JJNY : บันนังสตาระอุ!│สส.ปชน.เปิดพิรุธพิพาทเขากระโดง│หุ้นไทยเปิดตลาด ร่วงแรง│จีนประกาศภาษีชุดใหม่ กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์

บันนังสตาระอุ! ลอบยิงทหารพรานจุดจรยุทธ์ “จ่า” บาดเจ็บ
https://www.isranews.org/article/south-news/documentary/133371-shootrangers.html
 
 
ลอบยิงทหารพรานชุดจรยุทธ์หลังโรงเรียนในบันนังสตา กระสุนถูกหัวไหล่ซ้าย โชคดีแค่บาดเจ็บ เผยตอบโต้ไม่ถนัด เหตุโดนซุ่มหลังสถานศึกษา ใกล้บ้านชาวบ้าน
 
เหตุการณ์ลอบทำร้ายกำลังพลและเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นอ่ยางต่อเนื่อง
 
โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันพุธที่ 13 พ.ย.67 พ.ต.ต.วรวิทย์ ณ นคร สารวัตรสอบสวน สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4110 (ร้อย ทพ.4110) ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดสนับสนุนกองร้อยทหารพราน 4108 (ร้อย ทพ.4108) ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดภายในสวนยางพารา ด้านหลังโรงเรียนบ้านบาเจาะ หมู่ 1 บ้านอูแบ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
 
หลังรับแจ้ง พ.อ.พงศกร แสงกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.บันนังสตา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหารพราน และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบ และได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.อุเทน เมธา อายุ 42 ปี หัวหน้าชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน โดยกระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณหัวไหล่ข้างซ้าย
 
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 กว่า 20 ปลอก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าเก็บเป็นวัตถุพยานเพื่อนำไปตรวจสอบขยายผล
 
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.4110 ปฏิบัติหน้าที่ ชุดสนับสนุน ร้อย.ทพ.4108 จำนวน 14 นาย ได้ออกปฏิบัติหน้าที่จรยุทธ์ตามแผนยุทธการ เมื่อเดินทางถึงบริเวณสวนยางพาราหลังโรงเรียนอิสลามบาเจาะวิทยา ซึ่งอยู่ใกล้กับด้านหลังโรงเรียนบ้านบาเจาะ ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ดักซุ่มโจมตี ทำให้ จ.ส.อ.อุเทน เมธา หัวหน้าชุด ถูกยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถยิงตอบโต้ได้ถนัด เนื่องจากจุดถูกซุ่มยิงอยู่ด้านหลังโรงเรียน ใกล้บ้านชาวบ้าน จึงเกรงจะทำให้เด็กหรือผู้บริสุทธิ์ได้รับอันตราย ส่งผลให้คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
 
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ และทำร้ายเจ้าหน้าที่รายวัน



สส.ปชน. เปิดพิรุธพิพาทเขากระโดง มหากาพย์ใช้ช่องว่าง กม.ทำลายนิติธรรม
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1153487

'จุลพงศ์' สส.ปชน. ชี้ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง เป็นมหากาพย์ความร่วมมือใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ทำลายหลักนิติธรรม ตั้งข้อสังเกต ม.61 ประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่ได้ให้อำนาจคณะกรรมการฯ สอบสวนโฉนด-เอกสารสิทธิ์ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย แฉบางคนมีสัมพันธ์นักการเมืองระดับชาติ
 
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่กลับมาเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้งหนึ่งเมื่อกรมที่ดินมีหนังสือฉบับลงวันที่  21 ต.ค. 2567 ถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำผลประโยชน์ที่ตั้งขึ้นโดยคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินตามมาตรา 61 วรรคสองของประมวลกฎหมายที่ดิน โดยหนังสือกรมที่ดินฉบับดังกล่าวสรุปได้ว่าคณะกรรมการสอบสวนเห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือรับรองสิทธิในที่ดินจนกว่า รฟท. จะมีพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของ รฟท.นั้น
 
นายจุลพงศ์ กล่าวว่า หนังสือกรมที่ดินฉบับนี้สร้างความฉงนแก่ผู้คนจำนวนมากเพราะก่อนหน้านี้ศาลฎีกาเคยตัดสินไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2560  รวมทั้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาคสาม คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 หมายเลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยสอดคล้องกันว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดงที่ยังเป็นปัญหาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ปัญหาคือทำไมคณะกรรมการสอบสวนที่อธิบดีตั้งขึ้นชุดล่าสุดจึงมีมติดังกล่าวโดยยังไม่เชื่อว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของ รฟท. ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาไว้
 
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อดูเนื้อความในวรรคแรกและวรรคสองของมาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่า “เมื่อความปรากฎว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หรือจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ใดโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้”
 
ก่อนการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งโดยมีอำนาจเรียกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์  เอกสารที่ได้จดรายการทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  หรือเอกสารที่จดแจ้งรายการทะเบียนอสังหาริมทรัพย์หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้คัดค้าน ถ้าไม่คัดค้านภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ให้ถือว่าไม่มีการคัดค้าน” นายจุลพงศ์ กล่าว
 
นายจุลพงศ์ กล่าวด้วยว่า หากอ่านดี ๆ จะเห็นว่าก่อนการตั้งคณะกรรมการในวรรคสอง ต้องเกิดความปรากฏแก่กรมที่ดินแล้วว่าโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์มีการออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรืออีกนัยหนึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามวรรคสองไม่มีอำนาจสอบสวนว่าโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์มีการออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และยิ่งไปกันใหญ่เมื่อศาลฎีกาข้างต้นได้เคยมีคำพิพากษายืนยันถึงกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณเขากระโดงว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ไปแล้ว
 
โดยมูลเหตุของการที่กรมที่ดินต้องแต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ชุดล่าสุดนี้เกิดเมื่อ รฟท. ได้มีหนังสือถึงกรมที่ดินขอให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษามาตั้งแต่ปี 2560 แต่หลังจากกรมที่ดินได้รับหนังสือแล้วกลับยังไม่ยอมแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเสียที จนในที่สุด รฟท. ได้ฟ้องร้องกรมที่ดินต่อศาลปกครอง ต่อมาศาลปกครองมีคำพิพากษาในคดีแดงที่ 582/2566 สั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตามวรรคสองของมาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดินและเป็นชุดที่มีมติตามที่ปรากฏในหนังสือกรมที่ดินถึง รฟท. ฉบับลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567         
                   
กรมที่ดินได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่ากรมที่ดินได้ปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองในคดีแดงที่ 582/2566 ที่ให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตามวรรคสองของมาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว และกรมที่ดินยังได้อ้างว่าคำพิพากษาศาลปกครองดังกล่าวมิได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดและเอกสารสิทธิที่ดินแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ในคำพิพากษาของศาลปกครองกลางฉบับเดียวกันได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2560 รวมทั้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาคสาม คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 หมายเลขแดงที่ 1112/2563 ที่พิพากษาเหมือนกันหมดว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท.
 
สส.ปชน. กล่าวว่า คนทั่วไปฟังเรื่องนี้แล้วจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมติของคณะกรรมการที่กรมที่ดินแต่งตั้งจึงขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกาและสงสัยว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร มหากาพย์ที่ดินเขากระโดงเกิดจากการอาศัยความเชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคและช่องว่างทางกฎหมายของกฎหมายที่ดิน กฎหมายปกครองและระเบียบกรมที่ดินที่คนทั่วไปเข้าใจได้ยาก จึงเป็นมหากาพย์ของความร่วมมือกันทำลายหลักนิติธรรมของประเทศไทย ยิ่งเมื่อไปดูรายชื่อคณะกรรมการตามมาตรา 61 ที่อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้งชุดล่าสุดนี้ หลายคนตั้งข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ทางใดทางหนึ่งกับนักการเมืองระดับชาติในจังหวัด เรื่องนี้จึงมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกเยอะ



หุ้นไทยวันนี้ 14 พ.ย.67 เปิดตลาด ร่วงแรง 8.21 จุด งบบจ.ยังต่ำคาด -บาทอ่อนหนัก
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1153500

หุ้นไทยวันนี้ 14 พ.ย.67 ตลาดหุ้นเปิดเช้านี้ อยู่ที่ 1,443.26 จุด ปรับตัวลง 8.21 จุด หรือ 0.57% โบรกเกอร์ชี้ดัชนีเช้านี้ แกว่งในกรอบ ผลงาน บจ.ต่ำคาดยังกดดัน-รอลุ้นมาตรการกระตุ้นศก. มองกรอบวันนี้ แนวต้าน 1,460-1,465 จุด แนวรับ 1,440-1,445 จุด
 
หุ้นไทยวันนี้ ความเคลื่อนไหววันที่ 14 พ.ย. ม.ค.67  ตลาดหุ้นไทย เปิดเช้านี้ ดัชนี SET อยู่ที่ 1,443.26 จุด ปรับตัวลง 8.21 จุด หรือ 0.57% มูลค่าการซื้อขาย ทั้งสิ้น 16,602.40 ล้านบาท
   
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา โดยตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนต.ค.ของสหรัฐ ที่รายงานออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้ไม่มีปัจจัยที่เซอร์ไพร์สตลาด
 
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอาจจะยังมีแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ส่วนใหญ่ไตรมาส 3/67 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ฯคาด และนักลงทุนยังรอความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้บวกและลบสลับกัน
 
มองกรอบวันนี้ แนวต้าน 1,460-1,465 จุด แนวรับ 1,440-1,445 จุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่