จากบทความ "Sensitive เกินไปทำไงดี"
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
ในชีวิตการเป็นจิตแพทย์ที่มีผู้ทุกข์ทางด้านจิตใจมาปรึกษาจำนวนมาก
บอกได้เลยว่าผู้ทุกข์ส่วนใหญ่เป็นคน Sensitive ทั้งนั้น
คน Sensitive นี้ เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกที่ได้รับสัมผัสมาจากทางประสาทตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เมื่อรับรู้ได้ไวและละเอียดอ่อนกว่าคนอื่น ก็จะจินตนาการ หรือคิดปรุงแต่งมากขึ้น
พวกนี้มักจำแม่น ลืมยาก เก็บข้อมูลได้ละเอียด (บางคนจำเหตุการณ์ที่สะเทือนใจได้ละเอียดมาก)
ถ้าจินตนาการและปรุงแต่งในแง่บวก (+) ก็ทำให้มีความสุขได้มาก แต่ถ้าจินตนาการและปรุงแต่งในแง่ลบ (-)
ก็จะทุกข์ได้มากกว่าคนอื่น จัดเป็นพวกมีความรู้สึกสุดโต่งทั้งทุกข์และสุข
คนเหล่านี้มักมีจิตใจที่อ่อนไหวสะเทือนใจง่าย ทุกข์ใจได้ง่าย หายยาก เป็นความทุกข์เรื้อรัง และลงรายละเอียด และคิดซ้ำๆ
มีความเศร้าปะปนอยู่เสมอ
บางพวกก็ตรงข้ามกันเลย เช่น พอได้รับข่าวสารสะเทือนใจแล้วกลับฮึกเหิม กล้าหาญ กร้าว ไม่กลัวตาย
แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือใจอ่อน โลเล ช่างจำ ลืมยาก เจ้าคิดเจ้าแค้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Ego Centric)
ถ้าใช้ความละเอียดอ่อนและไวแบบ Sensitive นี้ในทางสร้างสรรค์ เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีคุณค่า
มีผลงานระดับต่างๆ ถึงระดับโลกได้ เช่น เป็นนักประพันธ์แขนงต่างๆ จิตรกร นักคิด นักปราชญ์ นักประดิษฐ์
แต่เขาจะต้องมีความอดทน ฝึกการมีวินัยในตัวเองให้มากพอ จึงจะมีผลงานปรากฏออกมาได้
ผมเคยเตือนพวกที่ Sensitive และมีความทุกข์ง่ายจนไม่มีความสุข และไม่มีผลงานดีๆ ว่า
พวกเขาเปรียบเสมือนแก้วเจียระไนสวยงาม มีค่า ราคาแพง แต่แตกง่ายและซ่อมยาก ทำให้หมดราคาได้ง่ายเช่นกัน
เพราะนั่นคือจุดอ่อนของพวกเขา
เขาต้องพยายามพัฒนาความคิดและจิตใจให้แข็งแกร่งขึ้น
เปรียบเหมือนทำแก้วเจียระไนให้กลายเป็น “ขันพลาสติก” เสียบ้าง
ใช้ประโยชน์ได้ง่าย ซ่อมง่าย
การจะรู้ว่าคนไหน Sensitive มากไปหรือเปล่านั้นยาก คงไม่มีแบบทดสอบได้หรอก
หรือที่ทดสอบแล้วก็ไม่แน่นอนอยู่ดี แต่ตัวเองจะรู้สึกตัวเองดีว่าเป็นคน Sensitive เมื่อใดที่รู้สึกว่ามีความทุกข์เข้ามาบ่อยๆ
ก็นั่นแหละแสดงว่าคุณ Sensitive มากไปแล้ว หัดฝึกจินตนาการ ฝึกการรักตัวเอง
และฝึกวิธีลดความรู้สึกที่ไวเกินไป (Desensitization) จนคิดได้ว่าเปลี่ยนตัวเองจากแก้วเจียระไนเป็นขันพลาสติกได้บ้าง
แก้วก็จะไม่แตกง่ายหรอก
มาแชร์วิธีแก้ความรู้สึก "Sensitive" เกินไป
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
ในชีวิตการเป็นจิตแพทย์ที่มีผู้ทุกข์ทางด้านจิตใจมาปรึกษาจำนวนมาก
บอกได้เลยว่าผู้ทุกข์ส่วนใหญ่เป็นคน Sensitive ทั้งนั้น
คน Sensitive นี้ เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกที่ได้รับสัมผัสมาจากทางประสาทตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เมื่อรับรู้ได้ไวและละเอียดอ่อนกว่าคนอื่น ก็จะจินตนาการ หรือคิดปรุงแต่งมากขึ้น
พวกนี้มักจำแม่น ลืมยาก เก็บข้อมูลได้ละเอียด (บางคนจำเหตุการณ์ที่สะเทือนใจได้ละเอียดมาก)
ถ้าจินตนาการและปรุงแต่งในแง่บวก (+) ก็ทำให้มีความสุขได้มาก แต่ถ้าจินตนาการและปรุงแต่งในแง่ลบ (-)
ก็จะทุกข์ได้มากกว่าคนอื่น จัดเป็นพวกมีความรู้สึกสุดโต่งทั้งทุกข์และสุข
คนเหล่านี้มักมีจิตใจที่อ่อนไหวสะเทือนใจง่าย ทุกข์ใจได้ง่าย หายยาก เป็นความทุกข์เรื้อรัง และลงรายละเอียด และคิดซ้ำๆ
มีความเศร้าปะปนอยู่เสมอ
บางพวกก็ตรงข้ามกันเลย เช่น พอได้รับข่าวสารสะเทือนใจแล้วกลับฮึกเหิม กล้าหาญ กร้าว ไม่กลัวตาย
แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือใจอ่อน โลเล ช่างจำ ลืมยาก เจ้าคิดเจ้าแค้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Ego Centric)
ถ้าใช้ความละเอียดอ่อนและไวแบบ Sensitive นี้ในทางสร้างสรรค์ เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีคุณค่า
มีผลงานระดับต่างๆ ถึงระดับโลกได้ เช่น เป็นนักประพันธ์แขนงต่างๆ จิตรกร นักคิด นักปราชญ์ นักประดิษฐ์
แต่เขาจะต้องมีความอดทน ฝึกการมีวินัยในตัวเองให้มากพอ จึงจะมีผลงานปรากฏออกมาได้
ผมเคยเตือนพวกที่ Sensitive และมีความทุกข์ง่ายจนไม่มีความสุข และไม่มีผลงานดีๆ ว่า
พวกเขาเปรียบเสมือนแก้วเจียระไนสวยงาม มีค่า ราคาแพง แต่แตกง่ายและซ่อมยาก ทำให้หมดราคาได้ง่ายเช่นกัน
เพราะนั่นคือจุดอ่อนของพวกเขา
เขาต้องพยายามพัฒนาความคิดและจิตใจให้แข็งแกร่งขึ้น
เปรียบเหมือนทำแก้วเจียระไนให้กลายเป็น “ขันพลาสติก” เสียบ้าง
ใช้ประโยชน์ได้ง่าย ซ่อมง่าย
การจะรู้ว่าคนไหน Sensitive มากไปหรือเปล่านั้นยาก คงไม่มีแบบทดสอบได้หรอก
หรือที่ทดสอบแล้วก็ไม่แน่นอนอยู่ดี แต่ตัวเองจะรู้สึกตัวเองดีว่าเป็นคน Sensitive เมื่อใดที่รู้สึกว่ามีความทุกข์เข้ามาบ่อยๆ
ก็นั่นแหละแสดงว่าคุณ Sensitive มากไปแล้ว หัดฝึกจินตนาการ ฝึกการรักตัวเอง
และฝึกวิธีลดความรู้สึกที่ไวเกินไป (Desensitization) จนคิดได้ว่าเปลี่ยนตัวเองจากแก้วเจียระไนเป็นขันพลาสติกได้บ้าง
แก้วก็จะไม่แตกง่ายหรอก