ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ติดตามดูทุกคลิป เพราะไม่ได้ศรัทธา ไม่รู้เค้าสอนด้านไหน จบอะไร ถึงเรียกแทนตัวเองว่าอาจารย์ แต่เห็นในโซเชียลเต็ม กำลังมาแรง ใครๆก็พูดถึง วันนึงบังเอิญไปเจอคอมเมนท์หนึ่งที่พูดถึงเรื่องโรคซึมเศร้า ว่า คตธ.สอนดีมาก พูดดีมาก เกี่ยวกับคนเป็นโรคนี้ว่าเป็นโรคที่คิดไปเอง ประมาณนี้ จากนั้นก็เลยลองหาคลิปดูว่าเค้าพูดว่ายังไง พูดจริงมั้ย ขอบอกว่าต้องใช้ความอดทนที่มีนั่งจับใจความ คำพูด เพราะรู้สึกไม่ถูกจริตกับคาแรคเตอร์เค้า

ซึ่งหลังจากฟังจบแล้ว รู้สึกไม่เห็นด้วยที่เค้าไปตัดสินคนอื่นแบบนั้น และพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าความคิดและสิ่งที่ตัว คตธ.ประสบพบเจอถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ เป็นแบบนั้นแน่ บอกว่าที่คนเป็นโรคนี้มีสันดานเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง นึกถึงแต่ตัวเอง พอไม่ได้ดั่งใจก็เก็บมาคิด มาน้อยใจ คิดมาก พอนานเข้าสมองจำ หลั่งเคมีในสมองผิดปกติ 
ถามว่าสิ่งที่พูดถูกมั้ย มันก็ไม่ผิด แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด มันมีเหตุ ปัจจัย แต่ละคนไม่เหมือนกัน โรคมันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อย่างที่คุณพูดว่ามันเป็นโรคที่เกิดที่จิตใจ
เรียกว่า โรคทางจิตเวช ฉะนั้นจิตใจคนยากแท้หยั่งถึง เราไม่รู้ว่าคนอื่นเขาผ่านหรือเจออะไรมาในวัยเด็ก มีผลกระทบด้านจิตใจ เกิดขึ้นได้หลายอย่าง ทั้งความรุนแรงในครอบครัว การถูกล่วงละเมิด มันเป็นความช็อก ความฝังใจ ถึงพ่วงมาเป็นโรคแพนิคไปด้วย ที่มีอาการตั้งแต่ตัวสั่น เหงื่อออก แน่นหน้าอก
คุณก็ไปบอกว่าเป็นจิตปรุงแต่ง คิดและกลัวไปเอง ถ้าแบบนั้นจะมีนักจิตวิทยาเด็ก นักจิตวิทยาวัยรุ่น หรือจิตแพทย์ไปทำไม ถ้าคุณบอกว่าคุณเองก็รักษาให้หายได้แล้วหลายคนด้วยการด่า 

ที่กล้าไม่เห็นด้วยเพราะตัวเองก็เคยเป็นโรคซึมเศร้าและแพนิค มันไม่ได้เกิดจากการเอาแต่ใจตัวเอง สันดานไม่ดีเพียงอย่างเดียว มันเป็นสิ่งที่สะสมมาตั้งแต่เด็ก และส่วนตัวมีบุคลิกค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยพูดมาก เพราะตอนเด็กถูกตีอย่างหนัก
จากเรื่องอะไรแค่เล็กๆ และมีเรื่องร้ายแรงกว่านั้นอีก หลายคนก็สะสมตั้งแต่เด็ก หลายคนมาเป็นตอนโตแล้ว ส่วนตัวคุณที่สอนคนอื่นนั้นเป็นเองแบบไหนแล้วมาเหมารวมว่าทุกคนเป็นแบบคุณทั้งหมด 100% มันไม่เป็นการตัดสินคนอื่นไปหน่อยหรอ แล้วโรคซึมเศร้าของคุณแม่หลังคลอดละ เอาแต่ใจตัวเอง? เอาแต่ใจจากใคร? 

สอนคนอื่นได้ว่าไม่ให้เชื่อหรืองมงายอะไร แต่กลับเป็นตัวคุณเองรึเปล่าที่เชื่อสนิทใจว่าคนเป็นโรคซึมเศร้ามีสาเหตุและเป็นแบบที่คุณเชื่อและเป็นทุกคนทุกเคส

ตอนนี้มีหลายๆคนฟัง และก็ได้เชื่อไปแล้วจากคำพูดคุณ เพราะเค้าชื่นชอบและศรัทธาในตัวคุณ เหมือนที่คุณเรียกหรือด่าคนอื่นที่เชื่ออย่างอื่นว่าเป็นคนโง่
ไม่ได้จะดิสเครดิสอะไรใคร แค่มาแชร์ประสบการณ์ และก็กำลังปฏิบัติตามหลักศาสนาเหมือนกันว่าไม่ควรเชื่ออะไรเพียงจากการฟัง แม้คนคนนั้นจะเรียกตัวเองว่าตื่นแล้ว อะไรก็เถอะ
แล้วเรื่องความทุกข์อะไรนั่นหน่ะ ที่ว่าก็อย่าไปคิดถึงมัน อย่าไปคิดอะไรที่มันลบๆให้ตัวเองเป็นทุกข์ ถ้าบอกว่าศึกษาจากองค์สัมมาฯจริง คือเมื่อมันมีความทุกข์เกิดขึ้น
เราต้องหาสาเหตุแห่งทุกข์และหาทางดับทุกข์ไม่ใช่หรอ เอาเถอะ ขอให้คนฟังมีวิจารณญาณในการฟังให้มากแล้วกัน