สวัสดีอีกครั้งครับ ผมพร่องของพะโล้เองครับ จากกระทู้เก่าๆก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/36168516 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู
https://ppantip.com/topic/36390427 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : พะโล้ของพร่องงงงง
https://ppantip.com/topic/36490739 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : เขียวหวานของพร่องงงงง
********เพิ่มเติมเนื้อหาให้ยาวขึ้นนะครับ************
*******อ่านต่อที่ คห.38 , 54 และ 71 ครับ ************
วันนี้ก็เป็นกระทู้ที่บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหมูกระทู้ที่ 4 ละครับ ครั้งนี้พิเศษหน่อยตรงที่ไม่ใช่เรื่องราวของหมูโดยตรงแต่เป็นเรื่องราวของเจ้าตัวนี้ครับ
เจ้าตัวนี้ชื่อ "ฉงน" หน้าตาออกจะงงๆมึนๆเหมือนชื่อใช่เลยนะครับ
ฉงนเป็นหมาน่าจะไทยแท้เลยนะครับ ตัวสีน้ำตาล หน้ายาวๆ ผอมๆ ที่ลิ้นมีปานสีดำติดอยู่ และที่สำคัญคือมีหูตั้งข้างตกข้างครับ
อายุตอนนี้น่าจะประมาณ 1 ปี 6 เดือนครับ
เรื่องราวของฉงนย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วครับ พฤหัส ที่ 21 กรกฎาคม 2559
ช่วงนั้นผมทำละครเวทีอยู่เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า มอม เดอะ มิวสิคัล คิดว่าเรื่องมอมหลายๆคนน่าจะรู้จักกันนะครับ ถ้าใครไม่รู้จักลองหาข้อมูลในเน็ตได้เลยครับ
ผมตื่นมาไขประตูบ้านแล้วเห็นหมาตัวหนึ่งนอนอยู่หน้าประตูรั้ว ได้แต่คิดและก็สงสัยว่าเป็นหมาจากไหนทำไมไม่คุ้นหน้า จะว่าเป็นหมาที่จ้องจะไล่กัดพะโล้กับเขียวหวานก็ไม่ใช่ ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าเป็นหมาแถวนั้น พอดีที่ๆผมอยู่หมาค่อนข้างเยอะ เดินขึ้นไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ตามปกติ แต่เพิ่มเติมคือเจ้าหมาตัวนี้ดันเดินมาส่งขึ้นรถ จากนั้นก็ทำงานไปเรื่อยๆ จนบ่ายๆพี่ที่บ้านไลน์มาบอกว่ามีหมามานอนอยู่หน้าบ้านแล้วก็ส่งรูปมาให้ดู ตัวเดียวกันเด๊ะ ผอมๆ กระหร่องๆ เชื่องๆ และมีเห็บ
พี่ผมเป็นคนรักสัตว์มาก จัดแจงหาข้าวหาน้ำ พร้อมซื้อยากำจัดเห็บหมัดให้เรียบร้อย พอค่ำๆผมกลับบ้านก็เจอหมาตัวนี้มายืนรอกระดิกหางอยู่หน้าบ้านที่เดิมเป๊ะ ก็เลยแวะเล่นด้วย พอเข้าบ้านเลยเอาที่นอนมาวางไว้ให้เจ้าหมานอน พร้อมข้าวเย็น 5555 สักพักฝนดันตก ต้องวิ่งเอาร่มเอาผ้าใบไปกางให้อีก ตอนนั้นอยากเอาเข้าบ้านแต่ก็ติดตรงเกรงใจป๊าและกลัวเจ้าของเค้ามารับไปเลยทำใด้แค่ให้ข้าวกับที่นอนชั่วคราวแทน
พอเช้าออกไปทำงานก็ยังเจอเจ้าหมาตัวนี้นั่งกระดิกหางให้เหมือนเดิม และยังคงเดินไปส่งขึ้นมอไซค์เช่นเคย
บ่ายๆพี่ก็ไลน์มาบอกว่าลองพาหมาไปเจอหมู ปรากฎว่าหมาวิ่งหนีหมูเฉย
พอตกดึกเลยลองพาเข้าบ้านอีกครั้ง รอบนี้หมูๆอยู่ในกรง เจ้าหมาก็ดมๆกรงเป็นจังหวะเดียวกับที่เขียวหวานดมเจ้าหมาเหมือนกัน กลายเป็นหมูกะหมาจุ๊บกันซะงั้น 5555
จนวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สามที่เจ้าหมามานอนหน้าบ้าน ตอนเช้ากำลังจะออกไปทำงานเหมือนเดิมแต่วันนี้ออกไปพร้อมป๊า พอเปิดประตูบ้านให้เจ้าหมาก็กระโจนเข้ามาหา พร้อมทั้งแสดงความเชื่องความแสนรู้ที่มีทั้งหมด ป๊าบอกหมาน่าตาตลก ดูผอมๆไม่น่าจะค่อยได้กินข้าว บอกให้พาไปอาบน้ำหาข้าวหาน้ำแล้วพามาเลี้ยงได้ ตอนนั้นดีใจมาก อยากรีบเลิกงานแล้วมาเล่นกับเจ้าหมา อันนี้เป็นรูปวันที่พอเปิดประตูบ้านแล้วเจ้าหมากระโจนเข้ามาหา
ภารกิจแรกที่มาถึงคือจะตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่าอะไรดี คิดไว้ 3-4 ชื่อเท่ห์ๆทั้งนั้น แต่พอมองหน้าเจ้าหมาดีๆหูตกข้างตั้งข้างหน้าตาดูมึนๆงงๆเลยตัดสินใจว่าให้ชื่อ.."ฉงน"ครับ
ต่อมาก็คือพาไปฉีดวัคซีน และให้หมอช่วยตรวจร่างกาย หมอบอกว่าเจ้าหมาตัวนี้ตอนนั้นอายุได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว สภาพตอนพาไปหาหมอนั้นเรียบร้อยเชียว นั่งนิ่งไม่หือไม่อือ ต่างกับตอนอยู่บ้านลิบลับ
หลังจากนั้นก็เริ่มสร้างความคุ้นเคยให้ฉงนหมาผู้มาอยู่ใหม่ ผูกมิตรกับพะโล้และเขียวหวานผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ แรกๆแอบกลัวว่าฉงนจะเผลอกัดพะโล้และเขียวหวานเพราะนึกว่าเป็นอาหารหรือเปล่า แต่เปล่าเลยทันทีที่ปล่อยให้เจอหน้ากันปุ๊ป ฉงนก็วิ่งหนีไปที่อื่นทันที
แต่พอปล่อยให้อยู่ด้วยกันบ่อยๆ ฉงนเองก็ไม่ค่อยจะกลัวเวลาหมูทั้งสองวิ่งเข้ามาหาแล้ว จะมีก็แต่ต้องคอยคาบจานข้าวหนี เพราะพอพะโล้กับเขียวหวานได้ออกมาเดินเล่น สิ่งแรกที่จะมุ่งตรงไปหาคือจานข้าวของฉงนนั่นเอง
พะโล้กับเขียวหวานเป็นหมูที่ชอบอาบน้ำมาก ต่างจากฉงน เวลาจับมาอาบน้ำจะวิ่งหนีรอบบ้าน แต่พออาบน้ำหมูละชอบมาด้อมๆมองๆ บางทีเอาเท้าไปเขี่ยตอนพวกหมูกำลังอาบน้ำด้วยนะครับ
.
.
.
ต่อนะครับ
.
.
.
ช่วงที่รับฉงนเข้ามาเลี้ยงใหม่ๆ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขียวหวานกำลังตั้งท้องอยู่ จึงมักเห็นฉงนชอบเดินตามเขียวหวานตลอดเวลา เวลาเขียวอยู่ไหน หงนก็มักจะอยู่ที่นั่น
อาจเป็นเพราะเขียวหวานไม่ดุ และก็ไม่เคยหงุดหงิดใส่ หงนเลยค่อนข้างที่จะชอบอยู่กับเขียวหวานมากกว่า
ในขณะที่กับพะโล้นั้น เนื่องด้วยพะโล้เป็นหมูที่ถูกสปอยมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยจะสุงสิงกับสิ่งมีชีวิตอื่นใด
และค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ดังนั้นเมื่อเจอหมาที่คึกตลอดเวลาอย่างฉงน เลยชอบฟึดฟัดและเดินหนีไป
แต่ถึงอย่างนั้นพะโล้ก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉงนเลยสักครั้ง
ดังนั้นฉงนจึงต้องหาวิธีเรียกร้องความสนใจจากพะโล้บ้างเป็นครั้งคราว
ตั้งแต่รับเลี้ยงฉงนมา ถ้าไม่นับเรื่องกินยาก ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก จะมีก็แต่เรื่องการออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้วไม่ยอมกลับมาง่ายๆ ครั้งแรกเกิดตอนรับเลี้ยงฉงนได้เพียง 3-4 วัน
วันนั้นพี่เล่าว่า ฉงนแอบบวิ่งออกไปตอนเปิดประตูบ้านให้ป๊า วิ่งหายไปทางหน้าปากซอย ขับรถตามหาทั้งวันก็ไม่พบ ตอนนั้นอยู่ออฟฟิศเป็นห่วงมากกลัวจะโดนจับไปบ้างแหละ กลัวโดนหมาที่อื่นรุมบ้าง ดังนั้นพอเลิกงานจึงรีบกลับเข้าบ้านทันที ขับมอเตอร์ไซค์ตามหาตากตรอกซอกซอยทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบ ตอนนั้นใจเสียมาก เลยคิดว่าจะกลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน ระหว่างที่กำลังจอดรถไว้หน้าบ้าน มองไปตรงหัวโค้งหน้าปากซอย เห็นฉงนวิ่งหูตั้งเข้ามาหา สภาพอยู่ดีสมบูรณ์แต่ดูหิวๆ ตอนนั้นดีใจมากจัดการหาข้าวหาน้ำให้กิน ดุไปนิดหน่อย ไม่รู้ฉงนจะเข้าใจหรือเปล่า ตอนนั้นเลยได้แต่กำชับกันว่าให้ระวังเวลาเปิดประตูดีๆ
้
ครั้งที่สอง วันนั้นผมและพี่กลับมาบ้านพร้อมไส้กรอกของโปรดฉงน พอกลับมาถึงพบว่ามีแต่หมู ฉงนหายไปอีกแล้ว ผมกับพี่เลยต้องแยกกันไปตามหาดีหน่อยที่ยังเป็นช่วงเย็นเลยตามหาง่าย สักพักพี่โทรมาบอกว่าเจอฉงนแล้ว แต่เรียกยังไงฉงนก็ยังไม่ยอมกลับ ให้มาช่วยเรียกหน่อย พอไปถึงพบว่าฉงนเป็นหนุ่มแล้วกำลังติดพันธ์หมาสาวแถวนั้นเรียกยังไงก็ไม่ยอมมา หมามีความรักนี่ก็เยอะเหมือนกันนะครับ 5555 เลยต้องเล่นบทโหดอุ้มหงนออกมาเลย สภาพของหงนเลยเป็นแบบนี้
คราวนี้เหมือนเดิม บ่นหงนตั้งแต่แถวหมาสาวอยู่จนถึงบ้าน หงนก็ร้องหงิงๆอย่างเดียว เข้าใจหรือไม่เข้าใจไม่รู้ 5555
จากเหตุการณ์ครั้งที่สองนี้ ความรัดกุมในการดูหงนจึงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
หลังจากเหตุการณ์วันที่หงนติดสาว หงนก็ไม่เคยหายออกไปนอกบ้านเลย ส่วนใหญ่ก็จะใช้ชีวิตกับคนในบ้านและหมูเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าหมูทำอะไรหงนก็จะมีส่วนร่วมอยู่เสมอ เช่น
ถ้าอาบน้ำเขียวหวาน ถึงแม้หงนจะเกลียดการอาบน้ำเพียงใด แต่พอเห็นตัวอื่นอาบอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม หากพอถึงตาตัวเองจะต้องอาบ โน้นนนน วิ่งไล่จับตั้งนาน 5555 หรือจะเป็น
เวลาก้มลงทำความสะอาดหูหมู ก็จะคอยมาสอดส่องดูแลอยู่เสมอ เรียกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหงนพร้อมมีส่วนร่วมตลอด
นอกจากนี้นั้น เรื่องเห่าสิ่งมีชีวิตต่างๆหงนไม่เคยทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์ หมอ เพื่อนบ้าน แมว ตัวเงินตัวทอง ตะขาบ ตุ๊กแก เป็นต้น
ตอนนั้นเลยคิดว่า ไหนๆหงนก็ทำหน้าที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของทุกคน(เว้นดูแลตัวหงนเอง)เลยตัดสินใจว่า ถ้าลูกหมูเกิด จะพามาแนะนำให้หงนรู้จัก หงนจะได้ช่วยดูแลลูกหมูนั่นเอง
ความสัมพันธ์ของฉงนและลูกหมูจะเป็นยังไง ตามต่อได้พาร์ทต่อไปนะครับ
เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : ฉงนหมาเลี้ยงหมู
https://ppantip.com/topic/36168516 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู
https://ppantip.com/topic/36390427 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : พะโล้ของพร่องงงงง
https://ppantip.com/topic/36490739 ----->เรื่องเล่าของคนเลี้ยงหมู : เขียวหวานของพร่องงงงง
********เพิ่มเติมเนื้อหาให้ยาวขึ้นนะครับ************
*******อ่านต่อที่ คห.38 , 54 และ 71 ครับ ************
วันนี้ก็เป็นกระทู้ที่บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหมูกระทู้ที่ 4 ละครับ ครั้งนี้พิเศษหน่อยตรงที่ไม่ใช่เรื่องราวของหมูโดยตรงแต่เป็นเรื่องราวของเจ้าตัวนี้ครับ
เจ้าตัวนี้ชื่อ "ฉงน" หน้าตาออกจะงงๆมึนๆเหมือนชื่อใช่เลยนะครับ
ฉงนเป็นหมาน่าจะไทยแท้เลยนะครับ ตัวสีน้ำตาล หน้ายาวๆ ผอมๆ ที่ลิ้นมีปานสีดำติดอยู่ และที่สำคัญคือมีหูตั้งข้างตกข้างครับ
อายุตอนนี้น่าจะประมาณ 1 ปี 6 เดือนครับ
เรื่องราวของฉงนย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วครับ พฤหัส ที่ 21 กรกฎาคม 2559
ช่วงนั้นผมทำละครเวทีอยู่เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า มอม เดอะ มิวสิคัล คิดว่าเรื่องมอมหลายๆคนน่าจะรู้จักกันนะครับ ถ้าใครไม่รู้จักลองหาข้อมูลในเน็ตได้เลยครับ
ผมตื่นมาไขประตูบ้านแล้วเห็นหมาตัวหนึ่งนอนอยู่หน้าประตูรั้ว ได้แต่คิดและก็สงสัยว่าเป็นหมาจากไหนทำไมไม่คุ้นหน้า จะว่าเป็นหมาที่จ้องจะไล่กัดพะโล้กับเขียวหวานก็ไม่ใช่ ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าเป็นหมาแถวนั้น พอดีที่ๆผมอยู่หมาค่อนข้างเยอะ เดินขึ้นไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ตามปกติ แต่เพิ่มเติมคือเจ้าหมาตัวนี้ดันเดินมาส่งขึ้นรถ จากนั้นก็ทำงานไปเรื่อยๆ จนบ่ายๆพี่ที่บ้านไลน์มาบอกว่ามีหมามานอนอยู่หน้าบ้านแล้วก็ส่งรูปมาให้ดู ตัวเดียวกันเด๊ะ ผอมๆ กระหร่องๆ เชื่องๆ และมีเห็บ
พี่ผมเป็นคนรักสัตว์มาก จัดแจงหาข้าวหาน้ำ พร้อมซื้อยากำจัดเห็บหมัดให้เรียบร้อย พอค่ำๆผมกลับบ้านก็เจอหมาตัวนี้มายืนรอกระดิกหางอยู่หน้าบ้านที่เดิมเป๊ะ ก็เลยแวะเล่นด้วย พอเข้าบ้านเลยเอาที่นอนมาวางไว้ให้เจ้าหมานอน พร้อมข้าวเย็น 5555 สักพักฝนดันตก ต้องวิ่งเอาร่มเอาผ้าใบไปกางให้อีก ตอนนั้นอยากเอาเข้าบ้านแต่ก็ติดตรงเกรงใจป๊าและกลัวเจ้าของเค้ามารับไปเลยทำใด้แค่ให้ข้าวกับที่นอนชั่วคราวแทน
พอเช้าออกไปทำงานก็ยังเจอเจ้าหมาตัวนี้นั่งกระดิกหางให้เหมือนเดิม และยังคงเดินไปส่งขึ้นมอไซค์เช่นเคย
บ่ายๆพี่ก็ไลน์มาบอกว่าลองพาหมาไปเจอหมู ปรากฎว่าหมาวิ่งหนีหมูเฉย
พอตกดึกเลยลองพาเข้าบ้านอีกครั้ง รอบนี้หมูๆอยู่ในกรง เจ้าหมาก็ดมๆกรงเป็นจังหวะเดียวกับที่เขียวหวานดมเจ้าหมาเหมือนกัน กลายเป็นหมูกะหมาจุ๊บกันซะงั้น 5555
จนวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สามที่เจ้าหมามานอนหน้าบ้าน ตอนเช้ากำลังจะออกไปทำงานเหมือนเดิมแต่วันนี้ออกไปพร้อมป๊า พอเปิดประตูบ้านให้เจ้าหมาก็กระโจนเข้ามาหา พร้อมทั้งแสดงความเชื่องความแสนรู้ที่มีทั้งหมด ป๊าบอกหมาน่าตาตลก ดูผอมๆไม่น่าจะค่อยได้กินข้าว บอกให้พาไปอาบน้ำหาข้าวหาน้ำแล้วพามาเลี้ยงได้ ตอนนั้นดีใจมาก อยากรีบเลิกงานแล้วมาเล่นกับเจ้าหมา อันนี้เป็นรูปวันที่พอเปิดประตูบ้านแล้วเจ้าหมากระโจนเข้ามาหา
ภารกิจแรกที่มาถึงคือจะตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่าอะไรดี คิดไว้ 3-4 ชื่อเท่ห์ๆทั้งนั้น แต่พอมองหน้าเจ้าหมาดีๆหูตกข้างตั้งข้างหน้าตาดูมึนๆงงๆเลยตัดสินใจว่าให้ชื่อ.."ฉงน"ครับ
ต่อมาก็คือพาไปฉีดวัคซีน และให้หมอช่วยตรวจร่างกาย หมอบอกว่าเจ้าหมาตัวนี้ตอนนั้นอายุได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว สภาพตอนพาไปหาหมอนั้นเรียบร้อยเชียว นั่งนิ่งไม่หือไม่อือ ต่างกับตอนอยู่บ้านลิบลับ
หลังจากนั้นก็เริ่มสร้างความคุ้นเคยให้ฉงนหมาผู้มาอยู่ใหม่ ผูกมิตรกับพะโล้และเขียวหวานผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ แรกๆแอบกลัวว่าฉงนจะเผลอกัดพะโล้และเขียวหวานเพราะนึกว่าเป็นอาหารหรือเปล่า แต่เปล่าเลยทันทีที่ปล่อยให้เจอหน้ากันปุ๊ป ฉงนก็วิ่งหนีไปที่อื่นทันที
แต่พอปล่อยให้อยู่ด้วยกันบ่อยๆ ฉงนเองก็ไม่ค่อยจะกลัวเวลาหมูทั้งสองวิ่งเข้ามาหาแล้ว จะมีก็แต่ต้องคอยคาบจานข้าวหนี เพราะพอพะโล้กับเขียวหวานได้ออกมาเดินเล่น สิ่งแรกที่จะมุ่งตรงไปหาคือจานข้าวของฉงนนั่นเอง
พะโล้กับเขียวหวานเป็นหมูที่ชอบอาบน้ำมาก ต่างจากฉงน เวลาจับมาอาบน้ำจะวิ่งหนีรอบบ้าน แต่พออาบน้ำหมูละชอบมาด้อมๆมองๆ บางทีเอาเท้าไปเขี่ยตอนพวกหมูกำลังอาบน้ำด้วยนะครับ
.
.
.
ต่อนะครับ
.
.
.
ช่วงที่รับฉงนเข้ามาเลี้ยงใหม่ๆ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขียวหวานกำลังตั้งท้องอยู่ จึงมักเห็นฉงนชอบเดินตามเขียวหวานตลอดเวลา เวลาเขียวอยู่ไหน หงนก็มักจะอยู่ที่นั่น
อาจเป็นเพราะเขียวหวานไม่ดุ และก็ไม่เคยหงุดหงิดใส่ หงนเลยค่อนข้างที่จะชอบอยู่กับเขียวหวานมากกว่า
ในขณะที่กับพะโล้นั้น เนื่องด้วยพะโล้เป็นหมูที่ถูกสปอยมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยจะสุงสิงกับสิ่งมีชีวิตอื่นใด
และค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ดังนั้นเมื่อเจอหมาที่คึกตลอดเวลาอย่างฉงน เลยชอบฟึดฟัดและเดินหนีไป
แต่ถึงอย่างนั้นพะโล้ก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉงนเลยสักครั้ง
ดังนั้นฉงนจึงต้องหาวิธีเรียกร้องความสนใจจากพะโล้บ้างเป็นครั้งคราว
ตั้งแต่รับเลี้ยงฉงนมา ถ้าไม่นับเรื่องกินยาก ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก จะมีก็แต่เรื่องการออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้วไม่ยอมกลับมาง่ายๆ ครั้งแรกเกิดตอนรับเลี้ยงฉงนได้เพียง 3-4 วัน
วันนั้นพี่เล่าว่า ฉงนแอบบวิ่งออกไปตอนเปิดประตูบ้านให้ป๊า วิ่งหายไปทางหน้าปากซอย ขับรถตามหาทั้งวันก็ไม่พบ ตอนนั้นอยู่ออฟฟิศเป็นห่วงมากกลัวจะโดนจับไปบ้างแหละ กลัวโดนหมาที่อื่นรุมบ้าง ดังนั้นพอเลิกงานจึงรีบกลับเข้าบ้านทันที ขับมอเตอร์ไซค์ตามหาตากตรอกซอกซอยทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบ ตอนนั้นใจเสียมาก เลยคิดว่าจะกลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน ระหว่างที่กำลังจอดรถไว้หน้าบ้าน มองไปตรงหัวโค้งหน้าปากซอย เห็นฉงนวิ่งหูตั้งเข้ามาหา สภาพอยู่ดีสมบูรณ์แต่ดูหิวๆ ตอนนั้นดีใจมากจัดการหาข้าวหาน้ำให้กิน ดุไปนิดหน่อย ไม่รู้ฉงนจะเข้าใจหรือเปล่า ตอนนั้นเลยได้แต่กำชับกันว่าให้ระวังเวลาเปิดประตูดีๆ
้
ครั้งที่สอง วันนั้นผมและพี่กลับมาบ้านพร้อมไส้กรอกของโปรดฉงน พอกลับมาถึงพบว่ามีแต่หมู ฉงนหายไปอีกแล้ว ผมกับพี่เลยต้องแยกกันไปตามหาดีหน่อยที่ยังเป็นช่วงเย็นเลยตามหาง่าย สักพักพี่โทรมาบอกว่าเจอฉงนแล้ว แต่เรียกยังไงฉงนก็ยังไม่ยอมกลับ ให้มาช่วยเรียกหน่อย พอไปถึงพบว่าฉงนเป็นหนุ่มแล้วกำลังติดพันธ์หมาสาวแถวนั้นเรียกยังไงก็ไม่ยอมมา หมามีความรักนี่ก็เยอะเหมือนกันนะครับ 5555 เลยต้องเล่นบทโหดอุ้มหงนออกมาเลย สภาพของหงนเลยเป็นแบบนี้
คราวนี้เหมือนเดิม บ่นหงนตั้งแต่แถวหมาสาวอยู่จนถึงบ้าน หงนก็ร้องหงิงๆอย่างเดียว เข้าใจหรือไม่เข้าใจไม่รู้ 5555
จากเหตุการณ์ครั้งที่สองนี้ ความรัดกุมในการดูหงนจึงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
หลังจากเหตุการณ์วันที่หงนติดสาว หงนก็ไม่เคยหายออกไปนอกบ้านเลย ส่วนใหญ่ก็จะใช้ชีวิตกับคนในบ้านและหมูเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าหมูทำอะไรหงนก็จะมีส่วนร่วมอยู่เสมอ เช่น
ถ้าอาบน้ำเขียวหวาน ถึงแม้หงนจะเกลียดการอาบน้ำเพียงใด แต่พอเห็นตัวอื่นอาบอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม หากพอถึงตาตัวเองจะต้องอาบ โน้นนนน วิ่งไล่จับตั้งนาน 5555 หรือจะเป็น
เวลาก้มลงทำความสะอาดหูหมู ก็จะคอยมาสอดส่องดูแลอยู่เสมอ เรียกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหงนพร้อมมีส่วนร่วมตลอด
นอกจากนี้นั้น เรื่องเห่าสิ่งมีชีวิตต่างๆหงนไม่เคยทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์ หมอ เพื่อนบ้าน แมว ตัวเงินตัวทอง ตะขาบ ตุ๊กแก เป็นต้น
ตอนนั้นเลยคิดว่า ไหนๆหงนก็ทำหน้าที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของทุกคน(เว้นดูแลตัวหงนเอง)เลยตัดสินใจว่า ถ้าลูกหมูเกิด จะพามาแนะนำให้หงนรู้จัก หงนจะได้ช่วยดูแลลูกหมูนั่นเอง
ความสัมพันธ์ของฉงนและลูกหมูจะเป็นยังไง ตามต่อได้พาร์ทต่อไปนะครับ