ปราสาทอัปสร ตอนที่ ๖
https://ppantip.com/topic/36795939
ตอนที่ ๗ อดีตกาล
คเชนทร์ลืมตาตื่นขึ้นในเวลาตีห้าครึ่ง เขากลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ปากและคอแห้งผาก ผิวกายชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลประหนึ่งว่าเพิ่งวิ่งหรือออกกำลังมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง หันมองไปนอกมุ้งทางหน้าต่างจึงเห็นแสงตะวันเป็นสีเทาซีดจาง ได้ยินเสียงไก่ขันอยู่ไกลๆ
“ตื่นแล้วเหรอครับ... ผมก็เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่เอง ออกไปล้างหน้าล้างตาเสียสิครับ พรานแกกำลังนึ่งข้าวเหนียวร้อนๆ ทำต้มไก่ให้เราทานมื้อเช้านี้ กลิ่นหอมโชยเข้ามาถึงในนี้” เสียงของธงศักดิ์ดังขึ้นข้างที่นอนชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะรื้อมุ้งขึ้นและรวบเก็บอย่างเรียบร้อย คเชนทร์ส่งยิ้มทักทาย เก็บที่นอนหมอนผ้าห่มให้เข้าที่ก่อนลุกขึ้น
“ฝันดีมั้ยครับเมื่อคืน คุณเองก็ดื่มหนักใช่เล่นเหมือนกันนะ” ธงศักดิ์เย้าเสียงหวาน คเชนทร์เอามือทุบท้ายทอยหนักๆ สองครั้งเพื่อไล่อาการมึนหัวที่ยังติดค้าง
”ก็ฝันไปตามประสาแหละครับ” คเชนทร์บอกปัด ก่อนฉวยเอาผ้าเช็ดตัวและขันน้ำใส่เครื่องอาบน้ำเดินจากไป ทั้งคณะใช้เวลาอาบน้ำอาบท่าจนกระทั่งถึงเวลาแปดโมงเช้าภรรยาของนายพรานทองดำจึงจัดสำรับกับข้าวไว้ให้ทั้งหมด
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมนะเมฆา” นายมานพผู้เป็นเพื่อนสนิทของชัชชัยหันไปถามผู้เป็นหลานชายซึ่งกำลังสำรวจข้าวของในเป้ใบใหญ่ คเชนทร์กระชับกระเป๋าเป้ของตนให้เข้าที่ เดินมารวมกับคณะที่เตรียมนั่งรถกระบะเข้าไปยังชายป่าด้านใน ครั้นเมื่อทุกอย่างพร้อม รถกระบะจึงเคลื่อนออกจากลานหน้าบ้านของนายพรานทองดำ
ถนนหนทางที่มุ่งเข้าสู่ชายป่านั้นขรุขระและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ เมื่อพ้นท้องทุ่งนาเขียวขจีไปแล้วสองข้างทางก็ถูกแทนที่ด้วยแมกไม้เขียวครึ้มที่ขึ้นแน่นขนาบเส้นทางเล็กๆ ตลอดเวลาการเดินทางนั้นหัวใจของคเชนทร์เฝ้าแต่ครวญคิดถึงเหตุการณ์ในความฝันเมื่อคืนนี้ หัวใจเขาสลดเศร้าหลังลืมตาตื่นขึ้น สีหน้าอันเจ็บปวดทุกข์ทรมานของเจ้าหญิงศรีสิขเรศยังคงติดตรึงอยู่ในห้วงคำนึง พระนางสิ้นใจตายเพราะถูกลอบวางยาพิษ เหล่าทหารองครักษ์ต่างกรูกันออกตามหาผู้กระทำความผิด พระศพถูกเคลื่อนย้ายกลับวังหลวงโดยเร็วที่สุด แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้นเล่า? เกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครกันที่กล้าปองร้ายองค์หญิงของกษัตริย์ แล้วจับผู้กระทำผิดได้หรือไม่... ผู้กระทำผิดคนนั้นเป็นใคร ?
รถกระบะจอดลงที่ตีนเขาลูกหนึ่ง ธงศักดิ์ เมฆา พร้อมกับ นายมิ่งผู้เป็นลูกชายของพรานทองดำและลูกหาบอีกสามคน ค่อยๆ ทยอยกันเดินลงมาจากหลังกระบะรถในขณะที่คนที่โดยสารอยู่ภายในรถเปิดประตูลงมา
พรานทองดำเดินไปหยิบเอาใบไม้บนพื้น นำธูปเทียนออกมาจากย่ามที่สะพายพร้อมสุราหนึ่งขวด จากนั้นจึงจุดธูปเทียนพร้อมบริกรรมคาถา ทุกร่างยืนสงบนิ่งไม่ไหวติง รอจนกระทั่งพิธีนั้นเสร็จสิ้นและร่างของพรานผู้นำทางหันมาเอ่ยสั่งเสียงขรึม
“จากนี้ไปเราจะเดินข้ามเขาสองลูก คิดว่ากินเวลาไม่เกินเที่ยง จากนั้นจึงจะหยุดพัก ระหว่างเดินทางห้ามแยกออกจากกลุ่มโดยพลการ หากเกิดพลัดหลงให้อยู่กับที่ อย่าออกเดินไปไหน หรือไม่ก็จุดไฟให้สัญญาณควัน ผมจะเป็นคนนำทางเข้าไป ส่วนเจ้ามิ่งลูกชายพร้อมกับลูกหาบอีกสามคนจะคอยรั้งท้ายไว้” ทุกคนพยักหน้ารับคำสั่งของนายพรานทองดำ คเชนทร์สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ จ้องมองยอดเขาสูงตระหง่านเบื้องหน้าอันยิ่งใหญ่ตระการตา จิตใจรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังย้อนไปในวันวารที่ล่วงเลย ความรู้สึกผูกพันรักใคร่และสมเพชเวทนาอันอาดูรก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในหัวใจโดยไม่รู้ตัว
ปราสาทอัปสร ตอนที่ ๗
https://ppantip.com/topic/36795939
คเชนทร์ลืมตาตื่นขึ้นในเวลาตีห้าครึ่ง เขากลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ปากและคอแห้งผาก ผิวกายชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลประหนึ่งว่าเพิ่งวิ่งหรือออกกำลังมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง หันมองไปนอกมุ้งทางหน้าต่างจึงเห็นแสงตะวันเป็นสีเทาซีดจาง ได้ยินเสียงไก่ขันอยู่ไกลๆ
“ตื่นแล้วเหรอครับ... ผมก็เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่เอง ออกไปล้างหน้าล้างตาเสียสิครับ พรานแกกำลังนึ่งข้าวเหนียวร้อนๆ ทำต้มไก่ให้เราทานมื้อเช้านี้ กลิ่นหอมโชยเข้ามาถึงในนี้” เสียงของธงศักดิ์ดังขึ้นข้างที่นอนชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะรื้อมุ้งขึ้นและรวบเก็บอย่างเรียบร้อย คเชนทร์ส่งยิ้มทักทาย เก็บที่นอนหมอนผ้าห่มให้เข้าที่ก่อนลุกขึ้น
“ฝันดีมั้ยครับเมื่อคืน คุณเองก็ดื่มหนักใช่เล่นเหมือนกันนะ” ธงศักดิ์เย้าเสียงหวาน คเชนทร์เอามือทุบท้ายทอยหนักๆ สองครั้งเพื่อไล่อาการมึนหัวที่ยังติดค้าง
”ก็ฝันไปตามประสาแหละครับ” คเชนทร์บอกปัด ก่อนฉวยเอาผ้าเช็ดตัวและขันน้ำใส่เครื่องอาบน้ำเดินจากไป ทั้งคณะใช้เวลาอาบน้ำอาบท่าจนกระทั่งถึงเวลาแปดโมงเช้าภรรยาของนายพรานทองดำจึงจัดสำรับกับข้าวไว้ให้ทั้งหมด
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมนะเมฆา” นายมานพผู้เป็นเพื่อนสนิทของชัชชัยหันไปถามผู้เป็นหลานชายซึ่งกำลังสำรวจข้าวของในเป้ใบใหญ่ คเชนทร์กระชับกระเป๋าเป้ของตนให้เข้าที่ เดินมารวมกับคณะที่เตรียมนั่งรถกระบะเข้าไปยังชายป่าด้านใน ครั้นเมื่อทุกอย่างพร้อม รถกระบะจึงเคลื่อนออกจากลานหน้าบ้านของนายพรานทองดำ
ถนนหนทางที่มุ่งเข้าสู่ชายป่านั้นขรุขระและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ เมื่อพ้นท้องทุ่งนาเขียวขจีไปแล้วสองข้างทางก็ถูกแทนที่ด้วยแมกไม้เขียวครึ้มที่ขึ้นแน่นขนาบเส้นทางเล็กๆ ตลอดเวลาการเดินทางนั้นหัวใจของคเชนทร์เฝ้าแต่ครวญคิดถึงเหตุการณ์ในความฝันเมื่อคืนนี้ หัวใจเขาสลดเศร้าหลังลืมตาตื่นขึ้น สีหน้าอันเจ็บปวดทุกข์ทรมานของเจ้าหญิงศรีสิขเรศยังคงติดตรึงอยู่ในห้วงคำนึง พระนางสิ้นใจตายเพราะถูกลอบวางยาพิษ เหล่าทหารองครักษ์ต่างกรูกันออกตามหาผู้กระทำความผิด พระศพถูกเคลื่อนย้ายกลับวังหลวงโดยเร็วที่สุด แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้นเล่า? เกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครกันที่กล้าปองร้ายองค์หญิงของกษัตริย์ แล้วจับผู้กระทำผิดได้หรือไม่... ผู้กระทำผิดคนนั้นเป็นใคร ?
รถกระบะจอดลงที่ตีนเขาลูกหนึ่ง ธงศักดิ์ เมฆา พร้อมกับ นายมิ่งผู้เป็นลูกชายของพรานทองดำและลูกหาบอีกสามคน ค่อยๆ ทยอยกันเดินลงมาจากหลังกระบะรถในขณะที่คนที่โดยสารอยู่ภายในรถเปิดประตูลงมา
พรานทองดำเดินไปหยิบเอาใบไม้บนพื้น นำธูปเทียนออกมาจากย่ามที่สะพายพร้อมสุราหนึ่งขวด จากนั้นจึงจุดธูปเทียนพร้อมบริกรรมคาถา ทุกร่างยืนสงบนิ่งไม่ไหวติง รอจนกระทั่งพิธีนั้นเสร็จสิ้นและร่างของพรานผู้นำทางหันมาเอ่ยสั่งเสียงขรึม
“จากนี้ไปเราจะเดินข้ามเขาสองลูก คิดว่ากินเวลาไม่เกินเที่ยง จากนั้นจึงจะหยุดพัก ระหว่างเดินทางห้ามแยกออกจากกลุ่มโดยพลการ หากเกิดพลัดหลงให้อยู่กับที่ อย่าออกเดินไปไหน หรือไม่ก็จุดไฟให้สัญญาณควัน ผมจะเป็นคนนำทางเข้าไป ส่วนเจ้ามิ่งลูกชายพร้อมกับลูกหาบอีกสามคนจะคอยรั้งท้ายไว้” ทุกคนพยักหน้ารับคำสั่งของนายพรานทองดำ คเชนทร์สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ จ้องมองยอดเขาสูงตระหง่านเบื้องหน้าอันยิ่งใหญ่ตระการตา จิตใจรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังย้อนไปในวันวารที่ล่วงเลย ความรู้สึกผูกพันรักใคร่และสมเพชเวทนาอันอาดูรก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในหัวใจโดยไม่รู้ตัว