รู้จะสู้ยังไง แต่ถ้าวันไหนเป็นเมนส์ขึ้นมาวันนั้นถือว่าฉงนชะตาขาดเพราะฟักทองก็จะไล่งับฉงนคืนเหมือนกัน
ความสามารถพิเศษของฟักทองที่ตัวอื่นทำไม่ได้นั่นคือการนอนกินหญ้า 555
หรือจะเป็นความพยายามในการขโมยอาหารของตัวอื่น ฟักทองก็เป็นที่หนึ่งไม่แพ้ใครนะครับ
และนี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆของฟักทอง หนึ่งในสมาชิกหมู"สี่ยอดกุมาร" ยังไงเดี๋ยวไว้กลับมาต่ออีกสามตัวที่เหลือ รวมทั้งอัพเดตชีวิตของทุกตัวให้ฟังอีกทีนะครับ