[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลานชาย มาเรียน กทม มีแฟนแล้วมีอะไรกัน
2 คน อายุ 16 ทั้งคู่

อายุยังไม่ถึง18  ถือเป็นเยาวชนทั้งคู่ และทั้งคู่มีสิทธิ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์
แต่ใครจะโดนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมประกอบ  ก็คือเด็กมีอะไรกันที่ไหน  ใครเป็นเจ้าของสถานที่
มีผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้องหรือเปล่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครอบครัวฝั่งหญิง เหมือนจะพยายามติดต่อ
มาขอเงินสินไหม ข่มขู่น้องเค้าว่าถ้าไม่จ่าย
จะเอาเข้าคุก

สามารถเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ว่าฝ่ายหญิงข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงินทอง  ..เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เด็กมาปรึกษาผมก่อนเพราะเป็นญาติคนเดียว
ที่อยู่กทมที่ดูแลเค้า
ผมเลยสอบถาม + หาข้อมูล ที่ได้คือ

หน้าที่ของจขกทต้องดูแลเด็กในปกครองให้ดี   เพราะเมื่อเด็กไปกระทำผิด  ผู้ปกครองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ
ยกตัวอย่างถ้าหลานชายพาเด็กหญิงมามีอะไรกันที่บ้านของจขกท...คนที่จะโดนคดีพรากผู้เยาว์ไปด้วยก็คือจขกท
แต่ประเด็นนี้ไม่น่าเกี่ยวกับจขกท  แต่อาจต้องรับผิดทางแพ่งก็ต้องดูรูปคดีกันอีกที

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-เหตุเกิดที่ห้องเช่ารายวัน

ประเด็นอยู่ที่ใครเป็นหรือมีชือเป็นผู้เช่า  พูดง่ายๆใครมีกรรมสิทธิ์ในห้องเช่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-พี่สาวฝั่งเด็กผญ เป็นคนจองผ่านแอพให้
(มี screenshot จาก booking mail ที่เค้าจองให้)
แล้วค่อยเอาเลข booking ไปจ่ายเงินตอนเช้าพัก

เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ   ไม่สามารถเช่าห้องหรือทำนิติกรรม(สัญญาเช่าได้)
งานนี้คนที่เป็นผู้เช่าก็คือ  พี่สาวที่จองให้  แม้ไม่ได้อยู่เองก็ต้องถือว่าเป็นผู้เช่า
คนที่จ่ายเงินไม่สามารถเอามาอ้างเป็นหลักฐานหักล้างได้  

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-ตอนเข้าพัก เจ้าของขอสแกนบัตรไว้มัดจำห้อง
ใช้บัตรหลานชายสแกน

นี้เป็นข้อผิดพลาดของเจ้าของ  เพราะหลักฐานสำคัญว่าเป็นผู้เช่าคือ  พี่สาวฝ่ายหญิง
การเอาบัตรของผู้เยาว์ไปสแกนเพื่อเอาเงินเป็นค่ามัดจำ  ผู้ปกครองสามารถเรียกคืนได้
เพราะมันเป็นโมฆียะ  เด็กยังเป็นผู้เยาว์ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้โดยลำพัง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-ในแชท ตอนนัดไปกินกัน เด็กหญิง
เป็นฝ่ายส่ง รูป โรงแรมมาเชิญชวน ทำนองว่า
ห้องพักหรู สระน้ำสวย อยากไปเล่น ถ่ายรูป
ลงไอจีมากเลยเรียนกวดเสร็จวันที่... ว่างมั้ย ..

นี้เป็นหลักฐานผูกมัดฝ่ายหญิงได้เป็นอย่างดี  ทั้งคำชวน(หลอกลวงผู้เยาว์)
ทั้งสถานที่ที่ฝ่ายหญิงอาศัย(พรากผู้เยาว์)  และถ้ามีอะไรกัน(ทำอนาจาร)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมคิดว่ามันแปลกๆ ไม่เมคเซนต์ หลักฐาน
รูปการณ์แบบนี้ แปลว่าสามารถเอาผิดอีกฝ่ายด้วย
ข้อหาเดียวกันได้ใช่มั้ยครับ ?

พ่อแม่ย่อมต้องรักและเห็นลูกตัวเองมีค่า  ไม่ว่าลูกเป็นเป็นหญิงหรือชาย
สมัยนี้  ชายหญิงเท่าเทียมกันโดยเฉพาะด้านกฎหมาย  เด็กชายก็มีสิทธิ์เป็นผู้เสียหาย
เด็กชายอาจถูกเด็กผู้หญิงหลอกล่อไปก็ได้  

จขกทมีสิทธิ์ไปแจ้งความเอาเรื่องกับฝ่ายหญิงได้ร้อยเปอร์เซ็น
มีทั้งหลักฐานเอกสารและสถานที่ที่จะเอาผิด
แถมยังเอาเรื่องพ่อแม่ฝ่ายหญิงในข้อหากรรโชกทรัพย์อีกด้วย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอลองหาข้อมูล กฎหมายนี้มันอายุความนาน
ถึงจ่ายเงินไป วันดีคืนดี ผู้ปกครองฝ่ายนู้นอยากแจ้งความ
เมื่อไหร่ก็ทำได้ตลอด ผมคิดว่าเงินแสน นี้เอาไป
จ้างทนายฟ้องกลับน่าจะคุ้มกว่า

ไม่ต้องจ้างทนายเพราะมันเป็นคดีอาญา  เพียงแค่คูณไปคุยกับทางฝ่ายหญิง
ว่าจะแจ้งความเอาเรื่องพรากผู้เยาว์กับพี่สาวและข้อหาทำอนาจารกับเด็กหญิง
แถมด้วยข้อหากรรโชกทรัพย์กับพ่อแม่  ....ดซิอีกฝ่ายจะว่าไง ถ้าตกลงกันไม่ได้  คุณก็รีบไแจ้งความไว้ที่สน.
ก่อนคดีจะหมดอายุความ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคสแบบนถ้าปฏิเสธ ไปสู้กันที่ศาลมีโอกาสรอดคุก
หรือฟ้องกลับฝั่งหญิงใช้กฎหมายเดียวกันได้มั้ย


เคสนี้เป็นเด็กชายต่างหากที่เป็นผู้เสียหาย   ไม่ใช่ฝ่ายหญิง
แถมลักษณะมันจะลามเป็นการกรรโชกทรัพย์ด้วย

ปล. มันเป็นธรรมชาติของเด็ก   เกิดเรื่องแบบนี้ว่ากันตามจริงคนที่ผิดคือพ่อแม่และผู้ปกครอง
ที่ไม่ดูแลลูกหลาน  เด็กอายุ16ไม่ควรปล่อยให้มาอยู่ตามลำพังไกลสายตาพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
ฉะนั้นถ้าฝ่ายหญิงไม่ได้พลาดจนมีครรภ์   ต่างคนต่างตกลงกันได้  ถือเสียว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย