ปราสาทอัปสร ตอนที่ ๑๓

กระทู้สนทนา
ปราสาทอัปสร ตอนที่ ๑๒
https://ppantip.com/topic/36880777





ตอนที่ ๑๓ หลุดพ้น



              เมื่อกลับมาถึงแค้มป์บรรยากาศกลับเงียบสงัดวังเวง ไร้เงาของกลุ่มผู้สำรวจ แสงอาทิตย์ยามบ่ายสามโมงเริ่มซีดจางเมื่อถูกเมฆดำเข้ามาบดบังพร้อมกับลมฝนที่ก่อตัวอีกครั้ง คเชนทร์สัมผัสได้ถึงอณูอันน่ากลัวที่ปะปนอยู่ในอากาศเบื้องหน้าขณะทอดสายตามองไปรอบๆ ปราสาท ในขณะที่พรานทองดำเดินไปยังเต็นท์ทั้งสามหลังเพื่อเปิดดูสมาชิกที่เหลือ แต่ก็ไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียว

“อาจารย์ดำรง คุณคาวี คุณธงศักดิ์ คุณมานพและคุณเมฆา และลูกน้องของคาวีอีกสามคน...หายไปไหนกันหมด” คงยศอุทานด้วยความตกใจ ก่อนที่พิมพ์อัปสรจะเหลือบไปเห็นร่างของเมฆาที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ มีเถาวัลย์แข็งแรงพันรัดรอบต้นคอ และปลายผูกไว้กับกิ่งใหญ่ของต้นไม้สูง ใบหน้าเขียวคล้ำ ดวงตาเหลือกถลนและลิ้นจุกปาก คล้ายกำลังจ้องมองทั้งกลุ่มที่ยืนอยู่เบื้องล่าง

กรี๊ดดดดด...

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ทั้งหมดต้องหันมายังเธอ พิมพ์อัปสรชี้ไม้ชี้มือไปที่ต้นไม้ด้านหลังแค้มป์ ทุกร่างจึงผงะถอยด้วยความตกใจ

“คุณเมฆา...” คเชนทร์อุทานเสียงหลงด้วยความตกใจ ทุกร่างต่างมองด้วยความกลัวไม่ต่างกัน นายพรานทองดำพร้อมกับนายมิ่งรีบและลูกหาบอีกหนึ่งคนรีบวิ่งกันสำรวจโดยรอบปราสาทเผื่ออาจพบเจอคนอื่นอีก

“นี่คนของคุณรึเปล่าครับ...” เสียงของนายพรานทองดำที่ดังขึ้นข้างบรรณาลัยทำให้ทุกร่างต้องรีบวิ่งไปยังพรานสูงวัย ครั้นเมื่อไปถึงจึงเบิกตาค้างด้วยความตกใจ ร่างของรองศาสตราจารย์ดำรงนอนจมกองเลือด ส่วนกระโหลกแตกยุบจนสมองไหลออกมากองข้างศีรษะ มีหินใหญ่ก้อนหนึ่งเปื้อนคราบเลือดวางอยู่ข้างๆ

“โถ่...ใครกันนะที่ทำกับอาจารย์ได้แบบนี้” คงยศอุทานเสียงแผ่วด้วยความเสียใจ ก่อนที่นายมิ่งจะวิ่งกลับมาบอกว่าพบศพของมานพนอนตายอยู่ด้านหลังปราสาทในสภาพไม่ต่างจากรองศาสตราจารย์ดำรง

ทั้งกลุ่มนั่งปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดหลังช่วยกันขนร่างไร้วิญญาณของทั้งหมดไปรวมกับศพอีกสามศพก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีคนตายไปแล้วหกคน...

“คาวีกับลูกน้องเขาทั้งสามคนหายไป พร้อมกับ...คุณธงศักดิ์” นายมิ่งสรุป ดวงตาระเรื่อด้วยความหวาดเกรง ก่อนที่คเชนทร์จะฉุดคิดถึงบางอย่างในปราสาท เขาลุกพรวดขึ้นและทำท่าจะเดินเข้าไปในปราสาทก่อนที่คงยศจะดึงแขนไว้

“ไอ้เชน...แกจะไปไหนวะ คุณธงศักดิ์เคยบอกข้าว่ามีวิญญาณนางอัปสรสิงสถิตอยู่ในนั้น”

“ข้าก็จะเข้าไปหาพวกเธอไง ข้ากลัวว่า...”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเขาไม่ทำอะไรคเชนทร์หรอก พิมพ์จะเข้าไปเป็นเพื่อนเอง” พิมพ์อัปสรยืนขึ้น คำพูดของเธอทำให้คงยศและปิ่นสุดาต้องอ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อสองหนุ่มสาวจับมือกันหมายจะเดินเข้าไปในปราสาท ธงศักดิ์ก็ตะโกนร้องมาที่ชายป่า

“เดี๋ยวก่อนครับ...” ทุกร่างหันขวับมาตามเสียงนั้น ก่อนที่ธงศักดิ์จะเดินเข้ามาหาทั้งกลุ่มในสภาพสะบักสะบอม นายมิ่งและคงยศเข้าไปประคองร่างเขาที่จวนจะล้ม ผู้ที่เพิ่งมาถึงมองไปที่คเชนทร์และพิมพ์อัปสร

“ในนั้นมีเทวรูปนางอัปสราสามนาง และตอนนี้...พวกคนของคุณก็ตัดเอาเศียรนางอัปสรา และขโมยเอาเครื่องประดับพวกนางไปจนหมด” ธงศักดิ์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ หลังวิ่งหนีมาไกลเกือบกิโลฯ ทั้งหมดจ้องหน้าเขาด้วยความตกใจโดยเฉพาะคเชนทร์

“คนของผม...” คงยศลากเสียงค้าง ก่อนที่หัวใจจะเต้นระรัวขึ้นมา

“นายคาวีและลูกน้องอีกสามคน ขโมยเอาสมบัติในปราสาทและฆ่าทุกคน ผมหนีรอดมาได้ เลยกลับมาที่นี่เพราะคิดว่ายังไงพวกคุณก็ต้องกลับมา” ธงศักดิ์บอกเสียงสั่น ก่อนที่คเชนทร์จะตัดสินใจหันหลังหนีและวิ่งเข้าไปในปราสาท

“เชน...” พิมพ์อัปสรร้องเรียกคนรัก ก่อนวิ่งเขาไปในปราสาทอีกคน ครั้นเมื่อทั้งคู่เข้ามาพ้นกรอบประตูจึงได้พบกับเทวรูปนางอัปสราทั้งสามที่ปราศจากเครื่องประดับ ศีรษะของเทวรูปทั้งสามนางถูกตัดออก คเชนทร์กำมือแน่นด้วยความขุ่นแค้น ในขณะที่พิมพ์อัปสรระบายลมหายใจด้วยความไม่สบายใจ

“เชน...ศิลานั่น...อ่านตอนนี้ไม่ได้เหรอ?” คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มต้องหันกลับมามองด้วยสายตาเสียดาย คเชนทร์หยิบศิลาจารึกในเป้ออกมาถือไว้ ก่อนจ้องมองเทวรูปนางอัปสราที่ปราศจากศีรษะ

“พวกนางทั้งสามถูกสาปวิญญาณให้เฝ้าปราสาทนี้ ภายในเทวรูปตรงหน้า แต่ศีรษะพวกนางถูกตัดไปแบบนี้ ถึงอ่านศิลาจารึกนี่ก็คงไม่มีประโยชน์” คเชนทร์ก้มหน้าลงต่ำ ก่อนที่พิมพ์อัปสรจะเข้าไปจับแขนเขาไว้

“พิมพ์เชื่อว่า...เรื่องทุกอย่างต้องจบลงด้วยดีค่ะ” จบคำพูดพิมพ์อัปสรเสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัด ทั้งคู่สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนที่คเชนทร์จะผลักกายคนรักให้ไปยืนอยู่เบื้องหลัง เขาค่อยๆ ก้าวขาไปเกาะขอบประตูและมองออกไปเบื้องนอก จึงเห็นทั้งกลุ่มทรุดนั่งลงกับพื้นและชูสองมือขึ้นเหนือศีรษะ เบื้องหน้าของทั้งหมดคือคาวีและกลุ่มลูกน้องที่ถือปืนไว้ในมือและจ่อปลายกระบอกปืนไปที่กลุ่มเพื่อนของเขา

ธงศักดิ์ที่ทำสีหน้าตระหนกตกใจเปลี่ยนเป็นเผยยิ้มอย่างพอใจ เขาตะโกนร้องให้คเชนทร์และพิมพ์อัปสรออกมาจากปราสาท มิเช่นนั้นเพื่อนร่วมทางของพวกเขาจะถูกปลิดชีวิต

“ไอ้ธงศักดิ์...” นายมิ่งกำมือแน่น เมื่อรู้ว่าตนถูกหลอกจากคนที่หักหลังทรยศตรงหน้า ไอ้ธงศักดิ์มันกลับไปเข้ากับคาวีได้ยังไง เพียงแค่ความโลภก็ทำให้คนเปลี่ยนไปเป็นปีศาจได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ?

คเชนทร์ตัดสินใจเดินออกมาเมื่อเรื่องมันจวนตัวแล้ว พิมพ์อัปสรก้าวขาตามออกมาด้วยความกลัว ครั้นเมื่อทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าปราสาท ท้องฟ้าเบื้องบนก็เริ่มมืดครึ้มด้วยเมฆดำพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่ถูกเงาของพระจันทร์กลืนกินทีละนิด

“สุริยคราส...” คงยศเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลมปริศนาพัดกรรโชกเข้ามาใส่ทุกร่างหน้าปราสาท ทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่คณะของคาวีที่กลายเป็นโจรร้ายต่างหันซ้ายมองขวาด้วยความตื่นตระหนก ในขณะที่นายพรานทองดำเริ่มบริกรรมคาถา ลูกน้องของนายคาวีคนหนึ่งลั่นไกใส่พรานสูงวัย ก่อนที่กระสุนจะหยุดค้างอยู่กลางอากาศและตกลงพื้น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่