[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. คนทุกคน เมื่อลอกผิวกายออกแล้ว เนื้อจะแดงชุ่มเลือดเหมือนๆกันหมด แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
ว่าแต่เดิมคนๆนั้นจะเคยเป็นคนผิวขาว หรือว่าเคยเป็นคนผิวดำ หรือว่าเคยเป็นคนผมทอง หรือจะเคยเป็นคนผมสีอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะมีรูปกายสวยงามปานนางฟ้าหรือเทพบุตรเพียงใด แต่เมื่อลอกผิวกายออกมาแล้ว เนื้อจะแดงชุ่มเลือดเหมือนๆกันหมด (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. จริงๆแล้วคนเราทุกคน ล้วนมี "
ขี้" อยู่ในท้องกันหมดทุกคน แม้แต่ในขณะที่คุณกับผมคุยกันอยู่นี้
คนทุกคนมีขี้ขดตัวอยู่ในลำไส้ ที่เน่าบูด เหม็นอยู่ในท้อง พร้อมที่จะขับถ่ายออกมาเมื่อถึงเวลา
(
ขี้มันไม่ได้อยู่ภายนอกตัวเรา ความจริงแล้วขี้มันมีอยู่ภายในร่างกายของเราอยู่แล้วตลอดเวลา และมันก็เน่าเหม็นตั้งแต่อยู่ในท้องของเราแล้ว)
เพียงแต่เรามีผิวกายของเราปกปิดความเน่าเหม็นของมันเอาไว้ ไม่ให้แสดงความเน่าเหม็นของมันออกมาชั่วคราว
เพราะฉนั้นคนทุกคน จึงไม่มีคนไหนที่ไม่มีขี้นอนขดอยู่ในท้อง และขี้เหล่านั้นมันก็เน่าเหม็นอยู่ภายใน พร้อมที่จะขับถ่ายออกมาเมื่อถึงวาระของมัน
เพราะฉนั้นคนทุกคน จึงเสมือนแบกเอาของเน่าเหม็นนี้ติดตัวไปทุกคน ทุกที่-ทุกเวลา เอาขี้ติดตัวไปทุกแห่งหน เปรียบเสมือนส้วมที่เคลื่อนที่ได้
ไม่เว้นแม้แต่นางงามจักรวาล หรือแม้แต่ดาวมหาลัยคนสวย ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็จะพกพาเอาขี้ติดตัวอยู่ในท้องไปด้วยเสมอ
เพราะฉนั้นไม่ว่าจะมีคนสวยแค่ไหนเดินผ่านมา ก็จะมีของเน่าเหม็นแบบนี้อยู่ในตัวทุกคนร่ำไป (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ร่างกายของคนเราเปรียบเสมือนถุงหนังที่บรรจุอุจจาระและปัสสาวะ และสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย ที่มันซึมไหลออกมาเหม็นเปื้อนอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็น เหงื่อ, ไคล, น้ำลาย, เลือด, น้ำเหลือง, น้ำหนอง, ปัสสาวะ, และอุจจาระ ที่คุณรังเกียจนั้น "
ความจริงมันอยู่ในตัวของคุณอยู่แล้วตลอดเวลา"
ของเหล่านี้มันไม่ได้ออกมาภายนอกร่างกายของคุณแล้วค่อยสกปรก แต่ความจริงมันสกปรกมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ภายในร่างกายของคุณแล้ว
(
ความสกปรกนี้มันไม่ได้อยู่นอกตัวคุณ แต่มันสกปรกอยู่ภายในร่างกายของคุณมีพร้อมอยู่แล้ว) (
ตลอดเวลาเสียด้วย)
สิ่งปฏิกูลสกปรกเหล่านี้ มันอัดแน่นบรรจุอยู่ภายในกายของคุณจนเต็ม แค่สะกิดผิวหนังให้เปิด ความสกปรกก็จะไหลทะลักซึมออกมาจากรอยแผลนั้น
และสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ มันก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของคุณ และก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของคนอื่นๆทุกๆคน เหมือนๆกันหมดด้วย
สิ่งปฏิกูลสกปรกทั้งหลายที่ออกมาจากร่างกายของคนทุกคนนี้ ล้วนไม่มีใครต้องการมัน แต่มันก็หลั่งไหลออกมาไม่หยุด จากช่องทวารทั่วตัวของคุณ
หนักหน่อยก็ออกมาเป็นก้อน เบาหน่อยก็ไหลออกมาเป็นน้ำ เบาสุดก็ซึมออกมาทางรูขุมขน เป็นสิ่งปฏิกูลที่เหนียวเหนอะเน่าเหม็นทั้งสิ้น
น้ำลายของคุณ เมื่อคุณถ่มออกมาแล้ว คุณก็ไม่อยากที่จะดูดกลืนมันกลับเข้าไปอีก ทั้งๆที่มันก็เพิ่งจะออกมาจากตัวคุณ
และคนทุกคนเป็นเช่นนี้กันหมด (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. คนทุกคนถ้าไม่ได้อาบน้ำแค่ 3 วัน ทั้งเหงื่อและขี้ไคลก็จะไหลออกมาพอกตามตัว เหนอะหนะส่งกลิ่นเหม็นโชยน่ารังเกียจ(
ขี้ไคลเคลือบดั่งเมือกปลา)
ผิวกายก็เหม็น ปากก็เหม็น ลมหายใจก็เหม็น ผมก็เหม็นเกรอะกรัง ช่องทางขับของเสียต่างๆทั่วตัว ก็จะมีขี้ทั้งหลายออกมาพอกตัวอยู่
คุณจะไม่ทำความสะอาดร่างกายของคุณก็ไม่ได้ เพราะโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมันจะมารุมเร้ากัดกินคุณ ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดมัน
ร่างสังขารของคนทุกคนจึงอยู่ในสภาวะที่เร่งเร้าตลอดเวลา เคลื่อนไปหาความเสื่อมดับในทุกวินาที
มีความเสื่อมเกิดขึ้นในทุกอณู-ทุกอะตอมของร่างกาย ที่จิตของคุณพำนักพักอาศัยอยู่
คุณจะต้องดิ้นรน-ซ่อมแซม ประคับ-ประคอง ร่างสังขารนี้ตลอดชั่วอายุขัยของคุณ "
อย่างปฏิเสธไม่ได้" (แบกมันไว้ตลอดชีวิต)
เจ็บก็ต้องทน ปวดก็ต้องทน หิวก็ต้องหา และ "
ไม่สามารถที่จะยกความเจ็บปวดให้กับผู้อื่นได้" จนตาย (
ความเจ็บปวดเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว)
(จริงๆแล้วเวลาเราเจ็บ เรารู้สึกเจ็บอยู่แต่เพียงผู้เดียว ความรู้สึกเจ็บปวดใดๆที่เกิดขึ้นภายในกายเรา มีแต่เราเท่านั้นที่รับรู้ได้แต่เพียงผู้เดียว)
(เราไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อ หรือถ่ายเทความรู้สึกเจ็บปวดภายในกายของเรานี้ ออกไปให้ผู้อื่นรับรู้ เหมือนที่เรารับรู้ได้)
(หรือไม่มีผู้ใดที่จะสามารถช่วยแบ่งปันความรู้สึกเจ็บปวดภายในกายของเรานี้ ให้ลดทอนน้อยลงไปได้)
(
ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานจากร่างกายเรา เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่มีแต่เราเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้สึกได้ ไม่ว่าใครก็มาช่วยแบ่งปันให้มันลดลงไปไม่ได้)
ถ้ามันเสื่อมก็เจ็บปวด และต้องดิ้นรนหาปัจจัยมาเพื่อรักษา แต่สุดท้ายก็ไม่หายขาด ต้องขาดใจตายทุกคน
(ร่างสังขารของคนทุกคน จึงไม่สมควรที่จะไปยึดถือ เพราะเน่าสลายกลายเป็นน้ำเหลืองไปหมดทุกคน และเป็นเหตุแห่งทุกข์ที่ไม่รู้จักจบสิ้น)
(ตราบใดที่ยังพอใจในร่างกายของตนเองอยู่ และยังพอใจในร่างกายของผู้อื่นอยู่ ตราบนั้นก็จะทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น)
ชีวิตของคนเราจึงเปรียบเสมือนหนูถีบจักรที่ไม่มีวันหยุด จะต้องดิ้นรนแบกสังขารไปจนกว่าจะตาย และคนทุกคนเป็นเช่นนี้กันหมด (ไม่มียกเว้น)
(และถ้าคุณมีคู่ ก็เท่ากับคุณมีภาระในการดูแลขันธ์(หรือร่างกาย) เป็นสองเท่า คุณจึงต้องทุกข์เป็นสองเท่าทวีคูณ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทความนี้เป็นบทความสำหรับการพิจารณาตัดละร่างกาย ตามหลัก กายคตานุสสติกรรมฐาน + อสุภกรรมฐาน + มรณานุสสติกรรมฐาน
คนที่จะตัดละร่างกายได้นั้น จะต้องเห็นโทษของการมีร่างกาย ซึ่งเป็นอารมณ์กรรมฐานที่พระอรหันต์ทุกองค์จะต้องผ่าน
ถ้าไม่เห็นโทษของร่างกายแล้ว จิตของคุณย่อมที่จะตัดละร่างกายไม่ได้ คุณย่อมไม่อาจที่จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไปได้
ยิ่งคุณมีอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้นเท่าใด คุณก็จะยิ่งมีความเสื่อมถอยของร่างกายมากขึ้นเท่านั้น คุณก็จะยิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บที่เพิ่มมากขึ้น เป็นเงาตามตัว
คุณก็จะมีอาการเจ็บป่วยที่ เพิ่มมากขึ้น-หนักขึ้น-ถี่ขึ้น-บ่อยขึ้น รุมเร้าบีบเค้นทรมานคุณ (จนตาย)
คุณจะรู้สึกว่าร่างกายของคุณเริ่มที่จะเสื่อมถอยใช้งานไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทีละจุด ทีละอย่าง ทีละอวัยวะ ตามอายุขัยของคุณที่เพิ่มขึ้น
มีเงื่อนไขและข้อจำกัดของร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุ ตามโรคภัยไข้เจ็บที่คุณมี "อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" (เป็นอย่างนี้กันทุกคน)
คุณจะเคลื่อนไหวได้น้อยลง ความคล่องตัวน้อยลง เรี่ยวแรงจะน้อยลง แต่ความทุกข์ทรมานกลับมีเพิ่มมากขึ้น เหนื่อยง่ายขึ้น หายใจไม่เต็มอิ่ม
คุณจะรู้สึกเหมือนโดนบีบบังคับ ถูกจับขังอยู่ภายในร่างกายที่ใช้ไม่ได้ ไปพร้อมๆกับมีความรู้สึกเจ็บปวดทรมานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆไปพร้อมๆกัน
(เป็นทุกข์อย่างยิ่ง และเป็นความทุกข์ที่คนทุกคนจะต้องได้รับแน่นอน)
เพราะฉนั้น ร่างกายของคนทุกคนจึงล้วนสกปรก มีการเสื่อมถอย ชำรุด-ทรุดโทรม มีโรคร้ายต่างๆเกิดขึ้นภายในกาย ทำให้เจ็บปวดทรมานอยู่ภายใน
ร่างกายของคนทุกคน "จึงเป็นทุกข์และเป็นโทษ" และเป็นภัยอันใหญ่หลวงของคนทุกคน
_________________________________________________________________________________________________________
ผู้เขียน : พุทธา palungjitman@hotmail.co.th
บทความเรื่อง "ร่างกายของคนทุกคน เป็นของสกปรก" (ปีที่3)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. คนทุกคน เมื่อลอกผิวกายออกแล้ว เนื้อจะแดงชุ่มเลือดเหมือนๆกันหมด แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
ว่าแต่เดิมคนๆนั้นจะเคยเป็นคนผิวขาว หรือว่าเคยเป็นคนผิวดำ หรือว่าเคยเป็นคนผมทอง หรือจะเคยเป็นคนผมสีอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะมีรูปกายสวยงามปานนางฟ้าหรือเทพบุตรเพียงใด แต่เมื่อลอกผิวกายออกมาแล้ว เนื้อจะแดงชุ่มเลือดเหมือนๆกันหมด (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. จริงๆแล้วคนเราทุกคน ล้วนมี "ขี้" อยู่ในท้องกันหมดทุกคน แม้แต่ในขณะที่คุณกับผมคุยกันอยู่นี้
คนทุกคนมีขี้ขดตัวอยู่ในลำไส้ ที่เน่าบูด เหม็นอยู่ในท้อง พร้อมที่จะขับถ่ายออกมาเมื่อถึงเวลา
(ขี้มันไม่ได้อยู่ภายนอกตัวเรา ความจริงแล้วขี้มันมีอยู่ภายในร่างกายของเราอยู่แล้วตลอดเวลา และมันก็เน่าเหม็นตั้งแต่อยู่ในท้องของเราแล้ว)
เพียงแต่เรามีผิวกายของเราปกปิดความเน่าเหม็นของมันเอาไว้ ไม่ให้แสดงความเน่าเหม็นของมันออกมาชั่วคราว
เพราะฉนั้นคนทุกคน จึงไม่มีคนไหนที่ไม่มีขี้นอนขดอยู่ในท้อง และขี้เหล่านั้นมันก็เน่าเหม็นอยู่ภายใน พร้อมที่จะขับถ่ายออกมาเมื่อถึงวาระของมัน
เพราะฉนั้นคนทุกคน จึงเสมือนแบกเอาของเน่าเหม็นนี้ติดตัวไปทุกคน ทุกที่-ทุกเวลา เอาขี้ติดตัวไปทุกแห่งหน เปรียบเสมือนส้วมที่เคลื่อนที่ได้
ไม่เว้นแม้แต่นางงามจักรวาล หรือแม้แต่ดาวมหาลัยคนสวย ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็จะพกพาเอาขี้ติดตัวอยู่ในท้องไปด้วยเสมอ
เพราะฉนั้นไม่ว่าจะมีคนสวยแค่ไหนเดินผ่านมา ก็จะมีของเน่าเหม็นแบบนี้อยู่ในตัวทุกคนร่ำไป (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ร่างกายของคนเราเปรียบเสมือนถุงหนังที่บรรจุอุจจาระและปัสสาวะ และสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย ที่มันซึมไหลออกมาเหม็นเปื้อนอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็น เหงื่อ, ไคล, น้ำลาย, เลือด, น้ำเหลือง, น้ำหนอง, ปัสสาวะ, และอุจจาระ ที่คุณรังเกียจนั้น "ความจริงมันอยู่ในตัวของคุณอยู่แล้วตลอดเวลา"
ของเหล่านี้มันไม่ได้ออกมาภายนอกร่างกายของคุณแล้วค่อยสกปรก แต่ความจริงมันสกปรกมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ภายในร่างกายของคุณแล้ว
(ความสกปรกนี้มันไม่ได้อยู่นอกตัวคุณ แต่มันสกปรกอยู่ภายในร่างกายของคุณมีพร้อมอยู่แล้ว) (ตลอดเวลาเสียด้วย)
สิ่งปฏิกูลสกปรกเหล่านี้ มันอัดแน่นบรรจุอยู่ภายในกายของคุณจนเต็ม แค่สะกิดผิวหนังให้เปิด ความสกปรกก็จะไหลทะลักซึมออกมาจากรอยแผลนั้น
และสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ มันก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของคุณ และก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของคนอื่นๆทุกๆคน เหมือนๆกันหมดด้วย
สิ่งปฏิกูลสกปรกทั้งหลายที่ออกมาจากร่างกายของคนทุกคนนี้ ล้วนไม่มีใครต้องการมัน แต่มันก็หลั่งไหลออกมาไม่หยุด จากช่องทวารทั่วตัวของคุณ
หนักหน่อยก็ออกมาเป็นก้อน เบาหน่อยก็ไหลออกมาเป็นน้ำ เบาสุดก็ซึมออกมาทางรูขุมขน เป็นสิ่งปฏิกูลที่เหนียวเหนอะเน่าเหม็นทั้งสิ้น
น้ำลายของคุณ เมื่อคุณถ่มออกมาแล้ว คุณก็ไม่อยากที่จะดูดกลืนมันกลับเข้าไปอีก ทั้งๆที่มันก็เพิ่งจะออกมาจากตัวคุณ
และคนทุกคนเป็นเช่นนี้กันหมด (ไม่มียกเว้น)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. คนทุกคนถ้าไม่ได้อาบน้ำแค่ 3 วัน ทั้งเหงื่อและขี้ไคลก็จะไหลออกมาพอกตามตัว เหนอะหนะส่งกลิ่นเหม็นโชยน่ารังเกียจ(ขี้ไคลเคลือบดั่งเมือกปลา)
ผิวกายก็เหม็น ปากก็เหม็น ลมหายใจก็เหม็น ผมก็เหม็นเกรอะกรัง ช่องทางขับของเสียต่างๆทั่วตัว ก็จะมีขี้ทั้งหลายออกมาพอกตัวอยู่
คุณจะไม่ทำความสะอาดร่างกายของคุณก็ไม่ได้ เพราะโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมันจะมารุมเร้ากัดกินคุณ ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดมัน
ร่างสังขารของคนทุกคนจึงอยู่ในสภาวะที่เร่งเร้าตลอดเวลา เคลื่อนไปหาความเสื่อมดับในทุกวินาที
มีความเสื่อมเกิดขึ้นในทุกอณู-ทุกอะตอมของร่างกาย ที่จิตของคุณพำนักพักอาศัยอยู่
คุณจะต้องดิ้นรน-ซ่อมแซม ประคับ-ประคอง ร่างสังขารนี้ตลอดชั่วอายุขัยของคุณ "อย่างปฏิเสธไม่ได้" (แบกมันไว้ตลอดชีวิต)
เจ็บก็ต้องทน ปวดก็ต้องทน หิวก็ต้องหา และ "ไม่สามารถที่จะยกความเจ็บปวดให้กับผู้อื่นได้" จนตาย (ความเจ็บปวดเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว)
(จริงๆแล้วเวลาเราเจ็บ เรารู้สึกเจ็บอยู่แต่เพียงผู้เดียว ความรู้สึกเจ็บปวดใดๆที่เกิดขึ้นภายในกายเรา มีแต่เราเท่านั้นที่รับรู้ได้แต่เพียงผู้เดียว)
(เราไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อ หรือถ่ายเทความรู้สึกเจ็บปวดภายในกายของเรานี้ ออกไปให้ผู้อื่นรับรู้ เหมือนที่เรารับรู้ได้)
(หรือไม่มีผู้ใดที่จะสามารถช่วยแบ่งปันความรู้สึกเจ็บปวดภายในกายของเรานี้ ให้ลดทอนน้อยลงไปได้)
(ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานจากร่างกายเรา เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่มีแต่เราเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้สึกได้ ไม่ว่าใครก็มาช่วยแบ่งปันให้มันลดลงไปไม่ได้)
ถ้ามันเสื่อมก็เจ็บปวด และต้องดิ้นรนหาปัจจัยมาเพื่อรักษา แต่สุดท้ายก็ไม่หายขาด ต้องขาดใจตายทุกคน
(ร่างสังขารของคนทุกคน จึงไม่สมควรที่จะไปยึดถือ เพราะเน่าสลายกลายเป็นน้ำเหลืองไปหมดทุกคน และเป็นเหตุแห่งทุกข์ที่ไม่รู้จักจบสิ้น)
(ตราบใดที่ยังพอใจในร่างกายของตนเองอยู่ และยังพอใจในร่างกายของผู้อื่นอยู่ ตราบนั้นก็จะทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น)
ชีวิตของคนเราจึงเปรียบเสมือนหนูถีบจักรที่ไม่มีวันหยุด จะต้องดิ้นรนแบกสังขารไปจนกว่าจะตาย และคนทุกคนเป็นเช่นนี้กันหมด (ไม่มียกเว้น)
(และถ้าคุณมีคู่ ก็เท่ากับคุณมีภาระในการดูแลขันธ์(หรือร่างกาย) เป็นสองเท่า คุณจึงต้องทุกข์เป็นสองเท่าทวีคูณ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_________________________________________________________________________________________________________
ผู้เขียน : พุทธา palungjitman@hotmail.co.th